Start planning your trip
คู่มือเที่ยวเอฮิเมะ: จุดท่องเที่ยวในมัตสึยามะ โดโกะออนเซ็น อิมาบาริ และเกาะต่างๆ
จังหวัดเอฮิเมะในภูมิภาคชิโกะคุมีที่เที่ยวดังมากมายอย่างปราสาทมัตสึยามะ โดโกะออนเซ็น และชิมานามิไคโด บทความนี้จะพาไปชม 2 พื้นที่เที่ยวหลักของเอฮิเมะอย่าง "มัตสึยามะและโดโกะออนเซ็น" ที่รวมแหล่งเที่ยวหลักของจังหวัด และ "อิมาบาริและเกาะต่างๆ" ที่เป็นสุดยอดวิวบนทะเลในเซโตะ
จังหวัดเอฮิเมะ
จังหวัดเอฮิเมะเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของภูมิภาคชิโกะคุ มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างปราสาทมัตสึยามะ โดโกะออนเซ็น และชิมานามิไคโด ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศ
บทความนี้ขอแนะนำข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดเอฮิเมะ 2 พื้นที่ คือ พื้นที่มัตสึยามะ (Matsuyama) และโดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen) ซึ่งมีจุดท่องเที่ยวหลายแห่ง กับพื้นที่อิมาบาริ (Imabari) และเกาะต่างๆ ที่ติดกับทะเลในเซโตะ (Seto Inland Sea)
พื้นที่มัตสึยามะและโดโกะออนเซ็น
พื้นที่มัตสึยามะและโดโกะออนเซ็นอยู่บริเวณตอนกลางของจังหวัด ซึ่งมีที่เที่ยวหลักๆ ในจังหวัดอย่างปราสาทมัตสึยามะและโดโกะออนเซ็นอยู่ ถ้าอยากสัมผัสเสน่ห์ของจังหวัดเอฮิเมะล่ะก็ ที่นี่เป็นพื้นที่แรกที่ต้องไปเยือน บทความนี้จะพาไปที่เที่ยว 6 แห่งในพื้นที่นี้กัน
จุดที่ 1 ปราสาทมัตสึยามะ (Matsuyama Castle)
Photo by PIXTA
ปราสาทมัตสึยามะ (Matsuyama Castle) เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่บนยอดเขาคัตสึยามะ (Mt. Katsuyama) ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 132 เมตร ในเมืองมัตสึยามะ จังหวัดเอฮิเมะ ป้อมปราสาทใหญ่สร้างขึ้นในสมัยเอโดะแห่งนี้เป็น 1 ใน 12 ป้อมปราสาทที่ยังหลงเหลืออยู่ในญี่ปุ่น
สิ่งก่อสร้าง 21 แห่งภายในบริเวณปราสาทรวมทั้งป้อมปราสาทใหญ่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่สำคัญ ภายในมีจุดให้ชมมากมายอย่างป้อมโนฮาระ (Nohara Yagura*) ป้อมที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคชิโกะคุ และบ่อน้ำของฮอนมารุ (ป้อมศูนย์กลางปราสาท) ที่ลึกถึง 44.2 เมตร
วิวพาโนราม่า 360 องศาจากชั้นบนสุดของป้อมปราสาทเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด จะได้ชมวิวของที่ราบมัตสึยามะและทะเลในเซโตะที่งดงาม และเพลิดเพลินกับทิศทัศน์ที่เปลี่ยนไปได้ทั้ง 4 ฤดู
* ป้อมโนะฮาระ ... เป็นป้อมที่มีลักษณะพิเศษตรงที่คานของเพดานชั้น 1 ช่วยรับน้ำหนักของชั้น 2 เอาไว้ เป็นคลังเก็บอาวุธที่ทำจากไม้ มีอีกชื่อว่า ป้อมคิบะ (Kiba-Yagura)
จุดที่ 2 พิพิธภัณฑ์รถไฟบตจัง (Botchan Train Museum)
Photo by PIXTA
พิพิธภัณฑ์รถไฟบตจัง (Botchan Train Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟที่ดำเนินงานโดยบริษัทรถไฟอิโยเทซุ (Iyotetsu) รถไฟสายท้องถิ่นของจังหวัดเอฮิเมะ ภายในจัดแสดงรถไฟบตจัง (*) จำลองเท่าของจริง ซึ่งใช้วิ่งยาวนาน 67 ปี นับตั้งแต่ปี 1888 ก่อนที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเปิดเสียอีก
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นจุดที่จะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของบริษัทรถไฟที่ชาวเมืองคุ้นเคยและเรียกจนติดปากว่า "อิโยเทซุ" ที่นี่เข้าชมฟรีจึงเป็นที่นิยมในหมู่ครอบครัว ปัจจุบัน "รถไฟบตจัง" ของจริงยังวิ่งให้บริการอยู่ระหว่างฟุรุมะจิ – โดโกะออนเซ็น (Furumachi - Dogo Onsen) เวลาที่ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองก็อย่าลืมลองไปใช้บริการดู
* รถไฟบตจัง ... เป็นการนำรถจักรไอน้ำที่ใช้งานช่วงสมัยเมจิ (ค.ศ. 1868 - 1912) จนถึงสมัยโชวะตอนต้น (ถึงค.ศ. 1989) มาให้บริการใหม่ รถจักรไอน้ำทั้ง 18 คันนับเป็นวิธีการเดินทางที่สำคัญของชาวเมืองมัตสึยามะ
จุดที่ 3 อาคารหลักของโดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen Honkan หรือ Dogo Onsen Main Building)
Photo by PIXTA
โดโกะออนเซ็นมีประวัติยาวนานถึง 3,000 ปี สิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของความเก่าแก่นี้คือตัวอาคารหลักของโดโกะออนเซ็น ว่ากันว่าอาคารนี้เป็นต้นแบบของร้านน้ำมันที่ปรากฏในภาพยนตร์อนิเมชั่นชื่อดังเรื่อง Spirited Away ของสตูดิโอจิบลิ
อาคารหลังนี้สร้างด้วยเทคนิคการก่อสร้างของตะวันตก ทำให้มีบรรยากาศโอ่อ่ามากกว่าอาคารแบบญี่ปุ่นทั่วไป ที่ออนเซ็นมีผ้าขนหนูและชุดยูคาตะให้เช่า แม้ไปตัวเปล่าก็เข้าแช่น้ำพุร้อนได้
ภายในอาคารหลักของโดโกะออนเซ็นห้ามถ่ายภาพ กรุณาปฏิบัติตามกฎของออนเซ็นในขณะแช่น้ำพุร้อนกันด้วย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
จุดที่ 4 อาคารแยกของโดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen Annex หรือ Asuka no yu)
Photo by PIXTA
อาซึกะโนะยุ (Asuka no Yu) เป็นโรงอาบน้ำสาธารณะที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนธันวาคม 2017 ได้รับการออกแบบในธีมสิ่งก่อสร้างสมัยอาซึกะ (ค.ศ. 538 - 710)
ลักษณะพิเศษของอาคารแห่งนี้คือการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโดโกะออนเซ็นที่แสดงออกมาโดยใช้ศิลปะแบบดั้งเดิมของจังหวัดเอฮิเมะและเทคโนโลยีทันสมัยล่าสุด เช่น มีการนำเทคนิคอย่าง Projection Mapping มาใช้
มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างการสะท้อนมุมมองของโลกวากะ (Waka*) ในจิตรกรรมฝาผนังบนกระเบื้องห้องอาบน้ำ ห้องพักผ่อนที่จัดไว้ให้บริการก็กว้างขวาง สามารถพักผ่อนสบายๆ ที่นี่ได้ทั้งวันเลย
* วากะ ... เป็นคำทั่วไปที่ใช้เรียกบทกวีทั้งสั้นและยาว เป็นบทกลอนในรูปแบบเฉพาะของญี่ปุ่น
จุดที่ 5 บันซุยโซ (Bansuiso)
Photo by PIXTA
บันซุยโซ (Bansuiso) เป็นอาคารตะวันตกสไตล์เรอเนสซองส์ของฝรั่งเศสที่สร้างขึ้นในปี 1922 บ้านพักตากอากาศของฮักชะคุ (ตำแหน่งขุนนางระดับกลางของญี่ปุ่น) ฮิซามะสึ ซาดะโคโตะ (Hisamatsu Sadakoto) ซึ่งเป็นลูกหลานอดีตผู้ครองแคว้นมัตสึยามะนี้สร้างขึ้นในสมัยไทโช เรียกกันว่า "เรือนรับรองแขกระดับประเทศของมัตสึยามะ" และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่สำคัญซึ่งองค์จักรพรรดิโชวะเคยเสด็จมาเยือน
ในยุคนั้นราชวงศ์และผู้มีชื่อเสียงในแต่ละวงการจะมาเยือนที่นี่ในฐานะสถานที่พบปะสังสรรค์ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น โชคดีมากที่สามารถรอดจากความเสียหายของสงครามโลกครั้งที่ 2 และคงสภาพเหมือนตอนที่สร้างอยู่ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมากมายเดินทางมาเยือนสถานที่อันทรงคุณค่าเพื่อสัมผัสกับ "ความโรแมนติกแบบสมัยไทโช" นี้
จุดที่ 6 อิโยะนาดะ โมโนกาตาริ (Iyonada Monogatari)
Photo by PIXTA
อิโยะนาดะ โมโนกาตาริ (Iyonada Monogatari) เป็นรถไฟท่องเที่ยวที่บริหารงานโดยบริษัทรถไฟ JR ชิโกะคุวิ่งจากสถานีมัตสึยามะ (Matsuyama) ไปสถานียาวาตะฮามะ (Yawatahama) และจากสถานีมัตสึยามะไปสถานีอิโยะโอซุ (Iyo-Ozu) มีขบวนไป-กลับวันละ 2 รอบ รวม 4 เที่ยวต่อวัน
จากขบวนรถสไตล์โมเดิร์นเรโทรสามารถชมทิวทัศน์ชายฝั่งทะเลอิโยนาดะ (Iyo-nada Sea) ที่สวยงามได้ มีพนักงานรถไฟที่ให้ความสำคัญกับการบริการคอยดูแลด้วยความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้เส้นทางรถไฟสายนี้ เนื่องจากเป็นรถไฟแบบระบุที่นั่งทั้งหมดจึงต้องจองล่วงหน้าก่อนเดินทาง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
พื้นที่อิมาบาริและเกาะต่างๆ
เมืองอิมาบาริตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดเอฮิเมะ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงจาก "ทางด่วนนิชิเซโตะ (Nishiseto Expressway)" รู้จักกันในชื่อชิมานามิไคโด เชื่อมระหว่างจังหวัดเอฮิเมะกับเมืองโอโนมิจิ (Onomichi) ของจังหวัดฮิโรชิม่า
นอกจากนี้ระหว่างเมืองอิบามาริและเมืองโอโนมิจิยังมีเกาะสวยๆ เช่น เกาะโอชิมะ (Oshima) เกาะแมวหรือเกาะอาโอชิมะ (Aoshima) อยู่ในบริเวณนั้น เราจะพาไปเที่ยวเมืองอิบาริและเกาะต่างๆ กัน
จุดที่ 1 ชิมานามิไคโด
Photo by PIXTA
ชิมานามิไคโด (Shimanami Kaido) เป็นถนนที่ตัดผ่านทะเลในเซโตะ มีระยะทางรวมประมาณ 60 กิโลเมตร ทั้งรถยนต์และจักรยานสัญจรผ่านได้ ที่นี่เรียกว่าเป็น "สวรรค์ของนักปั่น" เป็นสถานที่ขึ้นชื่อซึ่งสามารถขี่จักรยานเที่ยวพลางชมบรรยากาศของเกาะน้อยใหญ่ในทะเลในเซโตะได้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
จุดที่ 2 พิพิธภัณฑ์ผ้าขนหนูอิมาบาริ (Imabari Towel Museum)
Photo by PIXTA
เมืองอิมบาริเป็นแหล่งผลิตผ้าขนหนูชั้นนำในญี่ปุ่น ในเมืองมีพิพิธภัณฑ์ผ้าขนหนูอิมาบาริ (Imabari Towel Museum) ที่ผสมผสานผ้าขนหนูกับงานศิลป์เข้าด้วยกัน ที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวทั้งผลงานศิลปะที่ทำจากผ้าขนหนูและผ้าฝ้าย ทัวร์ชมขั้นตอนการผลิต และการช็อปปิ้ง
หลังจากเดินเที่ยวเสร็จแล้วก็พักทานอาหารเที่ยงหรือจะนั่งจิบชาที่ร้านภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ได้ และยิ่งถ้าได้ซื้อผ้าขนหนูคุณภาพสูงที่ผลิตในอิมาบาริกลับไปเป็นของฝากด้วยก็คงจะดีไม่น้อย
จุดที่ 3 เกาะโอชิมะ
Photo by PIXTA
เกาะโอชิมะเป็นเกาะเล็กๆ ในกลุ่มหมู่เกาะเกโยะ (Geiyo Islands) ที่มีพื้นที่เพียง 42 ตารางกิโลเมตร ที่เที่ยวยอดนิยมของเกาะโอชิมะคือ สวนสาธารณะคิโรซัง (Kirosan Observatory Park) จุดชมวิวที่คุณคุมา เค็งโกะ (Kuma Kengo) นักสถาปัตยกรรมชาวญี่ปุ่นเป็นผู้ออกแบบ
วิวที่เห็นจากมุมนี้พูดได้ว่าเป็นสุดยอดวิว ภาพของสะพานคุรุชิมะไคเคียว (Kurushima-Kaikyo Bridge) และเกาะต่างๆ ที่สาดส่องด้วยแสงอาทิตย์ยามเย็นช่างงดงามราวกับความฝัน ถ้าได้ขับรถหรือขี่จักรยานชมสุดยอดวิวหนึ่งเดียวของชิมานามิไคโดะก็คงจะดีไม่น้อย
จุดที่ 4 เกาะอาโอชิมะ
Photo by PIXTA
เกาะอาโอชิมะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสวรรค์ของแมว ไม่กี่ปีมานี้หลังจากสื่อได้นำเสนอข่าวว่าที่นี่เป็นเกาะที่ประชาชน 15 คนอาศัยร่วมกับแมว 100 ตัว ทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเกาะนี้เพิ่มขึ้น
สำหรับคนที่ชอบแมวต้องไม่พลาดที่นี่ แต่ก่อนไปเที่ยวต้องเตรียมตัวกันก่อน อย่างแรก เช็ควิธีการเดินทางกันก่อน เที่ยวเรือไปเกาะอาโอชิมะมีเพียงวันละ 2 เที่ยว แต่ละเที่ยวรับคนได้แค่ประมาณ 30 คน ช่วงวันหยุดยาวคนจะแน่น แนะนำให้ไปวันธรรมดาที่คนไม่เยอะจะดีกว่า
ภายในเกาะไม่มีที่พัก ไม่มีร้านอาหารและตู้ขายอัตโนมัติ ควรเตรียมอาหารและเครื่องดื่มก่อนขึ้นเรือไปที่เกาะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
อาหารขึ้นชื่อของเอฮิเมะ
Photo by PIXTA
อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดเอฮิเมะคือไทเมชิ (Tai Meshi) มี 2 แบบ ได้แก่ "อุวาจิมะไทเมชิ (Uwajima Tai Meshi)" ข้าวหน้าซาชิมิปลาไทโรยหน้าด้วยผักหรือเครื่องเทศแล้วราดด้วยน้ำซุปดาชิ กับ "อิมาบาริไทเมชิ (Imabari Tai Meshi)" ที่นำปลาไปหุงพร้อมกับข้าว ไม่ว่าแบบไหนก็หากินได้ที่ร้านอาหารในจังหวัด ลองชิมเปรียบเทียบกันดูนะ
ส่วนของฝากที่ได้รับความนิยมก็คือขนมญี่ปุ่นขึ้นชื่ออย่าง ดังโกะบตจัง ดังโกะสามสีเสียบไม้ และ โพเอ็ม (Poeme) แป้งชุ่มเนยสอดไส้ชิโรอังโกะ (ถั่วขาวกวน) ที่ละลายในปาก
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
วิธีการเดินทางไปจังหวัดเอฮิเมะ
ขอแนะนำการเดินทางจากโตเกียวไปมัตสึยามะ และจากมัตสึยามะไปอิมาบาริ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้
การเดินทางจากสถานบินฮาเนดะโตเกียวโดยเครื่องบิน จนถึงสถานี JR มัตสึยามะ
จากสนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) ไปถึงสนามบินมัตสึยามะ (Matsuyama Airport) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ค่าตั๋วประมาณ 10,000 - 20,000 เยน จากสนามบินมัตสึยามะนั่งรถบัสลิมูซีน (limousine bus) ไปสถานีรถไฟ JR เมืองมัตสึยามะ (JR Matsuyama City) การเดินทางโดยรถบัสใช้เวลาประมาณ 15 นาที ค่าโดยสาร 560 เยน
การเดินทางจากมัตสึยามะไปถึงอิมาบาริ
กรณีเดินทางโดยรถไฟจากสถานีเมืองมัตสึยามะ (Matsuyama City) ขึ้นรถไฟอิโยเทสึ (Iyo Railway train) ไปที่สถานีมัตสึยามะ (Matsuyama) ค่าโดยสาร 160 เยน แล้วจากสถานีมัตสึยามะก็ขึ้นรถไฟ JR สายโยซัง (JR Yosan Line) ที่มุ่งหน้าไปทาโดสึ (Tadotsu) แล้วลงที่สถานีอิมาบาริ (Imabari) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ค่าโดยสาร 970 เยน
จากสถานีมัตสึยามะ ถ้าใช้บริการรถไฟด่วนชิโอคาเซะ (Limited Express Shiokaze) จะเดินทางไปถึงอิมาบาริได้ใน 40 นาที ค่าโดยสาร 1,500 เยน
เดินทางด้วยรถบัสด่วน หรือรถบัสเที่ยวกลางคืนกัน! ค้นหาตั๋วในราคาต่ำสุด
บทส่งท้าย
จังหวัดเอฮิเมะเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มีพร้อมทั้งออนเซ็น จุดชมวิวสวยๆ สิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ เพราะเป็นจุดท่องเที่ยวที่จะได้รับประสบการณ์ต่างจากโตเกียว โอซาก้า และเกียวโต จึงมีนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ความงามของทะเลในเซโตะซึ่งถูกเรียกว่า "ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก" เป็นจุดที่ไม่ควรพลาด ถ้ามาเที่ยวทางด้านตะวันตกของญี่ปุ่นก็อย่าลืมมาเที่ยวจังหวัดเอฮิเมะกัน
Main image by Pixta
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง