【จังหวัดคานากาวะ】ที่ที่น่าสนใจเต็มไปหมด！"ศาลเจ้าเอโนชิมะ" ที่บูชาเทพเจ้าหลายองค์ริมชายหาด

ศาลเจ้าเอโนชิมะตั้งอยู่บนเกาะเอโนชิมะ จังหวัดคานากาวะ นับเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีเบ็นไซเท็นใหญ่หนึ่งในสามของประเทศญี่ปุ่น เบ็นไซเท็นหมายถึงเทพเจ้าด้านความบันเทิงและโชคลาภที่ศรัทธากันอย่างกว้างขวาง ศาลเจ้าที่มีเบ็นไซเท็นประดิษฐานอยู่อีก 2 แห่งนั้นคือ ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะในจังหวัดฮิโรชิมะ และศาลเจ้าสึคุบุสุมะในจังหวัดชิกะ

ที่ศาลเจ้าเอโนชิมะ นอกจากเบ็นไซเท็นแล้ว ยังมีการสักการะบูชาเทพเจ้าองค์อื่นๆ อีก นั่นก็คือเทพเจ้าสามใบเถาที่เกิดจากอามะเทราสุโอกามิ(※1)กับสุสะโนะโอะโนะมิโคโตะ(※2) ที่อยู่ในตำนานเทพเจ้าของญี่ปุ่น 3 เทพเจ้าที่เป็นผู้หญิงนั้นประดิษฐานที่ยะชิโระ(※3) ซึงแต่ละแห่งได้รับการขนานนามว่าเฮะสึมิยะ, นากะสึมิยะ, โอคุสึมิยะ

※1：อามะเทราสุโอกามิ……เทพเจ้าผู้หญิงในตำนานเทพเจ้าญี่ปุ่น ครอบครองโลกสวรรค์
※2：สุสะโนะโอะโนะมิโคโตะ……เทพเจ้าที่อยู่ในตำนานเทพเจ้าญี่ปุ่น เป็นน้องชายของอามะเทราสุโอกามิ
※3：ยะชิโระ……หมายถึง สิ่งก่อสร้างที่ไว้ประดิษฐานเทพ

เมื่อถึงเอโนชิมะแล้ว ก็จะมองเห็นสะพานเอโนชิมะเบ็นเท็นแห่งนี้ สะพานนี้ (ความยาว 389 เมตร) ถูกสร้างขึ้นพร้อมกับการแข่งขันเรือยอทช์ตอน Tokyo Olympics ที่จัดขึ้นในปี 1964 ด้านซ้ายและขวามีทะเลกว้างใหญ่ มองเห็นคนที่กำลังเล่นกีฬาทางน้ำได้ด้วย

เมื่อข้ามไปถึงปลายสะพาน ก็จะเห็นโทริอิสีฟ้า นี่คือสิ่งที่เรียกว่าเซโดโนะโทริอิ เป็นทางเข้าเกาะเอโนชิมะ จากจุดนี้ไปจะเป็นถนนนากะมิเสะโดริที่เต็มไปด้วยร้านค้า จึงครึกครื้นเป็นอย่างมาก

เดินจากเซโดโนะโทริอิไปประมาณ 2 ถึง 3 นาที ก็จะเริ่มมองเห็นโทริอิสีแดงชาดสดใสตั้งตระหง่านอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับเซโดโทริอิเมื่อสักครู่ โทริอินี้เรียกตามสิ่งที่เห็นเลยว่า โทริอิสีแดง

เมื่อผ่านโทริอิสีแดง และเดินขึ้นบนบันไดหิน ก็จะมองเห็นประตูซุยชิงมง ประตูนี้สร้างขึ้นเลียนแบบปราสาทริวกุ(※4) ว่ากันว่าที่ตั้งชื่อนี้ ก็เพื่อให้คนที่มากราบไหว้ได้ไหว้ด้วยหัวใจที่อ่อนโยนและกระชุ่มกระชวย

กำแพงและเพดานที่วาดรูปสิงโตและดอกโบตั๋นก็เป็นสิ่งที่ห้ามพลาดชม สิงโตมีความหมายถึงการขอพรให้ผู้ที่มากราบไว้ได้รับการคุ้มครอง และรอดปลอดภัยจากภยันตรายต่างๆ

※4：ปราสาทริวกุ……ปราสาทของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ตั้งอยู่ในทะเล และปรากฎในเรื่อง "อุระชิมะทาโร่" ตำนานที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น