10 สถานที่น่าเที่ยวในนีงาตะและซาโดะ ประตูสู่ทะเลญี่ปุ่น (Sado Island, Niigata)
บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
เมืองนีงาตะและเกาะซาโดะ ดินแดนที่มีเสน่ห์แถบทะเลญี่ปุ่น นั่งรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวไปได้ใน 2 ชั่วโมง บทความนี้ขอแนะนำ 10 สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย เช่น คฤหาสน์พักร้อนสุดหรูของตระกูลไซโต้ นีงาตะเซ็มเบ้โอโคคุแสนสนุก เหมืองทองเก่าแก่ซาโดะคินซัง และศาลเจ้าบนเกาะซาโดะ
บทความโดย
Tokyo, Japan
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
เมืองนีงาตะและเกาะซาโดะ ประตูสู่ทะเลญี่ปุ่น
Picture courtesy of Niigata Saito Villa (ซ้ายบน) Sado City Tourism Department (ขวาบน) Northern Culture Museum (ขวาล่าง)
เกาะซาโดะ (Sado Island) เกาะที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งทะเลญี่ปุ่น และเมืองนีงาตะ (Niigata) เมืองที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน เดิมเป็นเมืองท่าและเหมืองทองคำที่รุ่งเรือง สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศเก่าๆ อย่างร้านอาหารเก่าแก่และโรงน้ำชาที่เกอิชาแสดงการร่ายรำก็ยังมีหลงเหลืออยู่
จึงไม่มีที่ไหนเหมาะกับการเริ่มต้นท่องเที่ยวในฝั่งทะเลญี่ปุ่นเท่ากับที่นี่อีกแล้ว เราขอแนะนำ 10 สถานที่น่าเที่ยวในเมืองนีงาตะและเกาะซาโดะ
เมืองนีงาตะ เมืองท่าแห่งวัฒนธรรมดั้งเดิมที่น่าสนใจ
Picture courtesy of the Northern Culture Museum
เมืองนีงาตะเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งทะเลญี่ปุ่นของเกาะฮอนชู ได้รับการพัฒนาให้เป็นเมืองท่าที่ต้อนรับนักเดินทางอย่างอบอุ่น มีสถานที่มากมายในเมืองซึ่งเราจะได้สัมผัสกับความงดงามของวัฒนธรรมญี่ปุ่น เช่น สวนญี่ปุ่น พิธีชงชา และอาหารรสเลิศ
หากต้องการไปเมืองนีงาตะให้นั่งรถไฟโจเอ็ตสึชินคันเซ็น (Joetsu Shinkansen) จากสถานีโตเกียว (Tokyo) และลงที่สถานีนีงาตะ (Niigata) ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง จากสถานีสามารถขึ้นรถบัสท่องเที่ยวรอบเมืองนีงาตะ (Niigata City Loop Bus) ไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองได้
1. คฤหาสน์พักร้อนเก่าของตระกูลไซโต้ สวนสวยที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
Picture courtesy of the Niigata Saito Villa
คฤหาสน์พักร้อนเก่าตระกูลไซโต้ (Saito Villa) เป็นที่รู้จักในฐานะผลงานสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นสมัยใหม่ชิ้นเอก สร้างขึ้นในปี 1918 เป็นบ้านพักของไซโต้ คิจูโร พ่อค้าผู้มั่งคั่ง ด้วยการออกแบบที่ประณีต แต่ละห้องมีความกลมกลืนกับสวนอย่างลงตัว ทำให้สามารถชื่นชมสวนได้จากทุกห้อง
ในคฤหาสน์ยังมีห้องจัดพิธีชงชาสำหรับรับรองแขก ประเทศญี่ปุ่นในต้นศตวรรษที่ 20 พิธีชงชาถือเป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งของผู้มีการศึกษาและร่ำรวย เราสามารถสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดของนักออกแบบจากความประณีตในการออกแบบห้องจัดพิธีชงชานี้
เราสามารถชมสวนไปพร้อมกับลิ้มรสมัทฉะและขนมหวานแสนอร่อย (ราคา 500 เยน ให้บริการถึง 16:00 น.)
กลางสวนมีสระน้ำใหญ่ที่มีปลาคาร์ปแหวกว่ายอยู่ ล้อมรอบด้วยต้นเมเปิ้ล สน ไผ่ และอื่นๆ
เราสามารถชมคฤหาสน์ทั้งหลังจากส่วนที่สูงที่สุดของสวน เมื่อมองไปสุดปลายสายตาเราจะเห็นทิวทัศน์ของตึกระฟ้าอย่าง NEXT21 อาคารพาณิชย์คอมเพล็กซ์ ภาพวิวของสิ่งปลูกสร้างในอดีตกับปัจจุบันที่ดูย้อนแย้งแต่มีเสน่ห์ยิ่งนัก
ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีจะมีการจัดแสดงไฟไลท์อัพในเวลากลางคืน ทำให้ตกตะลึงไปกับทิวทัศน์ที่มีเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงนี้เลยค่ะ
หากจะไปคฤหาสน์พักร้อนเก่าตระกูลไซโต้ ให้ขึ้นรถบัสท่องเที่ยวรอบเมืองนีงาตะ ลงป้ายหมายเลข 10 Northern Culture Museum Niigata Annex Entrance
2. ฟุรุมาจิ เดินชมย่านเก่าแก่ในนีงาตะ
ว่ากันว่าในยุคทองของย่านฟุรุมาจิ (Furumachi) ในเมืองนีงาตะมีจำนวนเกอิชามากพอๆ กับเกียวโตเลยทีเดียว เนื่องจากชาวเรือและพ่อค้าจากทั่วญี่ปุ่นต่างมาหยุดพักหลังการเดินทางอันยาวนาน ปัจจุบันก็ยังมีหญิงสาวที่แสดงการร่ายรำในงานเลี้ยง แต่จะเรียกว่า เกอิกิหรือเกอิโกะ
* เกอิกิหรือเกอิโกะ เป็นคำเรียกเกอิชาในภาษาเก่าของเกียวโต โดยในภาษาเขียนอย่างหนังสือพิมพ์มักนิยมออกเสียงว่าเกอิกิ
Picture courtesy of Niigata City
หากอยากเดินเล่นในพื้นที่นี้ ให้เริ่มต้นจากสถานีนีงาตะไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 30 นาทีมุ่งหน้าสู่มินาโตเปีย พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองนีงาตะ (MINATOPIA Niigata City History Museum) พิพิธภัณฑ์ที่แนะนำประวัติศาสตร์ของเมืองนีงาตะ โดยนำอาคารทางประวัติศาสตร์มาบูรณะ
จาก MINATOPIA เดินไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 20 นาที ก็จะถึง ถนนนาเบจายะโดริ (Nabejaya-Dori Street) ที่มีชื่อเสียง เป็นถนนที่มีความหรูหราแบบโบราณซ่อนอยู่ เรียงรายไปด้วยร้านอาหารแบบดั้งเดิม ร้านน้ำชา และนากายะ (ตึกแถวของสมัยก่อน)
ถัดจากถนนนาเบจายะโดริคือถนนฟุรุมาจิโดริ (Furumachi-Dori Street) ถ้าเดินต่อไปราว 10 นาที ก็จะถึงย่านคามิฟุรุมาจิ (Kamifurumachi) ที่เงียบสงบ ที่นี่เราจะได้สัมผัสถึงชีวิตประจำวันของชาวนีงาตะค่ะ
หากอยากพักสักครู่ ลองไปร้านคาเนมาคิยะ-มิซุคิอัง (Kanemakiya-Mizukian) ร้านขนมญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 150 ปี สามารถนั่งพักดื่มมัทฉะกับขนมตามฤดูกาลได้ค่ะ
ขนมญี่ปุ่นจากวัตถุดิบในแบบดั้งเดิม เช่น ถั่วแดง ข้าว มันเทศ และถั่ว ขนมตามฤดูกาลที่ช่างขนมบรรจงทำขึ้นอย่างประณีตจนเปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นเล็กๆ
ที่ร้านทำขนมปีละกว่า 250 ชนิด โดยจะมีขนมราว 20 ชนิดไว้ให้บริการที่ร้านเสมอ บางชนิดเก็บได้นานโดยไม่เสีย ลองมองหามาเป็นของฝากดูนะคะ
3. นีงาตะเซ็มเบ้โอโคคุ มาปิ้งเซมเบ้ของตัวเองกัน
จังหวัดนีงาตะเป็นแหล่งผลิตข้าวคุณภาพสูงที่เปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของญี่ปุ่น จากข้าวแสนอร่อยผลิตเป็นเซมเบ้และสาเกอันโอชะ ท่านที่ชื่นชอบเนื้อสัมผัสกรอบๆ ของเซมเบ้ต้องแวะไปที่ นีงาตะเซ็มเบ้โอโคคุ (Niigata Rice Cracker Museum) แห่งนี้ค่ะ
ที่นี่บริหารงานโดยบริษัท Kuriyamabeika (Befco) ซึ่งผลิตขายที่ทำจากข้าวหลากหลายแบบ หนึ่งในนั้นคือขนมเซ็มเบ้ยอดนิยม Bakauke
มาแสดงฝีมือตวัดพู่กันวาดรูปบนขนมเซ็มเบ้ด้วยโชยุในแบบที่ชอบและปิ้งเองบนเตาได้ที่เวิร์กชอปปิ้งเซ็มเบ้ (ราคารวมภาษี 1,530 เยน)
เซ็มเบ้แผ่นใหญ่ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 25 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่จะใส่กล่องให้เอากลับไปเป็นของที่ระลึกได้เลย
ที่ร้านจำหน่ายสินค้ายังมีสินค้าพิเศษและสินค้าที่หาซื้อได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น เช่น เซ็มเบ้รสเส้นบะหมี่ผัดอิตาเลียนหรือรสแกงกะหรี่ รวมถึงของที่ระลึกน่ารักๆ ด้วย ลองมองหาของฝากกันที่ถูกใจดูนะ ที่นี่ยังมีทัวร์ชมการทำเซ็มเบ้ด้วยมือของช่างฝีมือด้วยล่ะ
นีงาตะเซ็มเบ้โอโคคุอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง เราขอแนะนำให้นั่งรถไฟจากสถานีนีงาตะไปลงที่สถานีนีซากิ (Niizaki) แล้วเดินประมาณ 15 นาที
4. โรงกลั่นเหล้าอิมาโยะสึคาซะ เพลิดเพลินกับรสชาติดั้งเดิม
ที่นีงะตะมีโรงกลั่นเหล้าหลายแห่ง แต่โรงกลั่นเหล้าอิมาโยะสึคาซะ (Imayotsukasa Sake Brewery)กำลังได้รับความสนใจจากทั้งในและต่างประเทศอยู่ในขณะนี้
ภายนอกอาคารดูงดงามสะดุดตา ด้วยการผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมกับส่วนของร้านค้าที่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย ตามแนวคิด "เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบันของนีงาตะ"
มีทัวร์โรงกลั่นเหล้าฟรีที่สามารถเรียนรู้ขั้นตอนการผลิตสาเก นอกจากจะมีการจัดทัวร์เป็นภาษาญี่ปุ่นวันละหลายรอบแล้ว ยังมีการจัดทัวร์เป็นภาษาอังกฤษในวันธรรมดารอบ 14.00 น. อย่าลืมถ่ายรูปที่ระลึกตอนลองสวมเสื้อฮัปปิ (*) แบบที่ช่างทำสาเกเค้าใส่กันนะคะ
* ฮัปปิ : เครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น เป็นเสื้อคลุมแบบผ่าหน้าคล้ายกิโมโน แต่ความยาวถึงแค่เอว ปัจขุบันมักสวมใส่ตามงานเทศกาล
อีกกิจกรรมที่นิยมกันคือการชิมสาเก (1,000 เยน) สามารถเลือกสาเกได้ถึง 10 ชนิด มีเหล้าญี่ปุ่นตั้งแต่แบบอามะคุจิ (Sweet Sake รสเบา ออกหวาน) จนถึงแบบคาระคุจิ (Dry Sake รสเข้ม แรง) ทั้งมือใหม่และผู้ที่ชื่นชอบสาเกต้องถูกใจแน่นอน รวมถึงนิชิคิโก้ย เหล้าญี่ปุ่นที่บรรจุอยู่ในขวดลวดลายปลาคาร์ปแสนสวย
ถ้าไม่คุ้นเคยกับเหล้าญี่ปุ่น ลองดื่ม IMA Sake for Pair with OYSTERS เหล้าญี่ปุ่นสำหรับกินกับหอยนางรม รสชาติคล้ายไวน์ขาว ส่วนคนที่ดื่มเหล้าไม่เก่งขอแนะนำเป็นอามะสาเก (สาเกหวาน) ที่ไร้แอลกอฮอล์ (ฟรี) ดูค่ะ
5. พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมแดนเหนือ เรียนรู้วัฒนธรรมผ่านโปรแกรมกิจกรรมที่หลากหลาย
Picture courtesy of the Northern Culture Museum
ท่านที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของนีงาตะและวัฒนธรรมญี่ปุ่นต้องไปที่ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมแดนเหนือ (Northern Culture Museum) ค่ะ พิพิธภัณฑ์นี้เคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลอิโต เกษตรกรผู้มั่งคั่งและผู้ถือครองที่ดินขนาดใหญ่ จัดแสดงสิ่งของต่างๆ เกี่ยวกับวัฒนธรรมการใช้ชีวิตดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น
พิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยอาคารต่างๆ เช่น ห้องโถงขนาดใหญ่ ห้องพิธีชงชา และคลังเก็บของ รวมทั้งสวนญี่ปุ่นอันงดงามที่สามารถชื่นชมทิวทัศน์ของแต่ละฤดูกาลได้ ภายในพิพิธภัณฑ์ไม่เพียงแต่เราจะได้ชื่นชมผลงานศิลปะที่ตระกูลอิโตสะสมไว้เท่านั้น แต่ยังมีเครื่องมือที่ใช้ในงานพิธีตามฤดูกาลต่างๆ เช่น อุปกรณ์ที่ใช้ในพิธีชงชา เครื่องปั้นดินเผาและกระเบื้องเคลือบ
Picture courtesy of the Northern Culture Museum
พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมแดนเหนือ มีจัดกิจกรรมเวิร์กชอปที่ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น เช่น พิธีชงชาในห้องพิธีชงชา การร่ายรำของเกอิคิ และการทำโมจิ
Picture courtesy of the Northern Culture Museum
ในโปรแกรมเดินชมสวนและฟังการบรรยาย Garden Commentary เราจะได้ชื่นชมสวนญี่ปุ่นและห้องพิธีชงชา รวมถึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างตระกูลอิโตะกับชาด้วย สามารถตรวจสอบโปรแกรมกิจกรรมอื่นๆ ได้ที่นี่
ขอแนะนำให้รับประทานมื้อกลางวันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ด้วยค่ะ อย่าง Iwanoya ร้านโซบะแสนอร่อย และร้าน Misogura ที่สามารถลิ้มรสชุดอาหารญี่ปุ่นสุดหรู (ต้องจองล่วงหน้า ตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป)
ของอร่อยในเมืองนีงาตะ
ขอแนะนำร้านอาหารในเมืองนีงาตะ
สถานที่ซึ่งเหมาะจะแวะกินมื้อกลางวันคือ Pia Bandai ตลาดในร่มซึ่งมีปลาสดๆ จากทะเลญี่ปุ่นวางขาย ที่ร้านอาหารในตลาดมีทั้งข้าวหน้าอาหารทะเลสดไคเซ็นด้งและซูชิแสนอร่อย นั่งรถบัสท่องเที่ยวรอบเมืองมาลงที่นี่ได้เลย เดินทางสะดวกมาก
สำหรับมื้อค่ำลองไปที่ย่านฟุรุมาจิ ที่นี่มีร้านอาหารชื่อดังที่สามารถลิ้มรสอาหารของนีงาตะและดื่มสาเกได้ โดยเฉพาะ Goro ร้านอาหารทะเลที่ชาวเมืองต่างชื่นชอบ และ Suzuya ร้านอิซากายะเก่าแก่
มีข้อมูลร้านอาหารในคู่มือการเดินทาง สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยวทางการของเมืองนีงาตะ ลองใช้ค้นหาร้านที่สนใจดูนะคะ
เกาะซาโดะ ขุมทรัพย์แห่งทิวทัศน์งาม
Picture courtesy of Sado City Tourism Department
เกาะซาโดะ กลายเป็นดินแดนภายใต้การดูแลควบคุมโดยตรงของรัฐบาลเอโดะบาคุฟุหลังจากค้นพบเหมืองทองในช่วงต้นยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) ปัจจุบันนักท่องเที่ยวมากมายได้มาเยือนดินแดนแห่งนี้ เพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ออนเซ็น และอาหารทะเลรสเลิศ
ท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะซาโดะ อยู่ติดกับ TOKI MESSE Niigata Convention Center อาคารคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่ท่าเรือนีงาตะ (Niigata Port) ใช้เวลานั่งรถบัส 15 นาทีหรือเดิน 30 นาทีจากสถานีนีงาตะ (Niigata)
6. ศาลเจ้าไดเซ็น สัมผัสวัฒนธรรมละครโนของเกาะซาโดะ
Picture courtesy of Sado City Tourism Department
เกาะซาโดะเป็นดินแดนที่มีความผูกพันกับละครโนอย่าลงลึกซึ้ง เซอามิ โมโตคิโยะ (Zeami Motokiyo) ที่รู้จักกันในนาม คันเซะ โมโตคิโยะ (ค.ศ. 1363-1443) นักแสดงและนักเขียนละครโนชื่อดังผู้สร้างผลงานไว้มากมาย ได้เคยถูกเนรเทศมายังเกาะซาโดะนี้ หลังการอุปถัมภ์จากรัฐบาลโชกุนอาชิกางะ (Ashikaga bakufu) หรือที่มักรู้จักในชื่อรัฐบาลโชกุนมุโรมาจิ (Muromachi bakufu) หมดสิ้นลง
ละครโนเป็นที่ชื่นชอบของซามูไรในสมัยเอโดะ ละครโนของเกาะซาโดะซึ่งเริ่มต้นในฐานะละครโนในพิธีกรรมของนิกายชินโต ได้แพร่หลายไปสู่สถานที่จัดเทศกาลกราบไหว้เทพของชินโตในหมู่บ้านต่างๆ และมีการสร้างเวทีละครโนขึ้นมากมาย
ศาลเจ้าไดเซ็น (Daizen Shrine) ได้รับการกล่าวขานว่าเก่าแก่ที่สุดในเกาะซาโดะ และมีเวทีละครโนที่ได้รับความชื่นชอบจากชาวเกาะ
ไม่เพียงแต่เวทีละครโนเท่านั้น วิหารของศาลเจ้าที่รายล้อมด้วยป่าเขียวขจีก็น่าชมไม่แพ้กัน
ใกล้ศาลเจ้าไดเซ็นมีวัดเมียวเซ็นจิ (Myosenji Temple) ที่ตั้งของเจดีย์ 5 ชั้นแห่งเดียวในจังหวัดนีงาตะ ที่นี่ก็ห้ามพลาดเช่นกันค่ะ
ที่เกาะซาโดะจะจัดแสดงละครโนขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนถึงตุลาคม โดยจัดที่ศาลเจ้าไดเซ็น ในเดือนเมษายนและมิถุนายน ตรวจสอบตารางเวลาใน TRUE SADO เว็บไซต์ข้อมูลการท่องเที่ยวทางการของเกาะซาโดะ
ศาลเจ้าไดเซ็นอยู่ห่างจากท่าเรือเรียวสึ (Ryotsu Port) 30 นาทีโดยรถยนต์ หรือเดินจาก ป้ายรถบัสทาเคดะบาชิ (Takedabashi) ประมาณ 15 นาที
7. นาขั้นบันไดอิวาคุบิโชเรียว การผจญภัยสู่จุดสูงสุดของนาขั้นบันได
Picture courtesy of Sado City Tourism Department
ท่านที่ชื่นชอบสถานที่ห่างไกล ลองไปดื่มด่ำกับทิวทัศน์งดงามของเกาะซาโดะบนนาขั้นบันไดอิวาคุบิโชเรียว (Iwakubi Shoryu terraced rice fields) กัน เดินราว 1 ชั่วโมงจากป้ายรถบัสที่ใกล้ที่สุด
แม้ทางเดินขึ้นเขาจะสูงชัน แต่ก็คุ้มค่ากับการเดินทางไปค่ะ อีกด้านของนาขั้นบันไดที่แผ่กว้างบนเนินเขาก็คือทะเลญี่ปุ่นสีฟ้าคราม
Picture courtesy of Sado City Tourism Department
ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤษภาคมนาขั้นบันไดจะเต็มไปด้วยน้ำ ท้องฟ้าสีฟ้าที่สะท้อนบนผิวน้ำยิ่งงดงามเพลินตามากขึ้น ความงดงามของน้ำทะเลสีฟ้าในฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน - สิงหาคม) ตัดกับสีเขียวสดของนาข้าวก็สวยค่ะ
เดินทางโดยรถบัสเส้นทางชายฝั่งตะวันออก (Higashi Kaigansen หรือ East Coast Line) หรือเส้นทางอิวาคุบิ (Iwakubi Line) ลงที่ป้ายอิยาคุบิ (Iwakubi) เนื่องจากเที่ยวรถมีจำกัด อย่าลืมตรวจสอบตารางเวลาล่วงหน้านะคะ แต่หากเดินทางโดยรถยนต์จะไปถึงที่กระท่อมชมวิวด้านบนได้
8. เหมืองทองซาโดะ การผจญภัยในเหมืองร้าง
เหมืองทองซาโดะ ซาโดะคินซัง (Sado Kinzan Gold Mine) ปัจจุบันเป็นเหมืองร้าง เดิมมีแร่ทองคำกระจายอยู่ใต้ภูเขาโดยุ โนะ วาริโตะ (Doyu no Warito mountain) ซึ่งยอดเขาแตกออกเป็นสองฝั่งเพราะยุบตัวหลังจากมีการขุดแร่ด้านใต้มาตลอด 400 ปี
เหมืองทองซาโดะเป็นหนึ่งในเหมืองทองคำและเงินชั้นนำของญี่ปุ่นที่สนับสนุนเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ จนถึงสมัยเมจิก็ยังมีส่วนในการพัฒนาประเทศญี่ปุ่นให้ทันสมัยขึ้นด้วย เนื่องจากมีการขุดแร่ได้ปริมาณมาก เกาะซาโดะจึงเปลี่ยนจากพื้นที่เนรเทศนักโทษเป็นพื้นที่ศูนย์กลางวัฒนธรรม ซึ่งปัจจุบันยังคงมีแหล่งมรดกทางอุตสาหกรรมอยู่ทั่วรอบเกาะ
ยังมีการจัดทัวร์ภายในอุโมงค์เหมืองแร่ด้วย ในเส้นทางทัวร์อุโมงค์โซดะยู (Sodayukou หรือ Sodayu Tunnel) เป็นทัวร์ชมจำลองการขุดเหมืองแร่และการใช้ชีวิตของผู้คนในสมัยนั้นด้วยหุ่นจำลอง
และเส้นทางทัวร์อุโมค์โดยู (Doyukou หรือ Doyu Tunnel) ที่จะได้ชมวิวโดยุ โนะ วาริโตะ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการขนย้ายแร่
ในเส้นทางผจญภัยอุโมงค์มุเมียวอิ (Mumyouikou หรือ Mumyoui Tunnel) สำหรับมือโปร (Guided Prospector Adventure Tour, ต้องจองล่วงหน้า) เราจะได้สัมผัสทั้งความตื่นเต้นของการขุดเหมืองแร่และความน่ากลัวของการเดินบนทางแคบๆ ท่านที่ชื่นชอบการผจญภัยเชิญร่วมท้าทายดูนะคะ
จะร่วมทัวร์เส้นทางไหนก็อย่าลืมสวมรองเท้าที่เดินง่ายพร้อมลุยกันนะ
Picture courtesy of Sado City Tourism Department
ซากโบราณที่เกี่ยวข้องกับการขุดเหมืองแร่ ไม่ได้มีแค่เหมืองร้าง ยังมีซาโดะบุเกียวโช (Sado Bugyosho สำนักงานผู้ดูแลซาโดะที่ขึ้นตรงกับรัฐบาลเอโดะบาคุฟุ) ที่ควบคุมการขุดเหมืองแร่บนเกาะซาโดะ สร้างขึ้นในปี 1603 และได้รับการบูรณะในปี 2000
Picture courtesy of Sado City Tourism Department
เดินจากบุเกียวโชราว 10 นาที จะมีโรงงานร่อนแยกแร่คิตาซาวะ (Kitazawa Flotation Plant and Thickener) ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1930 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการสกัดแร่และช่วยเศรษฐกิจในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 แม้ยุคสมัยจะต่างกันแต่จุดประสงค์ในการขุดแร่ของทั้งสองแห่งก็เหมือนกัน เมื่อเรายืนเบื้องหน้าซากโบราณเหล่านี้ ก็อดรู้สึกถึงความหนักอึ้งของประวัติศาสตร์ในตอนนั้นไม่ได้
เนื่องจากโรงงานร่อนแยกแร่จะจัดไฟไลท์อัพขึ้นในบางช่วงเวลา อลังการน่าดูมากค่ะ (* การจัดไฟไลท์อัพรอบปี 2020 จะมีถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2021)
9. โอโนกาเมะและฟุตาสึกาเมะ เดินเที่ยวริมหาด
Picture courtesy of Sado City Tourism Department
ขอแนะนำให้ไปเดินเล่นตามชายฝั่งและว่ายน้ำในทะเลที่เกาะซาโดะด้วยค่ะ
โอโนกาเมะ (Onogame Peaks) อยู่ทางเหนือของเกาะ เป็นโขดหินขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาจากทะเลสูงถึง 167 เมตร แม้ในบริเวณใกล้เคียงจะไม่เหมาะกับการว่ายน้ำ แต่สามารถเดินไปตามทางเดินเล่นและเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้
Picture courtesy of Sado City Tourism Department
โอโนกาเมะได้รับการกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน เป็นช่วงเวลาที่ดอกคันโซ (ดอกเดย์ลิลลี่) สีส้มปกคลุมเนินเขา
Picture courtesy of Sado City Tourism Department
หากอยากเล่นน้ำทะเลต้องไปหาดฟุตาสึกาเมะ (Futatsugame ตามตัวอักษรแปลว่า เต่า 2 ตัว) ที่อยู่ใกล้กับโอโนกาเมะ ที่นี่เป็นชายหาดสวยที่สุดบนเกาะ ตั้งชื่อตามลักษณะของเกาะเล็กๆ ที่ดูเหมือนเต่าสองตัวกำลังหมอบอยู่
ทิวทัศน์หาดทรายจากชายฝั่งยาวไปถึงฟุตาสึกาเมะนั้นงดงามเป็นที่สุด จนได้รับรางวัลสองดาวจาก Michelin Green Guide น้ำทะเลของที่นี่ใสมาก มีหลายวิธีที่ใช้เวลาพักผ่อนที่นี่ เช่น เช่าอุปกรณ์ตกปลาและจับปลามาเป็นอาหารเย็น หรือเพลิดเพลินกับความงดงามของทะเลด้วยการดำน้ำลึก (scuba diving courses)
โอโนกาเมะและฟุตาสึกาเมะตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะซาโดะ ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ราว 1 ชั่วโมงจากท่าเรือเรียวสึ (Ryotsu Port)
10. โอซาโดะ สกายไลน์ ชมทิวทัศน์งดงามของเกาะซาโดะ
โอซาโดะ สกายไลน์ (Osado Skyline) เป็นถนนชมวิวที่มีความยาวร่วม 30 กิโลเมตร หากขับรถไปเราจะได้พบกับทัศนียภาพอันงดงามที่น่าตะลึงของภูเขาและทะเล
เส้นทางโอซาโดะ สกายไลน์ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร สามารถมองเห็นเกาะทั้งหมดที่ล้อมรอบด้วยทะเลญี่ปุ่น ถ้าอากาศดีเราจะมองเห็นทิวเขาทางเหนือของจังหวัดนีงาตะได้ ที่นี่จึงเป็นสุดยอดจุดชมวิวที่เพลิดเพลินกับธรรมชาติและฤดูกาลทั้งสี่บนเกาะซาโดะ
ถ้าอยากหยุดพักระหว่างทางลองแวะที่ Exchange Center Hakuundai อาคารที่มีจุดชมวิว ร้านขายของ และร้านอาหารดูนะคะ
อาหารอร่อยบนเกาะซาโดะ
หากพูดถึงปลาที่อร่อยที่สุดบนเกาะซาโดะก็ต้องเป็นปลาบุริ (ปลาน้ำเค็มในตระกูลปลาหางเหลือง) ร้านอาหารหลายแห่งบนเกาะมีเมนูซูชิและซาซิมิให้บริการ ท่านที่อยากกินซูชิบนเกาะซาโดะ ขอแนะนำร้านซูชิโจซาบุโระ (Sushi Chozaburo)
นอกจากปลาบุริแล้วบนเกาะซาโดะยังมีของกินต่างๆ ที่ห้ามพลาดด้วย เช่น ข้าว ลูกพลับ ลูกแพร์พันธุ์ลูเรคเช่ (Le Lectier pears ผลไม้เมืองหนาวมีถิ่นกำเนิดในยุโรป หน้าตาคล้ายลูกสาลี่) เนื้อวัวญี่ปุ่น รวมทั้งอาหารทะเลอย่างปู กุ้งนัมบัง (Nanban Prawns) และหอยนางรม ท่านที่ชื่นชอบสาเกต้องแวะไปโรงกลั่นเหล้าสาเกบนเกาะ 5 แห่ง (โรงกลั่นเหล้า Henmi Shuzou, Hokusetsu Shuzo Sake Brewery, Tenryo no Sato, Obata Shuzo Sake Brewery และ Kato Shuzoten Sake Brewery)
ดูข้อมูลการท่องเที่ยวโดยละเอียดได้ที่ TRUE SADO
เมืองนีงาตะและเกาะซาโดะ อัญมณีแห่งทะเลญี่ปุ่น
ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นกำลังรอคุณอยู่ที่เมืองนีงาตะและเกาะซาโดะซึ่งเต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่งดงามและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ 10 สถานที่ที่แนะนำในบทความนี้เป็นจุดที่น่าสนใจเพียงบางส่วนเท่านั้น
ถ้ากำลังมองหาการผจญภัยในแหล่งท่องเที่ยวดีๆ ที่แอบซ่อนอยู่ ลองแวะไปเมืองนีงาตะและเกาะซาโดะในการเดินทางครั้งต่อไปดูนะคะ
กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นที่เว็บไซต์การท่องเที่ยวของ Japan Sea Sightseeing Routes
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Written by Steven Csorgo
Sponsored by the Association for Promotion of Japan Sea Routes
Main image courtesy of Sado City Tourism Department
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง
บทความเกี่ยวข้อง
บทความพิเศษ
More
