โยมิอุริแลนด์ (Yomiuriland) ไฟประดับระยิบระยับท่ามกลางสวนสนุกในโตเกียว
อยากดูไฟประดับสวยงามอลังการ แล้วก็อยากเล่นเครื่องเล่นกับทำกิจกรรมสนุกๆ ไปด้วย! ความปรารถนานั้นเป็นจริงได้ที่ โยมิอุริแลนด์ สวนสนุกที่ใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีชินจูกุเพียง 30 นาที ไปชมไฟประดับ Yomiuriland Jewellumination - Jewelry Olympus- กัน!
สวนสนุกที่แวววับไปด้วยไฟประดับราวกับอัญมณี
โยมิอุริแลนด์ (Yomiuriland) สวนสนุกแสนกว้างใหญ่ในโตเกียวจัดอีเวนต์ไฟประดับ Yomiuriland Jewellumination - Jewelry Olympus- (จากนี้จะเรียกว่า จิวเวลลูมิเนชัน) ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2019 - วันที่ 6 พฤษภาคม 2020
จิวเวลลูมิเนชัน เป็นการประสมจากคำว่า จิวเวลรี (Jewelry) ที่แปลว่า เครื่องประดับ กับคำว่า อิลลูมิเนชัน (illumination) ที่แปลว่า ไฟประดับ เป็นงานแสดงไฟประดับสุดอลังการที่ใช้ไฟ LED จำลองสีสันและความระยิบระยับของอัญมณีเป็นครั้งแรกของโลก ควบคุมโดยคุณอิชิอิ โมโตโกะ นักออกแบบแสงไฟผู้อยู่เบื้องหลังการแสดงไฟไลต์อัพพิเศษของโตเกียวทาวเวอร์และหอไอเฟลในกรุงปารีส
ในโอกาสครบรอบ 10 ปีของงานแสดงไฟในปี 2019 นี้ ทางโยมิอุริแลนด์ใช้ดวงไฟมากที่สุดเท่าที่เคยจัดมาถึง 6.5 ล้านดวง! ทำให้ทั้งสวนสนุกแวววาวไปด้วยแสงไฟราวกับโลกแห่งอัญมณีจริงๆ แบ่งเป็น 12 โซน (Court) ที่จำลองเรื่องราวจากเทพนิยายกรีกให้เข้ากับธีม Jewelry Olympus สามารถชมไฟประดับระหว่างเล่นเครื่องเล่นอย่างรถไฟเหาะหรือโกคาร์ทได้ด้วย
*เนื่องจากมีบางวันที่สวนสนุกอาจปิด จึงควรเช็คกำหนดการที่เว็บไซต์ทางการล่วงหน้าก่อนเดินทางค่ะ
ชมไฟประดับสุดแสนอลังการจากบนเครื่องเล่น
วิวระหว่างต่อแถวขึ้นเครื่องเล่น ไจแอนต์สกายริเวอร์
ความดีงามของจิวเวลลูมิเนชันคือการสนุกไปกับเครื่องเล่นพร้อมๆ กับชมไฟประดับไปด้วย
ระหว่างต่อแถวรอเล่น ไจแอนต์สกายริเวอร์ (Giant Sky River) สไลเดอร์น้ำสูง 25 เมตร เราจะได้เห็นวิวสุดแสนอลังการจากมุมสูง ทั้งไฟประดับเบื้องล่างและแสงไฟจากเมืองโตเกียว
เราขอแนะนำเครื่องเล่นอื่นๆ ที่สามารถเพลิดเพลินพร้อมกับชมไฟประดับวิบวับได้กันค่ะ!
สตาร์ไลต์แบนดิต -รถไฟเหาะดาวหาง-
แบนดิต (Bandit) รถไฟเหาะที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ของโยมิอุริแลนด์ เมื่อไฟประดับเริ่มสว่างไสวขึ้นก็จะกลายร่างเป็นเวอร์ชันกลางคืน สตาร์ไลต์แบนดิต -รถไฟเหาะดาวหาง- ในทันที
รถไฟเหาะจะพุ่งตัวลงมาจากความสูง 51 เมตรด้วยความเร็วสูงสุดที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทรงพลังราวกับมีดาวหางพุ่งอยู่ในสวนสนุกเลย (*)
* แบนดิต เป็นเครื่องเล่นสำหรับผู้ที่มีความสูงเกิน 120 เซนติเมตรขึ้นไปหรือนักเรียนระดับชั้นประถมขึ้นไป
เปลวไฟพุ่งขึ้นมาพร้อมๆ กับการเปล่งเสียงดังว่า "โก! แบนดิต!" ช่วยเพิ่มความตื่นเต้นได้เป็นอย่างดีค่ะ
รถโกคาร์ต แฟมิลี่คอร์ส
ในโซนเฮร่า (Hera's Court) ที่มีดวงไฟสารพัดสีจนทำให้นึกถึงผลไม้ มี โกคาร์ต แฟมิลี่คอร์ส (Go-kart Family Course) รถโกคาร์ตที่สามารถนั่งพร้อมกัน 2 คนในรถคันเดียวได้
คอร์สวิ่งระยะทาง 600 เมตรมีทั้งอุโมงค์และทางโค้งประดับประดาไปด้วยไฟสีสันงดงามให้ได้เพลิดเพลิน คนที่นั่งข้างคนขับอย่าพลาดถ่ายรูปและวิดีโอไว้นะคะ
* โกคาร์ต แฟมิลี่คอร์ส คนขับต้องสูง 130 เซนติเมตรขึ้นไป คนนั่งต้องมีความสูง 90 เซนติเมตรขึ้นไป และสำหรับผู้ที่มีอายุ 3 ขวบขึ้นไป
ไถลไปท่ามกลางแสงไฟ! กิจกรรมพิเศษเฉพาะช่วงอีเวนต์เท่านั้น
ด้านในสุดของสวนสนุกคือโซนซุส (Zeus's Court) ซึ่งมี โอลิมปัส ซัมมิต (Olympus Summit) ภูเขาแห่งแสงไฟที่ส่องประกายแวววาวสูง 25 เมตร จำลองวิหารของเทพซุสผู้ยิ่งใหญ่ เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของงานจิวเวลลูมิเนชัน
ที่นี่มีเครื่องเล่นพิเศษ จิวเวลรี เกอเล็นเด ทูบสไลเดอร์ (Jewelry Gelande Tube Slider) ค่าเล่นเพียง 300 เยนต่อเรือยาง 1 ลำในเวลา 15 นาที เด็กที่มีอายุ 3 ขวบขึ้นไปก็สามารถเล่นได้ (*) เหมาะมากที่จะมาลื่นไถลลงจากเนินแห่งแสงสีพร้อมกันทั้งครอบครัว
* เด็กอายุไม่ถึง 5 ขวบต้องนั่งพร้อมผู้ปกครอง
โชว์น้ำพุทรงพลังไม่ควรพลาด!
สระว่ายน้ำ Pool WAI ที่ผู้คนนิยมมาเล่นน้ำกันในหน้าร้อนได้รับการออกแบบตบแต่งตามภาพลักษณ์ของเทพแห่งมหาสมุทร กลายเป็นโซนโพไซดอน (Poseidon's Court) มีโชว์น้ำพุที่หลายคนตั้งตารอชม จัดแสดงทุกๆ 15 นาทีตั้งแต่เวลา 17:00
ลา ฟงแตน (La Fontaine) หนึ่งในสามโชว์น้ำพุสุดอลังการจากน้ำพุกว่า 242 สายพุ่งสูง 15 เมตร กินพื้นที่กว้างถึง 60 เมตร ผสมผสานระหว่างน้ำพุวงแหวนยักษ์ ฉากน้ำวอเตอร์สกรีน เปลวไฟ และเลเซอร์ เข้าจังหวะกับเพลงบรรเลงอย่างสวยงามจนละสายตาไม่ได้เลยทีเดียวค่ะ!
ไม่ไกลจากลานแสดงน้ำพุมี ลานสเก็ตน้ำแข็ง ไวต์จิวเวล (White Jewel) ที่เริ่มเปิดให้เล่นตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2019 ที่ผ่านมา (มีค่าเล่นเพิ่มเติม) เล่นสเก็ตน้ำแข็งพลางชมไฟประดับไปด้วยก็โรแมนติกไม่น้อยเลยค่ะ
เก็บภาพประทับใจกับบรรยากาศแสงไฟชวนฝัน
ทิวไม้แห่งแสง เฮอร์มีส พรอมานาด
เฮอร์มีส พรอมานาด (Hermes Promenade) ในโซนเฮอร์มีส (Hermes's Court) เป็นเส้นทางยาว 180 เมตรที่เรียงรายไปด้วยต้นไม้ประดับไฟหลากสีแสนสวย
ตรงนี้จะใช้เป็นที่แสดงเต้นประสานเสียงเพลงโดยเหล่าแดนเซอร์ในโชว์ ไลต์ออนแดนซ์ (Light On Dance) ไฟประดับก็เข้าจังหวะกับโชว์เต้นด้วยค่ะ
อุโมงค์แห่งแสง สไปรัล พาสซาจ
อีกที่ห้ามพลาดหลังจากมาเฮอร์มีส พรอมานาดก็คือ สไปรัล พาสซาจ (Spiral Passage) ที่อยู่ใกล้ๆ กัน เป็นอุโมงค์แสงที่มีความยาว 140 เมตร
แสงไฟสีแดง น้ำเงินและเขียววิ่งวนเป็นเกลียวจำลองภาพการเดินทางข้ามเวลา เหมือนได้เดินไปพร้อมกับดาวหางที่พุ่งไปในอุโมงค์ ถ่ายเป็นรูปนิ่งก็สวย ถ่ายเป็นวิดีโอก็เก๋
แชะรูปสัก 1 ใบเป็นที่ระลึกกับจุดถ่ายรูป
ใครที่อยากชักภาพเป็นที่ระลึกขอให้ลองเดินไปที่ จิวเวลรี สแกลล็อป (Jewelry Scallops) ในโซนอโฟรไดต์ (Aphrodite's Court) ใกล้ๆ กับโอลิมปัส ซัมมิตค่ะ
ไปยืนด้านในเปลือกหอยสแกลล็อปยักษ์ที่ประดับไฟแวววาว แล้วโพสท่าประหนึ่งเทพวีนัสจากภาพวาดดัง "กำเนิดวีนัส" ของศิลปินชื่อดัง ซานโดร บอตติเชลลีได้เลย
เดินเล่นถ่ายรูปเยอะก็ต้องมีกระหายน้ำบ้าง ที่ร้าน Hotmeals ในโซนอาร์เทมิส (Artemis's Court) มีฮิคารุ! ฟรุ๊ตคัพดริงก์ เครื่องดื่มเมนูพิเศษสำหรับงานจิวเวลลูมิเนชันที่มาในกระติกทรงผลไม้น่ารักๆ (ราคารวมภาษีชิ้นละะ 650 เยน เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 16:00 เป็นต้นไป)
ถ้ากดปุ่มที่ใต้กระติกจะมีไฟ LED กระพริบเป็นจังหวะด้วย! เอาไปถ่ายรูปโดยมีไฟประดับสุดอลังของ จิวเวลรี กาแลนด์ (Jewelry Garland) ใกล้ๆ ร้านเป็นฉากหลังหรือเอากระติกน้ำมาใช้เป็นพร็อพเวลาถ่ายรูปเพิ่มความน่ารักก็ได้ค่ะ
สำหรับคนที่อยากได้รูปแปลกๆ ที่คนอื่นเห็นแล้วประหลาดใจ ขอให้ลองแวะไปที่โซนทดลองร่วมทำสิ่งของ กู๊ดโจบ้า!! (Goodjoba!!) หนึ่งในนั้นคือสแปลชยูเอฟโอ (Splash U.F.O.) เครื่องเล่นที่จะพาเราล่องไปตามน้ำไหลเชี่ยวพร้อมกับเล่นเกมและเรียนรู้วิธีการผลิตยากิโซบะถ้วย นิชชินยากิโซบะ U.F.O. เด่นด้วยกาน้ำขนาดยักษ์ด้านหน้า
รอสักพักจะมีน้ำไหลออกมาจากกาน้ำยักษ์ด้วย มารอจังหวะเหมาะแล้วเก็บภาพกันค่ะ
วิธีการเดินทางจากสถานีชินจูกุ
จากสถานีชินจูกุ ให้นั่งรถไฟสายเคโอ (Keio Line) ไปลงสถานีเคโอโยมิอุริแลนด์ (Keio Yomiuri Land) ที่อยู่ใกล้กับสวนสนุกโยมิอุริแลนด์ ขบวนที่เร็วที่สุดใช้เวลาเพียง 21 นาทีเท่านั้น
ในกรณีที่นั่งรถไฟกึ่งด่วนพิเศษ (Semi-Special Express) หรือด่วนพิเศษ (Special Express) จากชานชาลา 3 หรือ 2 สถานีชินจูกุ) จะถึงสถานีที่ใกล้สวนสนุกได้เร็วที่สุดแต่ต้องต่อรถไฟ 1 ครั้ง โดยไปลงที่สถานีโชฟุ (Chofu Station) จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟเร็ว (Rapid) รถไฟกึ่งด่วน (Semi-Express) หรือรถไฟธรรมดา (จอดทุกสถานี) ที่เดินทางไปยังสถานีฮาชิโมโตะ (Hachimoto) ค่ะ
สำหรับคนที่กังวลเรื่องการต่อรถไฟ แนะนำให้นั่งรถไฟกึ่งด่วน (Semi-Express) ของสายเคโอนิวไลน์ (Keio New Line) ที่ไปสถานีฮาชิโมโตะ ที่ชานชาลา 4 ของสถานีชินจูกุ ใช้เวลา 35 นาทีค่ะ
ดูวิธีการเปลี่ยนรถไฟที่สถานีชินจูกุได้ที่บทความนี้
ถึงสถานีแล้วก็นั่งกอนโดล่าไปสวนสนุกเลย!
เมื่อมาลงที่สถานีเคโอโยมิอุริแลนด์แล้วขอแนะนำให้ใช้บริการ กอนโดล่า สกายชัทเทิล (Gondola Sky Shuttle) ที่จะพาทุกคนไปยังหน้าประตูสวนสนุกโยมิอุริแลนด์พร้อมกับวิวสวยๆ ในเวลา 5 นาที
เมื่อออกจากช่องตรวจตั๋วของสถานีให้เดินไปทางซ้ายมือก็จะเจอกับจุดโดยสารกอนโดล่า (ค่าโดยสารไป-กลับ 500 เยน) ทางออกของช่องตรวจตั๋วในสถานีมีแค่ที่เดียวเท่านั้น ไม่หลงแน่นอนค่ะ
ขามาตอนสว่างก็จะเห็นกลุ่มตึกสูงของเมืองโตเกียว ขากลับตอนมืดก็มีไฟประดับแสนงดงามให้ดูส่งท้ายจนถึงสถานีเลยค่ะ
โยมิอุริแลนด์ สวนสนุกที่อยู่ทั้งวันก็ไม่เบื่อ
โยมิอุริแลนด์ (Yomiuriland) สวนสนุกและที่เที่ยวที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ก่อตั้งมาจนถึงปี 2019 นี้ก็เป็นปีที่ 70 แล้ว ตอนกลางวันมาเล่นเครื่องเล่น ถ้าหิวก็มีร้านอาหารและฟู้ดช็อปที่ขายอาหารและของว่างทานเล่นตามจุดต่างๆ ตกกลางคืนก็ชมจิวเวลลูมิเนชันแสนสวย เป็นสวนสนุกที่เพลิดเพลินได้ตลอดทั้งวัน
สำหรับคนที่อยากเที่ยวสนุกทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ห้ามพลาดโยมิอุริแลนด์ค่ะ!
คูปองส่วนลดสุดคุ้มจากโยมิอุริแลนด์!
Written by Manabu Nakagawa
Photos by Karin Hirokawa
Sponsored by Yomiuri Land Co., Ltd.
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง