Unseen Japan สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งฤดูหนาวของเมืองมัตสึโมโตะ 2 วัน 1 คืน

เที่ยว 2 วัน 1 คืน รับพลังจากเกาะศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้าคิงคะซัง โคกาเนะยามะ จังหวัดมิยางิ (Miyagi)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

ศาลเจ้าคิงคะซัง โคกาเนะยามะ ในจังหวัดมิยางิ ภูมิภาคโทโฮคุ ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ช่วยเสริมโชคลาภ ว่ากันว่าถ้าไปสักการะที่นี่ 3 ปีติดต่อกัน จะไม่ลำบากเรื่องเงินไปตลอดชีวิต ครั้งนี้เราขอแนะนำการไปพักแรมที่ศาลเจ้า และสัมผัสชีวิตที่เงียบสงบบนเกาะกันค่ะ

บทความโดย

Miho Moriya

Tokyo,Japan

MATCHA editor and freelance writer. Born, raised, and currently living in Tokyo. Have visited over 30 countries and lived in four different prefectures. I have traveled to almost all 47 prefectures in Japan! I try to create articles that help convey the charms of a destination through words and pictures. I love forests, temples, and camels.
more

ศาลเจ้าคิงคะซังโคกาเนะยามะ ที่สถิตของเทพเจ้าแห่งโชคลาภ

"ถ้ามาไหว้ที่นี่ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี จะไม่ลำบากเรื่องเงินไปตลอดชีวิต" เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาถึงความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าคิงคะซังโคกาเนะยามะ (Kinkasan Koganeyama Shrine, จากนี้จะเรียกว่า ศาลเจ้าโคกาเนะยามะ) ในจังหวัดมิยางิ (Miyagi) สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการขุดแร่ทองได้เป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น

ศาลเจ้าโคกาเนะยามะได้รับบริจาคจากผู้มีอำนาจมากมายมาตั้งแต่สิ้นยุคเฮอัน เกาะทั้งเกาะได้รับการเคารพนับถือว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าเรียกได้ว่าเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์เลย มีผู้ปฏิบัติธรรมจำนวนมากมาเยือนไม่ขาด นอกจากนั้นยังมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นนิฮงโกะได เบ็นไซเท็น (*1) เทียบเคียงกับศาลเจ้าเอโนะชิมะ และ ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ

วิธีนมัสการที่นี่ตั้งแต่อดีตส่วนใหญ่มักจะมาค้างที่ชุคุโบ (ที่พักสำหรับแขกที่มานมัสการวัดหรือศาลเจ้า) ที่อยู่ในบริเวณเดียวกันกับศาลเจ้า 1 คืน ถึงหลังๆ จะมีผู้มานมัสการแบบไปกลับเยอะขึ้น แต่สำหรับผู้ที่อยากสัมผัสพิธีการที่เป็นเอกลักษณ์ของศาลเจ้า และอยากใช้เวลาเงียบสงบห่างไกลจากผู้คน แนะนำให้มานมัสการแบบพักแรมค่ะ

*1 : นิฮงโกะได เบ็นไซเท็น ... 5 ศาลเจ้าใหญ่ที่สักการะเบ็นไซเท็น หนึ่งในเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด ได้แก่ ศาลเจ้าโคกาเนะยามะ, ศาลเจ้าเอโนะชิมะ, ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ, ศาลเจ้าจิคุบุชิมะ (จังหวัดชิกะ), ศาลเจ้าเท็นคาวะไดเบ็นไซเท็นชะ (จังหวัดนารา)

คิงคะซัง เกาะที่มีกวางเยอะกว่าคน

เกาะคิงคะซัง (Kinkasan Island) ที่ตั้งของศาลเจ้าโคกาเนะยามะ เป็นเกาะเดี่ยวเล็กๆ ที่อยู่ในเขตอิชิโนะมากิ จังหวัดมิยางิ ในภูมิภาคโทโฮคุ การเดินทางให้นั่งรถไฟจากสถานีเซ็นไดไปประมาณ 1 ชั่วโมงลงที่สถานีอิชิโนะมากิ จากนั้นต่อรถบัสไปยังท่าเรือ และจากท่าเรือให้นั่งเฟอร์รี่ข้ามไปยังเกาะคิงคะซังค่ะ

เมื่อไปถึงแล้ว สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือกวางจำนวนมหาศาล! ผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะมีแค่คนที่ทำงานในศาลเจ้าไม่กี่คนเท่านั้น แต่จำนวนของกวางป่าที่อาศัยอยู่ที่นี่มีถึง 500 ตัว และลิงอีกกว่า 250 ตัวค่ะ แต่อาจจะเพราะหลบคนหรือเปล่า จึงไม่ค่อยได้เห็นเท่าไร กวางที่อยู่บนเกาะนี้ได้รับการอนุรักษ์อย่างสำคัญในฐานะผู้รับใช้ของเทพเจ้าค่ะ

ความน่ารักของกวางน้อยอาจทำให้เรารู้สึกอยากเข้าใกล้ แต่ตัวผู้ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ (กันยายนถึงพฤศจิกายน) และตัวเมียในช่วงคลอดและเลี้ยงลูก (พฤษภาคมถึงกรกฎาคม) อาจดุเป็นพิเศษ จึงต้องระมัดระวังในช่วงเวลาดังกล่าวด้วยนะคะ แต่ถึงแม้จะมีช่วงที่ดุบ้าง แต่โดยพื้นฐาน กวางเป็นสัตว์ที่เชื่องอยู่แล้ว ภาพกวางน้อยที่กำลังกินอาหารอย่างเชื่องช้านี่น่ารักดูเพลินมากค่ะ

สถานที่ที่เอ่อล้นไปด้วยพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์มากมาย

นอกจากศาลเจ้าโคกาเนะยามะ ยังมีศาลเจ้าอื่นๆ อีกรวม 8 แห่ง แต่ละแห่งก็อยู่ในป่าในเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และสายน้ำบริสุทธิ์ รู้สึกได้ถึงพลังของธรรมชาติเลยค่ะ เราจะขอแนะนำวิธีชาร์จพลังให้ร่างกายและจิตใจระหว่างอยู่ที่นี่กันค่ะ

1. สักการะเบ็นไซเท็น ชำระล้างเงิน

บ่อน้ำเล็กๆ ที่มีน้ำไหลจากปากมังกรนี้คือบ่อล้างเงิน ให้เอาเงินใส่ในตะกร้า ในรูปคือภาพการนำเงินใส่ตะกร้าแล้วเอาไปแกว่งในน้ำ แล้วก็เอาเงินเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์จะทำให้เฮงค่ะ

ภายในศาลเจ้าโคกาเนะยามะไม่มีท่อประปา น้ำที่คนของศาลเจ้าใช้ในชีวิตประจำวันก็เป็นน้ำจากธรรมชาติอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ผ่านการกรองจากธรรมชาติของคิงคะซัง ที่นี่ยังเป็นที่สถิตของเทพเจ้าแห่งน้ำด้วยค่ะ

บริเวณรอบๆ บ่อล้างเงินก็มีวิวสวยๆ ให้ดู ถ้ามีเวลาก็ลองปีนขึ้นเขาไปยังโอวาดะสึมิจินจะ จุดนมัสการเทพเจ้าแห่งทะเล บนยอดเขาคิงคะซังได้ค่ะ ใช้เวลาปีนขึ้นประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้าไม่มีเวลาพอก็นมัสการตรงจุดนี้อย่างเดียวก็พอค่ะ

2. สัมผัสต้นไม้ใหญ่อายุกว่าร้อยปี

ภายในเขตศาลเจ้ามีต้นไม้ขนาดใหญ่มหึมาจำนวนมาก ที่เห็นในรูปบนนี้คือต้นสนเคียงต้นเมเปิ้ล ต้นไม้ต่างชนิด 2 ต้นที่ลำต้นพันเกี่ยวเติบโตขึ้นเคียงกัน ดูยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามเหลือเกินค่ะ

ต้นไม้ด้านขวาในรูปคือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุกว่า 800 ปี ว่ากันว่าเป็นต้นไม้ที่มีเทพเจ้าสิงสถิตอยู่ ลำต้นมีรอยแตกใหญ่ และมีขนาดใหญ่มากถึงขนาดที่คนสามารถเข้าไปได้ง่ายๆ

นอกจากนั้น ยังมีต้นไม้ใหญ่อื่นๆ ตั้งตระหง่านอีกมากมาย เช่น ต้นทาบุโนกิ (ด้านซ้ายในรูป) ที่ลำต้นมีรอยขรุขระขนาดใหญ่ ทำให้สัมผัสได้ถึงพลังความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติจริงๆ

3. เสริมโชคลาภที่ศาลเจ้าโคกาเนะยามะ

เราสามารถเข้าไปยังวิหารหลักที่เทพเจ้าสถิตได้แค่ 3 สัปดาห์เท่านั้นในหนึ่งปี คือช่วงเทศกาลฮัตสึมิไทไซ เดือนพฤษภาคม, นานะโจไซ ระหว่าง 1-7 มกราคม และคิวโชกัตสึนานาโจไซ วันปีใหม่โบราณ (*2) ค่ะ โดยปกติแล้วจะนมัสการผ่านไฮเด็น (วิหารนมัสการสำหรับกราบไหว้เทพเจ้า) เดินขึ้นบันไดราว 100 ขั้นนี้ขึ้นไปก็จะถึงไฮเด็นค่ะ

กำหนดการเทศกาล เทศกาลฮัตสึมิไทไซ 8-14 พฤษภาคม ปี 2019 วันจัดงานในแต่ละปีจะไม่เหมือนกันค่ะ

*2 : วันปีใหม่โบราณ ... วันปีใหม่เก่า (ตามปฏิทินสุรยจันทรคติ) ในแต่ละปีจะไม่เหมือนกัน โดยจะเป็นช่วงปลายเดือนมกราคมจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี

จุดเด่นที่ศาลเจ้านี้แตกต่างกับศาลเจ้าทั่วไปคือบริเวณเชือกลั่นระฆังมีเหรียญ 5 เยนและเหรียญ 50 เยนผูกติดอยู่ ไม่รู้ว่าผู้ที่มาสักการะเริ่มนำมาผูกไว้ตั้งแต่เมื่อไร แต่เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี น้ำหนักของเงินก็ทำให้มันร่วงลงมา จึงต้องเปลี่ยนเชือกปีละครั้ง

ทั้งวิหารหลักและวิหารนมัสการถูกสร้างขึ้นช่างไม้ผู้เชี่ยวชาญในสมัยเมจิ มีความแข็งแรงมากกว่าสิ่งก่อสร้างในปัจจุบันเสียอีก ตอนแผ่นดินไหวใหญ่บริเวณตะวันออกของประเทศญี่ปุ่นในปี 2011 (ต่อจากนี้จะเรียกว่า แผ่นดินไหว) ก็มีแค่เพียงที่นี่เท่านั้นที่ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น ลองไปสำรวจรายละเอียดอย่าง การประกอบไม้ของเสา หลังคา และส่วนอื่นๆ กันดูนะคะ

สำหรับคนที่ร่างกายฟิตพร้อม ลองไปปีนเขากันค่ะ

ด้านข้างศาลเจ้ามีทางปีนเขาไปยังศาลเจ้ามิซุและศาลเจ้าโอวาดะสึมิที่อยู่บนยอดเขา ใช้เวลาปีนขึ้นเขาประมาณ 1 ชั่วโมง เนื่องจากมีทางลาดชันและมีบางจุดที่ต้องเดินบนหินผาด้วย จึงควรสวมรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าปีนเขา และเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนมาปีนค่ะ

บนยอดเขามองเห็นวิวที่สวยงามของมหาสมุทรแปซิฟิกอันแสนกว้างใหญ่ ในวันที่มีเมฆครึ้ม ให้บรรยากาศเหมือนในโลกจินตนาการ ส่วนวันที่อากาศแจ่มใส ท้องฟ้ากับน้ำทะเลจะมีสีฟ้าชัดเจนและสวยงามมาก ถ้ามาพักค้างคืน และปีนเขาในเช้าวันรุ่งขึ้น จะทำให้ตาสว่างและรู้สึกดีมากๆ แน่นอนค่ะ

ข้อควรระวังก็คือไม่ขึ้นไปเกินกว่าบริเวณยอดเขา เพราะอาจมีถนนถล่มจากผลกระทบจากแผ่นดินไหวได้ เมื่อขึ้นไปถึงยอดแล้วให้กลับลงไปทางเดิมค่ะ

พักค้างคืนแล้วตื่นไปทำวัตรเช้ากัน

ภายในเขตศาลเจ้ามี ซังชูเท็น สถานที่พักแรมสำหรับผู้เดินทางมานมัสการ แนะนำให้มาพักสักคืน เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน และเป็นเอกลักษณ์ของศาลเจ้าโคกาเนะยามะด้วยค่ะ

ขอแนะนำสิ่งที่เราต้องทำในการมาพักค้างแรม 2 วัน 1 คืนนะคะ ถ้ามาถึงช่วงเที่ยง ให้เข้าไปสักการะที่ศาลเจ้า พอช่วงเย็นราว 16:00-18:00 ก็ไปแช่โอฟุโระจากน้ำธรรมชาติ ตกกลางคืนก็ทานอปลาที่จับได้ในละแวกนั้น จากนั้นก็พักผ่อนอย่างให้สบายค่ะ ในเช้าวันถัดไป ตั้งแต่เวลา 6:30-7:30 เราจะได้สัมผัสพิธีการแบบชินโต อิจิบังโอโกะมะคิโต กันค่ะ

เวลาของกิจกรรมในช่วงเช้าจะแตกต่างกันไปในแต่ละเดือน ให้สอบถามเวลาในช่วงนั้นๆ กับคนของศาลเจ้าตอนเข้าพักนะคะ

โอโกะมะคิโต หมายถึง โกะมะคิ (ในรูป) แท่งไม้ที่เขียนคำอธิษฐานของผู้สักการะไว้ เดิมทีโกะมะเป็นหนึ่งในพิธีการของศาสนาพุทธ การทำพิธีนี้ในศาลเจ้าถือว่าแปลก ไม่ค่อยมีให้เห็นค่ะ ว่ากันว่านี่เป็นหนึ่งในร่องรอยของชินบุตสึชูโก (*3) ตั้งแต่ก่อนสมัยเมจิ

ในศาลเจ้าโคกาเนะยามะจะสวดภาวนาเสริมโชคลาภและขอให้การค้าเจริญรุ่งเรือง โดยไฟของโกะมะจะเผาผลาญภัยพิบัติให้หมดไป และให้กำเนิดโชคชะตาใหม่

*3 : ชินบุตสึชูโก ... เหตุการณ์ที่ลัทธิชินโตกับศาสนาพุทธได้รับการรวมเป็นหนึ่งเดียว ก่อนจะถูกแยกจากกันในสมัยเมจิ

มิโกะกำลังจะรำถวายเพื่อให้ควันของโกะมะคิกระจายไป ช่วยเพิ่มบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ให้กับพิธีขึ้นไปอีกเท่าตัวเลยค่ะ

หลังจากที่สวดภาวนาเสร็จแล้วเราจะดื่มสาเกญี่ปุ่นที่เรียกว่าโอมิกิหนึ่งจอก นี่เป็นเหล้าศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังแห่งจิตวิญญาณของเทพเจ้าอยู่

ราคาของที่พัก รวมอาหารเช้า - เย็น และการสวดภาวนา เริ่มต้นที่ 10,000 เยน (รวมภาษีแล้ว) รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ทางการ ในกรณีที่จะมารับการสวดภาวนาแบบไปเช้าเย็นกลับ เริ่มต้นที่ 5,000 เยนค่ะ

แนะนำให้ไปค้างคืนช่วงเทศกาล เพื่อสัมผัสกับศาลเจ้าให้เต็มที่

ช่วงที่อยากให้แนะนำไปค้างแรมที่ศาลเจ้าคือช่วงที่มีงานเทศกาลค่ะ ช่วงที่คนนิยมไปก็คือ เทศกาลจาโอโดริโฮโน ที่จัดขึ้นวันเสาร์อาทิตย์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม และเทศกาลตัดเขากวางเทพเจ้า ในวันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม

ในเทศกาลจาโอโดริโฮโน มีผู้คนแต่งกายในชุดพิเศษเชิดมังกรเป็นขบวนยาวร่วม 20 เมตร ก้องกังวานไปด้วยเสียงเครื่องดนตรี ให้คะแนนความอลังเต็มสิบเลยค่ะ

ส่วนเทศกาลตัดเขากวางเทพเจ้าในเดือนตุลาคม มีขึ้นเพื่อไม่ให้กวางตัวผู้ที่เริ่มดุร้ายในช่วงฤดูผสมพันธุ์นี้ทำอันตรายกับผู้คน จะมีการจับกวางที่อยู่รอบๆ ศาลเจ้าประมาณ 15 ตัวมาตัดเขาออก เป็นการเผชิญหน้ากับกวางที่ดูราวกับกำลังต่อสู้กันยังไงยังงั้นเลยค่ะ

ยังมีเทศกาลที่จัดขึ้นในเดือนอื่นๆ อีกเยอะ ลองวางแผนมาเที่ยวให้ตรงกับช่วงเทศกาลเพื่อจะได้สัมผัสประสบการณ์แสนพิเศษกันได้ค่ะ

การเดินทาง

เนื่องจากเป็นเกาะที่โดดเดี่ยวอยู่กลางทะเล จึงต้องเช็คการเดินทางก่อนล่วงหน้าสักหน่อย ด้วยผลกระทบจากแผ่นดินไหว ทำให้เที่ยวเรือที่ข้ามไปยังเกาะมีเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น (ข้อมูลปี 2018) เรือจะเดินทางจากท่าเรือโอนากาวะ หรือท่าเรืออายุคาวะในเขตอิชิโนะมากิค่ะ

กรณีที่จะไปพัก 1 คืน สามารถขึ้นเฟอร์รี่ที่ออกจากท่าเรือโอนะกาวะได้ในวันเสาร์ แล้วค่อยนั่งเรือกลับไปท่าเรืออายุคาวะในวันอาทิตย์ เพื่อไปเที่ยวเมืองอิชิโนะมากิค่ะ

การเดินทางจากท่าเรือโอนะกาวะ

ท่าเรือโอนะกาวะมีเรือเที่ยวเฉพาะกิจออกทุกๆ วันเสาร์ ซึ่งโปรแกรมในแต่ละวันจะไม่เหมือนกัน ในวันอาทิตย์จะมี 1 เที่ยวออกเวลา 11:00 โดยจะใช้เวลาทั้งหมด 35 นาที ค่าโดยสาร 1,550 เยน ในกรณีที่ไปกลับให้ขึ้นเรือที่ออกจากคิงคะซังเวลา 13:30

รายละเอียดเพิ่มเติม ตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ทางการ หรือไม่ก็สอบถามที่ศาลเจ้าตอนจองที่พักได้เลยค่ะ ใช้ภาษาอังกฤษง่ายๆ คนของทางศาลเจ้าใจดี จะช่วยเหลือเราอย่างแน่นอนค่ะ

ท่าเรือโอนะกาวะ
ที่อยู่ : Miyagasaki Jizaki, Miyagasaki, Onagawa, Oaka, Miyagi Google Maps
การเดินทาง : เดิน 15 นาทีจาก JR สถานี Onagawa

การเดินทางจากท่าเรืออายุคาวะ

เรือจะออกทุกวันอาทิตย์ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 20 นาที ค่าโดยสารไปกลับ 2,500 เยน โดยจะออกจากท่าเรืออายุคาวะเวลา 10:30 และท่าเรือคิงคะซังเวลา 12:30

แม้จะเป็นเที่ยวเรือที่มีกำหนดออกแน่นอน แต่ก็จำเป็นต้องจองก่อนทางโทรศัพท์ ในกรณีที่จะค้างคืนและขึ้นเรือที่ออกจากคิงคะซัง ก็ต้องสอบถามกับคนของศาลเจ้าก่อนเพื่อความชัวร์ค่ะ

ในกรณีที่อยากไปในวันธรรมดา ต้องติดต่อและเดินทางด้วยแท็กซี่ทางน้ำ (เรือเร็ว) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ ลำละ 15,000 เยน และมีให้บริการเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น ถ้าไปเสาร์อาทิตย์จะสะดวกกว่าค่ะ

ท่าเรืออายุคาวะ
ที่อยู่ : 70 Minami, Ayukawahama, Ishinomaki, Miyagi Google Maps
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากสถานีอิชิโนะมากิประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที (1,500 เยน)

ไปเที่ยวอิชิโนะมากิ หลังจากไหว้เจ้าที่ศาลเจ้าโคกาเนะยามะ

จากท่าเรืออายุคาวะไปยังสถานีอิชิโนะมากิ สามารถนั่งเรือหรือรถบัสไปได้ รถบัสช่วงบ่ายจะออกเวลา 13:22, 16:21 (ข้อมูลปี 2018) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที

ในเมืองอิชิโนะมากิมีรูปปั้นตัวการ์ตูนต่างๆ ตั้งไว้อยู่ทั่วเมือง และยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะของอิชิโนะโมริ โชทาโร่ นักวาดการ์ตูนที่สร้างผลงานอย่างคาเมนไรเดอร์และอื่นๆ อีกด้วย แม้ว่าจะได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ แต่ก็ได้รับการฟื้นฟูและมีการสร้างร้านใหม่ขึ้นมาด้วย

COMMON-SHIP Hashi-Dori (คอมมอนชิพ ฮาชิโดริ) เป็นย่านร้านยะไต (ร้านแผงลอย) ในบรรยากาศอบอุ่น เดินจากสถานีรถไฟไปประมาณ 10 นาที เราจะได้ทานอาหารท้องถิ่นที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยเป็นอย่างดี เช่น ยากิโทริ ของทอดเสียบไม้คุชิอาเกะ และแกงกะหรี่

อิชิโนะมากิยากิโซบะ เป็นอาหารเกรด B ที่อยากให้ลองชิมให้ได้ค่ะ เมนูนี้เป็นยากิโซบะที่ลวกเส้น 2 ครั้งด้วยซุปดาชิจากอาหารทะเล ถ้ามาที่นี่ก็ไปชิมได้ที่ร้าน Teppan Desu WHITE ทางร้านใช้ซอสแบบพิเศษด้วยนะคะ

ซอสมีรสชาติไม่จัดมาก ทานได้เรื่อยๆ ไม่เลี่ยนเลย ตอนแรกขอให้ลองทานเส้นแบบนั้นก่อน จากนั้นค่อยคลุกไข่แดงให้เข้ากับเส้น เพลิดเพลินได้สองรสชาติในจานเดียวค่ะ

นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในสามเขตจับปลาที่ใหญ่ระดับโลกอีกด้วย ความอร่อยของอาหารทะเลสดใหม่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้านนี้เลยค่ะ อาหารทะเลอร่อยๆ สามารถหาทานที่ร้าน Ishinomaki Genki Ichiba ที่อยู่ไม่ไกลจาก COMMON-SHIP Hashi-Dori ได้ค่ะ

ไปพักผ่อนบนเกาะ สัมผัสประสบการณ์ที่ต่างจากชีวิตประจำวัน

ศาลเจ้าโคกาเนะยามะ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้คนหลากหลายเดินทางมานมัสการตั้งแต่อดีต ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เคยมีเที่ยวเรือออกวันละหลายครั้ง และมีผู้ศรัทธาสัญจรไปมามากมาย

แม้ว่าจำนวนเรือและจำนวนผู้โดยสารจะจำกัด แต่ก็ทำให้เหมาะจะไปใช้เวลาเงียบสงบราวกับตัดขาดจากโลกภายนอกในระยะสั้นๆ อย่างยิ่ง ลองไปสัมผัสโลกอีกใบที่แตกต่างไปจากเดิมที่เกาะคิงคะซังดูไหมคะ

In cooperation with Kinkakusan Kagoneyama Shrine, Man-bow co., Ltd (COMMON-SHIP Hashi-Dori)

บทความโดย

Miho Moriya

Tokyo,Japan

MATCHA editor and freelance writer. Born, raised, and currently living in Tokyo. Have visited over 30 countries and lived in four different prefectures. I have traveled to almost all 47 prefectures in Japan! I try to create articles that help convey the charms of a destination through words and pictures. I love forests, temples, and camels.
more
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง