สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่สุดฮ็อตบนชิมานามิไคโด (Shimanami Kaido)! ปั่นจักรยานรอบเกาะพร้อมชมวิวสุดตระการตากัน
ชิมานามิไคโดเชื่อมเมืองโอโนมิจิในฮิโรชิม่ากับเมืองอิมาบาริในเอฮิเมะ เป็นเส้นทางปั่นจักรยานแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ข้ามช่องแคบ ตามเส้นทางมีแหล่งปลูกเลมอนอันดับ 1 ในญี่ปุ่น พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมแห่งแรกของญี่ปุ่น และ "เนินแห่งความหวัง" อันงดงามที่สร้างสรรค์จากหินอ่อน ได้เวลาไปปั่นจักรยานรอบเกาะกันแล้ว!
ออกเดินทางจากเมืองโอโนมิจิ (Onomichi)! ไปเพลิดเพลินกับทะเลจากบนเรือ
ชิมานามิไคโดเป็นเส้นทางปั่นจักรยานระยะทางราว 70 กิโลเมตรที่ข้ามทะเลในเซโตะ (Seto Inland Sea) ตามเส้นทางมีเกาะสวยวิจิตรตระการตา เช่น เกาะอิคุจิ (Ikuchiji Island) และเกาะโอมิ (Omi Island)
ครั้งนี้เป็นทริป 2 วัน 1 คืน ที่จะพาไปเที่ยวสถานที่ยอดฮิตที่ร้อนแรงที่สุดใน "ชิมานามิไคโด" นี้!
การสัญจรไปมาระหว่างเกาะต่างๆ ในทะเลในเซโตะด้วยเรือที่มีลมพัดโชยเบาๆ เป็นเหตุการณ์ในใช้ชีวิตประจำวันบนเกาะแห่งนี้ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างผู้เขียนถือเป็นประสบการณ์แสนสนุกที่ไม่ธรรมดาเลย
ครั้งนี้ เราเริ่มจากการนั่งเรือจากเมืองโอโนมิจิในจังหวัดฮิโรชิม่าไปยังท่าเรือเซโตดะ (Setoda Port) บนเกาะอิคุจิก่อน
เราขึ้นเรือท่องเที่ยว CITRUS ซึ่งเป็นเรือเฟอร์รี่โดยสารที่ให้บริการโดย Setouchi Cruising (ค่าโดยสารผู้ใหญ่เที่ยวเดียว 1,300 เยน ชำระด้วยเงินสดบนเรือ) ให้บริการวันละ 7 - 8 เที่ยว สามารถขนจักรยานไปได้
ปกติผู้เขียนเมาเรือง่าย แต่ขณะที่ดื่มด่ำกับมนต์เสน่ห์ของทิวทัศน์อันงดงาม ไม่นานนักเรือก็มาถึงท่าแล้ว!
วัดโคซันจิอยู่ใกล้ท่าเรือเซโตดะ เป็นวัดที่โคซันจิ โคโซ นักธุรกิจที่เกิดในสมัยเมจิสร้างขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณต่อคุณแม่
เป็นสถาปัตยกรรมที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ ที่ได้รับการยกย่องในเชิงศิลปะเป็นอย่างมาก สร้างขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากของศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) ของนิกโก้ (Nikko) และโฮโอโด (วิหารนกฟินิกซ์) แห่งวัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) ในเกียวโต (Kyoto) ซึ่งเป็นมรดกโลก ภายในวัดแห่งนี้มีหอและอาคารต่างๆ 15 แห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่มีรูปร่างของญี่ปุ่น
เมื่อเดินเข้าไปข้างใน จะพบ "เนินแห่งความหวัง" ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวยอดฮิตล่าสุด
พื้นที่สีขาวที่ดูสง่าอลังการยิ่ง ที่มองแวบแรกอาจดูเหมือนไม่เกี่ยวอะไรกับพุทธศาสนา แต่ความจริงแล้วประติมากรรมเหล่านี้เป็นตัวแทนของเทพ 12 องค์ (เทวดา 12 องค์) ที่ปกป้องพุทธศาสนา
หินอ่อนที่ใช้สร้างสรรค์ผลงานทั้งหมดมีน้ำหนักรวม 3,000 ตัน ขุดมาจากเมืองคาร์รารา (Carrara) ประเทศอิตาลี (Italy) ซึ่งเป็นที่ตั้งสตูดิโอศิลปะของคุณคุเอตานิ อิตโต ประติมากรผู้สร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้
หินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ยังช่วยทำให้ทัศนียภาพของเกาะโดยรอบโดดเด่นขึ้น เมื่ออยู่ยืนอยู่ท่ามกลางผลงานเหล่านี้ ทำให้ผู้เขียนรู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของทัศนียภาพที่งดงามตระการตานี้
เลือกจักรยานที่เหมาะกับตัวเรา! ที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเซโตดะโจ
ต่อไปคือศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเซโตดะโจ (Setoda-cho Tourist Information Center) จุดที่เราจะเช่าจักรยานกัน สามารถเดินจากท่าเรือเซโตดะและวัดโคซันจิไปได้
ที่นี่มีจักรยานให้เช่ามากมาย ทั้งจักรยานครอสไบค์ (Cross Bike) มามาจาริ (จักรยานแม่บ้าน) จักรยานซิตี้ไบค์ (City Cycle) จักรยานไฟฟ้า และจักรยานสำหรับเด็ก
สำหรับท่านที่ปั่นจักรยานไม่แข็งหรือไม่เก่ง ก็วางใจได้เพราะที่นี่มีเจ้าหน้าที่ช่วยอธิบายวิธีขับขี่และข้อควรระวังให้อย่างละเอียด
จักรยานครอสไบส์ที่ผู้เขียนเช่ามามีน้ำหนักเบา ขี่ง่ายมาก แนะนำให้นักปั่นมือใหม่ลองกันเลย
ค่าบริการวันละ 2,000 เยน มีค่าประกัน 1,100 เยน (ราคารวมภาษี) แต่จะได้คืนตอนที่คืนจักรยานตรงจุดที่เราเช่ามา
ที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเซโตดะโจมีตู้ล็อกเกอร์ฝากของด้วย กระเป๋าขนาดใหญ่ที่ใส่ล็อกเกอร์ไม่ได้สามารถฝากที่ศูนย์ข้อมูลได้ในราคา 300 เยน
ของฝากที่เป็นความภูมิใจของเกาะ! Shimagocoro SETODA (ชิมาโกโคโระ เซโตดะ)
Shimagocoro SETODA (สาขา Setoda Honten) เป็นร้านขนมหวานยอดฮิตบนเกาะอิคุจิ
เดิมทีเจ้าของร้านเป็นเชฟขนมหวานในโกเบ แต่เขาอยากทำอะไรเพื่อบ้านเกิดที่ดูซบเซาลงเพราะคนหนุ่มสาวค่อยๆ ย้ายออกไป ดังนั้น เขาจึงพาครอบครัวที่รักกลับมายังบ้านเกิดและเปิดร้านขนมนี้
Setoda Lemon Cake (เซโตดะ เลมอนเค้ก) ของร้าน Shimagocoro มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เจ้าของร้านได้รังสรรค์ขึ้นโดยผสานเทคนิคของเชฟขนมหวานกับเลมอนซึ่งเป็นผลผลิตอันน่าภาคภูมิของเกาะอิคุจิแหล่งปลูกเลมอนขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
เคล็ดลับความอร่อยของเค้กชิ้นนี้คือการใช้เปลือกแทนเนื้อเลมอนทำให้กลิ่นหอมโดดเด่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับอัตราส่วนของครีมกับเนื้อแป้งทุกครั้งที่ทำตามอุณหภูมิห้องและปริมาณน้ำ ต้องใช้หลายขั้นตอนในการรังสรรค์จนได้เป็นขนมหวานสุดพิเศษ ถึงขนาดได้รับรางวัล Good Design Award!
