Start planning your trip
ว่าด้วยแฟชั่นสไตล์โลลิต้าที่ใครใส่ก็กลายเป็นเจ้าหญิงได้
แฟชั่นสไตล์โลลิต้าจัดเป็นหนึ่งในสตรีทแฟชั่นที่พบเห็นได้ในประเทศญี่ปุ่น ลักษณะเด่นของแฟชั่นนี้คือมีการใช้ลายลูกไม้ จีบริมแบบเยอะๆ นี่เองที่ทำให้ดูเหมือนเจ้าหญิง ว่าแล้วคุณผู้อ่านรู้ความหมายของคำว่า “โลลิต้า(Lolita)” และคำว่า “โลลิต้าแฟชั่น (Lolita fashion)” กันหรือเปล่าครับ?
แฟชั่นสไตล์โลลิต้าจัดเป็นหนึ่งในสตรีทแฟชั่นที่พบเห็นได้ในประเทศญี่ปุ่น
ลักษณะเด่นของแฟชั่นนี้คือมีการใช้ลายลูกไม้ จีบริมแบบเยอะๆ นี่เองที่ทำให้ดูเหมือนเจ้าหญิง
ว่าแล้วคุณผู้อ่านรู้ความหมายของคำว่า “โลลิต้า(Lolita)” และคำว่า
“โลลิต้าแฟชั่น (Lolita fashion)” กันหรือเปล่าครับ?
ความหมายของคำว่า “โลลิต้า”
คุณผู้อ่านอาจจะนึกถึงคำว่า “Lolita Complex” หรือที่คนไทยที่ชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่น
รู้จักกันในคำว่า “โลลิค่อน (Lolicon)” แว้บแรกที่ได้ยินคำว่า “โลลิต้า”
ซึ่งคำว่าโลลิค่อนที่ว่ามาจากนิยายชื่อ “LOLITA” ประพันธ์โดยคุณวลาดิเมีย นาโบคอฟ
จากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย เป็นนิยายเกี่ยวกับนักวิชาการด้านวรรณคดี
นามว่าฮัมเบิร์ต ฮัมเบิร์ต (Humbert Humbert) ตกหลุมรักลูกสาวบุญธรรมของตัวเอง
ที่มีชื่อว่าโดโลเรส เฮซ (Dolores Haze) ซึ่งมีชื่อเล่นว่า โลลิต้า (Lolita) นั่นเอง
แฟชั่นสไตล์โลลิต้า
อ่านถึงตรงนี้คุณผู้อ่านคงสงสัยว่าแล้วแฟชั่นโลลิต้าที่ว่ามันเกี่ยวข้องกับนิยายโลลิต้ากันยังไง?
ที่จริงแล้วทั้งสองอย่างนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย กล่าวโดยทั่วไปแฟชั่นนี้จัดเป็น
สตรีทแฟชั่นชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมในย่านฮาราจุกุ และมีต้นกำเนิดมาจากวัฒนธรรมสาวน้อย
(หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า วัฒนธรรมโชโจ) อันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นซึ่งเป็นเทรนด์แฟชั่น
ที่นิยมใช้ลูกไม้ และจีบริมเยอะๆ ซึ่งแทบหาดูไม่ได้ที่ประเทศอื่น โดยเริ่มมาตั้งแต่
ยุค ค.ศ.1970 เป็นต้นมา ในช่วงเวลานั้นสินค้าแบรนด์ “PINK HOUSE” (*1) ขึ้นชื่อในเรื่องแฟชั่น
จากวัฒนธรรมสาวน้อย ส่วนสินค้าแบรนด์ “MILK” (*2) ขึ้นชื่อในเรื่องแฟชั่นแนวโรแมนติก
(*3) และแฟชั่นโลลิต้าที่เป็นหัวข้อของบทความนี้จึงค่อยตามมาในช่วงปี ค.ศ. 1990 นั่นเอง
(*1) (*2) ทั้งสองแบรนด์เนมต่างมีชื่อเสียงในสินค้าที่ออกแบบโดยใช้ลูกไม้ให้ดูน่ารักๆแบบเด็กสาว
(*3) ชื่อกระแสแฟชั่นที่เริ่มจากยุค ค.ศ.1970 ไปจนถึง ค.ศ.1990 ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมสาวน้อย
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับแฟชั่นโลลิต้าแล้ว แฟชั่นนี้ใช้ลูกไม้น้อยกว่า
ข้อแตกต่างระหว่างแฟชั่นโรแมนติกกับแฟชั่นโลลิต้า
ข้อแตกต่างระหว่างแฟชั่นโรแมนติกและแฟชั่นโลลิต้าก็คือ เค้าโครงและความยาวของกระโปรง
อย่างแรกเลยแฟชั่นโรแมนติกจะมีเค้าโครงลักษณะตรงๆ เรียบง่ายตั้งแต่หัวไหล่จนถึงขา
และกระโปรงยาวมาก มักยาวไปจนถึงน่องขา ในขณะที่แฟชั่นโลลิต้าจะมีเค้าโครงให้อารมณ์
เหมือนเป็นเจ้าหญิงโดยช่วงเอวจะโล่งๆ ส่วนกระโปรงจะบานออกดูแล้วเหมือนคัพเค้ก
กระโปรงมักจะยาวไปจนถึงหัวเข่า แต่จะไม่ยาวเหมือนแฟชั่นโรแมนติก
ข้อแตกต่างระหว่างแฟชั่นแนวใส่สบายกับแฟชั่นโลลิต้า
ภาพด้านบนแสดงให้เห็นลักษณะการแต่งการแนวแฟชั่นใส่สบาย หรือที่เรียกว่าแคชชวลแฟชั่น
จะเห็นได้ว่ามีความต่างกันทั้งวัสดุเนื้อผ้า รูปทรง และลวดลายทำให้เราสามารถแสดงออกถึง
บุคลิกเฉพาะตัวได้จากการจัดเสื้อผ้าที่เข้าชุดกันมาสวมใส่ในแต่ละวัน ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถใส่
ไปได้แทบทุกจะโอกาสตั้งแต่ไปเรียนในมหาวิทยาลัย เดินห้าง หรือออกเดทก็ยังได้!
จะบอกว่าการแต่งตัวแนวแคชชวลแฟชั่นนี้ทำให้คุณสาวๆ ดูดีมีเสน่ห์ก็คงไม่ผิดอะไรครับ
ส่วนภาพข้างบนนี้คือภาพชุดแบบแฟชั่นโลลิต้า ซึ่งแน่นอนว่าสาวๆทุกคนล้วนต่างฝันอยากจะเป็นเจ้าหญิง
หรือน่ารักเหมือนตุ๊กตาเด็กหญิง ซึ่งชุดแฟชั่นโลลิต้านี่แหละที่จะมาทำให้ความฝันของเหล่าสาวๆ
เป็นจริงขึ้นมาได้ ซึ่งแน่นอนว่าคุณสาวๆสามารถใส่ไปไหนทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นเหมือนปกติทั่วไปนั่นล่ะ
ถึงแม้แฟชั่นแนวนี้จะต่างจากแฟชั่นที่แต่งตัวให้ตัวเองดูมีเสน่ห์ในสายตาหนุ่มๆก็ตาม แต่ทางเราเชื่อเหลือเกิน
ว่าสาวๆที่นิยมแฟชั่นแนวนี้เป็นคนที่มีเซนส์ด้านแฟชั่นของตัวเอง และซื่อสัตย์ต่อรสนิยมของตัวเอง
ชุดกระโปรงที่มีให้อารมณ์เหมือนเจ้าหญิงนี้เริ่มมาจากช่วงศตวรรษที่ 18 ในยุควิคตอเรียน หรือยุคโรโคโค
ในประเทศฝรั่งเศส ในยุคนั้นเจ้าหญิงมารี อองตัวเน็ตมีชื่อเสียงมาก และชุดกระโปรงโลลิต้าเหล่านี้มีที่มาจาก
ชุดกระโปรงที่เจ้าหญิงหรือชนชั้นขุนนางใส่กันในยุคสมัยนั้นนั่นเอง โดยรอบๆกระโปรงจะมีจีบริมลูกไม้ฟูๆ
และช่วงเอวจะเข้ารูปด้วยเสื้อรัดลำตัว พร้อมด้วยเครื่องประดับที่ศีรษะทำให้ยิ่งดูสวยขึ้น เห็นอย่างนี้ไม่ได้มีแต่
สาวๆญี่ปุ่นที่ฝันอยากจะเป็นเจ้าหญิงหรือได้แต่งตัวน่ารักๆ แบบตุ๊กตาอยู่ประเทศเดียวหรอกนะคร้าบ
สาวๆต่างชาติต่างก็ให้ความสนใจในแฟชั่นโลลิต้าที่ว่านี้กันใช่น้อยเลยล่ะ
โลกแฟชั่นโลลิต้า
แฟชั่นโลลิต้านั้นไม่ได้มีแค่แบบเดียวเท่านั้น ที่จริงแล้วแฟชั่นโลลิต้ายังมีอีกหลากหลายสไตล์ทำให้สาวๆ
สามารถเลือกหาดีไซน์ที่ถูกใจได้ และจับอย่างอื่นมามิกซ์แอนด์แมทช์กันได้ตามรสนิยมเลยทีเดียว
เช่น คุณสาวๆสามารถใส่ชุดสีพาสเทลหวานๆ เพื่อให้สไตล์การแต่งตัวแบบโลลิต้าแนวหวานแหวว
สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หรือหากคุณสาวๆอยากแสดงออกถึงความอ่อนโยน นุ่มนวลก็อาจเลือกแต่งกาย
แนวโลลิต้าคลาสสิคได้ ยิ่งไปกว่านั้นคุณสาวๆสามารถเพิ่มรสนิยมแนวดาร์คๆ ลงไปได้ด้วยการแต่งกาย
แนวโกธิคโลลิต้า ซึ่งดูค่อนข้างแปลกตาและมีลักษณะเฉพาะตัว สุดท้ายนี้ยังมีการแต่งตัว
แนวเจ้าชายอีกด้วย หากคุณสาวๆคิดอยากจะเป็นเจ้าชายหน้าหวานขึ้นมาก็จัดไปเลยคร้าบ
นอกจากสไตล์ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คุณสาวๆยังสามารถครีเอทสไตล์ใหม่ๆ ได้ด้วยตัวเองอีกด้วยนะ
อ่านถึงตรงนี้ คุณสาวๆเริ่มสนใจอยากรู้จักกับแฟชั่นโลลิต้ามากขึ้นหรือยังครับเนี่ย?
แฟชั่นแนวนี้จัดว่ามีความเฉพาะตัวสูง แต่ก็ได้รับความนิยมสูงเช่นกัน ทำให้ยังมีพัฒนาการน่าสนใจ
ที่จะตามมาในอนาคตอีกอย่างแน่นอน ใครจะคิดว่าจากแฟชั่นที่ตอนแรกเป็นเพียงแฟชั่นสตรีท
ที่คนยังไม่ค่อยนิยมอย่างนี้จะได้รับความนิยมเป็นที่สนใจไปไกลถึงนอกญี่ปุ่นได้ขนาดนี้ และ
ด้วยความนิยมนี้เองทำให้มีแฟชั่นนิสต้าผู้ชื่นชอบแฟชั่นโลลิต้าอยู่มากมายในหลากหลายประเทศเลยทีเดียว!
All pictures from PIXTA
ロリータファッション大好き・ふわふわ系女子です。私としては羊が大好きなので、もふもふ系女子になりたい.. ロリータを通し世界中のロリータさんと交流することが夢!パティシエ修行中の妹とロリータさん大歓迎の可愛いカフェを作ることが夢の夢!
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง