Start planning your trip
รวมของฝากน่าซื้อเมื่อมาโอกินาว่า (Okinawa)
ชินซุโค ซาตาอันดากี้ แก้วริวกิว ผ้าทอมินซา อาวะโมริ ได้ยินชื่อแล้วอาจจะรู้สึกไม่คุ้นหู แต่ทั้งหมดนี้คือของเด่นของดังของโอกินาว่า ถ้ามาแล้วไม่รู้จะซื้ออะไรเป็นของฝากก็ลองดูจากบทความนี้ได้เลย
ของฝากจากโอกินาว่า
โอกินาว่า (Okinawa) หมู่เกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกถึงเมืองร้อน มีทะเลสวยๆ และวัฒนธรรมของอาณาจักรริวกิวเฉพาะตัวไม่เหมือนภูมิภาคอื่นของญี่ปุ่น
ที่โอกินาว่ามีของฝากขึ้นชื่อหลายอย่างตั้งแต่ของกินไปจนถึงงานฝีมือ ถ้าใครเที่ยวเพลินจนลืมซื้อของฝากก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะที่ชั้น 2 ของสนามบินนาฮาเป็นชั้นร้านขายของฝากค่ะ มีของเด่นของดังของโอกินาว่าครบ ไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง ขอแถมร้านดังที่อยู่แถวถนนโคคุไซโดริ (Kokusaidori) ถนนท่องเที่ยวกลางเมืองให้ด้วย
ถนนโคคุไซโดริ (Kokusaidori) ตั้งอยู่ในเมืองนาฮาซึ่งเป็นเหมือนศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่คึกคักที่สุดของโอกินาว่า สองข้างทางของถนนโคคุไซโดริยาว 1.6 กิโลเมตรเรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ขนม ของฝาก สินค้างานฝีมือมากมาย
สามารถนั่งรถโมโนเรลมาลงที่สถานีเค็นโจมาเอะ (Kenchomae หรือ Prefectural Office) สถานีมิเอะบาชิ (Miebashi) และสถานีมากิชิ (Makishi) โดยสถานีเค็นโจมาเอะกับสถานีมากิชิจะอยู่ต้นกับปลายถนนสองฝั่ง ส่วนสถานีมิเอะบาชิจะอยู่ตอนกลางของถนนค่ะ
1. ชินซุโค (Chinsuko)
ชินซุโค (Chinsuko) ขนมหวานดั้งเดิมของโอกินาว่า ทำจากแป้งสาลี น้ำตาล และน้ำมันหมู เนื้อขนมกรุบเหมือนคุกกี้พร้อมรสหวานถูกปาก ความเรียบง่ายคือเสน่ห์ของขนมหวานชนิดนี้ ที่สนามบินนาฮามีร้านอารากากิชินซุโค (Aragaki Chinsuko) ร้านเก่าแก่กว่า 400 ปีก่อตั้งโดยหลานของผู้คิดค้นขนมชนิดนี้มาเปิดสาขาอยู่ มีรสให้เลือกหลายรสเช่น รสน้ำตาลทรายแดง รสช็อกโกแลต รสมันม่วง รสอบเชย รสงาผสมเกลือ รสน้ำผึ้งผสมขิง
ส่วนใครอยากไปซื้อแถวถนนโคคุไซโดริก็มีอีก 2 สาขา คือสาขามากิชิ และสาขามัตสึโอะ ไปลองชิมก่อนซื้อได้ค่ะ
2. ทาร์ตมันม่วง (Beni imo Tart)
ตอนนี้ไม่ว่าจะไปไหนในโอกินาว่าจะต้องเห็นทาร์ตทรงรีพร้อมครีมสีม่วงสวยน่าทานอย่างนี้ ครีมสีม่วงนี้ทำมาจากมันม่วง หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า เบนิอิโมะ
ถึงจะมีหลายร้านทำออกมาขายแต่ถ้าพูดถึงต้นตำรับก็ต้องเป็นร้านโอคาชิโกะเท็น (Okashigoten) ไม่ใช้วัตถุกันเสียและสีผสมอาหารเลย ได้รสชาติหวานมันเต็มที่
สาขามัตสึโอะที่ถนนโคคุไซโดริก็กว้างขวาง สามารถไปดูขั้นตอนการผลิตจากครัวเปิดได้ สินค้าอื่นๆ ก็มีให้เลือกซื้อค่ะ มีร้านอาหารและคาเฟ่ด้วยนะ
3. ซาตาอันดากี้ (Sata Andagi)
ซาตาอันดากี้ (Sata Andagi) คือโดนัทสไตล์โอกินาว่า ถึงแม้จะเรียกว่าโดนัท แต่รูปร่างของมันไม่ได้เป็นแหวนเหมือนโดนัทที่เห็นกันทั่วไป แต่เป็นทรงกลม ผิวโดนัทกรอบ เนื้อข้างในแน่นและนุ่ม ทานแล้วอร่อยติดใจชิ้นเดียวไม่พอเลยค่ะ
ร้านหมู่บ้านริวคิว (Ryukyu Mura) ที่ชั้น 2 ของสนามบินนาฮามีซาตาอันดากี้ครบรส ทั้งรสธรรมดา รสน้ำตาลทรายแดง และอื่นๆ ทอดกันสดๆ ในร้าน
อีกร้านที่แนะนำคือ ร้านอายูมิ (Ayumi) มีชื่อเสียงมากถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นอันดับ 1 ของโอกินาว่าเลย แป้งด้านนอกกรอบ ส่วนด้านในก็นิ่ม ถึงจะเย็นแล้วก็ยังนิ่มอร่อย เหมาะจะซื้อไปเป็นของฝากมาก เดิมตั้งอยู่บนชั้น 2 ของตลาดปลา First Makishi Public Market แต่ตอนนี้ตลาดปลากำลังทำการรีโนเวตเลยย้ายไปเปิดบริเวณพื้นที่ชั่วคราวแทน
4. แก้วริวกิว (Ryukyu Glass)
แก้วริวกิว (Ryukyu Glass) เด่นที่สีสันสดใสตามสไตล์เมืองร้อนและรูปร่างไม่สมมาตร ทำด้วยการเป่าแก้วทีละใบแบบแฮนด์เมด เพราะฉะนั้นจะไม่มีแก้วใบไหนที่เหมือนกันเป๊ะเลย เดิมทีแก้วริวกิวเกิดจากการนำขวดเบียร์ ขวดน้ำอัดลมที่ถูกทิ้งไว้ในค่ายทหารอเมริกาหลังสงครามมารีไซเคิลทำเป็นแก้วใหม่ ปัจจุบันถือเป็นของที่ขาดไม่ได้เลยเวลาดื่มเหล้าอาวะโมริ
ร้านที่ขายแก้วริวคิวโดยเฉพาะในสนามบินนาฮาคือ ร้านรุริอัน (Ruri-an) มีทั้งแก้วน้ำ เครื่องประดับ สินค้าตกแต่งภายในบ้าน รวมถึงแก้วริวคิวมากมาย
5. เหล้าอาวะโมริ
เหล้าอาวะโมริ (Awamori) เป็นเหล้าท้องถิ่นของโอกินาว่าที่มีความเชื่อมโยงกับไทยด้วย! เพราะชาวโอกินาว่าได้รับวิธีการทำเหล้าอาวะโมริมาจากชาวไทยที่นั่งเรือมาทำการค้ากับญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 14-15 วิธีดื่มที่นิยมคือผสมน้ำเปล่า แต่อยากดื่มเพียว ผสมเครื่องดื่มอื่นๆ หรือเอาไปทำเป็นค็อกเทลก็ได้นะ
ปัจจุบันมีโรงเหล้าผลิตอาวะโมริอยู่ประมาณ 40 กว่าแห่ง แต่ละเจ้าก็มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ลองเลือกดูจากระดับแอลกอฮอล์ กลิ่น รสชาติ หรือถ้าเลือกไม่ถูกจริงๆ ก็เอาที่ดีไซน์ขวดถูกใจเราก็ได้ง่ายดี
ในสนามบินนาฮาจะมีแบรนด์ออริจินัลชื่อ ไวท์ไทเกอร์ (White Tiger) รสนุ่มกลมกล่อม ดีไซน์ขวดเหมือนวิสกี้ดูหรูหราเหมาะจะซื้อไปเป็นของฝาก
ร้านแถวโคคุไซโดริที่มีเหล้าอาวะโมริให้เลือกเยอะขอแนะนำที่ ร้านโอกินาว่ายะ (Okinawaya) มีเหล้าอาวะโมริให้เลือกกว่า 200 ชนิด มีทั้งแบบที่หาซื้อได้ยากตามร้านทั่วไปด้วย บนชั้น 2 เป็นคลังอาวะโมริ รวบรวมเหล้าหายากและอาวะโมริที่ปัจจุบันเลิกผลิตไปแล้วมากมาย
6. รูปปั้นสิงโตซีซาร์
ชีซา (Shisa) คือสัตว์รูปร่างหน้าตาคล้ายสิงโตที่ชาวโอกินาว่าเชื่อกันว่าช่วยคุ้มครองป้องกันภัย สามารถเห็นได้ตามหลังคาบ้านหรือเสาประตูบ้านทั่วไป มีหน้าตาและท่าทางหลากหลายแบบ
โดยเฉพาะชีซาหน้าตาน่ารักฝีมือของ ซาคุมะ ซาคาเอะ แห่งร้านอิโตมังโคโบ (Itoman Kobo) ผู้ได้รับรางวัลด้านศิลปะมามากมาย
