Unseen Japan สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งฤดูหนาวของเมืองมัตสึโมโตะ 2 วัน 1 คืน

เส้นทางเที่ยวฮาโกเนะพื้นฐานแบบไปกลับ!! ชมผ่านสตรีทวิวแบบจัดเต็ม!!

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

ฮาโกเนะ เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่ผู้คนที่มาเยือนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ เลือกที่จะไปเที่ยว เรามาชมกันไปพร้อมกันผ่านทางสตรีทวิว กันอีกครั้ง เผื่อใครอยากมากันอีก

บทความโดย

ストリートビューMedia(https://media.l-s.co.jp/streetview/)を運営。 『世界に日本を伝えよう!』をテーマに、Googleストリートビューを通して 世界中の見たことがないような素敵な場所を紹介しています。

more

หากจะพูดถึงเมืองแห่งออนเซนอันเลื่องชื่อ ที่สามารถเดินทางไป-กลับได้ภายในวันเดียวจากโตเกียวนั้น ก็คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก ฮาโกเนะ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษก็คือ ความที่เป็นเมืองเล็กๆ แต่สามารถท่องเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมกับมีออนเซนอันเลื่องชื่ออีกหลายๆที่ นับว่ามาที่นี่เมืองเดียว สามารถเที่ยวได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงการเดินทางก็แสนสะดวก สามารถนั่งรถไฟจากสถานีชินจุกุชิวๆ โดยใช้เวลาพียงแค่2ชั่วโมงเท่านั้น

ครั้งนี้ เราจะขอแนะนำสถานที่ที่สำคัญของฮาโกเนะ ผ่านการใช้งาน Google สตรีทวิว กันดูนะคะ ลองมาสัมผัสการท่องเที่ยวแบบเสมือนจริงกับโปรแกรมนี้ดูว่าจะสมจริงแค่ไหน ตามมาสัมผัสประสบการณ์พร้อมๆกันเลยค่ะ

เมืองออนเซนแบบญี่ปุ่นขนานแท้ออกมารอต้อนรับ

เมื่อลงรถไฟที่สถานี ฮาโกเนะ หยุโมะโตะ แล้ว เราก็จะได้พบกับบ้านเมืองสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเมืองออนเซนแบบญี่ปุ่นขนานแท้ออกมาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนอยู่ค่ะ

วิธีเดินทางท่องเที่ยวภายในตัวเมืองฮาโกเนะนั้น ก็จะมีหลากหลายเส้นทางการเดินทางด้วยกัน เช่น ทางรถไฟ รถบัส ทางเรือ เคเบิ้ลคาร์ โรปเวย์ สำหรับครั้งนี้เรามาเริ่มการเดินทางด้วยการขึ้นรถไฟไต่เขาที่แลดูน่าสนุกก่อนเป็นอันดับแรกกันดีกว่าค่ะ

รถไฟใต่เขาขบวนนี้ ออกจากสถานี หยุโมะโตะ ไปจนถึงสถานีโกอุระ ด้วยกำลังปีนประสิทธิภาพสูง

จากสถานีฮาโกเนะหยุโมะโตะเชื่อมไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหลักของฮาโกเนะแห่งนี้จะมีรถไฟปีนเขาวิ่งให้บริการอยู่ ซึ่งรถไฟไต่เขาขบวนนี้จะไปสิ้นสุดที่สถานี โกอุระ ค่ะ

เสียงฉึก ฉัก ฉึก ฉักของรถไฟที่กำลังวิ่งอยู่ ก็ไม่ได้เป็นการวื่งธรรมดา แต่เป็นการปีนเขาขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งสองข้างทางนั้นเราจะสามารถเห็นธรรมชาติป่าไม้อันเขียวขจี และในบางครั้งก็จะเห็นแม่น้ำที่ไหลอยู่เบื้องล่างอีกด้วย ซึ่งวิวที่เห็นได้จากทางหน้าต่างของรถไฟนั้น ก็จะเปลี่ยนแปลงความสวยงามไปตามฤดูกาลต่างๆของญี่ปุ่น ช่วงที่เป็นไฮไลต์ของวิวที่นี่ จะเป็นช่วงที่ดอกไฮเดรนเยียบาน คือช่วงเดือนมิถุนายน และอีกช่วงหนึ่งก็จะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงตอนที่ใบไม้ต่างๆกำลังเปลี่ยนสีเพื่อเตรียมที่จะผลัดใบ แต่หากใครที่ไม่ค่อยสันทัดเรื่องการเบียดเสียดผู้คนหรือรักความสงบแล้วหล่ะก็แนะนำให้หลีกเลี่ยงช่วงดังกล่าวไว้จะดีที่สุดค่ะ

พอถึงสถานี โกอุระแล้ว ให้เปลี่ยนไปนั่งเคเบิ้ลคาร์เพื่อไปต่อ

เมื่อถึงสถานีโกอุระแล้ว เราจำเป็นต้องไต่เขาขึ้นไปอีกทีนึงโดยใข้บริการของเคเบิ้ลคาร์ เพราะเนื่องจากความชันของทางที่มีความลาดชันกว่าทางก่อนหน้านี้มาก จึงต้องเปลี่ยนมาเป็นเคเบิ้ลคาร์ในการเดินทางไปต่อ ซึ่งการเดินทางไปยังแหล่งที่พัก โรงแรมส่วนใหญ่ของฮาโกเนะก็จะเดินทางตามเส้นทางการขึ้นรถไฟและต่อด้วยเคเบิ้ลคาร์ไปค่ะ

สถานที่ท่องเที่ยวอันดับแนวหน้าของฮาโกเนะ อย่างเช่น สวนฮาโกเนะโกอุระหรือพิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเนะก็จะเป็นเส้นทางที่ใช้เคเบิ้ลคาร์ในการเดินทางไป หรือจะแค่ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไปซักระยะแล้วลงตรงสถานีระหว่างทางก็เป็นทางเลือกในการท่องเที่ยวอีกแบบหนึ่งที่น่าสนุกไม่น้อย หากใครมีเวลาลองเดินทางด้วยวิธีนี้ดูนะคะ

จากสถานีโซอุนซังเป็นต้นไป เปลี่ยนมานั่งโรปเวย์

สถานีปลายทางของเคเบิ้ลคาร์ จะเป็นสถานีที่ชื่อว่า สถานีโซอุนซังค่ะ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณรอบๆสถานีโซอุนซังแห่งนี้อาจจะมีน้อยไปนิด แต่เพื่อนๆสามารถต่อรถบัสหรือเปลี่ยนไปนั่งโรปเวย์เพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆได้จากที่นี่ แต่ทว่า เส้นทางโรปเวย์ จากสถานีโซอุนซัง ไปยัง สถานีโอวาคุดานิ นั้น ตอนนี้ (เดือนพฤษภาคม 2016) ปิดให้บริการชั่วคราวผลเนื่องจากมีการปะทุของภูเขาไฟ เพื่อนๆคนไหนที่อยากจะไปยังสถานีโอวาคุดานิ ให้เดินทางโดยใช้รถบัสแทนได้ค่ะ

ระหว่างทางที่เดินทางไปโอวาคุดานินั้น จะสามารถเห็นพลังงานใต้พื้นดินของภูเขาไฟแห่งนี้ได้อย่างใกล้ชิด โดยจะเห็นควันสีขาวที่พวยพุ่งออกมาจากชั้นดินได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งจุดตรงนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่เพื่อนๆสามารถที่จะสัมผัสได้ถึงพลังงานและความยื่งใหญ่ของธรรมชาติได้อย่างน่าประทับใจ และหากเดินทางไปเรื่อยๆจนถึงโทเก็นไดแล้วหล่ะก็ ก็จะเห็นทะเลสาบ อาชิโนะโกะ เด่นอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว พอมาถึงจุดนี้แล้วเราก็มาชื่นชมธรรมชาติบริเวณนี้ให้จุใจกันไปเลยดีกว่าค่ะ

มานั่งเรือโจรสลัดเพื่อข้ามฝากทะเลสาบอาชิโนะโกะกันเถอะ

เมื่อลงมาจากภูเขาที่เราอุตส่าห์นั่งรถลงเคเบ้ิลคาร์มากันหลายต่อ เราก็จะมาเจอกับทะเลสายที่สวยงามสะกดทุกสายตาอยู่ตรงหน้าอย่าง ทะเลสาบ อาชิโนะโกะ ซึ่งเรื่องราวของทะเลสาบพิศวงแห่งนี้ยังมีปรากฏไว้เป็นหลักฐานอยู่ในเรื่องเล่าเกี่ยวกับเทพเจ้ามังกร โดยที่บริเวณริมทะเลสาบนี้จะมีศาลเจ้า คุซุริว (ศาลเจ้า มังกร9หัว)อยู่ และเรายังสามารถเห็นเสาโทริอิ (เสาประตูศาลเจ้าชินโต รูปร่างคล้ายเสาชิงช้า) ที่หันหน้าออกไปยังทะเลสาบได้อีกด้วย ซึ่งใครที่มาท่องเที่ยวที่นี่ ลองล่องเรือโจรสมุทรชื่นชมความงามของทะเลสาบและลองสังเกตุ วิเคราะห์ความพิศวงของที่นี้ไปด้วย รับรองว่าสนุกแบบคล้ายๆเป็นการผจญภัยเล็กๆเลยค่ะ

เวลานั่งอยู่บนเรือล่องทะเลสาบนั้น เราจะสามารถรับรุ้ได้ถึงลมที่ปะทะเข้ากับร่างกาย โดยเฉพาะในวันที่อาการปลอดโปร่งแล้วหล่ะก็จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟุจิแบบไกลๆได้ ช่างเป็นการชมธรรมชาติที่สวยงามแบบหาที่เปรียบได้ยากค่ะ

จบท้ายทริปนี้ด้วยการไปขอพระที่ศาลเจ้าฮาโกเนะ

เรือล่องทะเลสาบจะออกเดินทางจากโทเก็นได และไปสื้นสุดที่ ท่าเรือฮาโคเนะมาจิ หรืออีกที่หนึ่งคือ ท่าเรือ โมะโตะฮาโคเนะโค ซึ่งหากใครที่จะไปเที่ยวศาลเจ้าฮาโกเนะต่อ แนะนำให้เลือกไปลงที่ท่าเรือโมะโตะฮาโคเนะโคะ จะใกล้กับศาลเจ้ามากที่สุดค่ะ

เดินจากท่าเรือโมะโตะฮาโกะเนะ มาอีกนิดหน่อย ก็จะเจอกับศาลเจ้าฮาโกเนะทันทีค่ะ พอลอดซุ้มสีแดงโทริอิเข้าไป ก็จะเจอกับบันไดหินที่สองข้างทางเป็นต้นสนญี่ปุ่นสูงใหญ่เรียงรายเป็นทาง ให้เดินขึ้นไปตามบันไดหินนั้น ก็จะเจอกับตัวศาลเจ้าหลักค่ะ

เรามากราบไหว้ขอพรสิ่งศักสิทธิ์ที่คุ้มครองศาลเจ้าฮาโกเนะแห่งนี้ เป็นการส่งท้ายทริปนี้กันเถอะค่ะ เส้นทางที่ทางเราได้นำมาแนะนำในครั้งนี้ เป็นการเดินทางท่องเที่ยวแบบผ่อนคล้ายไม่รีบเร่งสำหรับเพื่อนที่ต้องการไปพักผ่อนแบบเช้าไปเย็นกลับจกาโตเกียว ขากลับนั้นแนะนำให้ขึ้นรถบัสไปที่สถานีฮาโกเนะหยุโมะโตะค่ะ

บทความโดย

LIFE STYLE, Inc.

ストリートビューMedia(https://media.l-s.co.jp/streetview/)を運営。 『世界に日本を伝えよう!』をテーマに、Googleストリートビューを通して 世界中の見たことがないような素敵な場所を紹介しています。

more
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง