【จังหวัดเอฮิเมะ】ปราสาทโอซุที่สร้างจากไม้ 〜วิธีเดินทาง, ไฮไลท์ต่างๆ〜

ปราสาทโอซุ คือ

ปราสาทโอซุเป็นปราสาทที่อยู่ในเขตโอซุ(Ozu) จังหวัดเอฮิเมะ ซึ่งอยู่ในภูมิภาคชิโคขุของญี่ปุ่น ใช้เวลาก่อสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ถึงศตวรรษที่ 17 สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ในอดีตถูกแยกชิ้นส่วน เว้นเพียงแต่หอคอยของปราสาทส่วนเดียว ซึ่งในปี 2004 ได้มีการฟื้นฟูตัวปราสาท(※1) โดยอ้างอิงจากเอกสารในยุคสมัยเอโดะ จนทำให้กลับคืนสู่สภาพเดิม การฟื้นฟูอาศัยแรงของคนในท้องถิ่นช่วยกันทำ จึงเป็นที่เล่าขานต่อๆ
กันมาว่าปราสาทนี้เป็นที่รักของชาวบ้านได้อย่างไร

ตัวปราสาท(ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า เท็นฉุ)การก่อสร้างด้วยวิธีแบบดั้งเดิม และนำต้นไม้ที่เป็นทรัพย์สินของประเทศมาทำเป็นวัสดุ ส่วนใหญ่ตัวปราสาทจะฟื้นฟูด้วยวิธีการใช้คอนกรีตเสริมเหล็ก จึงเรียกได้ว่าตัวปราสาทที่ทำจากไม้ไม่ค่อยจะมีให้เห็นกันเท่าไรนัก ด้วยความสูงถึง 20 เมตร จึงจัดเป็นปราสาทที่ค่อนข้างสูงในระดับประเทศ

เนื่องจากตัวปราสาทแบบนี้ไม่ค่อยมีเห็นมากเท่าไรในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีหอคอยที่เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมหลงเหลืออยู่ ปราสาทโอซุจึงได้รับการคัดเลือกให้เป็น 100 ปราสาทที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น ในบทความนี้ จะขอแนะนำข้อมูลทั่วไป, วิธีการเดินทาง, ไฮไลท์ต่างๆ ของปราสาทโอซุให้ทราบกัน

※1：ตัวปราสาท(เท็นฉุ)……สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในปราสาทของญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์ของปราสาทนั้นๆ

ข้อมูลทั่วไปของปราสาทโอซุ

ปราสาทโอซุเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 9：00〜17：00 สามารถเข้าภายในปราสาทได้ถึง 16：30 ตลอดทั้งปีไม่มีวันหยุด ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 500 เยน, ต่ำกว่าเด็กประถม 200 เยน ต่ำกว่า 5 ขวบ ไม่เสียค่าใช้จ่าย

วิธีการเดินทางไปยังปราสาทโอซุ

จากโตเกียวและโอซาก้า มุ่งหน้าไปปราสาทโอซุ ให้นั่งรถไฟ Shinkansen ไปยังสถานี Okayama แล้วเปลี่ยนขบวนเป็น "Shiokaze" Limited Express สาย Seto ōhashi และลงรถที่สถานี Matsuyama จากสถานี Okayama ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ค่าใช้จ่าย 6,310 เยน

จากสถานี Matsuyama ให้ขึ้น JR Limited express Uwakai ขบวนที่มุ่งหน้าไป Uwakai และลงรถที่ Iyo ōzu ใช้เวลาประมาณ 35 นาที ค่าใช้จ่าย 1,470 เยน จากสถานี Iyo ōzu ไปยังปราสาท ใช้เวลาเดิน 20 นาที

ไฮไลท์ต่างๆ ของปราสาทโอซุ

ตัวปราสาท

ตัวปราสาทโอซุทำจากไม้ทั้งหมด ภายในมีพื้นที่ที่ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นจากสิ่งก่อสร้างที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง มีการจัดแสดงแบบจำลองภายในพื้นที่ปราสาทในอดีต และชุดเกราะที่ซามูไรในอดีตเคยใช้ ด้วย

หอคอยห้องครัว, หอคอยมุมทิศใต้, หอคอยโครัน, หอคอยโอวาตะ

ส่วนใหญ่ๆ ของปราสาท เช่น ตัวปราสาท ได้ถูกแยกส่วนออกไป แต่หอคอยทั้ง 4 (หอคอยห้องครัว, หอคอยมุมทิศใต้, หอคอยโครัน, หอคอยโอวาตะ) ไม่ได้ถูกแยกออก และยังหลงเหลือในสภาพเดิมตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ ได้รับเลือกให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ หอคอยเหล่านี้ อยู่ห่างจากตัวปราสาทแค่ 10 นาที หากมีเวลาเหลือก็ลองแวะไปดูกัน