7. น้ำตาลอ้อยโอกินาว่า
Photo by PIXTA
ในโอกินาว่าปลูกต้นอ้อยเยอะ เลยมีการแปรรูปเป็นน้ำตาลอ้อย (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า โคคุโต Kokuto) เพื่อขายและนำไปใช้ในขนมต่างๆ มากมาย เช่นขนมเค้กน้ำตาลอ้อยชื่อแฟรี่บราวน์ ของร้านโคคุโตคานาซะ (Kokuto Kanasa) รสหวานกำลังดีผสานกับกลิ่นหอมของเนื้อเค้กผสมวอลนัต และรสขมจางๆ ของโกโก้ เข้ากันได้ดีมากค่ะ
ขนมอย่างอื่นก็เช่น ขนมบามคูเฮนกาจูมารุของร้านฟุคุกิยะ (Fukugiya) และช็อกโกแลตน้ำตาลอ้อยของร้าน ROYCE ISHIGAKIJIMA แบรนด์ย่อยของร้านช็อกโกแลตชื่อดัง ซึ่งสินค้าภายใต้แบรนด์ย่อยนี้จะเน้นวัตถุดิบจากโอกินาว่าโดยเฉพาะ ทุกอย่างนี้สามารถหาซื้อได้ที่สนามบินนาฮา
ถ้าร้านแถวถนนโคคุไซโดริขอแนะนำ ร้านโคคุโตยะ (Kokutoya) ร้านจำหน่ายน้ำตาลอ้อยโดยเฉพาะ มีน้ำตาลอ้อยที่ทำจากต้นอ้อยจากเกาะต่างๆ 8 เกาะในโอกินาว่าด้วย แต่ละที่จะได้รสชาติหวานที่ไม่เหมือนกัน มีขายแบบซองเล็กๆ รวมเซ็ตน่ารักน่าซื้อไปลองมาก
8. ผ้าทอมินซา (Minsah)
Photo by PIXTA
ผ้าทอมินซา (Minsah) เป็นผ้าทอพื้นบ้านของโอกินาว่า ว่ากันว่ามีประวัติยาวนานถึง 400 ปี ถ้าจะเรียกว่าเป็นผืนผ้าที่มีความโรแมนติกที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะลวดลายสี่เหลี่ยม 5 อัน และ 4 อันที่เห็นบนผืนผ้าสื่อความหมายว่า "ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ขอให้อยู่ด้วยกันไปตลอด" มาจากประโยคภาษาญี่ปุ่นว่า
いつの世までも末永く
อิตสึโนะโยะมาเดะโมะซุเอนากาคุ
เป็นการเล่นคำพ้องเสียงของคำว่า "อิตสึ" ที่แปลว่า "5" และ "โยะ" ที่แปลว่า "4" โดยฝ่ายหญิงจะทอผ้านี้เพื่อมอบให้กับฝ่ายชาย
แต่ก่อนจะย้อมสีฟ้าเป็นหลัก แต่ปัจจุบันมีทั้งสีแดง เหลือง เขียว และนำไปใช้เย็บเป็นผ้าโอบิคาดเอว กระเป๋าสตางค์ ผ้าประดับชามิเซ็น และอื่นๆ
9. เกลือโอกินาว่า
เกลือธรรมชาติเต็มไปด้วยแร่ธาตุถูกผลิตขึ้นตามเกาะต่างๆ ของโอกินาว่า นอกจากรสเค็มแล้วยังแฝงไปด้วยรสหวานและรสอร่อย ถ้าได้ลองเอาไปใช้ทำอาหารสักครั้งจะต้องติดใจจนไม่อยากใช้เกลือธรรมดาเลย
เกลือของร้าน Okinawa Mineral Lab จากเกาะอากุนิจิมะมีเกลือที่ผลิตอยู่ 2 วิธีคือ คามะทาคิ ใช้วิธีต้มต่อเนื่องกว่า 30 ชั่วโมง และ เท็มปิโบชิ ใช้วิธีตากแดดให้ตกผลึก โดดยต้องใช้เวลาตากถึง 60 วันเลยถ้าเป็นฤดูหนาว
เกลือที่เป็นที่นิยมอื่นๆ ก็เช่น ยูกิชิโอะ เกลือเกล็ดละเอียด และ นูจิมาซุ ที่เปี่ยมด้วยแร่ธาตุจากทะเล สามารถหาซื้อได้ทั้งในสนามบิน ถนนโคคุไซโดริ และแหล่งที่เที่ยวทั่วไป
อย่าพลาดของฝากน่าซื้อเมื่อมาโอกินาว่า
โอกินาว่ามีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ของฝากหลายๆ อย่างก็แสดงความเป็นโอกินาว่าอย่างเต็มที่ ถ้ามาเที่ยวโอกินาว่าแล้วไม่รู้จะซื้ออะไรก็ลองดูตามที่เราแนะนำ รับรองไม่ผิดหวังค่ะ
นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง