เมืองมุราคามิ จังหวัดนีงาตะ: ทัวร์ชมตุ๊กตาฮินะในมาชิยะ พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรม ที่เที่ยว และอาหารท้องถิ่น

เตรียมตัว เตรียมลุย ผ่านตม.ยังไงให้ฉลุย!!!!!

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

ช่วงนี้มีข่าวคราวคนไทยโดนติดตม. เข้าประเทศไม่ได้ก็หลายข่าวอยู่ แล้วเราจะโดนมั้ยอ่ะ!?? ใครที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่น เราลองมาทบทวนกันอีกครั้งดีกว่า ว่านอกจากแผนเที่ยวแล้ว เราเตรียมตัวรับมือกับแผนเข้าเมืองญี่ปุ่นแล้วหรือยัง?!?!

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

อย่างว่า เตรียมตัวกันมานานแสนนานครึ่งค่อนปี อยู่ๆจะมาโดนติดตม. หลายๆคนคงจะเริ่มไม่สนุกกันแล้วซิ ถ้ายังไงนอกจากจะเตรียมโปรแกรมเที่ยวแล้ว เรามาลองเช็คลิสต์กันอีกรอบนึงว่า ตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากบ้านจนเหยียบประเทศญี่ปุ่น เราตกหล่นอะไรไปบ้าง? พร้อมๆกับเตรียมเอกสารผ่านเข้าประเทศญี่ปุ่นว่าต้องเตรียมอะไรเพื่อให้เดินผ่านเข้าประเทศได้อย่างง่ายๆสบายๆบ้างกัน!

เริ่มต้นด้วยสิ่งสำคัญที่สุด

1. หนังสือเดินทาง Passport

ก่อนจะออกประเทศไปได้ สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เป็นอย่างแรกคือ หนังสือเดินทาง ซึ่งจะเป็นหนังสือแสดงตัวของเรา ซึ่งสมุดเล่มนี้ก็มีวันหมดอายุ ถึงแม้ญี่ปุ่นตอนนี้จะไม่ต้องขอวีซ่าแล้ว แต่วันหมดอายุของหนังสือเดินทางก็ยังมีผลต่อการเข้าประเทศในทุกประเทศ บางทีไม่ได้มีปัญหาแค่ขาเข้า แค่ออกจากประเทศไทยก็อาจจะมีปัญหาได้เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อความมั่นใจในการเดินทาง ควรให้หนังสือเดินทางมีอายุมากกว่า 6 เดือนก่อนวันหมดอายุ นับจากวันที่เราจะเดินทางท่องเที่ยว

*หลักการพิจารณาอนุญาตให้เข้าประเทศจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจ

เตรียมตัว เตรียมลุย ผ่านตม.ยังไงให้ฉลุย!!!!!

2. จัดกระเป๋า/Carry on

สายการบินแต่ละที่จะมีข้อกำหนดในการนำของโหลดลงกระเป๋า หรือนำขึ้นเครื่อง(carry on) ในเงื่อนไขต่างๆกัน ดังนั้นตอนที่เราซื้อตั๋วแล้ว ควรเช็คเงื่อนไขการพกพาสัมภาระต่างๆให้ละเอียด เพื่อที่ว่าตอนเราเข้าไปเช็คอินแล้ว จะได้ไม่ต้องมาโดนรื้อกระเป๋ากันให้เสียเวลาอีก

หลักๆที่ควรจะต้องระวังก็มี
- พวกของเหลว
- สเปรย์
- พาวเวอร์แบงค์
- แบตเตอรี่คอมพิวเตอร์
- ของมีคม
- กรรไกร
- กรรไกรตัดเล็บ
- ไฟแช็ค เป็นต้น

3. เตรียมรายละเอียดการเดินทาง

เตรียมของจะออกจากประเทศไทยมาได้แล้ว ก็ถือว่ายังไม่จบ หันมาเตรียมเอกสารตอนจะเข้าตม.ที่ประเทศญี่ปุ่นกันบ้างดีกว่า

- ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ อย่าลืมพิมพ์ออกมาเก็บไว้ ถ้าหากไม่มีการเรียกตรวจก็ถือว่าไม่เป็นไร ถ้าเป็น e-ticket หรือ Check-in online ให้อ่านเงื่อนไขของทางสายการบินว่าต้องมีการพิมพ์เอกสารเพื่อยืนยันอีกครั้งหรือไม่

- บัตรสะสมไมล์ สามารถใส่รหัสได้ตอนซื้อทางอินเตอร์เน็ต หรือสามารถนำบัตรมายื่นให้ตอนcheck-inเลยก็ได้เช่นกันค่ะ หลายๆสายการบินก็จะมีให้สมัครฟรีเช่น ANA หรือการบินไทย สามารถเลือกทำสายการบินไหนก็ได้ตามแต่เงื่อนไขข้อตกลงของแต่ละบริษัท

- ชื่อโรงแรมที่จะไปพัก พร้อมที่อยู่ ควรจะลิสต์รายชื่อออกมาให้ครบทุกที่ หากว่าไปพักกับคนรู้จักที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ก็แนะนำว่าควรขอชื่อ, ที่อยู่ และเบอร์โทรเอาไว้ด้วยค่ะ
- โปรแกรมท่องเที่ยว แนะนำว่าให้พิมพ์ติดตัวไว้คนละชุด และให้ดีที่สุดก็อยากจะให้จำให้ได้คร่าวๆว่ามาท่องเที่ยวกันทั้งหมดกี่วันกี่คืน มากันกี่คน มากับใครบ้าง เดินทางท่องเที่ยวที่ไหนบ้าง ชื่อสถานที่/จังหวัด การเดินทางว่าเดินทางด้วยอะไร เป็นต้น ยิ่งจำได้มาก ตอนตอบเราก็ยิ่งตอบได้อย่างมั่นใจมากขึ้นค่ะ

- ส่วนพาสปอร์ตใครที่ขาวสะอาด ใหม่หมดจด แนะนำว่าถ้ามีเล่มเก่า ก็ให้พกไปด้วย ส่วนคนที่ไม่มีหนังสือเดินทางเล่มเก่าเลยแนะนำข้อต่อไปเลยค่ะ

- ขอเอกสาร/หนังสือรับรองการทำงาน หนังสือแสดงสถานะอะไรก็ได้ที่ยืนยันได้ว่าเราจะกลับไทย หรือมีภาระหน้าที่ที่ต้องกลับไปรับผิดชอบอยู่ที่ไทย ไม่ได้เข้าประเทศเค้าเพื่อหนีมาเป็นแรงงานผิดกฎหมาย และอาจนำเอกสารแสดงฐานะทางการเงิน(bank statement) เพิ่มไปด้วยเพื่อยืนยันก็จะดีค่ะ

- เตรียมเงินสดไว้ใช้จ่ายให้พอกับจำนวนวันที่จะไป ให้คิดเผื่อสถานการณ์ตอนซื้ออาหาร ขนม น้ำ เล็กๆน้อยๆ หรือเที่ยวต่างจังหวัด ที่ไม่สามารถ/ไม่รองรับการใช้บัตรได้ ก็แนะนำว่าให้พกเงินไปบ้างพอสมควรค่ะ ส่วนการพกเงินไปเผื่อค่าโรงแรม ถ้าหากตัดบัตรอัตโนมัติไปแล้วก็อาจนำเอกสารการตัดค่าโรงแรมจากบัตรพิมพ์เก็บไว้เผื่อตม.เรียกถาม

- ขั้นสุดท้าย เช็คเวลาเดินทางให้ดีว่าเวลาไหนของวันไหน เช่น เครื่องออก 00.40น. อาทิตย์ 21 จะหมายถึง คืนเสาร์ 20 จะต้องไปเช็คอินที่เคาท์เตอร์เพื่อรอเครื่องจะออกตอนเที่ยงคืน 40นาทีของเช้าวันอาทิตย์ที่ 21 บางสายการบินอาจแสดงเวลาเป็น 25:00 หรือก็คือตี 1 เพื่อป้องกันความผิดพลาดก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะใช้ตามหลักสากลมากกว่า

เตรียมตัว เตรียมลุย ผ่านตม.ยังไงให้ฉลุย!!!!!

4. กรอกใบเข้าประเทศ

เอกสารนี้เราจะได้รับตอนอยู่บนเครื่อง หรือถ้าเราไม่ได้ ตอนลงไปข้างล่างก็มีให้หยิบกรอกอีก ซึ่งเอกสารที่ต้องกรอกจะมี 2 ใบ คือ เอกสารเข้าประเทศ(ใบตม.) กับใบศุลกากร
- ใบตม.-Disembarkation Card (ใบสีครีมแนวนอน) คือ เอกสารแสดงรายละเอียดของผู้ที่ต้องการเข้าประเทศ
- ใบศุลกากร-Customs Declaration (ใบสีเหลืองแนวตั้ง)คือ เอกสารแสดงตัวว่าไม่มีของต้องสำแดง หรือของผิดกม.เข้าประเทศญี่ปุ่น
ตอนกรอกก็ให้ค่อยๆอ่านไปทีละข้อ ส่วนใหญ่เอกสารศุลกากรมักถามว่าเรามีของผิดกม.มั้ย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ตอบ No หมด ส่วนเอกสารตม.ก็มักจะถามว่าเราเคยมีคดี เคยติดคุก ทำผิดกม.อะไรมั้ย ซึ่งก็จะตอบ No เหมือนกันค่ะ

เตรียมตัว เตรียมลุย ผ่านตม.ยังไงให้ฉลุย!!!!!

มาด้วยกัน ไปด้วยกัน

หลายๆคนเดินทางกันเป็นหมู่คณะ อาจจะมีคนที่เพิ่งไปครั้งแรกบ้าง หรือเป็นนักท่องเที่ยวมือฉมัง ยังไงการช่วยกันเตรียมเอกสารทั้งการผ่านเข้าประเทศหรือโปรแกรมท่องเที่ยวด้วยกัน ก็จะช่วยทำให้การท่องเที่ยวในแต่ละทริปมีอารมณ์ร่วมกันมากขึ้น สนุกไปด้วยกันมากขึ้นค่ะ ยังไงก็ให้ทุกคนผ่านตม. เที่ยวญี่ปุ่นกันให้สนุกสุดเหวี่ยงไปเลยนะคะ ^ ^

 

Written by

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