หลักสูตรที่เยี่ยมชมปราสาทชื่อดัง 4 แห่งจาก 100 แห่งของญี่ปุ่นใน 2 วัน 1 คืน[course]

ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นโดยอุคิตะ ฮิเดอิเอะ ข้ารับใช้ของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และหนึ่งในผู้อาวุโสทั้งห้าของโทโยโทมิ หอคอยปราสาทสูงสามชั้นหกชั้น มีรูปร่างคล้ายห้าเหลี่ยมด้านไม่เท่าอันหายาก มีรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขาม และภายนอกไม้ฝาสีดำทำให้ได้รับฉายาว่า "Ujo (ปราสาทอุ) อีกา" จาก โมกามิ คุณสามารถมองลงมายัง อาซาฮิคาวะ และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ 360 องศาของ Okayama Korakuen Garden [สวน] และเมือง หอคอยปราสาทเดิมถูกทำลายในการโจมตีทางอากาศเมื่อปีพ.ศ. 2488 (โชวะ 20) แต่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และห้องของท่านผู้ปกครองและบริเวณอื่นๆ ก็ได้รับการบูรณะเช่นกัน ชั้น 1 มีเวิร์กช็อป Bizen Ware [เครื่องปั้นดินเผา] บิเซ็น ซึ่งคุณสามารถทดลองบิดดินเหนียวดูได้ นอกจากนี้ ยังมี แสงสว่ างของปราสาท" โดยมีการประดับไฟ Okayama Castle [ปราสาท] และบริเวณโดยรอบในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง

สึนามาสะ อิเคดะ ขุนนางคนที่สองของตระกูลโอคายามะ ได้สร้างสวนขนาดใหญ่แห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อน สวนอันกว้างขวางตกแต่งด้วยดอกไม้ตามฤดูกาลชวนให้นึกถึงสมัยเอโดะ อีกโลกหนึ่ง ในปีพ.ศ. 2495 ได้รับการกำหนดให้เป็น "สถานที่พิเศษที่มีความงดงามทางทัศนียภาพ" ในฐานะแหล่งมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และได้รับคะแนนสามดาวใน Michelin Green Guide Japan มีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมายตลอดทั้งสี่ฤดูกาล เช่น เช่น การรวบรวมชาและการดูพระจันทร์ นอกจากนี้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับ `` Fantasy Garden'' ซึ่งเปิดเป็นพิเศษในเวลากลางคืนและประดับไฟในสวนในลักษณะที่แตกต่างจากในเวลากลางวันในช่วงเวลาที่จำกัด ไกด์อาสาสมัคร (ฟรี) ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเช่นกัน

สัญลักษณ์ของเมืองสึยามะ ซึ่งได้รับการเลือกให้เป็นหนึ่งใน ``ปราสาทที่มีชื่อเสียง 100 แห่ง'' ของญี่ปุ่น และ ``จุดชมซากุระ 100 อันดับแรกของญี่ปุ่น'' ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1616 โดยทาดามาสะ โมริ น้องชายของรันมารุ โมริ ผู้ซึ่งถูกสังหารในเหตุการณ์ฮอนโนจิ อาคารทั้งหมดถูกรื้อถอนเนื่องจากคำสั่งให้ละทิ้งปราสาทเมจิ แต่บิจู ยากุระได้รับการบูรณะในปี 2548 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 400 ปีการก่อสร้างปราสาท กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมแห่งใหม่พร้อมกับกำแพงหินที่มีความสูงกว่า 10 เมตร เป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่ดีที่สุดในจังหวัด และทิวทัศน์ที่มีต้นซากุระประมาณ 1,000 ต้นบานสะพรั่งก็งดงามตระการตา
ฤดูดอกซากุระบาน: ต้นเดือนเมษายนถึงกลางเดือนเมษายน (ประมาณ 1,000 ต้น)
ฤดูกาลดอกวิสทีเรีย: ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
ฤดูกาลอะซาเลีย: ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
ฤดูไฮเดรนเยีย: กลางเดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนมิถุนายน
ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี: ปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

เขตอนุรักษ์ทิวทัศน์เมืองโจโตะหันหน้าไปทางทางหลวงอิซุโมะเก่าทางด้านตะวันออกของเมืองปราสาทสึยามะ เป็นอาคารหลายหลังที่ยังคงรักษาลักษณะในสมัยนั้นไว้ เช่น ผนังปลิงทะเล ผนังด้านข้าง และหน้าต่างกรงแมลง สถานที่ที่ต้องไปชม ได้แก่ บ้านพักซากุชู โจโตะซึ่งมีหอเฝ้าระวังไฟที่น่าประทับใจ และโจโตะ มุคาชิ มาจิยะ ทาวน์เฮาส์ที่ได้รับการอนุรักษ์สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ! คุณสามารถสัมผัสถึงซากเมืองปราสาทได้แม้จะอยู่ในตรอกเล็กๆ ซึ่งแต่ละตรอกก็มีชื่อของตัวเอง ในปี 2013 ได้รับเลือกให้เป็นเขตอนุรักษ์ที่สำคัญสำหรับกลุ่มอาคารแบบดั้งเดิม

กล่าวกันว่ายูโนโกะออนเซ็นถูกค้นพบโดยเอ็นนินเมื่อประมาณ 1,200 ปีที่แล้ว เมื่อเขาเห็นนกกระสาสีขาวกำลังรักษาบาดแผลที่ขาของเขา หรือที่เรียกว่า "ซากิโนะยุ" เป็นน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ น้ำร้อนใสไร้สีเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงในฐานะน้ำพุร้อนเพื่อผิวสวย มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สนุกสนาน เช่น บ่อแช่เท้าฟรี "Fureai no Yu" และบ่อน้ำพุร้อนแบบไปเช้าเย็นกลับ "Yunogo Sagi Onsenkan" ในช่วงต้นฤดูร้อน คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของหิ่งห้อยที่เริงระบำไปตามแม่น้ำโอยะ

เป็นปราสาทบนภูเขาแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่ยังมีหอคอยปราสาทหลงเหลืออยู่ และเป็นหนึ่งในปราสาท 12 แห่งที่มีหอคอยปราสาทจากสมัยเอโดะที่ยังคงหลงเหลืออยู่ บริเวณรอบปราสาทบนภูเขามีกำแพงหินขนาดใหญ่สูงกว่า 10 เมตร ทำให้ดูราวกับเป็น “ปราสาทที่ไม่สามารถตีฝ่าได้” ล่าสุดกลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดฮิตทั่วประเทศ ในฐานะ “ปราสาทบนภูเขาที่ลอยอยู่บนฟ้าท่ามกลางทะเลหมอก” ซึ่งแฟนๆ จำนวนมากต่างเดินทางมาเยี่ยมชมตั้งแต่เช้าตรู่ในช่วงฤดูที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้ หากต้องการถ่ายภาพปราสาทบนภูเขาอันงดงามตระการตา ให้ไปที่หอสังเกตการณ์ทะเลเมฆ ลองมาเที่ยวชมในช่วงเช้าตรู่ระหว่างเดือนกันยายนถึงเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้

วัดไรคิวจิได้รับการกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในวัดอันโคคุจิที่ อาชิคางะ ทาคาอุจิ สร้างขึ้นในหลายจังหวัด และสวนของวัดนี้ยังได้รับการกำหนดให้เป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพที่งดงามที่สุดของประเทศอีกด้วย สวนแห่งนี้เป็นสวนภูมิทัศน์แบบแห้งแล้งที่สร้างขึ้นโดยโคโบริ เอ็นชู ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาของจังหวัดบิทชูในพื้นที่ และกำลังได้รับความสนใจเนื่องจากเป็นสวนที่แสดงให้เห็นถึงต้นกำเนิดของสวนเอ็นชู สร้างเสร็จในช่วงต้นยุคเอโดะ แสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะของยุคโมโมยามะตอนปลาย และมีความคุ้มค่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในรูปแบบเดิมนี้

หนึ่งใน 100 ปราสาทที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ปราสาทบนภูเขาโบราณที่ว่ากันว่าสร้างขึ้นโดยราชสำนักยามาโตะเพื่อปกป้องประเทศ ปราสาทคิโนโจไม่ได้ถูกกล่าวถึงในหนังสือประวัติศาสตร์ใดๆ และประวัติศาสตร์ของปราสาทยังคงเป็นปริศนา ปัจจุบันสถานที่ทางประวัติศาสตร์กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจ บำรุงรักษา และบูรณะ และคุณสามารถเยี่ยมชมซากปรักหักพังของหอคอยหัวมุมและประตูปราสาทได้ วิวแบบพาโนรามาจากประตูทิศตะวันตกที่ได้รับการบูรณะใหม่นั้นงดงามมาก ด้านหน้ายอดเขามีศูนย์นักท่องเที่ยวคิโนะโจเมืองโซจะ ซึ่งแนะนำกระบวนการบูรณะและลักษณะของซากปรักหักพังเมื่อขุดขึ้นมา นอกจากนี้เรายังแนะนำเส้นทางเดินยาว 2.8 กม. ที่ทอดยาวไปตามกำแพงปราสาท

คืนรถเช่า