อาซากุสะกับโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree® ) แพลนเที่ยวยังไงดีให้ไม่เหมือนใคร!

พูดถึงอาซากุสะ วัดเซนโซจิ และโตเกียวสกายทรี ใครที่มาเที่ยวโตเกียวคงต้องร้องอ๋อว่าเคยไปมาแล้วกันอย่างแน่นอน
วันนี้เราเลยจะขอชวนมาเดินแถวนี้อีกครั้ง ... แต่!!
จะไปทำไมแบบเดิมๆ ให้เหมือนคนอื่นเขา!
เราขอพาเพื่อนๆ เที่ยวแบบแตกต่าง ไปเก็บรูปสวยๆ ไม่เหมือนใคร เที่ยวสวนสนุกที่ "เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น" และไปกินดื่มร้านข้างทางแบบคนญี่ปุ่นแท้ๆ กัน

12:00 ส่องมุมถ่ายรูปโตเกียวสกายทรี สวยๆ แบบง่ายๆ!

ครั้งนี้เราเริ่มเดินทางกันแบบสบายๆ ใครจะตื่นเช้าเที่ยวอะไรแล้วมาเจอกันที่โตเกียวสกายทรีราวๆ ตอนเที่ยงกัน หรือไม่ก็ตื่นสายนิดๆ แล้วมาหาข้าวกินกันตอนสายๆ ที่สกายทรีก่อนเที่ยวตามแผนนี้ก็เหมาะเลยค่ะ!

ไหนๆ ก็มาถึงหอคอยสูงเสียดฟ้าขนาดนี้แล้ว ก็ต้องเก็บรูปไปเป็นที่ระลึก ไม่ก็ต้องอัพลงโซเชียลให้คนอื่นได้ร้องอู้หูกัน งั้นเรามาเดินส่องมุมสวยที่จะถ่ายโตเกียวสกายทรีได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเป็นตากล้องโปรก็ได้รูปเก๋ๆ กลับไปแล้ว

มาดูสามจุดถ่ายรูปรอบโตเกียวสกายทรีตามนี้เลยค่ะ!

- ทางเดินริมคลองด้านข้างโตเกียวสกายทรี
ด้านข้างของโตเกียวสกายทรีมีคลองอยู่ ซึ่งหลายคนก็คงเคยเห็นแต่อาจจะไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่
ริมคลองนี้มีต้นซากุระปลูกอยู่ด้วยนะคะ ฤดูใบไม้ผลิก็มาชมดอกไม้ได้
ทางเดินเลียบคลองก็ยังเหมาะเดินเล่น มีเก้าอี้ให้นั่งด้วย หรือใครจะมาถ่ายหอคอยโตเกียวสกายทรีในมุมต่ำช้อนขึ้นก็สวยไปอีกแบบนะ!

- ริมถนนฝังตะวันออกของโตเกียวสกายทรี
ถ้าใครอยากเก็บภาพโตเกียวสกายทรีให้ได้ครบทั้งหอคอยแบบง่ายๆ เราขอแนะนำให้เดินออกมาอีกนิดค่ะ
โดยเดินออกมาทางตะวันออก (หรือออกจากอาคารทางฝั่ง East Yard) เลียบไปตามคลอง ข้ามถนนตรงสะพานไปแล้วหันหลังกลับมา เราจะได้มุมที่มองเห็นโตเกียวสกายทรีครบหอคอยอย่างชัดเจนเลย
ใครอยากได้หอคอยไซส์ไหน หรือจะถ่ายคู่กับใครลงไป ก็เดินๆ ระวังรถกันนิด หามุมถูกใจได้เลย

- บนสะพานเหนือตลองทางตะวันตกของโตเกียวสกายทรี
แต่ถ้าใครเดินตามถนนเลียบคลองทางฝั่งตะวันตก (ออกจากอาคารฝั่ง West Yard แล้วข้ามถนน) เดินสักประมาณ 6 นาที จะถึงสะพานข้ามคลองสะพานนึงที่หากเราหันกลับไปมองโตเกียวสกายทรีจากตรงนี้ เราก็จะได้มุมถ่ายหอคอยแบบเต็มๆ หอคอยอีกจุดนึงเช่นกัน
แต่จุดนี้จะพิเศษอีกอย่างตรงที่ เราสามารถเล็งถ่ายช็อตโตเกียวสกายทรีตอนที่รถไฟของสาย TOBU วิ่งผ่านได้ด้วย!

13:00 มุมน่าสนใจที่ "โตเกียวสกายทรี" (TOKYO SKYTREE )

โตเกียวสกายทรีเป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่ของโตเกียว มีทั้งร้านค้า ร้านกินมากมายให้เลือกสรร และแน่นอนว่าเป็นจุดชมวิวระดับสุดยอดด้วย
วันนี้ที่เราจะมาเที่ยวกันแบบแตกต่างเลยอยากจะขอแนะนำสองแอเรียใน Tokyo Solamachi® ที่เหมาะสำหรับช้อปปิ้งของฝากของที่ระลึกโดนใจทุกเพศทุกวัยแน่นอน!

พิเศษสุดๆ สำหรับนักท่องเที่ยว แค่ไปแสดงพาสปอร์ตที่จุดประชาสัมพันธ์จะได้สมุดคูปองส่วนลดสำหรับใช้ในร้านต่างๆ ทั้งร้านขายของ ร้านอาหาร บริการ ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์หรือสวนสัตว์น้ำในโตเกียวสกายทรีเลย อย่าลืมไปรับกันนะ!

ช้อปสารพัดขนมที่ Food Marche

แอเรียแรกที่อยากแนะนำ คือชั้น 2 ทั้งฝั่ง West Yard และ Tower Yard จะเป็นแอเรียที่ชื่อว่า ฟู้ดมาร์เช่ (Food Marche) ซึ่งเป็นบริเวณที่ละลานตาไปด้วยของกินมากมาย
ริมสุดทาง West Yard จะเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ต ของสด และกับข้าวต่างๆ แต่ถ้าเขยิบมาทางกลางอาคารจะเป็นโซนที่เต็มไปด้วยร้านขนมทั้งขนมตะวันตกและขนมญี่ปุ่น
ที่สำคัญ! คือเต็มไปด้วยร้านดังๆ ทั้งนั้นค่ะ!

ไม่ว่าจะเป็นร้านยอดนิยมคนไทยอย่างขนม Tokyo Banana หรือ Ichigo Ginza พร้อมรสใหม่ล่าสุดและสินค้าพิเศษเฉพาะโตเกียวสกายทรี
ยังมีขนมชื่อดังขวัญใจคนญี่ปุ่นทั้ง Press Butter Sand, Tokyo Milk Cheese Koubou,  Cheese Garden, Morozoff และร้านอื่นๆ ให้เลือกไม่หวาดไม่ไหวเลย
หรือจะซื้อขนมชูครีมกรุบกรอบสอดไส้ Croquantchou Zakuzaku ลิ้มรสดูสิว่ารสชาติเหมือนที่ไทยไหม!

ขนทุกความเป็นญี่ปุ่นกลับจาก Japan Souvenirs

ถ้าใครอยากช้อปของที่ระลึกหรือของฝากสไตล์ญี่ปุ่นหลากรูปแบบ
เราจะพาไปที่ชั้น 4 ฝั่ง East Yard เพื่อเข้าสู่โซนที่เต็มไปด้วยสินค้าที่ครบทุกความเป็นญี่ปุ่นให้เลือกช้อปกัน
ที่ต้องบอกว่า "ทุกความเป็นญี่ปุ่น" ก็เพราะว่าสินค้าในโซนนี้ไม่ได้มีแค่สินค้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เราสามารถหาช้อปได้ทั้งผ้าแบบญี่ปุ่น กระดาษญี่ปุ่น เครื่องสำอางค์ญี่ปุ่น แม่เหล็กหรือสินค้าลวดลายญี่ปุ่น ลวดลายซามูไร ไปจนถึงสินค้าการ์ตูนโปเกมอน กันดั้ม ตัวต่อ nano block สุดทันสมัย เครื่องประดับแบบญี่ปุ่นที่ถูกออกแบบให้น่ารักร่วมสมัย และอื่นๆ อีกมากมาย!

ขอบอกเลยว่าแวะมาที่เดียว จะได้ของถูกใจคนรักญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัยแน่นอนค่ะ!

โตเกียวสกายทรี

131-0045 1-1-2 โอชิอาเกะ, สุมิดะ-คุ, โตเกียว

โตเกียวสกายทรีเป็นหอวิทยุที่ตั้งอยู่ในโอชิอาเกะ เขตสุมิดะ โตเกียว ซึ่งเปิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 สถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโตเกียว ม...

14:30 พักทานเค้กสุดสวยที่กิลเฟบอง (Qu'il fait bon)

มาพักกันนิดก่อนไปเที่ยวต่อ ที่ชั้น 2 ริมสุดของ Food Marche มีร้านเค้กผลไม้ที่พูดได้แค่ว่า "สวยเกินห้ามใจ" อยู่ค่ะ

กิลเฟบอง (Qu'il Fait Bon) เป็นร้านเค้กที่มีสาขาทั่วประเทศ เน้นขายทาร์ตโปะหน้าผลไม้เต็มที่ไม่มีหวงจนทำให้ได้รสผลไม้เข้มข้นและหน้าตาสีสันสวยงาม
ทาร์ตของที่นี่มีทั้งชนิดที่ขายตลอดปีอย่างชีสทาร์ตหรือทาร์ตสตรอเบอร์รี่
และมีทาร์ตอีกหลากชนิดที่นำผลไม้เฉพาะฤดูกาลมาทำ จะมากี่รอบก็มีเค้กใหม่ๆ ให้ทานตลอดค่ะ

วันนี้เราก็ขอมาทานทาร์ตสีสันสดใสโดนใจคนไทยอย่างทาร์ตสตรอเบอร์รี่ (676 เยน) กัน
ตัวสตรอเบอร์รี่หวานอมเปรี้ยวนิดๆ กับครีมคัสตาร์ดและแป้งทาร์ตหอมๆ บอกเลยว่าฟิน!

Quil Fait Bon โตเกียวสกายทรีทาวน์ Solamachi

1-1-2 Oshiage, Sumida-ku, Tokyo 131-0045 โตเกียวสกายทรีทาวน์ Solamachi...

15:30 ไปเที่ยวแถวอาซากุสะแบบไม่ซ้ำใครกันต่อ!

ทานเค้กกันอิ่มใจหายเหนื่อยแล้ว เราจะไปเที่ยวแถวอาซากุสะแบบแตกต่างกันต่อ
ไปอาซากุสะก็แสนง่าย เพราะมีสถานี TOKYO SKYTREE ของสาย TOBU อยู่ติดกับโตเกียวสกายทรีเลยค่ะ
นั่งไปแค่สถานีเดียว 150 เยนก็ถึงอาซากุสะสบายๆ

TOBU Tourist Information Center ASAKUSA

เตรียมความพร้อมจะเที่ยวแต่ละวันครบรึยังคะ? โดยเฉพาะคนจะไปนิกโก้หรือคาวาโกเอะ ที่รถไฟสาย TOBU นั้นแสนจะสะดวก
ไหนๆ ก็ผ่านสถานีของสาย TOBU แล้ว สามารถมาสอบถามหรือเข้าไปเก็บเอกสารข้อมูลเที่ยวภาษาไทยได้เลยนะ

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวโทบุ อาซากุสะ

1-4-1, Hanakawado, Taito-ku, โตเกียว 111-0033

16:00 เก็บภาพอาซากุสะในยามบ่ายแก่ๆ

จุดหมายที่เราจะไปต่อไป จะต้องผ่านอาซากุสะ (Asakusa) หรือ วัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) พอดี
ไหนๆ ก็ผ่านแล้ว แวะเก็บภาพสักหน่อย หรือใครจะแวะซื้อขนม ไหว้พระสักนิดก็ดีนะ
จุดถ่ายรูปยอดนิยมของที่นี่หนีไม่พ้นโคมแดงขนาดใหญ่ที่เรียกกันว่า "คามินาริมง" (Kaminari-mon) ซึ่งแปลได้ว่า "ประตูฟ้าแล่บ" ที่มาของชื่อนั้นก็เพราะเทพที่ยืนอยู่สองข้างคือเทพแห่งลม "ฟูจิน" และเทพแห่งสายฟ้า "ไรจิน" นั่นเอง ซึ่งเทพทั้งสองนั้นถูกบูชาทั้งในเรื่องฟ้าฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล ไม่สร้างภัยพิบัติ รวมไปถึงเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของผลิตผล
และอีกจุดที่ต้องไปชมก็คือเจดีย์ห้าชั้นสูงใหญ่สีแดงสวย ที่อยู่ใกล้กับอุโบสถค่ะ

วัดเซนโซจิ

2-3-1 อาซากุสะ เขตไทโตะ โตเกียว 111-0032

Sensoji เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,300 ปี คามินาริมงซึ่งมีโคมไฟสีแดงทำเครื่องหมายไว้ที่ทางเข้าวัด เรียกได้ว่าเป็นป้ายของวัดเซ็นโซ...

16:30 ตะลุยสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น "ฮานะยาชิคิ" (Asakusa Hanayashiki)

พูดถึงสวนสนุกของญี่ปุ่น คนก็จะไปนึกถึงสวนสนุกใหม่ๆ ใหญ่โตกันไปหมด
แต่ข้างๆ วัดเซนโซจินี้มีสวนสนุกที่ "เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น" อยู่ด้วยนะ ซึ่งเปิดกิจการมาจนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1853 ถึงปีนี้ (2018) ก็ร่วม 165 ปีแล้วเลย! โดยตอนแรกนั้นเปิดเป็นสวนดอกไม้จึงได้ชื่อว่า "ฮานะยาชิคิ" หมายถึง "คฤหาสน์ดอกไม้"

แม้จะบอกว่าเก่าแก่ที่สุดก็อย่าได้กังวลไป! เพราะทางสวนเขาก็บำรุงรักษาเครื่องเล่นตลอด
เดินผ่านประตูมาปุ๊บ จะเจอกับม้าหมุนแสนน่ารัก จากนั้นจึงมีเครื่องเล่นอีกมากมายเรียงรายกันอยู่ ทั้ง Space Shot เครื่องเล่นที่วิ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วก่อนจะทิ้งตัวลงมา ถ้าใครใจไม่กล้าพอหรือมากับเด็กๆ ก็มีเวอร์ชั่นเตี้ยๆ น่ารักๆ อย่าง Pyong Pyong อยู่ติดกัน ใครชอบแนวหมุนๆ เหวี่ยงๆ ยังมี Disk "O" เครื่องเล่นทั้งหมุนและเหวี่ยงขึ้นสูงให้หวาดเสียว โดยที่ข้างๆ กันมี Carnival รถหมุนๆ ที่ลดความน่ากลัวลงสำหรับเด็ก
จะเห็นได้ว่าเสน่ห์อย่างนึงของที่นี่ก็คือ มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กด้วยนั่นเอง!

หากใครไม่ชอบแนวหวาดเสียว จะนั่ง Sky Ship เรือลอยฟ้าชมสวนสนุกก็ดี
และที่อยากแนะนำอีกอย่างคือบ้านผีสิง Haunted House ของที่นี่ค่ะ เพราะเป็นบ้านผีสิงสไตล์ญี่ปุ่น!
ใครอยากรู้ผีญี่ปุ่นเป็นอย่างไร ต้องลองค่ะ!
หรือใครอยากสัมผัสความเก่าแก่ของฮานะยาชิคิแห่งนี้ มีกิจกรรม Hanayashiki Historical Walk ที่ให้เราได้ใส่หน้าจอไฮเทคไว้หน้าดวงตาเพื่อเดินสำรวจสวนสนุกพร้อมคำบรรยายประวัติศาสตร์ หรือแวะไปที่ House of Surprise ซึ่งเป็นเครื่องเล่นที่เก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1947 หรือราว 70 ปีมาแล้วเชียวล่ะ!

หากเล่นจนเหนื่อยแล้ว ขึ้นไปนั่งพักที่ Sky Plaza กัน
เราสามารถชมวิวทั้งสวนสนุกได้จากที่นี่ แถมยังมองเห็นทั้งวัดเซนโซจิ โตเกียวสกายทรี และมีมุมถ่ายรูปด้วย
บนนี้ยังมีศาลของเทพเจ้าบุระโบ ซึ่งเป็นมาสคอตและเทพเจ้าของสวนสนุกค่ะ เขาว่าถ้าได้ลูบรูปสลักไม้ของท่านบุระโบ จะมีโชคด้านความรักนะ

อาซากุสะ ฮานายะชิกิ

111-0032 2-28-1 อาซากุสะ เขตไทโตะ โตเกียว

สวนสนุกแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2396 และเป็นหนึ่งในสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใกล้กับวัดเซ็นโซจิ มีสถานที่ท่องเที่ยวประมาณ...

18:00 กรึ่มๆ มื้อเย็นแบบซาลารี่แมนญี่ปุ่นบนถนนฮอปปี้โดริ (Hoppi-doori)

เล่นสนุกกันให้เต็มที่ พอถึงหกโมงเย็นก็ได้เวลาสวนเขาปิดบริการพอดี
เราเดินออกมาจากทางออกด้านหลังที่มีขายของฝาก แล้วเดินตรงไปตามถนนที่เห็นเลย แป๊บเดียวจะเจอสองข้างทางที่เต็มไปด้วยร้านกินดื่ม บางร้านนี่มีโต๊ะเก้าอี้ตั้งหน้าร้านเลยทีเดียว โซนนี้ชื่อว่า ถนนฮอปปี้โดริ (Hoppi-doori) ค่ะ เป็นย่านนั่งจิบเบียร์ ก๊งกันหลังเลิกงานเหนื่อยๆ ของคนญี่ปุ่นค่ะ

เมื่อแวะมาร้านกินดื่มแถวนี้ ขอแนะนำให้ลองสั่งเมนูยอดนิยมของมนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่นมาทานกันเลยดีกว่า!
ในร้านที่เราเข้ามาทานในวันนี้ ผู้เขียนได้สั่งเครื่องดื่มเป็นฮอปปี้ (500 เยน) ตามด้วยถั่วแระต้มโรยเกลือ (Edamame - 380 เยน) ไก่ย่างยากิโทริเนื้อนุ่มสามไม้ (500 เยน) และเครื่องในวัวตุ๋น (Gyusujimotsu Nikomi - 600 เยน) รวมทั้งหมดก็ 1,980 เยน
ถึงจะบอกว่า "เครื่องในวัวตุ๋น" แต่รับประกันความอร่อยค่ะ
ตัวผู้เขียนเองจริงๆ ก็ไม่ชอบกลิ่นเครื่องในมาก แต่ชามนี้ทานคนเดียวเรียบ! ไม่มีกลิ่นเหม็น แต่รสชาติเข้มข้นตัดกับความสดชื่นของต้นหอมญี่ปุ่น ทานคล่องมาก รู้ตัวอีกทีก็หมดชามแล้ว
*ราคาและเมนูของแต่ละร้านไม่เหมือนกัน กรุณาตรวจสอบที่แต่ละร้านค้า

"ฮอปปี้" นี่คนไทยอาจจะไม่คุ้นกันว่ามันคืออะไร
จริงๆ แล้วมันเป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่รสชาติคล้ายเบียร์ค่ะ เวลาดื่มจึงนิยมผสมเหล้าโชจูลงไปด้วย
ว่ากันว่าเมื่อก่อนมันคือเครื่องดื่มราคาประหยัดที่ใช้แทนเบียร์ ในยุคที่เบียร์ยังราคาสูงอยู่ แต่ปัจจุบันกลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมไปแล้วล่ะค่ะ

แต่ขอบอกข้อควรระวังเอาไว้นิดนึงนะคะ
นั่นคือเวลาเข้าร้านดื่มของญี่ปุ่น เขาจะมีกฏกันอยู่ว่าจะต้องสั่งอาหารคนละหนึ่งอย่างและเครื่องดื่มคนละหนึ่งแก้วเป็นอย่างน้อยค่ะ
ถ้าไปกัน 3 คน อย่างน้อยต้องสั่งอาหาร 3 อย่าง และเครื่องดื่ม 3 แก้ว
หากใครไม่ดื่มแอลกอฮอลล์ ก็สั่งน้ำอัดลม น้ำหวาน หรือน้ำผลไม้มาดื่มกันค่ะ

ถนนฮอปปี้

2-3-19 อาซากุสะ, Taito-ku, โตเกียว 111-0032

19:10 เดินชมวิวอาซากุสะและโตเกียวสกายทรียามค่ำคืน

ทานข้าวเย็นกันอิ่มแล้ว มาเดินชมวิวสวยๆ ของย่านอาซากุสะกันดีกว่า!
ขอบอกว่าได้บรรยากาศแปลกตากว่าตอนกลางวัน แต่สวยงามไม่แพ้กันแน่นอน

วัดเซนโซจิและประตูคามินาริมง

เดินจากถนนฮอปปี้โดริมานิดก็ถึงวัดเซนโซจิอีกครั้ง
วัดเซนโซจินี้หลังจากพระอาทิตย์ตกดินจะมีการเปิดไฟไลท์อัพอาคารต่างๆ ของวัดด้วยค่ะ
ที่สำคัญ! คือคนจะน้อยกว่าตอนกลางวันมาก ใครอยากแชะรูปสวยๆ แบบไม่ค่อยมีคนมายืนถ่ายรูปด้วย แนะนำให้มาเวลามืดเลย

19:30 เก็บภาพสวยๆ ของโตเกียวสกายทรี

เดินต่อจากวัดเซนโซจิไปทางแม่น้ำสุมิดะอีกหน่อย เราจะขอแนะนำจุดถ่ายรูปกลางคืนสวยๆ ของโตเกียวสกายทรีกันอีกนิดค่ะ!

สะพานอาซึมะบาชิ (Azumabashi Bridge)

สะพานอาซึมะบาชิ คือ สะพานข้ามแม่น้ำสุมิดะใกล้ๆ กับสถานีอาซากุสะและวัดเซนโซจิ
จากสะพานสีแดงสวยนี้เป็นมุมสุดยอดที่จะถ่ายรูปได้ทั้งโตเกียวสกายทรีและตึกของบริษัทอาซาฮีที่เป็นปฏิมากรรมเปลวเพลิงและอาคารรูปแก้วเบียร์ได้ค่ะ

ดาดฟ้าห้างสรรพสินค้า Asakusa EKIMISE

นอกจากนี้ยังมีห้างและอาคารสำนักงาน Asakusa EKIMISE ตรงสถานีอาซากุสะที่วันนี้เรานั่งรถไฟมา
ที่นี่มีจุดชมวิวฟรีอยู่บนชั้นดาดฟ้าค่ะ เดินเข้าไปในอาคาร กดลิฟท์ไปชั้น RF แล้วถึงเลย

เมื่อผ่านประตูออกมาเราจะเจอโตเกียวสกายทรีส่องแสงชัดเจน ดาดฟ้ามีม้านั่งให้เราได้นั่งพักสบายๆ ด้วย
แต่ที่นี่เปิดถึงแค่เวลา 20:00 เท่านั้น ต้องดูเวลากันให้ดีๆ นะ

อาซากุสะ เอกิมิเซะ

1-4-1, Hanakawado, Taito-ku, โตเกียว 111-0033

ที่เดิมๆ ก็เที่ยวแบบใหม่ๆ ได้!

วันนี้เราพามาเดินเที่ยวสถานที่ที่เรียกได้ว่าคนมาโตเกียวต้องเคยมาเหยียบทั้งนั้น
แต่ถ้าเราเปลี่ยนเวลา เปลี่ยนมุมที่มาเที่ยวนิดหน่อย หรือไปทางที่ไม่เคยลองไป เราก็สามารถสนุกในแบบใหม่ๆ ได้เหมือนกัน
มาญี่ปุ่นครั้งหน้า ลองมาเที่ยวอาซากุสะแบบไม่ซ้ำเดิมกันนะ!

สรุปการเดินทาง
โตเกียวสกายทรี → ถ่ายรูปรอบโตเกียวสกายทรี → ช้อปปิ้งในโตเกียวสกายทรี → คาเฟ่กิลเฟบอง → อาซากุสะ → วัดเซนโซจิ  → สวนสนุกฮานะยาชิคิ → ถนนฮอปปี้โดริ → ร้านโอคาโมโตะ สาขาถนนฮอปปี้โดริ → วัดเซนโซจิ → สะพานอาซึมะบาชิ → EKIMISE

ค่าเดินทางทั้งหมด : ค่ารถไฟ 150 เยน
ใช้จ่ายอื่นๆ : ค่าอาหาร 1,980 เยน ค่าขนม 676 เยน ค่าเข้าสวนสนุก 1,000 เยน และค่าเครื่องเล่นและช้อปปิ้งต่างๆ แล้วแต่บุคคล

รวมค่าใช้จ่ายใน 1 วัน/1 คนตามแผน : ประมาณ 3,806 เยน (ไม่รวมค่าซื้อของ)

เช็คข้อมูลเที่ยวเด็ดๆ ตามสาย TOBU ทั้งนิกโก้ คาวาโกเอะ และที่อื่น ได้จาก : http://www.tobujapantrip.com/th/
Supported by TOBU Railway Co., LTD.