ทริปเที่ยวฮันดะในจังหวัดไอจิ ไขความลับต้นกำเนิดของ “ซูชิ” อาหารญี่ปุ่นที่โด่งดัง ผ่าน “น้ำส้มสายชู”

เมืองฮันดะ จังหวัดไอจิ เป็นสถานที่สำหรับการเดินทางเพื่อสำรวจรากฐานของวัฒนธรรมซูชิผ่านน้ำส้มสายชูมิซกัน ริมคลองมีพิพิธภัณฑ์ ร้านซูชิที่ขายซูชิสด และสถานที่ต่างๆ ที่คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การกลั่นสาเกและเบียร์คาบูโตะ เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับประวัติศาสตร์และอาหารรสเลิศ
- สารบัญ
- เมืองฮันดะ (Handa) บนคาบสมุทรจิตะ (Chita Peninsula)
- ไขความลับที่ซ่อนอยู่ของซูชิที่พิพิธภัณฑ์มิซคัน
- รับประทานมื้อกลางวันที่ “ร้านซูชิสายพาน อุโอทาโระ สาขาฮันดะ” ลิ้มรสซูชิแท้ๆ จากปลาท้องถิ่นสดๆ
- แวะพักระหว่างเที่ยว กินขนมหวานเลิศรสหลังอาหาร ที่คาเฟ่สุดผ่อนคลาย
- เดินเล่นริมคลองฮันดะ สัมผัสบรรยากาศสุดผ่อนคลายเหมือนอยู่ในฉากของภาพยนตร์ญี่ปุ่นย้อนยุค
- เรียนรู้และสัมผัสประวัติศาสตร์การหมักในฮันดะ ที่พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมสาเกคุนิซาการิ (Kunizakari Sake Museum)
- ย้อนรอยประวัติศาสตร์ “เบียร์คาบูโตะ” สุดยอดของการเดินหน้ารับความท้าทายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง!
- บทส่งท้าย
ความลับเบื้องหลังซูชิแสนอร่อยของจังหวัดไอจิ อยู่ที่โคเมะซุ (น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว) ซึ่งผลิตโดย Mizkan แบรนด์ที่ก่อตั้งในฮันดะเมื่อปี 1804 คนที่รักซูชิต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน เรียนรู้ต้นกำเนิดของซูชิ ผ่านเรื่องราวของ "น้ำส้มสายชู" นี้ ขอแนะนำทริปเที่ยวฮันดะและสัมผัสวัฒนธรรมอาหารหมักของไอจิ (นาโกย่า) อย่างใกล้ชิด
เมืองฮันดะ (Handa) บนคาบสมุทรจิตะ (Chita Peninsula)

ทิวทัศน์อันงดงามของอาคารมิซคันและคลองฮันดะที่ชวนให้นึกถึงฉากในภาพยนตร์ย้อนยุคของญี่ปุ่น
เมืองฮันดะในจังหวัดไอจิ (Aichi) นั่งรถไฟจากนาโกย่า (Nagoya) มาราว 40 นาที อยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติชูบุเซนแทรร์ (Chubu Centrair International Airport เรียกสั้น ๆ ว่า Centrair) หรือสนามบินนาโกย่า (Nagoya Airport; NGO) ราว 50 นาที
ฮันดะเป็นเมืองที่เฟื่องฟูในด้านอุตสาหรรมการผลิตเครื่องปรุงรสประเภทหมักมาตั้งแต่สมัยก่อน ด้วยเหตุนี้ จึงมีการพัฒนาคลองฮันดะเพื่อการขนส่ง ทุกวันนี้ก็ยังสามารถสัมผัสบรรยากาศในสมัยนั้น ผ่านอาคารผนังสีดำอันโดดเด่นที่เรียงราย และบรรยากาศที่สวยงาม ราวกับก้าวเข้าไปในฉากภาพยนตร์ย้อนยุคของญี่ปุ่น
Mizkan (มิซคันซึ่งภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า มิตสึคัน) แบรนด์ที่มีต้นกำเนิดในเมืองฮันดะแห่งนี้ คือผู้มีบทบาทสำคัญทำให้ซูชิซึ่งส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก
จากนี้มาออกเดินทางไปสำรวจต้นกำเนิดของซูชิในเมืองฮันดะด้วยกันเลย
ไขความลับที่ซ่อนอยู่ของซูชิที่พิพิธภัณฑ์มิซคัน

ทางเข้าพิพิธภัณฑ์มิซคัน
พิพิธภัณฑ์มิซคัน (MIZKAN MUSEUM เรียกสั้นๆ ว่า MIM) ตั้งอยู่ติดกับคลองฮันดะ ดำเนินการโดยบริษัท Mizkan ซึ่งผลิตและจำหน่ายน้ำส้มสายชู ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ขาดไม่ได้ของซูชิ
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ซึ่งรู้จักกันในชื่อ MIM ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้ "ดู สัมผัส เพลิดเพลิน และเรียนรู้" ตั้งแต่ประวัติที่ยาวนานถึง 200 ปี และแนวคิดของ Mizkan ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสนับสนุนอาหารญี่ปุ่น ไปจนถึงวิธีการผลิตและประเภทของน้ำส้มสายชู
มีกิจกรรมมากมายให้เด็กและผู้ใหญ่ได้สนุกและเรียนรู้วัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น จึงเหมาะเป็นทริปเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัว
หากต้องการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ต้องจองล่วงหน้า พิพิธภัณฑ์ยังมีบริการทัวร์พร้อมไกด์พาชมพิพิธภัณฑ์ พร้อมบรรยายเนื้อหานิทรรศการต่างๆ ให้ฟังด้วย (จองเข้าชมพิพิธภัณฑ์ และบริการทัวร์ได้ที่นี่)
พิพิธภัณฑ์ยังมีไกด์เสียงในหลากหลายภาษา (อังกฤษ, เกาหลี, จีน) ให้บริการในบางส่วนของพิพิธภัณฑ์
MIM มีพื้นที่จัดนิทรรศการแยกตามธีมต่างๆ ดังนี้:
คลังของโลก (The Room of Earth)
ที่โซนนี้ นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิธีการทำน้ำส้มสายชูของ Mizkan ในสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603 - 1868) และกรรมวิธีการผลิตในปัจจุบัน

ปัจจุบัน น้ำส้มสายชูทั่วไปที่ใช้ในอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่คือโคเมะซุ (น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว) แต่น้ำส้มสายชูดั้งเดิมของ Mizkan คือคาซุซุ (น้ำส้มสายชูหมักจากกากสาเก) ทำโดยผสมน้ำส้มสายชูที่มีแบคทีเรียกรดอะซิติก (แบคทีเรียกรดน้ำส้ม) ในซุโมโตะ (ทำจากคาซุหรือกากสาเกหมักที่เติมน้ำแล้วบีบออก) แล้วหมักจนได้ที่
เดิมทีฮันดะเป็นพื้นที่ที่ผลิตสาเกกันมาก จึงมีคาซุ (กากสาเก) จากการผลิตมาก เนื่องจาก Mizkan เชี่ยวชาญในเทคนิคการหมักและผลิตสาเกเป็นอย่างดี จึงสามารถนำเทคนิคเหล่านี้มาใช้ในการผลิตน้ำส้มสายชูได้ และนำไปสู่การผลิตคาซุซุ (น้ำส้มสายชูหมักจากกากสาเก) ซึ่งเป็นวัตถุดิบพื้นฐานที่สำคัญยิ่งของเอโดะมาเอะซูชิ
นิกิริซูชิในปัจจุบัน ซึ่งผู้คนรับประทานกันไม่เพียงแค่ในญี่ปุ่น แต่ยังได้รับความนิยมทั่วโลกนี้ มีต้นกำเนิดในช่วงต้นทศวรรษที่ 1800 ของสมัยเอโดะ สมัยนั้นข้าวซูชิจะปรุงรสด้วยโคเมะซุ (น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว) และเกลือ ปั้นแล้ววางเนื้อปลา เนื่องจากทำและเสิร์ฟได้เร็ว จึงเรียกกันว่า ฮายะซูชิ (ซูชิด่วน) และได้รับความนิยมกันในเอโดะ
สวนแห่งแสงสว่าง (The Park of Light)
ในพื้นที่เปิดโล่งที่ส่วางสดใสแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถลองชิมเครื่องดื่มที่ใช้น้ำส้มสายชู และเรียนรู้เรื่องราวของอาหารแห่งอนาคตที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยคำนึงถึงผู้คนและสิ่งแวดล้อม ผ่านประสบการณ์โดยตรงและกิจกรรมนันทนาการที่สนุกสนาน


โมเดลซูชิที่ดูคล้ายงานศิลป์ มีทั้งหมด 29 แบบ รวม 1,134 ชิ้น
โรงละครน้ำ (The Water Theater)
โรงภาพยนตร์หรูหราแห่งนี้จะฉายภาพยนตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจและสร้างแรงบันดาลใจ ในธีมความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตกับอาหาร ซึ่งแสดงให้ผู้ชมได้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตกับอาหารในสี่ฤดูกาล ภาพของธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมอาหารที่อุดมสมบูรณ์ และรอยยิ้มของผู้คนบนโต๊ะอาหาร นี่คืออีกหนึ่งประสบการณ์ที่งดงามและน่าประทับใจยิ่ง
คลังแห่งกาลเวลา (The Room of Time)

ห้องนี้จะพาย้อนกลับไปสัมผัสกับประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงและการท้าทายของ Mizkan ตลอด 200 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ดึงดูดสายตาที่สุดชิ้นหนึ่งของห้องนี้ คือการจำลองเรือเบ็นไซเซ็น (เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์) ยาว 20 เมตร ที่เคยใช้ขนส่งน้ำส้มสายชูและสินค้าอื่นๆ ในสมัยเอโดะ

วีดีโออธิบายเรื่องราวของนากาโนะ มาตาซาเอมอน ผู้ก่อตั้ง Mizkan ที่เผชิญกับความท้าทายในการผลิตและนำ “คาซุซุ” จากเมืองฮันดะไปขายยังเมืองเอโดะ
เมื่อขึ้นไปบนเรือจำลองนี้ จะเห็นจอภาพขนาดใหญ่เบื้องหน้า มีการใช้เอฟเฟกต์ลม ทำให้รู้สึกเหมือนออกเดินทางโดยเรือขนส่งน้ำส้มสายชู ข้ามทะเลจากฮันดะไปยังเอโดะ นี่คือประสบการณ์สุดอลังกาล ที่ทำให้เห็นภาพการท้าทายและเอาชนะความเสี่ยงเพื่อก้าวสู่ยุคใหม่
ทางเดินแห่งสายลม (The Gallery of The Wind)

แกลเลอรี่ที่มีบรรยากาศเงียบสงบนี้ จะบอกเล่าเรื่องราวในอดีตและประวัติศาสตร์ต่างๆ ของฮันดะ เมืองเล็กๆ ที่ Mizkan ถือกำเนิดและพัฒนาจนกลายเป็นแบรนด์ระดับโลก
กลุ่มต่างๆ 31 กลุ่มใน 10 เขตของฮันดะ จะมีรถแห่ (ดาชิ) ในงานเทศกาลของตนเอง ในฤดูใบไม้ผลิของทุกปีแต่ละเขตจะจัดเทศกาลขึ้น แต่ทุก 5 ปีจะมีการจัดเทศกาลรถแห่ฮันดะ (Handa Dashi Festival) ที่โด่งดัง โดยรถแห่ทั้ง 31 คันจะมารวมตัวกันในที่เดียว ที่แกลเลอรี่มีการจัดแสดงผ้าทอโนเร็น (ผ้าทอที่ใช้ตกแต่ง) ซึ่งมีลวดลายเสื้อคลุมฮัปปิจากกลุ่มต่างๆ 31 กลุ่มนี้

ที่ห้องนี้ยังสามารถชมทิวทัศน์คลองที่ยังคงเค้าโครงดังเช่นอดีตไว้ รวมถึงภาพถ่ายที่แสดงทิวทัศน์ของฮันดะตั้งแต่สมัยเมจิ (ค.ศ. 1868 – 1912) จนถึงช่วงต้นสมัยโชวะ (ค.ศ. 1926 – 1989)
ในพิพิธภัณฑ์มิชคันนี้ เราจะได้เรียนรู้เรื่องราวของน้ำส้มสายชูอันยอดเยี่ยม และประวัติของบริษัท Mizkan
จากนี้ ไปลิ้มลองซูชิในร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากคลองฮันดะ สามารถเดินไปได้กัน
รับประทานมื้อกลางวันที่ “ร้านซูชิสายพาน อุโอทาโระ สาขาฮันดะ” ลิ้มรสซูชิแท้ๆ จากปลาท้องถิ่นสดๆ

ร้านซูชิสายพาน อุโอทาโร่ (Uotaro) สาขาฮันดะ ซึ่งบริหารโดยตลาดปลาสด มีสาขาทั้งหมด 7 แห่งในเมืองฮันดะของจังหวัดไอจิและจังหวัดกิฟุ มีทั้งซูชิสายพานและซูชิแบบไคเซกิไว้ให้บริการแก่ผู้ชื่นชอบซูชิ

จัดเสิร์ฟปลาสดๆ ที่จับได้จากน่านน้ำใกล้คาบสมุทรจิตะในวันนั้น และแล่โดยเชฟผู้ชำนาญ การันตีได้ว่าสดจริง
เชฟจะเลือกเฉพาะปลาที่สดที่สุดเท่านั้น เมนูจะเปลี่ยนทุกวัน ขึ้นอยู่กับปริมาณปลาที่จับได้

ร้านนี้ตั้งอยู่ในทำเลสะดวก ไม่เพียงใกล้กับ MIM แต่ยังใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในฮันดะด้วย ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่เหมาะอย่างยิ่งในการแวะรับประทานมื้อกลางวัน หลังเดินเล่นริมคลองเก่าแก่ในเมืองฮันดะ ซึ่งเคยใช้ขนส่งน้ำส้มสายชูแสนอร่อย
แวะพักระหว่างเที่ยว กินขนมหวานเลิศรสหลังอาหาร ที่คาเฟ่สุดผ่อนคลาย

วาฟเฟิลคาราเมล เมนูฮิตของร้าน
คุราโนะมาจิคาเฟ่ (Kuranomachi Cafe) ที่อยู่ติดกับร้านซูชิสายพาน มีบรรยากาศผ่อนคลาย เหมาะเป็นจุดแวะพักผ่อนระหว่างเที่ยว
แถมยังมีเมนูให้เลือกมากมาย ทั้งอาหารเช้า เครื่องดื่ม ดงบุริ (ข้าวหน้าต่างๆ) และของหวาน

ขวา: Apple Vinegar Soda ทำจากน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลกับโซดา ซ้าย: ชาเย็นที่ทำจากเนื้อผลไม้และชาเอิร์ลเกรย์
วาฟเฟิลอบสดตามสั่งที่เนื้อแป้งกรอบนอกนุ่มใน และหนึ่งในเครื่องดื่มที่โดดเด่นคือ Apple Vinegar Soda ซึ่งทำจากน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลของ Mizkan เป็นเครื่องดื่มเปรี้ยวอร่อย สดชื่น และดีต่อสุขภาพ
คาเฟ่นี้ยังมีมุมของฝากที่จำหน่ายของขึ้นชื่อในท้องถิ่นของเมืองฮันดะและคาบสมุทรจิตะด้วย มีน้ำส้มสายชูของ Mizkan หลากชนิด และสาเกที่ผลิตในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังจำหน่ายสึคุดานิ (ปลาต้มในโชยุ มิริน และน้ำตาล เพื่อเก็บรักษาไว้ได้นาน) ที่ทำจากอาหารทะเล
ที่นี่จึงเป็นจุดแวะพักที่สมบูรณ์แบบ ทั้งสามารถเพลิดเพลินกับขนมหวาน และซื้อของฝากได้ หลังกินซูชิแสนอร่อยที่ร้านอุโอทาโร่กันแล้ว
เดินเล่นริมคลองฮันดะ สัมผัสบรรยากาศสุดผ่อนคลายเหมือนอยู่ในฉากของภาพยนตร์ญี่ปุ่นย้อนยุค

พื้นที่รอบคลองฮันดะซึ่งเฟื่องฟูในด้านอุตสาหกรรมการขนส่งทางเเรือและการผลิตสาเกในสมัยเอโดะ อุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเลก็ยิ่งรุ่งเรืองมากขึ้นด้วยการผลิต "คาซุซุ" ผลิตภัณฑ์ซึ่งนำคาซุ (กากสาเก) ที่เหลือจากกระบวนการผลิตสาเก ซึ่งเคยถูกทิ้งกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์
ริมคลองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย
จุดที่ 1: คฤหาสน์เก่าของตระกูลนาคาโนะ ฮันโรคุ และสวนฮันโรคุ (Former Nakano Hanroku Residence and Hanroku Garden)

คฤหาสน์เก่าและสวนของตระกูลนากาโนะ ฮันโรคุ ซึ่งเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมการขนส่งและอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าประเภทหมักในสมัยเอโดะ สร้างขึ้นในสมัยเมจิ ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้

คฤหาสน์และสวนอันงดงามนี้ ทำให้รู้ว่าตระกูลนากาโนะรุ่งเรืองมากเพียงใดในพื้นที่นี้ และมีส่วนสนับสนุนการพัฒนาท้องถิ่นมากเพียงไหน

ด้านนอกของร้านบามคูเฮนแลบบอราทอรี่ สามารถสั่งอาหารผ่านหน้าต่างเล็กๆ ได้
ที่นี่มีจุดที่น่าสนใจ 2 จุด อยากจะแนะนำให้รู้จักค่ะ แห่งแรกคือ “สถาบันวิจัย Baumkuchen”

สามารถสั่งอาหารผ่านหน้าต่างเล็กๆ และเพลิดเพลินกับกาแฟหรือชาถ้วยเล็กๆ (เพียงถ้วยละ 70 เยน!) กับเค้กบามคูเฮนที่เสิร์ฟมาเป็นแท่งเหมือนไอศกรีม มีให้เลือก 2 รสชาติ คือรสธรรมดา กับรสโอทู (O2) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างมาเมะมิโซะ (มิโซะถั่วเหลือง) ในท้องถิ่นฮันดะกับโกโก้หายากจากอเมซอน
ในตอนแรก ผู้เขียนนึกภาพไม่ออกว่ามิโซะจับคู่กับบามคูเฮน รสชาติจะออกมาอย่างไร แต่หลังจากกัดไปคำเดียว กลิ่นหอมของโกโก้และรสชาติเค็มของมิโซะ ช่างเข้ากันได้อย่างลงตัว เป็นการรังสรรค์รสชาติที่เยี่ยมยอดมาก! ผู้เขียนมั่นใจว่านี่คือรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่นแน่นอน ดังนั้น ขอแนะนำให้ลองชิมและสัมผัสประสบการณ์ลิ้มรสสุดพิเศษกัน!

อีกแห่งก็คือฮันร็อค (HANROK) ร้านอาหารชื่อดังในท้องถิ่น มีบรรยากาศหรูหราเป็นกันเอง สามารถเพลิดเพลินกับอาหารฝรั่งเศสรสเลิศ ที่ปรุงจากวัตถุดิบและเครื่องปรุงรสประเภทหมักของคาบสมุทรจิตะในจังหวัดไอจิ รังสรรค์เมนูโดยเชฟซูซูกิ ทาคาโนริ ผู้มีประสบการณ์ทำงานที่ Les Enfants Rouges ในกรุงปารีส

พื้นที่ครึ่งหนึ่งในคฤหาสน์เก่าของตระกูลนากาโนะได้รับการปรับปรุงใหม่ เป็นร้านที่เหมาะกับการชื่นชมประวัติศาสตร์ของอาคารและความงามของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น พร้อมเพลิดเพลินกับอาหารแสนอร่อยด้วย

ทางร้านยังมอบประสบการณ์การลิ้มลองอาหารเลิศรสที่สามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมการหมักของไอจิ สำหรับนักชิมทุกคนที่อ่านบทความนี้ ขอแนะนำให้แวะไปลองเป็นอย่างยิ่ง
(HANROK เปิดให้บริการเฉพาะการจองล่วงหน้าเท่านั้น สามารถจองได้ที่นี่)
เรียนรู้และสัมผัสประวัติศาสตร์การหมักในฮันดะ ที่พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมสาเกคุนิซาการิ (Kunizakari Sake Museum)

คาบสมุทรจิตะซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองฮันดะนี้ มีการผลิตสาเกที่เฟื่องฟูมายาวนานกว่า 300 ปี พิพิธภัณฑ์ซึ่งดำเนินการโดยโรงผลิตสาเกนากาโนะ (Nakano Sake Brewery) เป็นอาคารเก่าแก่ราว 200 ปีที่ใช้ผลิตสาเกจนถึงปี 1972

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มุ่งหมายอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมด้านสาเก โดยจัดแสดงเครื่องมือในการกลั่นสาเกแบบดั้งเดิมที่ใช้งานจริงก่อนที่โรงงานปัจจุบันจะเริ่มดำเนินการ รวมถึงเทคนิคของช่างฝีมือในสมัยนั้นด้วย

สามารถชิมสาเกที่ผลิตโดยเทคนิคดั้งเดิมที่สืบทอดกันมา
นอกจากสาเก ก็ยังสามารถชิมเหล้าผลไม้และผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ได้ด้วย
สามารถซื้อสาเกญี่ปุ่นและสินค้าอื่นๆ ไปเป็นของฝาก หรือของที่ระลึกจากการเดินทางได้
หากต้องการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หรือร่วมกิจกรรมชิมสาเก ขอแนะนำให้จองล่วงหน้า แม้สามารถรองรับผู้เข้าชมในวันนั้นได้กรณีไม่มีกลุ่มอื่นจอง แต่การจองล่วงหน้าจะดีที่สุด กรุณากรอกข้อมูลที่จำเป็นและวันที่จองในแบบฟอร์มสอบถามได้ที่นี่ (อาจใช้เวลา 2 - 3 วันในการตอบกลับ)
อนึ่ง ปัจจุบันยังไม่มีเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการในภาษาอื่นๆ เช่น อังกฤษ แต่มีวิดีโอและแผ่นพับอธิบายเป็นภาษาอังกฤษให้บริการ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวล!
การก่อตั้งโรงผลิตสาเกแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับบริษัท Mizkan ซึ่งเป็นบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้ซูชิเป็นที่รู้จักแพร่หลาย โดยเริ่มต้นจากการที่ตระกูลนากาโนะซึ่งเป็นผู้ผลิตสาเกแรกเริ่มในฮันดะได้โอนสิทธิ์ในการอนุญาตการผลิตสาเก (ที่เรียกว่า ซาเกะคาบุ) ให้
ด้วยความรู้ในการผลิตสาเก และการมีคาซุ (กากสาเก) ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตคาซุซุ (น้ำส้มสายชูหมักจากกากสาเก) มากมาย ทำให้สามารถผลิตคาซุซุในปริมาณมาก คงไม่เกินจริงหากจะกล่าวว่า เรื่องราวและภูมิหลังของพื้นที่นี้มีส่วนสนับสนุนให้เกิด "วัฒนธรรมซูชิ"
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ “เบียร์คาบูโตะ” สุดยอดของการเดินหน้ารับความท้าทายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง!

อาคารอิฐแดงฮันดะ (Handa Red Brick Building) สร้างเมื่อปี 1898 เดิมเป็นโรงผลิตเบียร์คาบูโตะ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณการบุกเบิกของผู้ผลิตในท้องถิ่นที่ท้าทายเพื่อเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเบียร์ยุคแรกๆ ของญี่ปุ่น
แฟนๆ อนิเมะญี่ปุ่นอาจจำป้ายเบียร์คาบูโตะที่เห็นได้จากฉากของสถานีนาโกย่าเก่า ซึ่งปรากฏในภาพยนตร์อนิเมะเรื่องปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก (The Wind Rises) ของสตูดิโอจิบลิ และอาคารโรงเบียร์คาบูโตะจากการ์ตูนอนิเมะเรื่องไวโอเล็ต เอเวอร์การ์เดน (Violet Evergarden) ตอนที่ 3

อาคารหลังนี้ได้รับการออกแบบโดยสึมากิ โยริกิ สถาปนิกชื่อดังในสมัยเมจิ มีโครงสร้างหลายชั้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะซึ่งหาได้ยากในยุคสมัยนั้น เพื่อให้อาคารมีความมั่นคงซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับโรงผลิตเบียร์
โรงผลิตเบียร์คาบูโตะแห่งนี้เคยเป็นหนึ่งในโรงเบียร์ชั้นนำของญี่ปุ่น และยังได้รับรางวัลเหรียญทองจากงาน Paris World's Fair ในปี 1900 ด้วย ประวัติทั้งหมดนี้มีการจัดแสดงไว้อย่างดีเยี่ยมในพิพิธภัณฑ์ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่แฟนๆ ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น สถาปัตยกรรมสมัยเมจิ รวมถึงเบียร์ญี่ปุ่น ต้องไม่พลาด

สัมผัสเสน่ห์ย้อนยุคของขวดเบียร์ และการออกแบบฉลากที่ละเอียด สวยสะดุดตา

หลังจากเปลี่ยนชื่อ และปิดตัวลงเนื่องจากสงครามและปัจจัยเศรษฐกิจ เบียร์คาบูโตะในสมัยเมจิก็ได้กลับมาผลิตอีกครั้งในปี 2005 และเบียร์คาบูโตะในสมัยไทโชก็ได้กลับมาผลิตอีกครั้ง
นี่คือเบียร์สไตล์เยอรมันที่แสนอร่อยจริงๆ สามารถชิมเบียร์คาบูโตะอันล้ำค่านี้ได้ในคาเฟ่ภายในอาคาร
นอกจากนี้ ยังมีร้านจำหน่ายเบียร์คาบูโตะดั้งเดิมที่นำมาผลิตใหม่ และของฝากในท้องถิ่นด้วย
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรบ้าง กับทริปท่องเที่ยวฮันดะนี้
ฮันดะและคาบสมุทรจิตะแห่งนี้ เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ด้านเทคนิคการผลิตต่างๆ ตั้งแต่การผลิตน้ำส้มสายชูของ Mizkan ไปจนถึงสาเกคุนิซาคาริและเบียร์คาบูโตะที่น่าทึ่ง ที่นี่คือสถานที่ที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ด้วยการผลิตสิ่งต่างๆ ด้วยมือของตัวเอง
ขนบธรรมเนียมประเพณีการผลิตนี้ยังคงสืบทอดมาถึงทุกวันนี้ เพียงเดินเล่นไปรอบๆ MIM หรือคลองฮันดะ ก็มีสถานที่มากมายให้ชม สัมผัส เพลิดเพลิน และเรียนรู้ ที่สำคัญที่สุดคือการได้ลิ้มรส ต้องลองมาเยือนฮันดะ และสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ไปจนถึงอาหารด้วยตัวเองกันแล้ว
อาหารหมักเป็นสิ่งสำคัญต่อความอร่อยของอาหารญี่ปุ่น เราจะมาแนะนำเสน่ห์ของอาหารหมักของนาโกย่า ซึ่งเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง
หน้าเว็บไซต์นี้ใช้เครื่องมือแปลภาษาอัตโนมัติบางส่วน