สวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่ Ashizuri ของ Kochi - ทริปสัมผัสความงามของธรรมชาติ วัฒนธรรม และตำนาน

ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี เมื่อคุณเยี่ยมชมพื้นที่ Ashizuri ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของเกาะชิโกกุ เราอยากให้คุณพักค้างคืนและเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวตามอัธยาศัย ครั้งนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณสามารถสัมผัสเสน่ห์ได้อย่างเต็มที่

สำรวจด้วยจักรยานเช่า

ออกไปเดินเล่นรอบๆ บริเวณโดยใช้จักรยานไฟฟ้าหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "e-bike" ซึ่งคุณ สามารถเช่าได้ที่โรงแรม แหลมอาชิซูริมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย แต่ จริง ๆ แล้วหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวนั้นก็คือทิวทัศน์ระหว่างการเดินทาง ปั่นจักรยานไปตามถนนของจังหวัดในขณะที่เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของมหาสมุทรแปซิฟิก การเยี่ยมชมท่าเรือประมงและเมืองประมงสมัยเก่าก็เป็นเรื่องสนุกเช่นกัน ใช้ประโยชน์จากความสะดวกสบายของจักรยานไฟฟ้า คงจะสนุกไม่น้อยหากแวะร้านกาแฟที่คุณพบระหว่างทาง

แม้ว่าคุณจะใช้จักรยานไฟฟ้าเป็นครั้งแรก ก็ไม่ต้องกังวล เจ้าหน้าที่โรงแรมจะบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการใช้งาน ขั้นแรก ทำความคุ้นเคยกับการดำเนินการในลานจอดรถขนาดใหญ่ แล้วจึงออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบ เราขอแนะนำให้คุณสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบายและรองเท้ากีฬา

หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ e-bikes โปรดดูบทความนี้
ผจญภัยไปในที่ที่ไม่รู้จัก: สำรวจพื้นที่ที่ยังไม่ได้สำรวจของ Cape Ashizuri ด้วย E-bike

หอดูดาวแหลม Ashizuri

สิ่งแรกที่ฉันอยากให้คุณไปคือ Ashizuri Cape Observatory (เวลาที่กำหนด: 10 นาทีจากโรงแรม) จากจุดชมวิว ที่ปลายใต้สุดของเกาะชิโกกุ คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามแบบพาโนรามา 270 องศา สถานที่ที่มีทัศนียภาพของมหาสมุทรแปซิฟิกแบบไร้สิ่งกีดขวางน่าจะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่หาได้ยากในญี่ปุ่น

คุณยังสามารถมองเห็นประภาคารแหลมอะชิซูริได้จากหอดูดาว เดินเพียง 5 นาทีถึงประภาคาร ทิวทัศน์ที่สวยงามจะทำให้ผู้มาเยือนต้องตะลึง จุดเด่นของแหลมอาชิซูริในชิโกกุคือทุกคนตั้งแต่ผู้ใหญ่ไปจนถึงเด็กสามารถเดินเล่นรอบๆ ประภาคารและหอดูดาวได้อย่างง่ายดาย

หากคุณมีเวลา อุโมงค์ป่า ไปยังที่จอดรถ Ashizuri Misaki Higashi ทางทิศตะวันออกก็เป็นจุดปั่นจักรยานที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน เพลิดเพลินไปกับมนต์เสน่ห์ของแหลมอาชิซูริให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมสัมผัสธรรมชาติของฤดูกาลทั้งสี่ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าของคุณ

แหลมอาชิซูริ

1349 แหลม Ashizuri เมือง Tosashimizu จังหวัด Kochi 787-0315

แหลม Ashizuri ทางใต้สุดของเกาะชิโกกุ คุณสามารถเพลิดเพลินกับหอดูดาว เดินเล่น พืชหายาก ภูมิประเทศ และอื่นๆ ขณะเดิน จากจุดชมวิว คุณสามารถมองเห็นมหาสมุทรแปซิฟิกและคลื่นที่ทรงพลังได้แบบพาโนรามา 270° บนทางเดิน คุณสามารถเพลิดเพลินกับอุโมงค์ต้นไม้ กำแพงหิน และทิวทัศน์อันงดงามขณะเยี่ยมชมเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของ Kobo Daishi (Kukai) พระผู้มีอิทธิพลอย่างมากต่อพุทธศาสนาของญี่ปุ่น ประภาคารที่เป็นสัญลักษณ์นี้เฝ้าดูความปลอดภัยของเรือมากว่า 100 ปี รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าเป็นของจอห์น มันจิโร ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโทสะ และกล่าวกันว่ากำลังเผชิญหน้ากับอเมริกาซึ่งมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับเขา พระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า มหาสมุทรแปซิฟิกส่องแสงในเวลากลางวัน พระอาทิตย์ตกในตอนเย็น ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวในตอนกลางคืน หากคุณมาจนถึงโคจิแล้ว ขอแนะนำให้เดินผ่านจุดใต้สุดด้วย

ถ้ำฮาคุซัง

หากคุณไปที่ Cape Ashizuri คุณไม่ควรพลาด Hakusan Domon (เวลาที่กำหนด: 3 นาทีจากจุดชมวิว 7 นาทีจากโรงแรม) ถ้ำแห่งนี้สร้างขึ้นจากการกัดเซาะภูเขาหินโดยคลื่น สูงประมาณ 16 เมตรและกว้าง 17 เมตร ทำให้เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น จอดรถจักรยานแล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาทีก็จะถึงถ้ำ ถ้ำขนาดมหึมาที่คุณสามารถมองเห็นได้อย่างใกล้ชิดนั้นมีอยู่อย่างล้นหลาม

หินหายากที่เรียกว่า " หินแกรนิต Lapakivi " สามารถพบเห็นได้รอบถ้ำ นี่เป็น หินที่หายากมากซึ่งสามารถพบได้ที่นี่ที่แหลมอาชิซูริในญี่ปุ่นเท่านั้น และคุณสามารถสัมผัสมันได้ด้วยมือของคุณจริงๆ (แต่คุณไม่ได้รับอนุญาตให้นำกลับบ้านเนื่องจากอยู่ในอุทยานแห่งชาติ) กล่าวกันว่าหินแกรนิต Lapaquivi ของ Ashizuri ก่อตัวขึ้นเมื่อ 14 ล้านปีก่อน กระบวนการก่อตัวและเหตุผลในการดำรงอยู่ยังคงเป็นปริศนา

นอกจากนี้ เราขอแนะนำ Manjiro Footbath ที่ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการแช่เท้าในขณะที่มองออกไปที่ Hakusan Domon ทิวทัศน์ที่ผสมผสานระหว่างทิวทัศน์ของมหาสมุทรแปซิฟิกและถ้ำฮาคุซังขณะแช่เท้าเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การชม

ถ้ำฮาคุซัง

แหลม Ashizuri เมือง Tosashimizu จังหวัด Kochi 787-0315

เป็นหนึ่งในถ้ำหินแกรนิตที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูง 16 เมตร กว้าง 17 เมตร และถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติของจังหวัดโคจิ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คลื่นลมแรงของมหาสมุทรแปซิฟิกได้เจาะหินและสร้างถ้ำ เป็นจุดยอดนิยมเพราะรูมีรูปร่างเหมือนหัวใจ มีสนามเลียบชายฝั่งเหมาะสำหรับการปั่นจักรยาน! ขนาดของหินที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้าคุณหลังจากลงบันไดและพลังของคลื่นก็ท่วมท้น คุณยังสามารถมองเห็นถ้ำจากด้านบนได้ที่ Manjiro Footbath ที่ตั้งอยู่ริมถนนประจำจังหวัด

บ่อแช่เท้ามันจิโร่

〒787-0315 482-1 แหลม Ashizuri เมือง Tosashimizu จังหวัด Kochi

กล่าวกันว่าน้ำร้อนของ Ashizuri Onsen ช่วยรักษาความเหนื่อยล้าของ Kobo Daishi ได้ จากหน้าต่างกระจกบานใหญ่ คุณจะมองเห็นท้องฟ้าและมหาสมุทรได้ไกลสุดลูกหูลูกตา และฮาคุซังโดมอนที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องล่าง แหลม Ashizuri และวัด Kongofuku-ji ก็อยู่ใกล้ๆ กัน ทำไมไม่ลองแช่เท้าผ่อนคลายเพื่อคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางดูล่ะ มีผ้าขนหนูขายด้วย (100 เยน) ดังนั้นคุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับมันได้แม้มือเปล่า

ถ้ำมัตสึโอะบลู

สถานที่ต่อไปที่เราอยากให้คุณไปเยี่ยมชมคือสถานที่ท่องเที่ยวที่ซ่อนอยู่ซึ่งมักไม่ค่อยถูกกล่าวถึงในหนังสือนำเที่ยว “Matsuo Blue Cave” (เวลาที่ใช้: 15 นาทีโดยจักรยานไฟฟ้าจากโรงแรม) เมื่อคุณผ่านบ้านส่วนตัว คุณจะเห็นท่าเรือประมงมัตสึโอะ Ebi-do ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นถ้ำสีฟ้าที่ด้านหลัง มี น้ำทะเล ที่ปล่อยสีลึกลับที่ไหลต่อเนื่องไปถึงด้านหลังของถ้ำ พื้นผิวของน้ำทะเลสีฟ้าครามส่องแสงเจิดจ้าจนถูกเรียกว่า "มัตสึโอะบลู"

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ถ้ำสีฟ้าได้กลายเป็นที่รู้จักในฐานะจุดที่สามารถลงอินสตาแกรมได้ และผิวน้ำสีฟ้าของถ้ำก็สวยงามมากเมื่อคุณถ่ายรูปร่วมกัน

ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน คุณสามารถเห็นเด็ก ๆ ในท้องถิ่นกระโดดลงมาจากท่าเรือด้านหน้า หรือเล่นน้ำในขณะที่ลอยอยู่บนทุ่น การปรากฏตัวของคุณยายในท้องถิ่นหัวเราะและพูดว่า ``เป็นภาพธรรมชาติ ดังนั้นการเห็นปลาสีน้ำเงินว่ายไปมาจึงไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไร'' เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Ashizuri

ในวันที่ไม่มีลมแดด คุณจะเห็นปรากฏการณ์เรือที่จอดอยู่ดูเหมือนลอยอยู่บนท้องฟ้า

ถ้ำกุ้งท่าเรือมัตสึโอะ <ถ้ำสีฟ้า>

171-2 มัตสึโอะ เมืองโทซาชิมิสึ จังหวัดโคจิ 787-0316

มีอีกชื่อหนึ่งว่า "ถ้ำสีน้ำเงิน" เนื่องจากมีทัศนียภาพที่สวยงาม มันกลายเป็นประเด็นร้อนส่วนใหญ่ใน SNS และยังไม่ได้ตีพิมพ์ในไกด์บุ๊ก จุดเด่นของถ้ำนี้คือมีน้ำใสอยู่ด้านล่าง พื้นผิวของน้ำทะเลซึ่งสามารถมองเห็นได้จนสุดทางจนถึงก้นทะเล จะส่องแสงเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์เมื่อแสงแดดส่องผ่าน คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดได้ตั้งแต่เวลา 8:00 น. ถึง 10:00 น. เมื่อแสงแดดส่องเข้ามาในถ้ำ ความโปร่งใสสูงของน้ำทะเลและแสงแดดทำให้ดูเหมือนเรือลอยอยู่ในอากาศ สถานที่ที่มีชื่อเสียงแห่งนี้เป็นผลึกแห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมอันรุ่มรวยของภูมิภาคนี้ และผู้อยู่อาศัยยังคงปกป้องมันด้วยความระมัดระวัง มาเที่ยวอย่าลืมมีน้ำใจมีมารยาท มีที่จอดรถในท่าเรือประมงมัตสึโอะ และหากคุณเดินไปตามทางเดินเล่นทางด้านขวาจากที่จอดรถ คุณจะเห็นสะพานคนเดินที่เรียกว่า "สะพานโคซากิ" สามารถมองเห็น Blue Grotto ได้จากสะพานลอยนี้ หากคุณพักที่โรงแรมในบริเวณใกล้เคียง คุณสามารถเช่าจักรยานได้เช่นกัน

Toujin Dama / กลุ่มหิน

แม้ว่าความงามของชายฝั่งของแหลมอาชิซูริมักจะมีเสน่ห์ดึงดูดใจ แต่ภูเขาก็ยังมีทิวทัศน์ที่งดงามที่ควรค่าแก่การแวะชมอยู่ประปราย ในช่วงบ่าย เมื่อคุณคุ้นเคยกับจักรยานไฟฟ้าแล้ว เราขอเสนอความท้าทายบนภูเขาที่จะกระตุ้นความรู้สึกของการผจญภัยของคุณ นั่งรถอีไบค์ 30 นาทีจากโรงแรมจะพาคุณไปยังทิวทัศน์อันน่าทึ่ง

มาปีน Ashizuri Skyline จากทางทิศใต้ด้วยพลังของ e-bike กันเถอะ เมื่อคุณเดินเรียบไปตามถนนบนภูเขาในขณะที่ตัดผ่านลม ในที่สุดคุณก็จะพบกับถนนที่หันไปทางซ้ายและป้ายข้อมูล "พาวเวอร์สปอต" เหลืออีกประมาณ 2 กม. แต่ความประหลาดใจและความประทับใจรออยู่ข้างหน้า เลี้ยวซ้ายและถนนจะเริ่มลงเนินในไม่ช้า สิ่งสำคัญคือต้องเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ในขณะที่ควบคุมความเร็วของจักรยานไฟฟ้าอย่างเหมาะสม หลังจากนั้นสักครู่ คุณจะเห็นป้ายแนะนำภาพ ป้ายข้อมูลที่ด้านล่างของทางลาด

หยุดจักรยานไฟฟ้าที่นั่นและเริ่มปีนภูเขาตามเส้นทาง ถ้าเดินต่อไปอีกหน่อยก็จะเจอหินก้อนใหญ่ เดินต่อไปตามถนนที่เหมือนเขาวงกตข้างหน้า คุณจะมาถึงหินแบนๆ กว้างๆ ที่มีชื่อว่า “หินคางุระ” ภาพพาโนรามาอันงดงามของธรรมชาติกว้างไกลเกินกว่าความประทับใจของทะเลที่แหลมอาชิซูริ

ตามตำนาน หินคางุระนี้ถูกใช้เพื่อแสดงคางุระต่อเทพเจ้าในสมัยโบราณ ยืนอยู่ตรงกลางของ megaliths คุณรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของตำนานโบราณ

มีการขุดพบเครื่องมือหินและเศษเครื่องปั้นดินเผาตั้งแต่ยุค Jomon จนถึงยุค Yayoi ทำให้ผู้เยี่ยมชมสามารถสัมผัสประวัติศาสตร์ได้โดยตรง Tojin Dama มีร่องรอยวงกลมหินขนาดใหญ่ที่น่าทึ่ง และวงกลมหินกระจายอยู่ติดกับกลุ่มหินขนาดใหญ่ เชื่อกันว่าซากปรักหักพังเหล่านี้เป็นเศษซากของอารยธรรมโบราณ

หินก้อนใหญ่ในหินใหญ่ยังมีลักษณะที่คิดว่าเกิดจากมือมนุษย์ เช่น หินที่มีพื้นผิวเว้าและหินรูปพระจันทร์เสี้ยว หินขนาดยักษ์เหล่านี้ถูกขนส่งและวางซ้อนกันอย่างไรเป็นปริศนาที่ยากจะไขได้ แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของเสน่ห์ของสถานที่แห่งนี้

และมี ตำนานมากมาย ว่าทำไมที่นี่จึงถูกเรียกว่าจุดไฟ ทฤษฎีหนึ่งเกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่เรียกว่า Usubae ซึ่งกระแสน้ำ Kuroshio ซึ่งอยู่บนคาบสมุทร Ashizuri สัมผัสกับชายฝั่ง ว่ากันว่าผู้คนที่ล่องเรือมาจากทวีปนี้ในสมัยโบราณได้ขึ้นฝั่งที่กระแสน้ำคุโรชิโอะ พวกเขาสร้างวัฒนธรรมที่สามารถเรียกว่าอารยธรรม Ashizuri บนดินแดนอันกว้างใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 180 เมตร ในส่วนหนึ่งของงานนี้ มีการจัดวงกลมหินและเทศกาลหินคางุระ และมีทฤษฎีว่าสถานที่นี้ศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่สมัยโบราณ แรงบันดาลใจจากทฤษฎีนี้ ผู้คนมากมายมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ในฐานะจุดไฟ

ซากปรักหักพังโทจินดาบา

977 มัตสึโอะ เมืองโทซาชิมิสึ จังหวัดโคจิ 787-0316

พื้นที่นี้เชื่อกันว่าเป็นที่อาศัยของผู้คนตั้งแต่ช่วงต้นยุคโจมง (ประมาณ 5,000 ปีก่อนคริสตกาล) จนถึงสมัยยาโยอิ และมีการขุดพบเครื่องมือหินและเศษเครื่องปั้นดินเผาจำนวนมาก มีการเรียงตัวของหินที่น่าจะเป็นหินวงกลมในบริเวณนั้น หากคุณเดินผ่านป่าไปอีกหน่อย คุณจะมาถึงกลุ่มหินใหญ่โทจิน ซึ่งเป็นป่าหินใหญ่ที่มีความสูง 6 ถึง 7 เมตร "ดาบา" แปลว่า "พื้นที่ราบ" เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นจุดไฟที่มีความลึกลับมากมาย จากยอดหิน คุณสามารถมองเห็นที่ราบสูงสีเขียวกว้างและมหาสมุทรแปซิฟิกสีฟ้าที่อยู่ไกลออกไป ... นอกจากนี้ Tojindaba Enchi ซึ่งเป็นที่นิยมในฐานะสวนสาธารณะล้อมรอบด้วยหิน ลองสัมผัสพลังโบราณด้วยร่างกายของคุณที่ Toujin Daba ไหม?

-----

คลิก ที่นี่ เพื่อจองการเข้าพักที่ TheMana Village

การแสดงผลเริ่มต้นเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่โปรดเลือกภาษาอื่นจากแท็บภาษาที่ด้านล่างของไซต์

หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TheMana Village โปรดดูบทความด้านล่าง
"TheMana Village" ขุมทรัพย์แห่งแหลม Ashizuri ทางตอนใต้สุดของเกาะชิโกกุ - ประสบการณ์รีสอร์ทที่ยอดเยี่ยมที่ผสมผสานทัศนียภาพที่ยอดเยี่ยมและความสะดวกสบาย

หมู่บ้านมานา

783 แหลม Ashizuri เมือง Tosashimizu จังหวัด Kochi 787-0315

TheMana Village เป็นหนึ่งในพื้นที่ตากอากาศที่ใหญ่ที่สุดในชิโกกุ ภายในโรงแรมมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และบ่อน้ำพุร้อน นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และบ่อน้ำพุร้อนสำหรับแขกที่ไม่ได้เข้าพักอีกด้วย มีห้องพักหลายประเภท รวมถึงห้องสวีทพร้อมอ่างอาบน้ำกลางแจ้ง ห้องสไตล์ตะวันตก และห้องสไตล์ญี่ปุ่น ทุกห้องมีวิวทะเล ในเลานจ์ที่กว้างขวาง คุณสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มและเจลาโต้สูตรดั้งเดิมที่ Cafe & Bar พร้อมชมทิวทัศน์อันงดงามของมหาสมุทรแปซิฟิก บนดาดฟ้าของร้านอาหาร Azzurrissimo คุณสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มและอาหารค่ำพร้อมฟังเสียงทะเลภายใต้พระอาทิตย์ตกดินและแสงไฟที่น่าอัศจรรย์ สำหรับอาหารค่ำ เราเตรียมอาหารที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลในท้องถิ่น คุณสามารถเลือกอาหารญี่ปุ่นหรืออิตาลีได้เมื่อคุณทำการจอง ในตอนกลางคืนมีการจัดทัวร์ดูดาวภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว คุณยังสามารถเช่าจักรยานและคิกบอร์ดได้ ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการท่องเที่ยวในบริเวณโดยรอบ คุณยังสามารถนั่งรถตุ๊กตุ๊กที่ขับโดยพนักงานเพื่อออกไปข้างนอก โปรดเพลิดเพลินกับช่วงเวลาผ่อนคลายด้วยอาหารที่ใช้ประโยชน์จากทิวทัศน์อันงดงามและพรอันอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