ชมวิวงามจับตา เดินเที่ยวธรรมชาติ ทำของฝากด้วยตัวเอง! แผนเที่ยวค้นพบสิ่งใหม่ๆ ในวันเดียวที่ฮาโกเน่

9:15 จากสถานีมิชิมะ (Mishima) ไปมิชิมะสกายวอล์ค (MISHIMA SKYWALK)

เส้นทางที่จะแนะนำในคราวนี้สามารถใช้ตั๋ว “ฮาโกเน่ ฟรีพาส” พาสสุดสะดวกสำหรับเดินทางไม่จำกัดในฮาโกเน่และรับส่วนลดตามสถานที่ต่างๆ (บางสถานที่ไม่ร่วมรายการ) โดยทั่วไปแล้วหากไม่มีข้อยกเว้นระบุเป็นพิเศษ ขอเพียงมีพาสนี้ก็สามารถใช้บริการพาหนะต่างๆ ได้ฟรี!

มาเริ่มคว้าพาสไปออกเดินทางเที่ยวฮาโกเน่กันอย่างสนุกสนานและคุ้มค่าเลยดีกว่า!

เริ่มจากไปจุดชมวิวภูเขาฟูจิที่มิชิมะสกายวอล์คกัน จากหน้าสถานีมิชิมะ ขึ้นรถ Tokai Bus Orange Shuttle ที่ป้ายรถบัสหมายเลข 5 ซึ่งจะมีรถออกในเวลา 9:15 อย่าลืมแสดง “ฮาโกเน่ ฟรีพาส” ให้พนักงานขับรถดูตอนขึ้นรถนะ

9:45 วันฟ้าโปร่งจะเห็นภูเขาฟูจิด้วย! สะพานแขวนที่หนึ่งในญี่ปุ่น “มิชิมะสกายวอล์ค”

มิชิมะสกายวอล์ค นี้มีความยาว 400 เมตร เป็นสะพานแขวนสำหรับคนเดินที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น วันที่ฟ้าเปิดจะมองเห็นภูเขาฟูจิกับอ่าวซุรุงะ (Suruga Bay) จากสะพานได้ด้วย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

ทางเข้าสกายวอล์คจะมีจุดชมวิวอยู่ เราสามารถถ่ายรูปสวยๆ ของสะพานแขวนได้จากที่นี่ เมื่อข้ามสะพานไปอีกฝั่งจะมีสวนป่าผจญภัยฮาโกเน่ (Forest Adventure Hakone) ซึ่งสามารถสนุกกับกิจกรรมผจญภัยกลางแจ้งได้ แถมยังมีร้านขายของฝากกับคาเฟ่ด้วย

สวนสกายการ์เด้น (Sky Garden) ในบริเวณทิศใต้ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน ภายในอาคารมีดอกไม้บานตลอดทั้งปี ถึงจะมาในวันฝนตกก็มีจุดให้เที่ยวชมมากมาย! ค่าขึ้นสะพานแขวนอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 1,000 เยน นักเรียนมัธยม 500 เยน นักเรียนประถม 200 เยน ถ้าโชว์ “ฮาโกเน่ ฟรีพาส” จะได้ส่วนลดเหลือ ผู้ใหญ่ 900 เยน นักเรียนมัธยม 450 เยน นักเรียนประถม 180 เยน (ทั้งหมดเป็นราคารวมภาษีแล้ว)

เพลินกับวิวสวยๆ ที่มิชิมะสกายวอล์คจนเต็มอิ่มแล้ว ก็ขึ้นรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซัง (Tokai Bus Orange Shuttle) ไปฮาโกเน่กันต่อเลย

มิชิมะสกายวอล์ค (Mishima Skywalk)
https://www.hakonenavi.jp/international/th/spot/225

11:15 แวะ “คาเฟ่อาชิโนโกะชายะ (Ashinoko Chaya)” ทานอาหารกลางวันหรูหราพร้อมชมชมวิวทะเลสาปอาชิ (Lake Ashi)!

จากป้ายรถบัสโมโตะฮาโกเน่โค (Motohakone-ko : OH67) เดิน 1 นาที เราจะมาถึง ”คาเฟ่อาชิโนโกะชายะ” ตั้งอยู่ตรงหน้าทะเลสาปอาชิพอดี ชั้นสองของที่นี่เป็นร้านอาหาร ส่วนชั้นหนึ่งเป็นร้านขายของฝากของที่ระลึก

นอกจากโซบะซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของฮาโกเน่แล้ว คาเฟ่อาชิโนโกะชายะยังมีอาหารเซ็ทมากมายให้บริการ ใครที่อยากลองชิมอาหารญี่ปุ่นหลายๆ อย่าง ขอแนะนำอาหารในรูปด้านบน เซ็ทกล่องโชคดีแห่งฮาโกเนะ “ฮาโกเน่ ไคอุน ทามาเทะบาโกะ (Hakone Kaiun Tamatebako)” ราคารวมภาษี 1,998 เยน ในเซ็ทมีทั้งปลาตัวเล็กที่จับได้จากทะเลสาปอาชิ เต้าหู้ยูบะของฮาโกเน่ (*1) หรืออินาริซูชิ (*2) ให้ได้ลิ้มลองกันด้วย

*1 เต้าหู้ยูบะ … เต้าหู้ที่ทำจากฟองเต้าหู้

*2 อินาริซูชิ … อาหารซึ่งทำโดยการนำเต้าหู้ทอดไปต้มในน้ำซุปปรุงรส ก่อนเอาข้าวสำหรับทำซูชิมายัดใส่ข้างใน

สำหรับของหวาน เราลงมาชิมขนมอันมีชื่อมงคลว่าขนมผูกดวง “เอ็มมุซุบิยากิ (Emmusubi-yaki)” ที่ชั้นหนึ่งกันดีกว่า แป้งขนมฟูนุ่ม รสชาติหวานกำลังดี เหมาะกับการถือเดินกินเป็นที่สุด ราคารวมภาษีเริ่มต้นที่ 150 เยน

คาเฟ่อาชิโนโกะชายะ (Ashinoko Chaya)
https://www.hakonenavi.jp/international/th/spot/132

13:00 ลองประดิษฐ์งานไม้ดั้งเดิมที่คานาซาชิ วูดคราฟต์ (Kanazashi Woodcraft)

“โยเซกิไซกุ" (Yosekizaiku)” ของฝากขึ้นชื่อของฮาโกเน่ เป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านที่พิถีพิถันและมีความเป็นมาช้านาน โดยการเอาชิ้นไม้สีต่างๆ มาประกอบกันเกิดเป็นลวดลายที่ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ

มาฮาโกเน่ทั้งที ลองแวะมาทำงานฝีมือที่ชาวฮาโกเน่ภูมิใจในประวัติยาวนานนี้กันดูไหมคะ?

สถานที่ที่เราสามารถทดลองทำงานไม้นี้ได้คือร้าน ”คานาซาชิ วูดคราฟต์” จากป้ายรถประจำทางโมโตะฮาโกเน่โค (Motohakone-ko : OH67) ขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 5 นั่งสาย K ที่มุ่งหน้าไปฮาโกเน่ยุโมโตะ (Hakone-Yumoto) ใช้เวลาราว 20 นาที ลงรถที่ป้ายฮาตาจุกุ (Hatajuku : 317) แล้วเดินย้อนกลับไปประมาณ 30 เมตรจะมาถึง “คานาซาชิ วูดคราฟต์”

ร้าน “คานาซาชิ วูดคราฟต์” ไม่เพียงแต่ขายงานฝีมือที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น ยังมีกิจกรรมให้ทดลองทำที่รองแก้วในสไตล์โยเซกิไซกุเองด้วย ค่าใช้จ่ายของกิจกรรมอยู่ที่รวมภาษีแล้ว 800 เยนต่อหนึ่งท่าน (หากมาเป็นกลุ่มใหญ่ต้องจองล่วงหน้า) หลังจากฟังคำอธิบายอย่างง่ายๆ แล้วก็ลงมือทำกันเลย!

เราสามารถเลือกชิ้นไม้กว่า 40 ชิ้นจากแต่ละกล่องมาประกอบเป็นลวดลายเฉพาะของตนเอง รับรองว่ากิจกรรมนี้จะทำให้คุณลืมเวลาไปเลย

คานาซาชิ วูดคราฟท์ (Kanazashi Woodcraft)
https://www.hakonenavi.jp/international/th/spot/457

14:40 แหล่งพักพิงของนักเดินทางมากว่า 400 ปี “อามาซาเกะชายะ (Amazake-chaya)“

จากฮาตาจุกุ (Hatajuku : 317) ขึ้นรถประจำทางสายฮาโกเน่โทซังสาย K ประมาณ 10 นาที แล้วลงรถที่อามาซาเกะชายะ (Amazake-chaya : 322)

“อามาซาเกะชายะ” เป็นจุดแวะพักระหว่างการเดินทางของผู้คนมาตั้งแต่สมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603 - 1868)

บริเวณทางเข้าเป็นโดมะ (*3) ด้านในมีเตาผิงอิโรริ (*4) ได้บรรยากาศของร้านน้ำชาสำหรับนักเดินทางในสมัยเอโดะอย่างเต็มเปี่ยม

*3 โดมะ - พื้นภายในบ้านแบบญี่ปุ่นโบราณซึ่งจะทิ้งไว้เป็นพื้นดินโดยไม่ปูกระดานไม้

*4 เตาผิงอิโรริ - เตาผิงแบบเจาะพื้นบ้านลงไปเป็นช่องสี่เหลี่ยมเพื่อใช้ฟืนในการจุดไฟ มีไว้จุดไฟผิงคลายหนาวและหุงต้มอาหารด้วย

อย่าลืมชิมเมนูยอดนิยมของนักเดินทางตั้งแต่สมัยก่อนทั้งเหล้าหวานไร้แอลกอฮอล์ “อามาซาเกะ” กับขนมโมจิเสริมพลัง “ชิคาระโมจิ (Chikara Mochi)” (อามาซาเกะ 400 เยน ชิคาระโมจิ 500 เยน ทั้งหมดเป็นราคารวมภาษีแล้ว) อามาซาเกะของที่นี่มีจุดเด่นตรงที่ไม่ได้เติมน้ำตาล แต่ได้ความหวานตามธรรมชาติจากโคจิ (*5) ทั้งยังเป็นเครื่องดื่มที่มีสารอาหารมาก เหมาะจะดื่มทั้งในหน้าร้อนเพื่อช่วยป้องกันโรคลมแดด และช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นในหน้าหนาวอีกด้วย

*5 โคจิ … จุลิทรีย์ชนิดหนึ่งซึงใช้ในการหมักถนอมอาหาร

อย่าลืมมาพบกับการต้อนรับที่อาจเรียบง่ายแต่แสนอบอุ่นที่อามาซาเกะชายะกันนะคะ

“ร้านน้ำชาอามาซาเกะ (Amazake-chaya Tea House)
https://www.hakonenavi.jp/international/th/spot/451

15:30 สัมผัสประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น! ย่ำไปบนถนนปูหินของทางสายเก่า “คิวไคโดอิชิดาทามิ (Kyukaido-ishidatami)”

เพียงอ้อมไปข้างหลังของร้าน “อามาซาเกะชายะ” เราจะพบร่องรอยถนนในสมัยเอโดะที่ชื่อว่าถนนโทไคโด (Tokaido) จากจุดนั้นเดินขึ้นไปอีก 10 นาทีก็จะถึงถนน คิวไคโดอิชิดาทามิ ซึ่งเป็นถนนสายเก่าปูด้วยหิน

ถนนโทไคโดคือถนนเชื่อมระหว่างโตเกียวกับเกียวโตในสมัยเอโดะ ซึ่งส่วนที่หลงเหลืออยู่ในจุดนี้อยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์เหมือนในสมัยนั้นเลยทีเดียว นักเดินทางสมัยก่อนจะเดินย่ำไปบนถนนปูหินพร้อมกับคิดอะไรอยู่กันนะ ... ใครได้มาเดินที่นี่ก็คงอดจินตนาการแบบนั้นขึ้นมาไม่ได้ ถนนสายนี้ล้อมรอบด้วยไปด้วยต้นไม้เขียวขจีจึงเป็นอีกจุดที่เหมาะกับการถ่ายรูปสวยๆ ด้วย

ถนนโทไคโดเก่า คิวไคโดอิชิดาทามิ (Kyukaido-ishidatami)
https://www.hakonenavi.jp/international/th/spot/147

18:00 ปลาดิบชั้นเลิศกับเหล้าญี่ปุ่น! “SAKANA CUISINE RYO” ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ

และเพื่อใช้ “ฮาโกเน่ ฟรีพาส” ให้คุ้มถึงที่สุด เราขอแนะนำให้ไปดินเนอร์มื้อเย็นกันที่โอดาวาระ (Odawara) เลย! หากใช้บริการรถไฟด่วนพิเศษโรแมนซ์คาร์ แค่ 13 นาทีก็มาถึงสถานีโอดาวาระแล้ว ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นค่าตั๋วรถด่วนพิเศษเพียง 200 เยนเท่านั้น

จากทางออกฝั่งตะวันออกของสถานีโอดาวาระเดินไป 5 นาทีจะพบกับภัตตาคารขึ้นชื่อเรื่องปลาดิบแสนอร่อย “SAKANA CUISINE RYO (ซากานะ คูซีน เรียว)” ถ้าตอนไปถึงฟ้ายังสว่างอยู่จะมองเห็นปราสาทโอดาวาระ (Odawara Castle)ได้ด้วย

เราสามารถลิ้มลองอาหารปลาอย่างปลาดิบไปจนถึงโซบะได้ที่นี่ ในรูปด้านบนคือเมนูปลาดิบรวมสำหรับสองคน (ราคารวมภาษี 3,078 เยน) ซึ่งจะมีปลาสดๆ แนะนำประจำวันมาให้ทานกัน ส่วนเมนูโซบะที่มีกลิ่นหอมสดชื่นจะทำให้คุณต้องทึ่งกับความอร่อยของโซบะที่เพิ่งทำใหม่ๆ

นอกจากนี้ยังมี “คิคิสาเกเซ็ท (Kiki Sake Set)” เป็นเซ็ตเหล้าสาเกซึ่งมีเหล้าท้องถิ่นมาในเซ็ทด้วย (ราคารวมภาษี 1,620 เยน) เซ็ตนี้ทานเข้ากับปลาดิบมาก หากได้ลองทานคู่กันสักครั้ง ขอบอกว่าคุณจะติดใจไม่รู้ลืมเลยทีเดียว

ซากานะ คูซีน เรียว (SAKANA CUISINE RYO)
https://www.hakonenavi.jp/international/th/spot/454

สนุกเต็มที่กับฮาโกเน่ก็ต้องใช้ “ฮาโกเน่ ฟรีพาส”!

นอกจากเส้นทางที่แนะนำในครั้งนี้แล้ว ฮาโกเน่ยังมีแหล่งเที่ยวที่คนทั่วไปยังไม่รู้จักและกิจกรรมแสนสนุกมากมายรอให้ทุกคนมาสัมผัส

มาลองใช้ “ฮาโกเน่ ฟรีพาส” ตั๋วสุดคุ้มท่องเที่ยวให้ทั่วฮาโกเน่ดังใจนึกกันดูไหมคะ?

*ข้อมูลเกี่ยวกับเมนูในร้านอาหารหรือราคาต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง

https://www.hakonenavi.jp/international/th/

Sponsored by Odakyu Hakone Holdings Inc.