Unseen Japan สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งฤดูหนาวของเมืองมัตสึโมโตะ 2 วัน 1 คืน

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

มหานครโตเกียวยังมีบรรยากาศย้อนยุคแบบเรโทรซ่อนอยู่ เราขอชวนมานั่งรถรางเที่ยวโตเกียวหนึ่งวันกับรถสาย Toden Arakawa (อาราคาวะ) ชมดอกกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วงที่ไม่ได้มีแต่ใบไม้เปลี่ยนสี และเดินแหล่งช้อปปิ้งแบบคนท้องถิ่นจริงๆ

บทความโดย

สาวไทยในโตเกียว ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยวและชิมของอร่อย สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥

more

พูดถึงโตเกียว เราจะนึกถึงเมืองใหญ่ที่มีแต่ตึกสูง ผู้คนในชุดสุดทันสมัยเดินกันขวักไขว่ รถไฟจำนวนมากที่วิ่งอย่างรวดเร็วสวนกันจนนักท่องเที่ยวต้องกุมขมับก่อนก้มมองแผนเที่ยวอีกครั้ง ...
แต่วันนี้เราจะพามาชมอีกมุมหนึ่งของโตเกียวที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้กันค่ะ
ถือว่าเป็น Unseen in Tokyo เลยก็ว่าได้นะ!
เพียงสิบนาทีจากสถานีหลักๆ ของ JR ยามาโนะเตะอย่างอิเคะบุคุโระ ที่สถานีโอซึกะ (Otsuka) บทเส้น JR ยามาโนะเตะ
ที่นี่ยังมีรถรางแบบย้อนยุคที่ค่อยๆ แล่นตัดผ่านเมืองใหญ่อันเร่งรีบ นำเวลาให้ไหลเชื่องช้าสู่ย่านเมืองที่แสนสงบทั้งที่ยังอยู่ในตัวเมืองโตเกียว!

10:00 จากสถานี JR โอซึกะ เดินทางข้ามเวลาสู่รถรางสาย Toden Arakawa

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

เปิดการเดินทางที่สถานีโอซึกะบนสาย JR Yamanote ที่เชื่อได้ว่านักท่องเที่ยวทุกคนต้องเคยใช้บริการ
พอลงที่สถานีนี้เดินออกมาตามทางออกทิศใต้จะเห็นป้ายบอกทางไป Toden Arakawa Line อยู่นะคะ
เดินออกจากสถานีเลี้ยวซ้าย มองไปใต้สะพานจะเห็นป้ายบอกว่าเป็นสถานีโอซึกะเอคิมาเอะ (Otsuka-ekimae) อยู่ค่ะ

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

รถรางจะมีหน้าตาแบบนี้ค่ะ โดยรถรางจะมีดีไซน์ต่างๆ กันไป
บางคันนั้นจะมีหน้าตาราวกับย้อนเวลามาจากสมัยก่อนเลยล่ะค่ะ
วิธีขึ้นนั้น เวลายืนที่สถานีจะต้องตั้งแถวรอ ขึ้นจากประตูหน้า และลงรถที่ประตูกลางค่ะ
และการลงรถนั้นจะต้องกดปุ่มให้ขึ้นตัวหนังสือสีแดงๆ ก่อนจะถึงสถานีที่จะลง ตามแบบรูปด้านล่างด้วยนะคะ

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

ค่าโดยสารของรถรางสายนี้อยู่ที่ 170 เยนต่อหนึ่งเที่ยว (หากใช้บัตร IC card จะเหลือ 165 เยน)
แต่วันนี้เราจะเที่ยวไปตามรถรางสายนี้ตลอดวัน เราจึงแนะนำให้ซื้อตั๋วแบบรายวัน Toden One Day Pass วันละ 400 เยนเท่านั้น
ตั๋วนั้นสามารถซื้อในรถได้เลย โดยแจ้งกับคนขับค่ะ
จริงๆ แล้วยังมีตั๋วอีกแบบคือ Toei Marugoto Kippu ราคา 700 เยน ซึ่งจะใช้นั่งได้ทั้งรถใต้ดินของ Toei รถบัสของ Toei รถรางสายอาราคาวะ และรถไฟสาย Nippori-Toneri ได้ไม่จำกัดในหนึ่งวัน
ถ้าหากใครวางแผนจะเที่ยวหลายที่นอกเหนือจากเส้นอาราคาวะ หรือที่พักอยู่ใกล้รถต่างๆ ของ Toei ก็ซื้อตั๋วแบบนี้ใช้ได้เหมือนกัน

สำหรับตั๋ว Toden One Day Pass นอกจากในรถแล้วยังหาซื้อได้ตามศูนย์บริการของ Toden ด้วย เช่น ข้างสถานีอาราคาวะ ฉะโคมาเอะ (Arakawa shakomae)  หรือจุดจำหน่ายตั๋วที่สถานีโอจิเอคิมาเอะ (Oji-ekimae) และสถานีโอซึกะเอคิมาเอะ (Otsuka-ekimae)  แต่เนื่องจากมีจุดให้บริการน้อย (สามารถดูได้จากที่นี่ - ภาษาญี่ปุ่น) จึงแนะนำให้ซื้อในรถจะสะดวกที่สุดค่ะ
ส่วนตั๋ว Toei Marugoto Kippu นั้นนอกจากจะซื้อจากรถรางสาย Toden Arakawa ได้แล้ว ยังสามารถกดซื้อจากเครื่องขายตั๋วตามสถานีของรถไฟใต้ดินของ Toei ได้ด้วย

10:20 เดินเล่นถนนสายช้อปปิ้งของคนท้องถิ่นแท้ๆ
สุกาโมะจิโซโดริโชเทงไก (Sugamo Jizodori Shotengai)

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

นั่งรถรางมาลงที่สถานีโคชินซึกะ (Koshinzuka) เดินออกมาเพียงนิดเดียว เราจะเห็นเสาใหญ่โตพร้อมป้ายต้อนรับสู่ย่านช้อปปิ้งสุกาโมะจิโซโดริโชเทงไกค่ะ
เนื่องจากแถวนี้เป็นย่านที่อยู่อาศัย ทำให้แหล่งช้อปปิ้งนี้เป็นสถานที่เดินซื้อของของคนญี่ปุ่นจริงๆ
และที่นี่ยังมีฉายาน่าสนใจอย่าง "ฮาราจูกุของผู้สูงอายุ" อีกด้วย
ก็เพราะว่าพอเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ในตอนกลางวันวันธรรมดา จึงมีผู้สูงอายุที่เกษียณแล้วมาเดินเล่นกันค่ะ
แต่ร้านรวงในนี้ก็มีร้านน่าสนใจและสินค้าแบบญี่ปุ่นๆ ให้ดูหลายเลยนะ!

ซื้อของแดงๆ ให้เฮงๆ กับร้านสุกาโมะ มารุจิ

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

ร้านค้าที่น่าสนใจในย่านนี้ นอกจากร้านของจุกจิกหรือร้านขนมแบบญี่ปุ่นแล้ว เห็นจะไม่พ้นร้านที่สีแดงแจ่มไปทั้งร้านอย่าง "สุกาโมะ มารุจิ" ค่ะ
ร้านของมารุจินั้นมีอายุมากกว่า 60 ปีแล้ว ส่วนร้านที่ขายเฉพาะของสีแดงๆ แบบนี้เปิดมานานถึง 23 ปีเลยทีเดียว สินค้าที่ขายในร้านนี้โดยหลักแล้วคือ "กางเกงใน" สีแดงแรงฤทธิ์ค่ะ
ด้วยความเชื่อว่าจะทำให้โชคดีและเสริมดวงด้านโชคลาภอีกด้วย

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

ลูกค้าต่างชาติที่ชื่นชอบร้านนี้เห็นจะไม่พ้นคนจีน ไต้หวัน ฮ่องกงล่ะค่ะ
เพราะคนเชื้อสายจีนชอบอะไรแดงๆ ทำให้เฮงๆ อยู่แล้วเนอะ!
แถมคนเชื้อสายจีนยังเชื่ออีกว่า กางเกงในสีแดงจะทำให้ได้รับชัยชนะในการแข่งขันด้วย
ถ้าคิดว่าชุดชั้นในสีแดงออกจะแร๊งเกินไปสำหรับตัวเอง ก็ยังมีถุงเท้าและผ้าเช็ดหน้าสีแดง ปักลายสัตว์ตามนักษัตรหรือมาสคอตสีขาวตัวกลมประจำย่านนี้ น้องเป็ด "สุกามง"
หรือจะซื้อกางเกงในตัวมินิพกติดตัวไว้เป็นเครื่องรางสุดแปลกก็ยังได้

ร้านนี้เรียกว่าได้รับความนิยมในญี่ปุ่นก็ไม่ใช่น้อยเลยค่ะ
ก็ขนาดที่สามารถออกกางเกงในสีแดงลายตัวมาสคอตของซานริโออย่างแมวเหมียวคิตตี้ และตัวอื่นๆ ได้ด้วย
หากได้มาญี่ปุ่นช่วงตรุษจีน หรือมีญาติเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ซื้อไปฝาก รับรองว่าถูกใจ เฮงๆ กันถ้วนหน้าแน่นอนค่ะ!

พักทานอุด้งแกงกะหรี่ที่โคนายะ (Konaya) สาขาใหญ่

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

เดินจากร้านสีแดงแสบตาไปอีกหน่อย ซอยทางด้านซ้ายมือจะมีร้านอุด้งแกงกะหรี่ โคนายะ อยู่ค่ะ
โคนายะ เป็นร้านเฟรนไชส์อุด้งแกงกะหรี่ที่โด่งดังขนาดมีสาขาต่างประเทศเลย
แต่ร้านนี้ที่เราแนะนำมาเป็นถึงร้านสาขาใหญ่ของเครือนี้เลยล่ะ
และแน่นอนว่าที่นี่ก็จะมีเมนูตามฤดูกาลสมกับเป็นร้านของญี่ปุ่น
กลับไปไทย ก็บอกใครได้ว่าได้มาทานอุด้งแกงกะหรี่ชื่อดังของแท้จากสาขาใหญ่มาแล้ว!

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

วันนี้เมนูที่เราสั่งคืออุด้งแกงกะหรี่พร้อมผักตามฤดูกาล (Shunyasai Curry Udon 1,350 เยน) ค่ะ
จึงมาเป็นอุด้งเส้นเหนียวนุ่ม กับซุปแกงกะหรี่ที่รสชาติไม่ได้จัดเกินไป ทำให้ทานง่ายมาก แต่ยังคงกลิ่นหอมของเครื่องแกงเอาไว้ได้อย่างชัดเจน
แถมด้วยเมนูพิเศษอย่าง "เทมปุระกล้วย" (280 เยน) 
กล้วยพอนำไปทอดแล้วจะมีรสชาติแสนหวานหอม เข้ากันได้ดีกับรสเผ็ดของเครื่องเทศเลยล่ะค่ะ
ในเซ็ทยังมีวุ้นกลิ่นหอมส้มยุซุบริการด้วย เรียกว่าปิดท้ายได้ลงตัวเป็นที่สุด

ลูบก้นเป็ดน้อยสุกามงได้โชค!

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

หากเดินมาจนสุดทาง ทางซ้ายมือเราจะได้พบศาลาไม้เล็กๆ พร้อมอะไรไม่รู้ขาวๆ ใหญ่ๆ อยู่ข้างใน
นั่นคือ "ก้นของน้องเป็ดสุกามง" ค่ะ
ที่นี่คนจะมาขอพรเรื่องความรักค่ะ และถ้าเราลูบก้นของสุกามง เราจะมีโชคด้านความรักด้วยล่ะค่ะ
ข้างๆ กันมี Information Center ที่มีขายสินค้าของเจ้าเป็ดสุกามงอีกต่างหาก

12:30 กลับเป็นเด็กอีกครั้ง! ที่สวนสนุกอาราคาวะ (Arakawa Yuen)

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

ทานข้าวและเดินเที่ยวเสร็จ เรากลับมานั่งรถรางเที่ยวต่อ ครั้งนี้เราจะนั่งไปลงที่สถานีอาราคาวะ ยูเอนจิมาเอะ (Arakawa yuenchimae) ค่ะ
เวลาขึ้นรถราง ต้องระวังขึ้นให้ถูกฝั่งด้วยนะคะ
เมื่อลงจากรถแล้ว ทางขวามือ ข้ามถนนไปจะเห็นซอยอยู่ เดินเข้าไปในซอยนั้นเรื่อยๆ จะเห็นชิงช้าสวรรค์มาก่อนเลย

สวนสนุกอาราคาวะ เป็นสวนสนุกในความดูแลของเขตอาราคาวะเลย จึงเป็นสวนสนุกที่ยังมีกลิ่นอายของสวนสนุกสมัยก่อน และเป็นที่หย่อนใจของคนในชุมชนอย่างแท้จริงค่ะ
เพราะด้านในนั้น นอกจากจะมีเครื่องเล่นอย่างง่ายๆ แล้ว ยังมีสวนหญ้าซึ่งซากุระจะบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิให้ครอบครัวมานั่งปิคนิค
สวนสัตว์ สวนนกขนาดย่อมที่พาเด็กๆ มาเดินชมได้ และยังมีบ่อตกปลา ให้คุณพ่อได้ใช้เวลากับลูกๆ ด้วย
ค่าเข้าสวนนั้นก็ถูกแสนถูกที่ 200 เยนเท่านั้นสำหรับผู้ใหญ่ 1 คน ส่วนพวกเครื่องเล่นจะใช้วิธีซื้อตั๋วใบละ 100 เยน
แล้วนำตั๋วไปให้แต่ละเครื่องเล่น โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ตั๋วสองใบสำหรับผู้ใหญ่ และใบเดียวสำหรับเด็กค่ะ
แถมพิเศษสุดๆ คือ ถ้าหากมีตั๋ว One Day Pass ที่เราซื้อกันวันนี้ หรือตั๋ว Toei Marugoto Kippu ล่ะก็ จะไม่ต้องเสียค่าเข้าสวนค่ะ!

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

ผู้เขียนได้ลองนั่งชิงช้าสวรรค์ขึ้นไป ทำให้มองเห็นวิวสวยๆ ไปอีกแบบนึงของโตเกียวในเขตอาราคาวะค่ะ
ใครชอบ ใครอยากเห็นเมืองของญี่ปุ่นว่าเป็นยังไง แนะนำให้ลองมานั่งกันดูนะ

ในโซนสวนสัตว์ของที่นี่นอกจากจะมีสัตว์ให้ชมแล้ว ยังมีรางสำหรับให้อาหารลิงในกรงได้
ส่วนที่น่าสนใจมากคือโซนฟุเรไอ  (Fureai) หรือก็คือโซนที่ให้เราสัมผัสกับสัตว์ได้ค่ะ
มีทั้งแกะ แพะ และ ... หนูตะเภา หรือ หนูแกสบี้ตัวกลมๆ ตาแป๋วๆ ค่ะ!

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

มาเป็นหมู่คณะ จับได้ ลูบได้ แบบนี้เลยนะ!
ส่วนสัตว์ที่น่าสนใจที่ผู้เขียนชอบ เห็นจะเป็น "คาปิบาร่า" สัตว์ในตระกูลหนู แต่ตัวใหญ่เบิ้ม ชอบทำหน้าง่วงตลอดเวลา

13:45 แปลงร่างเป็นคนขับรถรางที่ Toden memorial square

ออกมาจากสวนสนุก คราวนี้นั่งรถย้อนกลับไปหนึ่งสถานีที่สถานีอาราคาวะ ฉะโคมาเอะ (Arakawa shakomae)
แต่ในฤดูใบไม้ร่วงนั้น ตามทางรถไฟจะมีดอกกุหลาบที่ปลูกเรียงรายบานสะพรัั่งอยู่ด้วย
เราจึงอยากแนะนำให้ลองเดินไปดู เพราะว่าระยะห่างนั้นแค่สถานีเดียว ประมาณ 15 นาทีเท่านั้น!

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

แล้วเราก็จะมาถึงแหล่งให้ความรู้เรื่องรถรางสายอาราคาวะ รวมถึงเป็นโรงรถในปัจจุบัน Toden memorial square หรือโทเด็น โอโมอิเดะ ฮิโรบะ (Toden Omoide Hiroba)
โดยภายในจะมีรถรางรุ่นเก่าแก่ที่เคยใช้วิ่งจริง จัดแสดงอยู่ให้เราเข้าไปชมภายในได้ค่ะ
รถรางคันสีเหลืองจะแสดงสภาพภายในรถในสมัยที่ยังไม่มีตั๋วอัตโนมัติ ในรถหนึ่งคันจะต้องมีทั้งคนขับ และพนักงานเก็บเงินเหมือนกระเป๋ารถเมล์คอยเก็บเงิน ฉีกตั๋วให้ผู้โดยสาร
เราสามารถแปลงร่างเป็นพนักงานขับรถ สัมผัสกับอุปกรณ์ขับรถรางของจริงได้ที่นี่เลยค่ะ
ส่วนรถรางสีครีมอีกคัน ภายในจัดแสดงภาพ สิ่งของ และเอกสารเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาอันยาวนานกว่าร้อยปีของรถรางในโตเกียว

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

ซึ่งในอดีตนั้น รถรางเคยเป็นการเดินทางหลักในโตเกียว เหมือนกับหลายๆ ประเทศรวมถึงประเทศไทยด้วยค่ะ
แต่พอรถยนต์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น รวมไปถึงการพัฒนารถไฟ รถบัสต่างๆ ทำให้ความสำคัญของรถรางลดลง
จากในอดีตที่มีรถรางไปทุกจุดสำคัญในโตเกียวมากกว่า 40 สาย ปัจจุบันนี้กลับเหลือเพียง 2 สาย โดยมีสายอาราคาวะเป็นหนึ่งในนั้นค่ะ
หากผู้ร่วมทริปของเพื่อนๆ มีผู้ใหญ่ที่ทันเห็นรถรางในกรุงเทพ จะต้องรู้สึกคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ขึ้นมาอย่างแน่นอน

15:00 เดินช้อป เดินชิล กับแหล่งช้อปปิ้ง มิโนวะจอยฟูล (Minowa Joyful Shotengai)

ขึ้นรถที่สถานีอาราคาวะ ฉะโคมาเอะ คราวนี้เราจะนั่งมาจนสุดสายที่มิโนวะบาชิ (Minowabashi) เลยค่ะ
พอลงจากสถานีที่ห้อมล้อมไปด้วยดอกกุหลาบแล้ว เลี้ยวตรงหัวมุมปุ๊บ เราจะเข้าสู่โซนของแหล่งช้อปปิ้ง มิโนวะจอยฟูล ทันที

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

แหล่งช้อปปิ้งแห่งนี้เป็นจุดซื้อข้าวของและอาหารของคนแถวนี้มากกว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเสียทีเดียวค่ะ
เราจึงสามารถซื้อของที่คนญี่ปุ่นใช้หรือทานกันจริงๆ ได้ แถมยังได้เห็นวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นอีกต่างหาก
ถ้าเดินแหล่งช้อปที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจนเบื่อแล้ว ที่นี่เป็นตัวเลือกที่ถูกต้องเลยค่ะ

ซื้อของฝากน่ารักและทานเพลินที่ โอคาชิราคุอิจิ (Okashi Rakuichi)

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

เดินเล่นเพลินๆ ไปจนเกือบสุดถนน ทางด้านซ้ายมือเราจะเจอกับร้านเล็กๆ ที่มีไฟสีอบอุ่น พร้อมกับผ้าโนะเร็นแขวนอยู่หน้าร้าน ที่นี่คือร้านขาย "โอคาชิราคุอิจิ" ขนมทานเล่นจากข้าวเหนียวที่มีชื่อว่า "อาราเร่" ค่ะ
จริงๆ ร้านนี้เขาจะตระเวนเปิดบูทตามห้างต่างๆ เพื่อขายขนมที่น่ารักและอร่อยของเขา
แต่ร้านที่มิโนวะจอยฟูลนี้เป็นครัวที่ผลิตขนมเลยค่ะ
มาซื้อที่นี่ทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะได้ขนมที่เสร็จใหม่ๆ และยังแอบมองกระบวนการทำได้อีกด้วยนะ

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

วิธีการทำอาราเร่นั้น จะข้าวญี่ปุ่นซึ่งมีความเหนียว หรือไม่ก็นำไปทำเป็นแป้งโมจิก่อน แล้วจึงนำไปทอด มีความคล้ายคลึงกับข้าวพองบ้านเราค่ะ
แต่ร้านนี้น่าสนใจเพราะว่ามีหลากหลายรสให้เลือก และหน้าตาของขนมเองยังเป็นลูกเล็กๆ น่ารัก ทานง่าย
แถมยังเลือกใส่ในห่อกระดาษลวดลายน่ารักเป็นรูปกบเขียนคำขอบคุณไว้เป็นภาษาญี่ปุ่นสีสันต่างๆ ตามรส
สาเหตุที่ใช้รูปกบก็เพราะเป็นการเล่นคำว่า "คาเอรุ" ที่มีความหมายทั้ง "กบ" และ "กลับมา" เพื่อให้สิ่งดีๆ หวนกลับมาหาเราอีกครั้ง

ขนมราคาห่อละ 389 เยน ถ้าหากซื้อสามห่อจะเหลือ 1,080 เยน
และยังมีแบบแพ็ค 4 ห่อ 6 ห่อ หรือ 8 ห่อในกล่องสวยๆ เหมาะจะนำไปฝากคนอื่นได้ด้วยนะ

17:00 ชมวิวโตเกียวยามเย็นที่จุดชมวิวฟรี ที่อาคารโฮคุโทเปีย (Hokutopia)

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

จุดชมวิวเมืองโตเกียวแบบฟรีๆ เรามักจะนึกถึงอาคารที่ว่าการโตเกียว
แต่บนเส้นอาราคาวะนี้ก็มีจุดชมวิวฟรีเช่นเดียวกันค่ะ
เรานั่งรถรางอีกครั้งเพื่อไปลงยังสถานีโอจิเอคิมาเอะ (Oji-ekimae)
ตามตารางเวลา เราเขียนว่า 17:00 ก็จริง แต่สามารถปรับเร็วหรือช้าขึ้นได้ตามใจ เผื่อว่าเพื่อนๆ อยากจะชมวิวยามเย็น หรือยามค่ำ เพราะที่นี่เปิดให้ถึง 22:00 เลยทีเดียวค่ะ
พอออกจากสถานี เราจะเดินขึ้นสะพานลอยเพื่อข้ามไปฝั่งตรงข้าม มองไปจะเห็นตึกสูงๆ อยู่ไม่ไกลนัก
นั่นล่ะค่ะคืออาคารโฮคุโทเปีย เป้าหมายของเรา!

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

เมื่อเข้าไปในอาคาร ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 17 จะเป็นล๊อบบี้สำหรับชมวิวค่ะ
โดยรอบติดด้วยกระจกพร้อมกับที่นั่ง และมีกล้องส่องทางไกลแบบหยอดเหรียญด้วย

ในชั้นมีร้านอาหารซึ่งสามารถนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินได้
หากใครท้องร้องพอดี ก็เข้าไปทานอาหารพร้อมกับชมอาหารตาได้เลยค่ะ

แผนการเที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวก็จบลงแต่เพียงเท่านี้
ข้างๆ สถานีรถรางยังมีสถานีโอจิ ซึ่งเป็นสถานีของรถไฟใต้ดินและรถไฟสาย JR อยู่อีกด้วย จึงสะดวกสำหรับใครที่ต้องต่อรถเพื่อกลับที่พักค่ะ
หากนั่งรถไฟ JR ตรงนี้ เพียงแป๊บเดียวก็จะเข้าสู่สายยามาโนะเตะ ใจกลางโตเกียวเลย

ของแถม ชมธรรมชาติในสวนสาธารณะอาสุกะยามะ (Asukayama Park)

เที่ยวย้อนยุคหนึ่งวันในโตเกียวกับรถรางสายอาราคาวะ ชมกุหลาบสวยๆ ในฤดูใบไม้ร่วง

สนับสนุนภาพโดย : องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเขตคิตะ

ตามแผนในวันนี้เราไม่ได้ไปแวะชมธรรมชาติที่หนึ่ง นั่นคือ สวนสาธารณะอาสุกะยามะ หนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระอันโด่งดังของโตเกียวค่ะ
แต่นอกจากต้นซากุระแล้ว ในฤดูกาลอื่นๆ ก็ยังมีดอกไม้ต้นไม้ที่สวยงามเช่นกัน รวมไปถึงในฤดูใบไม้ผลิด้วย
ถ้าหากใครอยากจะมาวันเดียวให้คุ้ม ก็อาจจะแทรกสวนสาธารณะนี้ลงไปในแผนเที่ยวนี้
หรืออาจจะเก็บเอาไว้แวะมาเที่ยวในวันอื่นก็ไม่เลวเลยนะ


รถรางสายอาราคาวะพึ่งจะได้ชื่อเล่นไปเมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 2017 นี้เองในนาม "Tokyo Sakura Tram"
เพราะหวังจะให้เป็นการเดินทางหนึ่งที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศราวกับซากุระอันเป็นสัญลักษณ์ของชาติญี่ปุ่นค่ะ

หากเพื่อนๆ มีเวลาในโตเกียวสักวันนึง ลองมาเดินทางชมเมืองกับรถรางสายซากุระกันดูไหมคะ

สรุปการเดินทาง
สถานีโอซึกะ → สถานีโคชินซึกะ → แหล่งชอปปิ้ง สุกาโมะจิโซโดริโชเทงไก → สถานีอาราคาวะยูเอนจิมาเอะ → สวนสนุกอาราคาวะ → Toden Memorial Square → สถานีมิโนวะบาชิ → แหล่งชอปปิ้ง จอยฟูลมิโนวะ  → สถานีโอจิเอคิมาเอะ → จุดชมวิวอาคารโฮคุโทเปีย

ค่าเดินทางทั้งหมด : ตั๋ววัน Toden One Day Pass ราคา 400 เยน
ใช้จ่ายอื่นๆ : ค่าอาหาร 1,630 เยน ค่าขนมและช้อปปิ้งต่างๆ แล้วแต่บุคคล

รวมค่าใช้จ่ายใน 1 วัน/1 คนตามแผน : ประมาณ 2,030 เยน (ไม่รวมค่าซื้อของ)

Supported by Toei Transportation.

บทความโดย

Kogetsu(GREATERTOKYO_Explorer)

สาวไทยในโตเกียว ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยวและชิมของอร่อย สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥

more
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง