“ชิมะนามิไคโด” เส้นทางปั่นจักรยานยาว 20 กม.จากโอโนะมิจิไปยังอิมาบาริ

ชิมะนามิไคโด คือ เส้นทางยาว 70 กิโลเมตรที่เชื่อมระหว่างเมืองโอโนะมิจิ จ.ฮิโรชิม่าและเมืองอิมาบาริ จ.ไอจิ โดยอนุญาตให้จักรยานผ่านได้ ด้วยการที่สามารถปั่นจักรยานพลางชมวิวหมู่เกาะบนทะเลเซะโตะในและทะเลอันแสนงดงามได้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นเส้นทางในดวงใจของนักปั่นทั่วโลกไปในที่สุด

ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำทริปปั่นจักรยานข้าม “ชิมะนามิไคโด” ยอดนิยมพร้อมรูปประกอบกันค่ะ ^^

มุ่งหน้าไปยังเมืองโอโนะมิจิ จ.ฮิโรชิม่าซึ่งเป็นจุดสตาร์ทของเรา

จุดสตาร์ทขอแนะนำให้เริ่มจากเมืองโอโนะมิจิ จ.ฮิโรชิม่าเลยจ้า... เพราะว่าภายในเมืองโอโนะมิจิเพรียบพร้อมไปด้วยสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการใช้เป็นจุดเริ่มต้นของทริปปั่นจักรยานมากที่สุดนั่นเอง เช่น ONOMICHI U2 เป็นต้น

เราสามารถนั่งรถบัสจากท่าเรือฮิโรชิม่ามาถึงโอโนะมิจิได้โดยตรงเลย แต่สำหรับใครที่เดินทางมาจากเมืองฟุคุยามะจะมีเรือวิ่งให้บริการจากโทโมะโนะอุระภายในช่วงเวลาจำกัด

เช่าจักรยานกันก่อนเลย!

เราสามารถเช่าจักรยานได้ในวันเดินทางเลยก็จริง แต่เนื่องจากจักยานยอดนิยมที่ปั่นง่ายคล่องตัวนั้นมีจำนวนจำกัด จึงขอแนะนำให้จองเอาไว้ล่วงหน้าจะดีที่สุด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการจองและสถานที่เช่ายืมสามารถเข้าไปดูได้จาก เว็บไซต์หลัก (http://shimanami-cycle.or.jp/english)

เมื่อชำระเงินค่าเช่าจักรยานและกรอกเอกสารที่จำเป็นเรียบร้อยแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่นำทางไปยังจุดรับจักรยาน

หลังจัดตำแหน่งเบาะนั่งและเติมลมยางก็ถือเป็นอันเสร็จครบถ้วนกระบวนความ สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้าก็สามารถใช้บริการห้องน้ำได้เลยจ้า...

ถึงเวลามุ่งหน้าไปยังชิมะนามิไคโด!

ในครั้งนี้เราจะปั่นจักรยานโดยใช้เส้นทางระดับสูงแบบเต็มเส้นทาง 70 กิโลเมตรเพื่อดื่มด่ำกับ “ชิมะนามิไคโด” อย่างสะใจกันไปเลยค่ะ ^^

ก่อนอื่นก็เดินทางไปขึ้นเรือเฟอร์รี่ที่มุ่งหน้าไปยังเกาะมุโคจิมะซึ่งตั้งอยู่ห่างจากจุดเช่าจักรยาน 100 เมตร

วันธรรมดาจะมีเรือเฟอร์รี่วิ่งให้บริการทุกๆ 7.5 นาที ส่วนวันหยุดจะวิ่งให้บริการทุกๆ 12 นาที

เนื่องจากเราจะต้องจ่ายค่าโดยสารภายในเรือเลย จึงควรเตรียมเศษเหรียญมาให้พร้อม ผู้ใหญ่ราคา 100 เยนและคิดเพิ่มอีก 10 เยนต่อจักรยาน 1 คัน รวมเป็น 110 เยน สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับเงินเยนญี่ปุ่นสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「สาระเรื่องเงินๆทองๆในญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวควรรู้」

เนื่องจากท่าเรือเฟอร์รี่มีแผนที่ของชิมะนามิไคโดให้ดูด้วย เราจึงสามารถดูไปพลางๆระหว่างรอเรือขึ้นเฟอร์รี่ได้เลย

เมื่อเรือเฟอร์รี่ล่องมาเทียบท่าแล้วก็นำจักรยานขึ้นเรือตามคิว

การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางไปยังเกาะมุโคจิมะซึ่งตั้งอยู่ติดกัน ภายในเรือเฟอร์รี่เต็มไปด้วยผู้โดยสารที่มาพร้อมกับจักรยานมากมาย พอที่จะรู้ได้เลยว่าชิมะนามิไคโดฮิตมากขนาดไหน!?

โดยเราจะได้ล่องไปตามเส้นทางทะเลยิบย่อยของเกาะมุโคจิมะ โดยเป็นทริปล่องเรือสบายๆโดยใช้เวลาในการเดินทางเพียง 5 นาทีเท่านั้น

เมื่อเทียบท่าเรือของเกาะมุโคจิมะแล้วก็เริ่มต้นทริปปั่นจักรยานได้!

ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงเกาะมุโคจิมะกันแล้วล่ะค่ะ ถึงเวลาเริ่มต้นทริปปั่นจักรยานกันซะทีเนอะ!

บนถนนจะมีการขีดเส้นสีน้ำเงินเอาไว้ด้วยเพื่อให้สามารถเข้าใจเส้นทางได้อย่างง่ายดายมากขึ้น

นอกจากนี้ก็ยังมีสัญลักษณ์แสดงระยะทางที่เหลือกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางด้วย ในกรณีที่สตาร์ทจากเมืองโอโนะมิจิ เส้นชัยของเราจะเป็นเมืองอิมาบาริ

เมื่อปั่นจักรยานไปสักพักก็จะเริ่มมองเห็นทะเลแล้วล่ะค่ะ ว๊าว～ เนื่องจากเราจะได้ชมวิวทะเลอันแสนงดงามพลางสัมผัสลมทะเลเซะโตะในไปตลอดเส้นทาง การปั่นจักรยานที่นี่จึงเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ

โอ้โห～ ตอนนี้เราเห็นสะพานสีแดงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าเลย เนื่องจากตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยจุดถ่ายรูปสวยๆมากมาย สำหรับใครที่มีเวลาท่องเที่ยวเหลือเฟือจึงขอแนะนำให้หยุดถ่ายรูปที่ระลึกกันตามอัธยาศัยเลยจ้า...

เมื่อตรงต่อไปเรื่อยๆก็จะพบกับจุดพักที่สามารถชมวิวสะพานอินโนะชิมะได้ด้วยล่ะค่ะ... กว่าจะเดินทางมาถึงตรงนี้ก็เริ่มเหนื่อยขึ้นมาบ้างแล้ว ดังนั้นก็อย่าลืมดื่มน้ำให้ชุ่มฉ่ำใจกันสักหน่อยเนอะ ต่อจากนี้ไปจะเป็นการปั่นจักรยานข้ามสะพานอินโนะชิมะที่มองเห็นอยู่ข้างหน้านี่แหละ

แถมระหว่างทางยังมีป้ายบอกระยะทางว่าอีกไกลเท่าไหร่กว่าจะครบรอบเกาะสำหรับคนที่อยากปั่นจักรยานรอบเกาะมุโคจิมะด้วยนะเออ...

สถานที่ที่เราจะมุ่งหน้ากันต่อไปคือ “เกาะอินโนะชิมะ” นั่นเอง เนื่องจากสะพานอินโนะชิมะตั้งอยู่บนภูเขา จึงจำเป็นต้องขึ้นเขาไปตามระเบียบ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไปค่ะ เพราะว่าเส้นทางขึ้นเขาเป็นทางลาดสบายๆ ดังนั้นถ้าเกิดค่อยๆปั่นจักรยานขึ้นไปอย่างช้าๆก็จะสามารถขึ้นไปถึงได้อย่างไม่เหนื่อยมากอย่างแน่นอน

บรรยากาศก่อนข้ามสะพาน

การข้ามสะพานจะต้องใช้เส้นทางร่วมกับคนเดินเท้าซึ่งไม่ใช่เส้นทางสำหรับรถยนต์ เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องความกว้างของถนนและมีลมพัดแรงเป็นบางเวลา จึงควรระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยกันด้วยนะจ๊ะ...

ข้ามสะพานทาทาระซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเขตแดนระหว่างจ.ฮิโรชิม่าและจ.ไอจิ

เมื่อข้ามจากเกาะอินโนะชิมะมาถึงเกาะอิคุจิกันแล้ว จุดหมายต่อไปก็คือเกาะโอมิชิมะนั่นเองค่ะ
การเดินทางจากเกาะอิคุจิไปยังเกาะโอมิชิมะจะต้องข้ามสะพานทาทาระซึ่งพาดข้ามระหว่างจ.ฮิโรชิม่าและจ.ไอจิ

ก่อนข้ามสะพานทาทาระจะมีทางแยก ตรงนี้แหละที่ควรระวังให้ดีเพราะว่าด้านหนึ่งเป็นทางเข้าไปยังทางด่วนสำหรับรถยนต์เท่านั้น เนื่องจากมีป้ายห้ามคนเดินและรถจักรยานเข้าตั้งเอาไว้เตือนคนเข้าผิดด้วย ยังไงก็อย่าลืมสังเกตกันหน่อยเนอะ

เส้นผ่าศูนย์กลางจากกลางสะพานทาทาระยาว 890 เมตรซึ่งนับเป็นสะพานขึงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยในปัจจุบันก็ยังคงติดอันดับ 5 ของโลก

ตรงกลางสะพานมีเครื่องหมายเส้นแบ่งเขตของจ.ฮิโรชิม่าและจ.ไอจิติดเอาไว้ให้ได้ชมกัน ตรงนี้แหละที่เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของเหล่านักปั่นเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ เนื่องจากเราสามารถมองเห็นหมู่เกาะอันงดงามได้จากตรงกลางสะพาน ยังไงก็ลองจอดจักรยานสูดอากาศของทะเลเซะโตะในตรงนี้กันหน่อยดีกว่า～

สวรรค์ของนักปั่นจักรยาน?

เมื่อข้ามสะพานทาทาระและเข้าถนนสายหลักมาแล้วก็จะพบกับ “Road Station Tatara Shimanami park (จุดพักรถ สวนทาทาระชิมะนามิ)” ที่นี่มีทั้งร้านอาหารและศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ประจำท้องถิ่นที่สามารถดื่มด่ำกับอาหารที่ทำมาจากปลาสดใหม่และผลิตผลทางการเกษตรได้และคามิอุระฟุเรไอยาไตชิ・ตลาดขายส่งปลาและผลิตผลทางการเกษตรไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเล, ผลไม้ตระกูลส้ม และพืชผักสดใหม่ในท้องถิ่น

ภายใน “จุดพักรถ สวนทาทาระชิมะนามิ” เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ที่สลักชื่อว่า “สวรรค์ของนักปั่นจักรยาน”

อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นโดยสภาส่งเสริมการท่องเที่ยวชิมะนามิไคโดแห่งทะเลเซะโตะใน (SHIMAP) และสมาคมนักปั่นจักรยานแห่งประเทศไต้หวัน (Taiwan Cyclist Federation) ในวันที่ 25 ตุลาคม 2014 เส้นทางปั่นจักรยานชิมะนามิไคโดแห่งทะเลเซะโตะในและเส้นทางปั่นจักรยานทะเลสาบสุริยันจันทราได้ทำสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือเป็นเส้นทางปั่นจักรยานพี่น้อง โดยที่นี่เป็นอนุสาวรีย์ที่ระลึกเนื่องในการจัด CYCLING SHIMANAMI (ไซคลิงชิมะนามิ) การแข่งขันปั่นจักรยานนานาชาติในวันที่ 26 ตุลาคม 2014

รูปแบบการก่อสร้างได้รับแรงบันดาลใจมาจาก สะพานแขวน ที่เชื่อมหมู่เกาะต่างๆบนทะเลเซะโตะในเข้าด้วยกัน โดยใช้หินโอชิมะเฉพาะของเมืองอิมาบาริ นอกจากนี้ ว่ากันว่าวงกลมทั้ง 2 รูนั้นเป็นสัญลักษณ์หมายถึงล้อจักรยาน ส่วนหินขนาดใหญ่ด้านบนหมายถึงเบาะนั่งจักรยาน

แถมบริเวณสวรรค์ของนักปั่นจักรยานก็ยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์สุดแปลกเหล่านี้ด้วยนะเออ...เพื่อนๆรู้มั้ยเอ่ยว่ามันคืออะไร?

ความจริงแล้วมันคือฐานตั้งจักรยานนั่นเอง โดยเป็นฐานตั้งจักรยานสุดเอกลักษณ์ที่ถ้าลองยกจักรยานขึ้นไปตั้งจะดูราวกับว่าคนกำลังแบกจักรยานอยู่เลยล่ะค่ะ

ทะยานสู่เส้นชัยเมืองอิมาบาริ จ.ไอจิ

เมื่อปั่นจักรยานเลียบเส้นทางชิมะนามิไคโดฝั่งจ.ไอจิไปเรื่อยๆก็จะพบกับ Road Station Marine Oasis Hakata (จุดพักรถ มารีนโอเอซิสฮากาตะแห่งเมืองอิมาบาริ) “ฮากาตะ” เป็นแหล่งผลิตเกลือขึ้นชื่อของคนญี่ปุ่น ที่นี่จึงมีจำหน่ายเกลือซึ่งเป็นของขึ้นชื่อเพียบ!

หลังจากหยุดพักสักครู่แล้วฮึดปั่นจักรยานต่อไปอีกเรื่อยๆก็จะเริ่มมองเห็นสะพานคุรุชิมะไคเคียวซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้ายของเราแล้ว เย้～ เนื่องจากกว่าจะเดินทางมาถึงตรงนี้ได้จะต้องปั่นจักรยานมากกว่า 60 กิโลเมตรเลยทีเดียว เนินก่อนข้ามสะพานสุดท้ายจึงเป็นอะไรที่เหนื่อยสุดๆ

ถ่ายรูปที่ระลึกใบสุดท้ายตรงกลางสะพานกันซะหน่อย! หลังจากนี้ก็เหลือแค่มุ่งหน้าเข้าสู่เส้นชัยแล้ว

เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย? เส้นทางปั่นจักรยานชิมะนามิไคโดที่รายล้อมไปด้วยท้องฟ้าและทะเลอันแสนกว้างใหญ่แห่งนี้นับเป็นไฮไลท์ห้ามพลาดสำหรับทุกคนเลยก็ว่าได้ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ชื่นชอบการปั่นจักรยานเท่านั้น แต่สำหรับใครที่คิดว่าไม่สามารถปั่นจักรยานถึง 70 กิโลเมตรได้ไหวก็สามารถปั่นย้อนกลับทางเดิมระหว่างทางหรือจองห้องพักบนเกาะให้หายเหนื่อยสักคืนแล้วค่อยปั่นต่อวันรุ่งขึ้นก็ยังไหว

รถจักรยานเช่าสามารถจอดทิ้งเอาไว้บริเวณเทอมินอลที่ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆบนแต่ละเกาะได้เลย ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆปั่นจักรยานกันตามระยะทางที่ต้องการและสไตล์ของตัวเองกันนะคะ ^^