สามารถหาซื้อเลมอนเค้กกับชูครีมที่อบเสร็จใหม่ๆ ได้ที่สาขานี้ และยังนั่งลิ้มรสความอร่อยได้ภายในร้านหรือตรงที่นั่งบนระเบียง (เลมอนเค้กกับชูครีม สามารถซื้อกลับบ้านในราคารวมภาษีชิ้นละ 250 เยน ซื้อรับประทานอาหารที่ร้านในราคารวมภาษีชิ้นละ 255 เยน)
ทุกอย่างคือศิลปะ! Island-Wide Art Museum (พิพิธภัณฑ์ศิลปะทั่วทั้งเกาะ)
เกาะอิคุจิได้จัดงาน Setoda Biennale (เซโตดะ เบียนนาเล่) ขึ้นในปี 1989 และสร้างสรรค์ 17 งานศิลป์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วเกาะ ปัจจุบันเรายังสามารถไปสนุกเพลิดเพลินกับงานศิลป์เหล่านั้นกันได้
โดยเฉพาะตรงหาดซันเซ็ท (Sunset Beach) ซึ่งปั่นจักรยานจากท่าเรือเซโตดะไปได้ มีผลงานสำคัญ 3 ชิ้น
Come Into the Sky (ทะยานสู่ท้องฟ้า) ของ Masafumi MAITA (รูปซ้าย), Calm Time-Red Form/Inclination (ยามคลื่นลมสงบ วัตถุสีแดง/ความเอนเอียง) ของ Keiji UEMATSU (รูปขวาล่าง), Clairvoyance (ตาทิพย์) "มองโลกจากเซโตดะผ่านแว่นตา" ของ Shin MATSUNAGA (รูปขวาบน),
ผลงานศิลปะเหล่านี้ช่วยเสริมภูมิทัศน์ของหาดทรายสวยให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมากให้มาเที่ยวที่นี่อย่างยาวนาน
ได้เวลาเพลิดเพลินกับช่วงเวลาจิบน้ำชายามบ่าย ด้วยเลมอนไซเดอร์ (Lemon Cider) และเลมอนเค้กที่ซื้อจาก Shimagocoro SETODA ไว้ก่อนหน้านี้! ผู้เขียนนั่งผ่อนคลายบนชายหาด ลิ้มรสขนมหวานและเครื่องดื่ม ขณะที่ดื่มด่ำกับความงดงามของบรรยากาศโดยรอบภายใต้ท้องฟ้าสีคราม
yubune อาคารที่พักพร้อมห้องอาบน้ำสาธารณะ เปิดให้บริการเมื่อปี 2021!
เมื่อพูดถึงที่พักบนเกาะอิคุจิ ต้องไม่พลาดที่พัก 2 แห่งที่ดำเนินงานโดย Azumi (อาซึมิ) แบรนด์เรียวกังใหม่ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนมีนาคม 2021
เกาะอิคุจิเป็นเกาะที่มีประชากรน้อยกว่า 10,000 คน แต่มีประวัติและขนบธรรมเนียมประเพณี อันยาวนาน Azumi Setoda เป็นเรียวกังซึ่งได้รับปรับปรุงใหม่จากคฤหาสน์อายุ 140 ปี และสืบทอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนานดังกล่าวนี้มา ส่วนฝั่งตรงข้ามมี yubune (ยูบุเนะ) อาคารที่พักพร้อมห้องอาบน้ำสาธารณะ
อาคารที่พักทั้ง 2 แห่งนี้สร้างขึ้นในแบบที่เข้ากับความต้องการของยุคสมัย แต่ก็ยังทำให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสถึงขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่นนี้
ครั้งนี้ ผู้เขียนพักค้างหนึ่งคืนที่ yubune แห่งนี้
เมื่อเข้าไปในห้อง ก็ได้กลิ่นหอมสดชื่นของเสื่อทาทามิ ไม้เนื้อแข็งแบบธรรมชาติให้ความรู้สึกที่ดูหรูหรา
ถ้าเป็นห้องประเภทโดมะ (Doma Room) ในชั้น 1 สามารถนำจักรยานเข้าจอดไว้ในห้องได้
ห้องอาบน้ำชาย
แขกที่มาพักรวมถึงนักท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ ก็สามารถใช้บริการห้องอาบน้ำสาธารณะและห้องซาวน่าได้
จิตรกรรมบนฝาผนังเป็นภาพทิวทัศน์ของทะเลในเซโตะ บางฤดูกาลอาจมีโอกาสได้แช่น้ำร้อนผสมเลมอนหรือน้ำร้อนผสมเกลือทะเลด้วย
เลานจ์บนชั้น 2 มีจำหน่ายดากาชิ (ขนมญี่ปุ่นดั้งเดิมราคาถูก) ที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศของญี่ปุ่นในสมัยก่อน ผู้เข้าพักยังสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มต่างๆ แบบบริการตนเอง หลังนอนแช่ในอ่างน้ำร้อนขนาดใหญ่แล้ว อาจลองดื่มเบียร์เย็นๆ สักแก้วก็ดีนะ
รับประทานอาหารเช้าที่สดใหม่! ที่ SOIL Setoda ซึ่งเป็นที่รักของผู้คนในท้องถิ่น
ในบริเวณใกล้เคียงกับ yubune มี SOIL Setoda (ซอยล์เซโตดะ) อาคารคอมเพล็กซ์ย่อมๆ ซึ่งมีคาเฟ่ 2 ร้าน ที่พัก และศูนย์ข้อมูลแนะนำกิจกรรมต่างๆ
ผู้เข้าพักใน yubune สามารถรับประทานอาหารเช้าได้ที่ Minatoya (มินาโตยะ) หนึ่งในคาเฟ่ของอาคารคอมเพล็กซ์นี้ มีอาหารญี่ปุ่นและอาหารตะวันตกซึ่งปรุงด้วยวัตถุดิบสดใหม่จากชาวประมงและเกษตรกรในท้องถิ่น ตอนที่ผู้เขียนไปเก็บข้อมูลมีชุดข้าวปั้นโอนิกิริ (รูปขวาล่าง) และชุดเบเกิลรวม (รูปซ้ายล่าง)
ส่วนหนึ่งของอาคาร SOIL Setoda เป็นโกดังสมัยเมจิที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ นี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน
อีกจุดที่แนะนำเช่นกันคือ Overview Coffee เป็นคาเฟ่อีกแห่งที่ให้บริการกาแฟอร่อยๆ ที่คัดสรรอย่างดี
คุณซูซูกิ ชินนิจิโระ ผู้จัดการเป็นผู้ที่ย้ายถิ่นฐานมาเพราะรักในเกาะอิคุจินี้ SOIL Setoda เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเมษายน 2021 แต่ก็มีลูกค้าประจำแล้ว
เวลาทำการอาจเปลี่ยนแปลง ดังนั้น ควรตรวจสอบที่ Instagram ก่อนเดินทางไปนะ
สะพานทาทาระที่มองเห็นทะเลในเซโตะ
สะพานทาทาระ (Tatara Bridge) เป็นสะพานขึงด้วยเคเบิล (Cable-stayed bridge) ที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น มีความยาวรวม 1480 เมตร แต่เป็นเส้นทางที่ง่ายสำหรับนักปั่นจักรยานมือใหม่ วันที่ผู้เขียนไป ได้พบกับกลุ่มนักเรียนมัธยมต้นที่ชอบปั่นจักรยานมาทัศนศึกษากัน!
หลังปั่นข้ามสะพานทาทาระ ก็จะเข้าสู่เกาะโอมิในจังหวัดเอฮิเมะ เกาะโอมิมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง รวมถึงศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดเอฮิเมะด้วย
การคืนจักรยานที่สถานีปลายอื่นที่ไม่ใช่แค่จุดที่เช่ามา และการใช้บริการรถแท็กซี่
เมื่อไปถึงเกาะโอมิ ผู้เขียนคืนจักรยานที่ "สถานีเช่ารถจักรยานคามิอุระ (Kamiura Rental Cycle Terminal หรือ Kamiura Roadside Station)" ภายในสวนทาทาระชิมานามิ (Tatara Shimanami Park)
Shimanami Japan (ชิมานามิ เจแปน) ให้บริการเช่าจักรยาน มีจุดเช่า 5 จุด เช่น "ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเซโตดะโจ" และจุดคืนรถ 13 จุด โดยจักรยานต่างๆ ยกเว้นจักรยานไฟฟ้าและจักรยานสองตอน (Tandem Bike) สามารถคืนได้ที่สถานีปลายจุดอื่นที่ไม่ใช่แค่จุดที่เราเช่ามาได้!
สิ่งที่ห้ามพลาดในสวนทาทาระชิมานามิคืออนุสาวรีย์ดินแดนแห่งนักปั่นจักรยาน (CYCLIST'S SANCTUARY Monument) สร้างขึ้นในปี 2014 เพื่อรำลึกถึงการลงนามในข้อตกลงการขี่จักรยานฉันท์พี่น้อง (Sister Cycling Road Agreement) ระหว่างทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake) ของไต้หวันกับชิมานามิไคโด และการจัดแข่งขันปั่นจักรยานนานาชาติ ผู้เขียนได้ถ่ายรูปที่ระลึกกับอนุสาวรีย์ไว้ด้วย
จากนั้น ผู้เขียนจึงเช่า E-Bike ที่ WAKKA (วักกะ) ศูนย์รวมการท่องเที่ยวครบวงจร เป็นจักรยานปั่นได้สบายๆ แม้ในพื้นที่ขรุขระ
ถัดจากนี้เราต้องผ่านเส้นทางภูเขาที่ลาดชันขึ้นๆ ลงๆ มากมาย ผู้เขียนจึงใช้บริการแท็กซี่สำหรับนักปั่นจักรยานเพื่อนั่งไปยังจุดหมายต่อไปพร้อมจักรยาน
WAKKA เกิดขึ้นจากความปรารถนาให้นักปั่นจักรยานเพลิดเพลินกับการปั่นจักรยานเที่ยวอย่างสบายใจ ที่นี่ยังมีโรงแรม คาเฟ่ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ไว้ให้บริการด้วย
บริการเกี่ยวกับจักรยานเปิดให้บริการในเวลา 09:00 - 18:00 น. (ปิดในวันอังคาร)
พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมแห่งแรกของญี่ปุ่น! พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโทโยอิโตะ (TIMA: Toyo Ito Museum of Architecture) ในเมืองอิมาบาริ
คุณอิโตะ โทโยเป็นสถาปนิกระดับโลกที่สร้างสรรค์การออกแบบอาคารแปลกใหม่ไว้มากมาย เช่น โรงละครแห่งชาติไทจง (National Taichung Theater) ในไต้หวัน
ด้วยโชคชะตา เขาจึงได้สร้างพิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมแห่งแรกของญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 ที่มุมหนึ่งของเกาะโอมิ ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลในเซโตะ
"พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมโทโยอิโตะ เมืองอิมาบาริ" แห่งนี้ ประกอบด้วย อาคาร Steel Hut ที่ชวนให้นึกถึงเรือในอุตสาหกรรมการต่อเรือซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของเมืองอิมาบาริ และอาคาร Silver Hut ที่จำลองบ้านหลังเก่าของคุณอิโตะในโตเกียว และการจัดแสดงกลางแจ้ง
Steel Hat เป็นอาคารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จัดแสดงแนวคิดทางสถาปัตยกรรมและกิจกรรมในโครงการฟื้นฟูเกาะของคุณอิโต มีการจัดนิทรรศ "Another Utopia" 10th Aniversary Exhibition จนถึงเดือนกันยายน 2022
ส่วน Silver Hat สถานที่จัดแสดงนิทรรศการเอกสารแบบแปลนสถาปัตยกรรม มีพื้นที่เปิดโล่งที่สามารถนั่งผ่อนคลายหรืออ่านหนังสือไปพร้อมกับนั่งมองทะเล ทำให้รู้สึกผ่อนคลายสบายใจ
ศาลเจ้าโอยามาซึมิ (Oyamazumi Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดในจังหวัดเอฮิเมะ! ที่บูชาเทพแห่งขุนเขา ทะเล และสงคราม
ศาลเจ้าโอยามาซึมิได้รับการขนานนามว่าเป็นศาลเจ้าผู้พิทักษ์ญี่ปุ่น ซึ่งบูชาเทพแห่งขุนเขา ทะเล และสงคราม
ในบริเวณศาลเจ้านี้ยังมีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ยักษ์อายุ 2,600 ปี รวมถึงยาเนฮิวาดาบุกิ (หลังคาจากเปลือกต้นสนฮิโนกิ) ของวิหารหลักและวิหารสักการะ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่สำคัญ
ในสมัยโบราณ ซามูไรจะมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้ สวดอธิษฐานให้มีชัยชนะในการสู้รบกลับมา หลังรบชนะก็นำเกราะ ดาบ และอื่นๆ มาบูชาที่นี่ด้วย 80% ของอาวุธญี่ปุ่นโบราณซึ่งเก็บรวบราวอยู่ที่หอสมบัติ (Treasure Hall) ของศาลเจ้าโอยามาซึมิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติและมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่สำคัญในญี่ปุ่น จึงควรค่าแวะมาชมมากๆ
เมื่อไปที่ศาลเจ้าโอยามาซึมิ เราจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เคร่งขรึมราวกับข้ามกาลเวลาไป ประตูใหญ่ของศาลเจ้าเปิดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึง 17:00 น.
ออกไปเที่ยวครั้งต่อไปที่เมืองอิมาบาริกัน!
หลังปั่นจักรยานตระเวนเที่ยวรอบเกาะและนำจักรยาน E-Bike ที่เช่ามาไปคืนที่ WAKKA เราจึงเรียกใช้บริการรถแท็กซี่อีกครั้งให้ไปส่งที่ป้ายรถเมล์ของเกาะโอมิ และขึ้นรถบัสด่วนพิเศษ (Expressway Bus) ไปยังสถานีอิมาบาริ (Imabari)
มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในเมืองอิมาบาริ เช่น ปราสาทอิมาบาริ (Imabari Castle) ที่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน "100 ปราสาทขึ้นชื่อของญี่ปุ่น" ออกไปเที่ยวครั้งต่อไปลองแวะไปให้ได้นะ!
Sponsored by SHIMANAMI JAPAN
Written by miho
วันและเวลาทำการของร้านอาจเปลี่ยนแปลง เนื่องจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง