[หมู่บ้านคาวาบะ จังหวัดกุนมะ] วัดเซนเซริวซังคิจิโจจิ ที่มีดอกไม้ 100 ชนิดบานสะพรั่งทุกฤดูกาล

Seiryuuzan Kichijoji คืออะไร?

วัดเซริวซังคิจิโจจิเป็นวัดเซนที่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 1882 โดยมีวัดหลักคือวัดเคนโชจิในเมืองคามาคุระ เป็นวัดที่อยู่เหนือสุดจากวัดมากกว่า 400 วัด โดยมีวัดเคนโชจิเป็นวัดหลัก และยังเป็นที่รู้จักในชื่อ “ประตูเหนือของวัดเคนโชจิ” อีกด้วย มีอาคารเก่าแก่ เช่น ห้องโถงหลักที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2218 และสวนสวยงามที่มีดอกไม้บานสะพรั่งมากกว่า 100 สายพันธุ์ บริเวณวัดมีบ่อน้ำและน้ำตกที่เกิดจากน้ำอันอุดมสมบูรณ์ของหมู่บ้านคาวาบะ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับทั้งประวัติศาสตร์และธรรมชาติ

ข้อมูลการเข้าถึง

• ที่ตั้ง: 860 มงเซ็น หมู่บ้านคาวาบะ เขตโทเนะ จังหวัดกุนมะ

• เข้าถึง:

[รถยนต์] ประมาณ 10 นาทีจาก Numata IC บนทางด่วน Kan'etsu มีที่จอดรถสำหรับรถยนต์ทั่วไป 30 คันและรถบัสขนาดใหญ่ 10 คัน

【การขนส่งสาธารณะ】

・ลงที่ "สถานี Numata" บนสาย JR Joetsu จากนั้นขึ้นรถบัสวงกลม Kawabamura ประมาณ 30 นาที ลงที่ "Kichijoji Iriguchi" จากนั้นเดินต่อ 3 นาที

ภูเขาเซริว คิจิโจจิ

เซริวซัน คิจิโจจิ

860 Monzen หมู่บ้าน Kawaba เขต Tone จังหวัดกุนมะ 378-0115

เซริวซังคิจิโจจิตั้งอยู่ในหมู่บ้านคาวาบะ จังหวัดกุมมะ เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี 1339 ในสมัยนันโบคุโจ และยังคงเฝ้าดูแลหมู่บ้านคาวาบะมาเป็นเวลานาน เป็นที่รู้จักในชื่อ ``วัดดอกไม้'' เนื่องจากมีดอกไม้มากกว่า 100 ชนิดให้ชมในบริเวณนี้ตลอดทั้งปี

มาร่วมเพลิดเพลินกับดอกไม้ที่ประดับบริเวณ!

วัดเซริวซังคิจิโจจิเป็นที่รู้จักในฐานะวัดดอกไม้ที่มีดอกไม้สวยงามบานสะพรั่งตลอดปี ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง คุณสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้ตามฤดูกาลพร้อมกับทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามของหมู่บ้านคาวาบะ

ดอกไม้ที่น่าชมในช่วงฤดูใบไม้ผลิหลังหิมะละลาย (มีนาคมถึงมิถุนายน)

ดอกไม้ที่สามารถชมได้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิเล็กน้อยในหมู่บ้านคาวาบะที่มีหิมะปกคลุม ได้แก่ กะหล่ำปลีเหม็นและดอกแดฟโฟดิล ซึ่งบานเต็มที่ในช่วงปลายเดือนมีนาคม และดอกซากุระด้วย นอกจากนี้ ดอกโรโดเดนดรอน ซึ่งเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของหมู่บ้านคาวาบะจะเริ่มบานในช่วงต้นเดือนเมษายน

กะหล่ำปลีเหม็น (ปลายเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนเมษายน)

มาร์ชเมลโล่ (ต้นเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม), ดอกแดฟโฟดิล (ต้นเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม), ดอกซากุระ (เมษายน), โรโดเดนดรอน (ต้นเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม), Pulsatilla cernua (ต้นเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม), Japanese laurel (กลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม), Glaucidium aureum (ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม), Bleu heartwort (ต้นเดือนเมษายนถึงกลางเดือนเมษายน), Epimedium (ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม), Azalea (กลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม)

ดอกพริมโรส (ต้นเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน), หัวปะการัง (ต้นเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน), ดอกไอริสญี่ปุ่น (กลางเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน), ดอกโคลเวอร์พุ่มสีม่วง (กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนมิถุนายน)

โฮสตา (ต้นเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนสิงหาคม), อาร์ดิเซีย เครนาตา (ต้นเดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนมิถุนายน), ทริลเลียม เอดูลิส (ต้นเดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนมิถุนายน), แซ็กซิฟริจ (ต้นเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนมิถุนายน), ขิงญี่ปุ่น (กลางเดือนมิถุนายน), ไฮเดรนเยีย (ปลายเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม), ดอกแดฟโฟดิล (ปลายเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม), มัตสึโมโตะ เซนโน (ปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม)

ดอกไม้เพิ่มความสดชื่นให้กับฤดูร้อนของหมู่บ้านคาวาบะ (กรกฎาคมถึงกันยายน)

หมู่บ้านคาวาบะมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 11.0℃ ทำให้เป็นสถานที่ที่ค่อนข้างเย็นสบายสำหรับการอยู่อาศัยแม้กระทั่งในช่วงกลางฤดูร้อน ดอกไม้ที่แต่งแต้มสีสันในหมู่บ้านคาวาบะในช่วงฤดูร้อน ได้แก่ ดอกไฮเดรนเยียและลิลลี่ภูเขา ซึ่งสามารถชื่นชมได้จนถึงเดือนสิงหาคม เป็นเรื่องดีที่จะสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้เหล่านี้ได้ในช่วงวันหยุดฤดูร้อน แม้จะพลาดฤดูดอกไม้ตามปกติก็ตาม ดอกบัวที่ประดับริมน้ำก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องชม

ดอกบัว (ต้นเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนกันยายน), ลิลลี่ญี่ปุ่น (ต้นเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนกันยายน), ลิลลี่ภูเขา (ต้นเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม), ลิลลี่เดย์ (กลางเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคม), ลิลลี่เดย์ (กลางเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคม)

นกมินาซึกิ (ต้นเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนสิงหาคม), นกไลธรัม ซาลิคาเรีย (ต้นเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนสิงหาคม), นกเรนเกโชมะ (ต้นเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนสิงหาคม), นกกาเหว่าเล็ก (ปลายเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน)

ดอกไม้นานาพันธุ์ให้ชื่นชมพร้อมใบไม้เปลี่ยนสีอันสวยงามภายในบริเวณวัด (ตุลาคม-พฤศจิกายน)

ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม บริเวณวัดจะเปลี่ยนเป็นสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี แม้ว่าจะมีพันธุ์ไม้ให้เลือกน้อยกว่าในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน แต่คุณก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้ เช่น ลิลลี่แมงมุมแดงและดอกไม้ทะเลได้

ลิลลี่แมงมุมแดง (ต้นเดือนกันยายนถึงปลายเดือนกันยายน), ดอกหมวกพระ (กลางเดือนกันยายนถึงปลายเดือนตุลาคม), ดอกอะนีโมน (ปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน)

คิจิโจโซ (ต้นเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนตุลาคม) อะซาเลีย (กลางเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนตุลาคม)

คิจิโจจิในฤดูหนาว (ธันวาคมถึงกุมภาพันธ์) วัดอันเงียบสงบโดดเด่นยิ่งขึ้น

แม้ว่าคุณจะไม่สามารถเห็นดอกไม้ในฤดูหนาวได้ แต่คุณก็สามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะของ Kichijoji ซึ่งคุณไม่สามารถสัมผัสได้ในฤดูอื่น อากาศที่เย็นสบายและแจ่มใสทำให้บริเวณวัดอันเงียบสงบดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ทำให้มีรูปลักษณ์ที่สง่างาม นอกจากนี้ ภาพของ "ยูกิสึริ" ที่แขวนกิ่งไม้ด้วยเชือกเพื่อป้องกันไม่ให้หักจากน้ำหนักของหิมะยังเป็นสิ่งที่พบได้เฉพาะในช่วงเวลานี้ของปีเท่านั้น คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะของหมู่บ้านคาวาบะ

เพลิดเพลินไปกับชาเขียวมัทชะในห้องโถงหลัก! หน้าต่างตาหมูป่ารูปหัวใจเป็นสิ่งที่ต้องดู!

ภายในโถงหลักมี “คาเฟ่มัทฉะ” ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับชาเขียวมัทฉะพร้อมชมวิวสวนและน้ำตก ที่นั่งทั้งหมดเป็นเก้าอี้ ดังนั้นแม้แต่เด็กๆ ที่ไม่เคยลองพิธีชงชาก็สามารถเข้าร่วมได้

นอกจากนี้ หน้าต่างในห้องน้ำชายังเป็นรูปหัวใจ ทำให้เป็นจุดถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม หน้าต่างนี้เรียกว่า “หน้าต่างอิโนเมะ” และเป็นเทคนิคที่ใช้ในการก่อสร้างวัดมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยคำว่า “อิโนเมะ” เป็นคำที่สื่อถึงรูปร่างของหัวใจ มีไว้เพื่อขอพรให้พ้นภัยพิบัติ และนำโชคลาภเข้ามา ในปี 2021 วัด Seiryuuzan Kichijoji ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคู่รักอีกด้วย

“วัดเซริวซังคิจิโจจิ” เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุย้อนกลับไปถึงสมัยนัมโบกุโจ นอกจากประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแล้ว เหตุใดจึงไม่เพลิดเพลินกับการเดินชมดอกไม้ในหมู่บ้านคาวาบะที่อุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติเชิงเขาโฮทากะล่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง