แผนเที่ยวฮาโกเนะแบบจัดเต็มภายใน 1 วัน

แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวฮาโกเนะแบบจัดเต็ม

“ฮาโกเนะ” เป็นแหล่งออนเซ็นที่สามารถเดินทางมาจากโตเกียวได้โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น แถมยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติอันเขียวขจีและพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับยอดนิยมเลยทีเดียว ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำแผนเที่ยวฮาโกเนะแบบไปเช้า-เย็นกลับกันค่ะ ^^

【10：00〜】เดินเล่นแถว Hakone-Yumoto Station และเช่ารถ

Photo by Pixta

ก่อนอื่นก็นั่งรถไฟจากโตเกียวเข้าฮาโกเนะกันก่อนเลย จากสถานีชินจุกุถึง Hakone-Yumoto Station เราสามารถนั่งOdakyu Romance Carมาถึงได้โดยตรงโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น

Photo by Pixta

เอาล่ะ ว่าแล้วก็มาเดินเล่นรอบHakone-Yumoto Stationกันก่อนเลยดีกว่าค่ะ! ด้านหน้าสถานีรถไฟเป็นที่ตั้งของถนนร้านค้าที่เรียงรายไปด้วยร้านจำหน่ายของฝากท้องถิ่นและอาหารแบบเดินไปกินไปมากมาย

จากสถานีรถไฟให้เดินตรงไปเรื่อยๆก็จะพบกับสะพานสีแดงที่เรียกว่า “อาจิไซบาชิ (สะพานดอกไฮเดรนเยีย)” ซึ่งมีแม่น้ำไหลเอื่อยๆอยู่ใต้สะพาน เนื่องจากบางครั้งก็สามารถลงไปถึงริมตลิ่งได้ เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของฮาโกเนะได้อย่างเต็มที่

เมื่อตระเวนเที่ยวรอบ Hakone-Yumoto Station จนครบแล้วก็ไปเช่ารถต่อกันเลยดีกว่า ต่อจากนี้ไป เราจะไปตระเวนเที่ยวฮาโกเนะแบบจัดเต็มกันค่ะ ^^

【11：00〜】ชมผลงานศิลปะกลางแจ้งที่ Hakone Open-Air Museum

「Hakone Open-Air Museum (พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเนะ)」เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สามารถเพลิดเพลินกับผลงานศิลปะท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่สไตล์เปิดโล่งโปร่งสบายได้ โดยจะเป็นการจัดแสดงผลงานมากมายภายในพื้นที่กว้างกลางแจ้งเป็นหลัก

บอกเลยว่าผลงานทุกชิ้นที่สร้างสรรค์ออกมาได้กลมกลืนกับธรรมชาติเหล่านี้ดูมีเสน่ห์สุดๆ! เนื่องจากที่นี่ไม่มีกฎระเบียบและเวลาจำกัดในการชมอะไร เราจึงสามารถดื่มด่ำกับผลงานศิลปะที่ถูกใจได้อย่างชิลล์ๆ

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเน่

1121 Ninotaira, ฮาโกเนะ-มาชิ, อาชิการาชิโมะ-กุน, 250-0407

【14：00〜】เดินเล่นรอบทุ่งหญ้าซูซูกิที่เซ็งโกคุฮาระ

Choanji, famous for its fall colors

เซ็งโกคุฮาระ แต่เดิมแล้วเคยเป็นทะเลสาบแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาดมาก่อนในอดีต โดยเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อเรื่องที่ราบน้ำขัง ทุ่งหญ้า และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ในปัจจุบันกลายเป็นโซนที่สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติและศิลปะได้ในแห่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Hakone Glass no Mori (พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วฮาโกเนะกลาสโนะโมริ) และ Pola Museum of Art (พิพิธภัณฑ์ศิลปะโพล่า)

Photo by Pixta

ที่ราบสูงเซ็งโกคุเป็นแหล่งชมทัศนียภาพอันงดงามของทุ่งหญ้าซูซิสูงเลยหัวตลอดทั้งปี เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง หญ้าซูซูกิก็จะกลายเป็นสีเหลืองทองเปล่งประกายรับแสงอาทิตย์งดงามมาก

Photo by Pixta

ที่ราบสูงเซ็งโกคุมีการตัดทางเดินเอาไว้เป็นอย่างดี เราจึงสามารถเดินชมความงดงามของทุ่งหญ้าซูซูกิที่พริ้วไหวไปตามแรงลมได้แบบ 360 องศาอย่างสบายๆ บอกเลยว่าเป็นทัศนียภาพที่ไม่สามารถหาชมได้จากที่ไหนในโลกเลยล่ะค่ะ

【16:00〜】สัมผัสความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟอย่างใกล้ชิดที่โอวาคุดานิ

Photo by Pixta
โอวาคุดานิเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถสัมผัสความยิ่งใหญ่ของภูเขาไฟที่ยังคงปะทุอยู่ในปัจจุบันได้ บริเวณโดยรอบจึงอบอวลไปด้วยควันสีขาวเต็มไปหมดเลยล่ะค่ะ ด้วยทัศนียภาพอันเป็นเอกลักษณ์นี้ทำให้ถูกเรียกกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะว่า “จิโกกุดานิ (หุบเขานรก)”

Photo by Pixta
นอกจากนี้ ที่โอวาคุดานิแห่งนี้ก็ยังมีจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่ออย่าง “ไข่ดำ” ด้วยนะเออ... โดยเป็นไข่สุดแปลกที่เปลือกทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่นจนกลายเป็นสีดำเพราะว่าถูกลงนำลงไปต้มในออนเซ็น โดยผู้คนเชื่อกันว่าถ้าเกิดทาน 1 ฟองจะมีอายุยืนยาวขึ้น 7 ปีเลยทีเดียว จึงนับเป็นเมนูท้องถิ่นที่ต้องลิ้มลองกันให้ได้สักครั้ง

【17:00〜】ล่องเรือสำราญชมทะเลสาบอาชิ + เที่ยวศาลเจ้าฮาโกเนะ

Photo by Pixta
Lake Ashi (ทะเลสาบอาชิ)เป็นทะเลสาบที่เกิดมาจากการปะทุของภูเขาไฟในอดีต ด้วยความยาวกว่า 21 กิโลเมตร ทำให้ที่นี่เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในจ.คานากาว่าไปโดยปริยาย

เรือสำราญที่จำลองมาจากเรือโจรสลัดที่ล่องบนทะเลสาบอาชิแห่งนี้วิ่งให้บริการไป-กลับแหล่งท่องเที่ยวทั้งหมด 3 แห่งด้วยกัน ประกอบด้วย Tōgendai, Hakone-machi และ Motohakone โดยเราสามารถชมทัศนียภาพของภูเขาฮาโกเนะที่สะท้อนเงาลงบนผิวทะเลสาบได้จากบนเรือสำราญ

Photo by Pixta

ตรงมุมหนึ่งของทะเลสาบเป็นที่ตั้งของ「Hakone Shrine (ศาลเจ้าฮาโกเนะ)」โดยมีไฮไลท์อยู่ที่เสาโทริอิขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือทะเลสาบนี่แหละ เนื่องจากที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปขึ้นชื่อ จึงบอกเลยว่าห้ามพลาดจ้า...

【19：00〜】กลับไปยัง Hakone Yumoto เพื่อดื่มด่ำกับออนเซ็น

Photo by Pixta

หลังจากกลับมายัง Hakone Yumoto ที่เดิมกันแล้วก็ถึงเวลาผ่อนคลายร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการท่องเที่ยวมาทั้งวันด้วยออนเซ็นแล้วล่ะค่ะ ^^

ภายใน Hakone Yumoto เรียงรายไปด้วยที่พักติดออนเซ็นมากกว่า 40 แห่ง ภายในเมืองมีทั้งออนเซ็นเท้าและออนเซ็นชั่วคราวให้บริการด้วยนะเออ... บอกเลยว่าการค้นหาออนเซ็นที่ถูกใจนับเป็นสวรรค์แห่งการเที่ยวฮาโกเนะเลยล่ะค่ะ

เมื่อแช่ออนเซ็นกันจนกระปรี้กระเปร่าแล้วก็ถือเป็นอันจบทริปฮาโกเนะแบบไปเช้า-เย็นกลับ ต่อมาก็อย่าลืมคืนรถเช่าและนั่งรถไฟกลับโตเกียว อย่าเผลอลืมตัวขับรถกลับโตเกียวกันนะจ๊ะ 555+ ในครั้งนี้เราก็ได้ตระเวนเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อในฮาโกเนะกันจนครบเลยล่ะค่ะ

“ฮาโกเนะ” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางมาจากโตเกียวได้แบบไปเช้า-เย็นกลับ แถมยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติและพิพิธภัณฑ์ศิลปะอีกต่างหาก สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวฮาโกเนะก็อย่าลืมนำแผนเที่ยวที่ทางเว็บไซต์ MATCHA แนะนำไปใช้กันดูเนอะ ^^

Main image by Pixta