Start planning your trip
5 สิ่งที่ควรทำใน “เมืองนีงาตะ” แหล่งอาหารทะเลและประวัติศาสตร์การขนส่งทางทะเล
เมืองนีงาตะเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางฝั่งทะเลญี่ปุ่นซึ่งรายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ทั้งทะเล แม่น้ำ และภูเขา นอกจากนี้ก็ยังหลงเหลือร่องรอยทางประวัติศาสตร์อันเจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นแหล่งขนส่งทางทะเลที่สำคัญมาตั้งแต่ในสมัยก่อนอีกด้วย
“เมืองนีงาตะ” เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่ทางฝั่งทะเลญี่ปุ่น เนื่องจากรายล้อมไปด้วยทั้งทะเล แม่น้ำ และภูเขา ที่นี่จึงขึ้นชื่อในฐานะที่เป็นเมืองแห่งอาหารที่สามารถเพลิดเพลินกับทั้งอาหารทะเลและพืชผักบนภูเขาได้อย่างจุใจ นอกจากนี้ก็ยังคงหลงเหลือประวัติศาสตร์ของเมืองท่าเรือติดทะเลอันเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำแหล่งดื่มด่ำกับเมืองนีงาตะซึ่งมีศูนย์กลางเป็นสถานีนีงาตะกันค่ะ ^^
เมืองนีงาตะเป็นสถานที่แบบไหนกันนะ?
เมืองนีงาตะแห่งนี้เป็นฐานที่มั่นทางการขนส่งทางทะเลอันเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ในอดีต โดยขนาบข้างด้วยทะเลญี่ปุ่นและแม่น้ำสายใหญ่ 2 แห่งคือแม่น้ำชินาโนะและแม่น้ำอากาโนะ
“Bandai Bridge (สะพานบันได)” ที่พาดข้ามแม่น้ำชินาโนะแห่งนี้เป็นสะพานในดวงใจของทั้งนักท่องเที่ยวและผู้คนท้องถิ่นในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับสะพานบันไดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「เจาะลึก “สะพานบันได” สัญลักษณ์แห่งเมืองนีงาตะ!」
5 สิ่งที่ควรทำเมื่อได้มาเที่ยวเมืองนีงาตะ
ต่อไปเรามาแนะนำเรื่องควรทำเมื่อได้มาเที่ยวเมืองนีงาตะกันเลยดีกว่าค่ะ ^^
1. ดื่มด่ำกับพืชผักบนภูเขาแสนอร่อย
อุตส่าห์มาเที่ยวถึงเมืองนีงาตะทั้งทีก็ต้องลิ้มลองวัตถุดิบท้องถิ่นแสนอร่อยกันหน่อย! โดยขอแนะนำเป็น Pia Bandai (พีอาบันได) แหล่งท่องเที่ยวศูนย์รวมความบันเทิงที่รวมทั้งตลาด, ร้านจำหน่ายของฝาก และร้านค้ามากมายเอาไว้ในแห่งเดียวเลยจ้า... โดยเป็นจุดยุทธศาสตร์แห่งการท่องเที่ยวสายกินแหล่งรวมศูนย์ปลาทะเลสดใหม่, ร้านจำหน่ายของฝากทั้งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและสินค้าแปรรูป, ร้านอาหารที่บริหารโดยสมาคมประมง , ร้านซูชิ และโซนบาร์บีคิว
โซนอาหารทะเลเรียงรายไปด้วยปลาทะเลสดใหม่จากทะเลบริเวณข้างเคียง ฤดูหนาวเป็นฤดูกาลของปูเนื้อแน่น, กุ้งหวานเนื้อเน้นๆที่เรียกว่า “นัมบังเอบิ” และปลาโนโดะกุโระซึ่งเป็นปลาขึ้นชื่อราคาแพง
ผลิตภัณฑ์ปลาแซลมอนนับเป็นเสน่ห์เฉพาะของนีงาตะที่ขนาบข้างด้วยทะเลเลยก็ว่าได้ เมืองมุราคามิที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองนีงาตะเป็นแหล่งประวัติศาสตร์เมนูปลาแซลมอนอายุกว่า 1,000 ปี โดยเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลาแซลมอนแสนอร่อยเพียบ!
