Start planning your trip
![sponsor image](https://cf.bstatic.com/static/img/affiliate_base/flexi/booking_logo_blue/ebc3273565b5e682ccaf01872d2e046749306442.png)
บทความแนะนำแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อและข้อมูลการเดินทางไปยัง “ฮาโกเนะ” จ.คานากาว่าที่อุดมไปด้วยออนเซ็นและธรรมชาติ โดยตั้งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว
ฮาโกเนะ เป็นเมืองที่สามารถสัมผัสถึงธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้ โดยตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของจ.คานากาว่า ที่นี่เจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นด่านเชื่อมระหว่างโตเกียวและเกียวโตในสมัยก่อน ว่ากันว่าที่นี่เป็นแหล่งออนเซ็นสำหรับผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการท่องเที่ยวของผู้คนมากมายมาตั้งแต่สมัยก่อน
เนื่องจากเราสามารถเดินทางจากโตเกียวมาถึงฮาโกเนะได้โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในหมู่ผู้คนจากทั้งในและต่างประเทศที่สามารถเดินทางมาถึงได้อย่างสะดวกสบายไปโดยปริยาย
จะไม่หลงอีกต่อไป วิธีการเดินทางแบบเข้าใจง่ายจากโตเกียวสู่ฮาโกเนะ
ข้อมูลพื้นฐานและ 6 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำในฮาโกเนะ
แผนเที่ยวฮาโกเนะแบบจัดเต็มภายใน 1 วัน
ไปฮาโกเน่จากชินจูกะกันเถอะ! วิธีเดินทางและวิธีซื้อตั๋วของโอดะคิวโรมานซ์คาร์
เส้นทางเที่ยวฮาโกเนะพื้นฐานแบบไปกลับ!! ชมผ่านสตรีทวิวแบบจัดเต็ม!!
ภายในฮาโกเนะเต็มไปด้วยระบบขนส่งสาธารณะมากมายไม่ว่าจะเป็น Odakyu Romance Car, Hakone Tozan Railway, Hakone Cable Car · Hakone Ropeway และ Hakone Tozan Bus เป็นต้น
เดี๋ยวเรามาแนะนำเอกลักษณ์ของระบบขนส่งสาธารณะแต่ละอย่างกันดีกว่าค่ะ ^^
Photo by Pixta
สำหรับใครที่วางแผนเดินทางจากโตเกียวเข้าฮาโกเนะขอแนะนำให้ใช้บริการ Odakyu Romance Car จะสะดวกที่สุด เพราะว่าเราสามารถเดินทางจากสถานีชินจุกุมาถึง Hakone-Yumoto Station ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน
จากสถานีชินจุกุถึง Hakone-Yumoto Station ค่าโดยสาร 2,080 เยน (1 ชั่วโมง 25 นาที)
จะไม่หลงอีกต่อไป วิธีการเดินทางแบบเข้าใจง่ายจากโตเกียวสู่ฮาโกเนะ
ไปฮาโกเน่จากชินจูกะกันเถอะ! วิธีเดินทางและวิธีซื้อตั๋วของโอดะคิวโรมานซ์คาร์
จาก Hakone-Yumoto Station ก็มาขึ้น Hakone Tozan Railway กันต่อเลยค่ะ ถึงตรงนี้เราจะนั่งรถไฟระบบ Switchback หรือซิกแซกซึ่งเป็นรูปแบบการวิ่งที่แตกต่างจากรถไฟทั่วไปเพื่อขึ้นภูเขาอันแสนลาดชันจาก Hakone-Yumoto Station ไปยัง Gōra Station
เสน่ห์อย่างหนึ่งของมันเลยก็คือการได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามทั้ง 4 ฤดูกาลของฮาโกเนะจากหน้าต่างขบวนนี่แหละ ค่าโดยสารจาก Hakone-Yumoto Station ไปถึง Gōra Station 400 เยน (40 นาที)
Hakone Cable Car คือ เคเบิ้ลคาร์ที่วิ่งให้บริการระหว่าง Gōra Station และ Sounzan Station โดยจะพาผู้โดยสารขึ้นภูเขาที่มีระดับความสูงต่างกันกว่า 200 เมตรอย่างช้าๆ ถึงแม้ว่าเราสามารถเดินขึ้นเขาได้ก็จริง แต่การขึ้น-ลงเนินลาดชันขอแนะนำให้ใช้บริการเคเบิ้ลคาร์จะสะดวกกว่า
ค่าโดยสารจาก Gōra Station ถึง Sounzan Station 420 เยน (9 นาที)
Hakone Ropeway คือ กระเช้าที่วิ่งให้บริการระหว่าง Sounzan Station และ Tōgendai Station เราสามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิและทัศนียภาพอันงดงามของเมืองฮาโกเนะจากหน้าต่างได้
ค่าโดยสารจาก Sounzan Station ถึง Tōgendai Station 1,370 เยน (30 นาที)
สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในฮาโกเนะขอแนะนำให้ใช้ Hakone Free Pass จะสะดวกมากค่ะ โดยเราสามารถขึ้น-ลงระบบขนส่งสาธารณะภายในฮาโกเนะได้เกือบทั้งหมดอย่างอิสระ ตั๋วฟรีพาสนี้มีจำหน่ายตั้งแต่ระยะเวลาสั้นที่สุด 2 วัน (ผู้ใหญ่ 5,140 เยน) ซึ่งเราสามารถหาซื้อได้ตามสถานีรถไฟของ Odakyu Line สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จาก เว็บไซต์หลัก (ภาษาอังกฤษ・ภาษาจีนตัวเต็ม・ภาษาจีนตัวย่อ・ภาษาเกาหลี・ไทย) ของ hakonenavi
การเดินทางท่องเที่ยวภายในฮาโกเนะอย่างมีประสิทธิภาพขอแนะนำให้ใช้บริการ “รถเช่า” จะดีที่สุด เพราะว่าเราจะสามารถเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องตารางเวลาของระบบขนส่งสาธารณะ
เอาล่ะ เรามาใช้บริการระบบขนส่งภายในฮาโกเนะกันอย่างชาญฉลาดเพื่อให้ท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายกันดีกว่าค่ะ
ฮาโกเนะแบ่งออกเป็น 6 โซนใหญ่ๆ โดยแต่ละแห่งก็มีแหล่งท่องเที่ยวอันทรงเสน่ห์แตกต่างกันออกไป เดี๋ยวเรามาแนะนำเอกลักษณ์และไฮไลท์ของแต่ละโซนกันดีกว่าเนอะ
Hakone-Yumoto (ฮาโกเนะ-ยุโมโตะ) เป็นโซนที่เรียกกันว่า “ประตูสู่ฮาโกเนะ” เลยทีเดียว โดยเป็นสถานีรองรับรถไฟที่เดินทางมาจากโตเกียว ที่นี่เต็มไปด้วยไฮไลท์มากมายไม่ว่าจะเป็นถนนร้านค้าที่เรียงรายไปด้วยร้านจำหน่ายของฝากและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์
Photo by Pixta
นอกจากนี้ Hakone-Yumoto ก็ยังเป็นแหล่งออนเซ็นขึ้นชื่อที่เรียงรายไปด้วยที่พักติดออนเซ็นกว่า 40 แห่งอีกด้วย เนื่องจากมีทั้งที่พักติดออนเซ็นแบบไปเช้า-เย็นกลับและออนเซ็นเท้า ยังไงก็ขอแนะนำให้เพื่อนๆแวะมาเพลิดเพลินกันดูนะคะ ^^
Miyanoshita (มิยาโนะชิตะ) เป็นโซนที่เปิดรับนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่สมัยก่อน เราสามารถสัมผัสกับบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์อย่าง Yumoto Fujiya Hotel เรียวกังสุดหรูและร้านจำหน่ายของเก่าได้ที่นี่เลย แถมภายในเมืองยังเกิดจากการผสมผสานระหว่างดีไซน์อันหลากหลายตั้งแต่สถาปัตยกรรมสไตล์ญี่ปุ่นไปจนถึงสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกเลยทีเดียว
Gora (โกระ) คือ โซนที่ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 700 เมตรด้วยกัน ในสมัยก่อนที่นี่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นแหล่งบ้านพักตากอากาศสุดหรู แม้ในปัจจุบันก็ยังคงขึ้นชื่อเรื่องอาคารบ้านเมืองที่สามารถสัมผัสถึงบรรยากาศสมัยก่อนได้
Photo by Pixta
นอกจากนี้ก็ยังเป็นแหล่งรวมจุดชมธรรมชาติและศิลปะเอาไว้มากมายอีกด้วย เช่น Hakone Open-Air Museum (พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเนะ), Hakone Museum of Art (พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเนะ) และ Hakone Gora Park (สวนโกระ) เป็นต้น โดยนับเป็น 1 ในไฮไลท์สำคัญของการท่องเที่ยวฮาโกเนะ แถมยังเป็นจุดเปลี่ยนรถอีกด้วยนะเออ...
Sengokuhara (เซ็งโกคุฮาระ) คือ โซนที่ตั้งอยู่ห่างจาก Gora Station ประมาณนั่งรถบัส 20 นาที โดยเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวอย่าง Hakone Glass no Mori (พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วฮาโกเนะกลาสโนะโมริ), Pola Museum of Art (พิพิธภัณฑ์ศิลปะโพล่า) และวัด Choanji ที่สามารถเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีได้ เป็นต้น
ที่ Sengokuhara แห่งนี้เป็นที่ตั้งของทุ่งหญ้าซูซูกิอันแสนกว้างใหญ่ เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง เราจึงสามารถชมสีเหลืองทองเปล่งประกายระยิบระยับของทุ่งหญ้าซูซูกิเหล่านี้ได้ ถ้าเกิดใครวางแผนมาเที่ยวโซน Sengokuhara แห่งนี้ก็ขอกระซิบเอาไว้นิดนึงว่าฤดูใบไม้ร่วงนี่แหละเป็นช่วงที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวที่สุดเลยล่ะค่ะ
เราสามารถชมธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของฮาโกเนะได้จากบนกระเช้าฮาโกเนะที่ออกวิ่งให้บริการจาก Sōunzan (โซอุนซาน) นอกจากนี้ก็ยังเป็นโซนที่สามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงาม เช่น ภูเขาไฟฟูจิ ในวันที่อากาศแจ่มใสได้อีกด้วย
เสน่ห์ของมันอยู่ที่ภาพความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟที่ยังคงปะทุอยู่ในฮาโกเนะ โดยสามารถชมได้จาก “โอวาคุดานิ” ซึ่งเป็นสถานีระหว่างทางของกระเช้าฮาโกเนะนี่แหละ
Lake Ashi (ทะเลสาบอาชิ) คือ ทะเลสาบที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อน จาก Tōgendai ไปถึง Motohakone ฝั่งตรงข้ามมีเรือสำราญที่จำลองมาจากเรือโจรสลัดวิ่งให้บริการด้วย เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับการชมภูเขาฮาโกเนะจากบนทะเลสาบได้
นอกจากนี้ ที่ Motohakone แห่งนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของ Hakone Shrine (ศาลเจ้าฮาโกเนะ) อีกด้วย เราสามารถชมเสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ริมฝั่งทะเลสาบได้ที่นี่เลย สำหรับใครที่วางแผนมาเที่ยวทะเลสาบอาชิก็บอกเลยว่าห้ามพลาด Motohakone ด้วยเช่นเดียวกัน
“ฮาโกเนะ” เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ยังคงหลงเหลือธรรมชาติและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่เอาไว้มากมาย แถมยังสามารถเดินทางมาจากโตเกียวได้อย่างสะดวกสบายอีกต่างหาก เช่น รถไฟสายตรงจากชินจุกุ เป็นต้น
ยังไงเพื่อนๆก็แวะมาสัมผัสเสน่ห์ของฮาโกเนะแต่ละโซนกันให้ได้นะคะ ^^
Written by
横浜に育ち、古都鎌倉の高校に通い、大学は超都会の渋谷、イギリスのロンドン留学時はなぜか日本食のイベントを立ち上げて料理人、現在はライターをしている未熟者です。 ブログ:一期一会