ระวังโซเม็งนะ! ความลับของอาหารญี่ปุ่นรสเลิศที่มีเอกลัษณ์ไม่เหมือนใคร พร้อมสูตรอาหารแนะนำ

โซเม็ง เมนูเส้นยอดฮิตของญี่ปุ่น

Picture courtesy of Ibonoito
โซเม็งเป็นอาหารประเภทเส้นของญี่ปุ่น ทำจากแป้งสาลี น้ำ เกลือ และน้ำมันพืช

จุดเด่นอยู่ที่ความบาง โดยความหนาของเส้นจะต่างกันตามแต่ละผลิตภัณฑ์ มีแบบเส้นบางถึง 0.6 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับเส้นพาสต้าซึ่งใช้ทำสปาเก็ตตี้มีความหนาราว 1.5 ถึง 2.0 มิลลิเมตร ก็จะเห็นได้ว่าเส้นโซเม็งบางแค่ไหน

Photo by Pixta
เส้นโซเม็งนั้นบางจนเด็กและชาวต่างชาติที่ลองทำครั้งแรกเผลอต้มจนสุกเกิน แต่หลายคนมักพูดว่า "พอต้มโซเม็งแล้วมันโคตรเยอะจนตกใจเลย ระวังโซเม็งกันด้วยนะ"

ในทางกลับกัน พอลองรับประทาน เนื้อสัมผัสที่เนียนลื่นเป็นเอกลักษณ์ซึ่งไม่พบในราเม็งหรืออุด้ง คือเสน่ห์ของโซเม็ง ทำให้โซเม็งเป็นอาหารรสเลิศในญี่ปุ่นที่ฮิตกันมากๆ โดยเฉพาะในฤดูร้อน

บทความนี้จะบอกเล่าความลับของโซเม็ง ร้านโซเม็งแนะนำ และวิธีปรุงแบบง่ายๆ

ความลับของโซเม็ง อาหารที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบ

เมื่อนึกถึงเมนูเส้นของญี่ปุ่น หลายคนคงนึกถึงราเม็ง อุด้ง และโซบะกัน แต่โซเม็งมีประวัติและความโดดเด่นทีต่างจากเมนูเส้นเหล่านี้

ความลับที่ 1: ต้นกำเนิดเก่าแก่กว่าราเม็ง

การทำโซเม็งในสมัยก่อน (จาก Somen-no-Sato Ibonoito Museum) Picture courtesy of Ibonoito

ว่ากันว่าโซเม็งมีต้นกำเนิดมาจากขนมที่เรียกว่า “ซาคุเบ” ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศจีนในช่วงสมัยนารา (ปี 710 - 794)

จากนั้นก็พัฒนามาเป็นอาหารประเภทเส้น และในสมัยเฮอันได้กลายเป็นอาหารของชนชั้นสูงที่จักรพรรดิและขุนนางรับประทาน

หลักจากสมัยเอโดะได้กลายเป็นอาหารที่คนทั่วไปรับประทานกัน แต่จากนั้นมาก็ได้รับการยอมรับให้เป็นอาหารสำหรับการเฉลิมฉลอง เช่น การจัดเสิร์ฟในงานแต่งงาน เป็นต้น

เมื่อเทียบกับราเม็งซึ่งเป็นเมนูเส้นยอดฮิตระดับโลกที่ถือกำเนิดในสมัยเมจิแล้ว โซเม็งย่อมเป็นอาหารรสเลิศแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีประวัติอันยาวนาน

ความลับที่ 2: มีวิธีรับประทานโซเม็งสนุกๆ ที่เรียกว่านากาชิโซเม็ง

Photo by Pixta

นากาชิโซเม็งเป็นวิธีรับประทานโซเม็งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยจะปล่อยโซเม็งบนไม้ไผ่ที่ผ่าครึ่งให้ไหลไปกับน้ำ แล้วใช้ตะเกียบคีบขึ้นมารับประทาน

ประเทศญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออก มีฤดูร้อนที่ร้อนอบอ้าวมาก ว่ากันว่า วิธีรับประทานที่ทำให้รู้สึกเย็นสบายในฤดูร้อนเช่นนี้ได้แพร่ไปทั่วญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงปี 1950

และปัจจุบันได้กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ประจำฤดูร้อนของญี่ปุ่น ซึ่งผู้คนมากมายแม้แต่ชาวต่างชาติก็สนุกสนานไปกับนากาชิโซเม็ง ยิ่งทำรับประทานกับเพื่อนและครอบครัวก็ยิ่งสนุก

ความลับที่ 3: มีศาลเจ้าเกี่ยวกับโซเม็งด้วย

Picture courtesy of Ibonoito

โซเม็งเป็นเมนูเส้นที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบมากจนมีศาลเจ้าเกี่ยวกับโซเม็งในญี่ปุ่นด้วย

บันชู (ปัจจุบันคือบริเวณมืองทัตสึโนะ) ในจังหวัดเฮียวโกะ (Hyogo) เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งผลิตเส้นโซเม็งชื่อดังของท้องถิ่น ศาลเจ้าโอมิวะ (Oomiwa Shrine) ตั้งอยู่ในเมืองทัตสึโนะ (Tatsuno) แห่งนี้ มีชื่อที่เรียกกันทั่วไปว่า ศาลเจ้าโซเม็ง ซึ่งในสมัยเมจิมีการจัดงานเกี่ยวกับโซเม็งขึ้นที่นี่ด้วย

รับประทานโซเม็งได้ที่ไหนบ้าง

Picture courtesy of Ibonoito

ญี่ปุ่นมีร้านอาหารหลายแห่งที่สามารถเพลิดเพลินกับเมนูโซเม็งต่างๆ ได้

จุดที่แนะนำเป็นพิเศษคือพิพิธภัณฑ์โซเม็งโนะซาโตะ อิโบโนอิโตะ (Somen-no-Sato Ibonoito Museum) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าโซเม็งที่กล่าวไปข้างต้น

โซเม็งปลาไท Picture courtesy of Ibonoito

ในร้านอาหารของที่นี่ มีเมนูโซเม็งหลากหลายให้เพลิดเพลิน เช่น “โซเม็งปลาไท” ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่น “โซเม็งมากิซูชิ” มากิซูชิที่ใช้โซเม็งแทนข้าว และอาตาตาไกโซเม็งซึ่งเป็นเมนูที่รังสรรค์ในสไตล์จีนผสมตะวันตก .

นอกจากนี้ที่ Somen no Sato ยังมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับโซเม็งซึ่งสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของโซเม็งได้ (มีคำอธิบายบางส่วนเป็นภาษาอังกฤษ) ในฤดูร้อนยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การรับประทานนากาชิโซเม็งได้ด้วย

โซเมนโนะซาโต้

56 โอคุมุระ คามิโอกะโจ เมืองทัตสึโนะ จังหวัดเฮียวโก 679-4101

โซเม็งที่เหมาะซื้อเป็นของฝากเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น สามารถหาซื้อได้ทั่วญี่ปุ่นแล้ว

Photo by Pixta

ท่านที่อยากรับประทานโซเม็ง ขอแนะนำให้ซื้อโซเม็งตอนมาเที่ยวญี่ปุ่นไปลองทำเองดู โซเม็งหาซื้อและปรุงได้ง่ายมาก

มีโซเม็งหลายแบรนด์ในญี่ปุ่น แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Ibonoito (อิโบโนอิโตะ) มีจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อทั่วญี่ปุ่น

แถมมีราคาย่อมเยาราวแพ็คละ 300 - 500 เยน (300 กรัม) เหมาะเป็นของฝากจากทริปเที่ยวญี่ปุ่นมากๆ

วิธีปรุงโซเม็งง่ายมาก!

Photo by Pixta

รับประทานโซเม็งได้ง่ายๆ ใช้เวลาต้มไม่นาน วิธีการปรุงเบื้องต้นมีดังนี้

1. ใส่เส้นลงในน้ำเดือดโดยกระจายเส้นให้ทั่ว * มาตรฐานสำหรับ 1 ที่ น้ำร้อน 1 ลิตรต่อเส้น 100 กรัม
2. ใช้เวลาต้มอยู่ในเกณฑ์ราว 1.5 ถึง 2 นาที เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งให้ลดไฟลงเพื่อไม่ให้น้ำเดือดจนล้น
3. นำเส้นที่ต้มเสร็จเทใส่กระชอนแล้วแช่ในน้ำให้เส้นเย็นลงทันที สิ่งสำคัญคือต้องเปิดน้ำให้ไหล นวดล้างเส้นให้สะอาดเพื่อขจัดเมือกลื่นๆ ออก

มีวิธีรับประทานโซเม็งแบบต่างๆ มีดังนี้

ฮิยาชิโซเม็งหรือโซเม็งเย็น

Picture courtesy of Ibonoito

โดยทั่วไปแล้วโซเม็งจะปรุงด้วยวิธีข้างต้น เมื่อต้มเส้นเสร็จ ก็รับประทานโดยจุ่มลงในเม็นทสึยุที่เติมเครื่องต่างๆ เช่น ต้นหอมและขิง

เม็นทสึยุเป็นเครื่องปรุงรสที่ประกอบด้วยน้ำซุปดาชิ โชยุ มิริน และน้ำตาล มักวางจำหน่ายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกในมุมเดียวกับโซเม็ง ดังนั้นอย่าลืมซื้อมาพร้อมกันนะ

นอกจากนี้ หลังล้างน้ำควรแช่เส้นในน้ำเย็นหรือน้ำผสมน้ำแข็งเพื่อให้เส้นเย็น นี่เป็นวิธีการรับประทานมาตรฐานที่แนะนำในญี่ปุ่น

อาตาตาไกโซเม็ง (นิวเม็ง)

Picture courtesy of Ibonoito

โซเม็งรับประทานแบบร้อนก็อร่อย อาตาตาไกโซเม็ง (โซเม็งแบบร้อน) ในญี่ปุ่นมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "นิวเม็ง"

วิธีปรุงง่ายๆ มีดังนี้

1. ต้มเส้นโซเม็งในเวลาที่สั้นลงเล็กน้อย ล้างนวดเส้นในน้ำ สะเด็ดน้ำ
2. ใส่เม็นทสึยุและน้ำเปล่าลงในหม้อ ต้มให้เดือดแล้วให้ใส่เส้นที่ต้มไว้ลงไป

ที่ญี่ปุ่นมักจะใส่ต้นหอมและส้มยูซุลงในเมนูจานนี้ แต่ถ้าใส่เนื้อสัตว์และถั่วงอกลงไปด้วย ก็สามารถทานในรูปแบบของราเม็งได้

โซเม็งคาโบนาร่า

Picture courtesy of Ibonoito * อ้างอิงจาก Ibonoito Somen Menu Book (จัดพิมพ์โดย Wani Books)

โซเม็งมีรสชาติที่เรียบง่าย สามารถนำมาปรุงรับประทานได้ในหลากหลายวิธี รวมทั้งในสไตล์ตะวันตกและสไตล์จีน

เช่น สามารถนำมาทำคาโบนาร่าได้ง่ายๆ ดังนี้

1. ต้มเส้นโซเม็งในเวลาที่สั้นลงเล็กน้อย
2. ทำซอสคาโบนาร่าด้วยวัตถุดิบที่ชื่นชอบ เช่น ไข่ คอนโซเมะ (เป็นผงซุปหรือซุปก้อน) ชีสขูด แล้วนำเส้นโซเม็งลงไปคลุกในชาม
3. เสิร์ฟในชาม โรยหน้าด้วยผักชีฝรั่งและพริกไทยดำ

สามารถนำมาปรับเปลี่ยนวัตถุดิบเล็กน้อย เช่น เพิ่มเบคอนทอด หรือเปลี่ยนส่วนผสมของซอส รังสรรค์รสชาติให้มีความหลากหลายได้

ลิ้มรสความอร่อยด้วยวิธีปรุงที่หลากหลายได้อีก

Picture courtesy of Ibonoito

วิธีการปรุงโซเม็งมีหลายแบบ เช่น ปรุงในสไตล์จีน หรือทำเป็นสลัด

ลองเข้าไปดูสูตรอาหารจากโซเม็งในเว็บไซต์ทางการของ Ibonoito (ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีนตัวย่อ)

Main image coutersy of Ibonoito
Written by Mizzochi
Sponsored by Ibonoito