ภายในที่ราบอันแสนกว้างใหญ่ซึ่งเรียกว่า “เอจิโกะเฮยะ” เป็นที่ตั้งของนาดำมากมาย ด้วยเหตุนี้ นีงาตะจึงกลายเป็นแหล่งปลูกข้าวอันดับ 1 ของญี่ปุ่นไปโดยปริยาย ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นแหล่งรวมข้าวจากทั่วจังหวัดก็จริง แต่ว่ากันว่าข้าวของโซน “อิวาฟุเนะ” ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองนีงาตะนั้นมีรสชาติอร่อยเป็นพิเศษกว่าโซนอื่นๆ
2. สัมผัสประวัติศาสตร์ของเมืองแห่งการขนส่งทางทะเล
บริเวณใกล้กับปากแม่น้ำชินาโนะซึ่งไหลลงสู่ทะเลญี่ปุ่นยังคงหลงเหลือสถานที่สัมผัสประวัติศาสตร์แห่งการขนส่งทางทะเลอันเจริญรุ่งเรืองให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
Former Niigata Customs House (ที่ทำการศุลกากรนีงาตะเก่า) ที่สร้างขึ้นในปี 1869 แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ โดยใช้เป็นสำนักงานศุลกากรของท่าเรือนีงาตะเมื่อสมัยที่ประเทศญี่ปุ่นเปิดประเทศ เราสามารถเดินเยี่ยมชมภายนอกอาคารได้อย่างอิสระ แต่ภายในอาคารอยู่ในระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซมและมีกำหนดการเปิดใหม่อีกครั้งราวเดือนธันวาคม ปี 2018
Daishi Bank Sumiyoshicho Branch (ธนาคารไดชิ สาขาซุมิโยชิโจ) ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันสร้างขึ้นเมื่อปี 1927 โดยในปัจจุบันเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมภายในอาคารได้อย่างอิสระ ที่นี่ยังคงหลงเหลือเคาน์เตอร์ที่ใช้จริงสมัยที่เปิดทำการให้เราสามารถสัมผัสบรรยากาศของธนาคารอันหรูหราโอ่อ่าในสมัยนั้นได้อย่างจุใจ
Former Ozawa Family Estate (ที่ดินครอบครัวโอซาว่าเก่า) คือ บ้านร้านค้าของตระกูลโอซาว่าซึ่งเจริญรุ่งเรืองด้านธุรกิจเรือสินค้าและการจำหน่ายข้าว โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของเมืองนีงาตะ เราสามารถเดินเยี่ยมชมภายในอาคารและสวนได้อย่างอิสระ
3. สักการะเทพเจ้าผู้ปกปักคุ้มครองเมืองนีงาตะ
Hakusan Shrine (ศาลเจ้าฮาคุซัง) คือ ศาลเจ้าเก่าแก่ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองนีงาตะมาตั้งแต่ในอดีตในฐานะที่เป็นเทพเจ้าแห่งเกษตรกรรม, เทพเจ้าแห่งท้องทะเล และเทพเจ้าแห่งความรัก
ข้อมูลเอกสารการสร้างถูกเผาทำลายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ถึง 2 ครั้งด้วยกัน แต่ว่ากันว่าที่นี่สร้างขึ้นราวค.ศ. 1000 เพดานวิหารซึ่งสร้างขึ้นในปี 1648 นั้นมีภาพดอกไม้สีสันสดใสวาดเอาไว้อย่างสวยงาม
ส่วน Niigata Prefectural Government Memorial Hall (หอที่ระลึกที่ทำการรัฐบาลจังหวัดนีงาตะ) ซึ่งตั้งอยู่ติดกับศาลเจ้าฮาคุซังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติที่สร้างขึ้นเป็นอาคารรัฐสภาของจ.นีงาตะในปี 1883
ภายในอาคารเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมฟรี เราจึงสามารถชมสถานที่ประชุมทางการเมืองของจังหวัดในสมัยก่อนได้อย่างเต็มอิ่ม
4. สัมผัสมังงะและอนิเมะที่เกี่ยวข้องกับนีงาตะ
นอกจากนี้ นีงาตะก็ยังเป็นแหล่งผลิตนักเขียนการ์ตูนและผู้สร้างอนิเมะมากมายอีกด้วยนะเออ...
ไม่ว่าจะเป็น “คุณอาคัตสึกะ ฟูจิโอะ” เจ้าของผลงานเรื่อง Osomatsu-kun, “คุณทาคาฮาชิ รูมิโกะ” เจ้าของผลงานเรื่อง Urusei Yatsura และ “คุณมิซุชิมะ ชินจิ” เจ้าของผลงานเรื่อง Dokaben ก็ล้วนเป็นชาวเมืองนีงาตะทั้งหมด แถม “คุณวาสึกิ โนบุฮิโระ” เจ้าของผลงานเรื่อง Rurouni Kenshin ก็เกิดที่เมืองนากาโอกะในจ.นีงาตะแห่งนี้เช่นเดียวกัน ที่นี่จึงนับเป็นแหล่งรวมนักเขียนการ์ตูนชื่อดังเพียบเลยก็ว่าได้
ที่ Niigata Ctiy Manga House (บ้านมังงะเมืองนีงาตะ) แห่งนี้เราสามารถสัมผัสกับนักเขียนและผลงานที่เกี่ยวข้องกับนีงาตะได้ รวมถึงกิจกรรมเวิร์คช็อปการผลิตมังงะด้วย
5. ชมเมืองนีงาตะจากบนจุดชมวิวฟรี
TOKI MESSE (โทคิเม็ซเสะ) คือ สถาปัตยกรรมที่สูงที่สุดในเมืองนีงาตะ โดยเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวฟรีสำหรับชมวิวเมืองนีงาตะ
นอกจากแม่น้ำชินาโนะด้านหน้าแล้ว บอกเลยว่าเราสามารถมองเห็นไปถึงเกาะซาโดะที่ลอยอยู่เหนือทะเลญี่ปุ่นได้เลยทีเดียว
บทส่งท้าย
เมื่อเอ่ยถึง “นีงาตะ” แล้วหลายคนต้องนึกถึงข้าวและเหล้ากันอย่างแน่นอน แต่ความจริงแล้วภายในเมืองนีงาตะแห่งนี้เต็มไปด้วยไฮไลท์ที่ผสมผสานกันระหว่างแหล่งสัมผัสวัฒนธรรมแห่งเมืองท่าอันเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ในอดีตและวัฒนธรรมสมัยใหม่มากมายเลยล่ะค่ะ ไหนใครอยากแวะมาเที่ยวเมืองนีงาตะแห่งนี้กันบ้างเอ่ย? ^^
新潟生まれ。事業会社でのマーケティングを経験後、2011年からシンガポールへ移住し、出版社や制作会社で編集に従事。2015年に日本へ帰国しMATCHAのライターに。国内外を旅行する中で見つけた新しい発見を、多くの人とシェアしていきたいです。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง