จุดที่น่าสนใจของชิโอกามะ เมืองท่าใกล้เซ็นได มนต์เสน่ห์ของอาหารทะเลรสเลิศและศาลเจ้าเก่าแก่
บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
เมืองชิโอกามะอยู่ใกล้อ่าวมัตสึชิมะซึ่งเป็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น นั่งรถไฟจากเซ็นไดไปได้ภายใน 30 นาที มีประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจ รวมถึงการประมงและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเลที่เฟื่องฟู ขอแนะนำจุดน่าสนใจอย่างผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของ Kaishin ตลาดปลาเมืองมินาโตะชิโอกามะ และศาลเจ้าชิโอกามะ
บทความโดย
Tokyo, Japan
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
เมืองชิโอกามะ (Shiogama) เมืองแห่งอาหารทะเลและประวัติศาสตร์
เมืองชิโอกามะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในด้านการประมงและการผลิตเกลือ ตั้งอยู่ระหว่างอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น กับเมืองเซ็นได (Sendai) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ
เมืองแห่งนี้ได้สร้างความเจริญให้แก่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก มีประวัติยาวนานกว่า 1,000 ปี ในสมัยเฮอันมักนำชื่อของชิโอกามะมากล่าวถึงในบทกลอนวากะที่ประพันธ์โดยใช้เทคนิคอุตามาคุระ (*1) “เรือลำน้อยล่องลอยบนคลื่นใต้แสงจันทร์ น้ำตาแห่งความทุกข์ยากของผู้คนที่ตักน้ำทะเลมาทำเกลือ…” ชิโอกามะเป็นชื่อสถานที่ที่ทำให้นึกถึงเรื่องราวเช่นนี้
ศาลเจ้าชิโอกามะซึ่งปรากฏในเอกสารสมัยเฮอัน เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ถ่ายทอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองมาจนถึงปัจจุบัน บทความนี้ขอแนะนำจุดที่น่าสนใจของเมืองชิโอกามะอย่างศาลเจ้าชิโอกามะและผลิตภัณฑ์อาหารทะเลอร่อยๆ ของเมืองนี้
* 1: อุตามาคุระ…หนึ่งในเทคนิคการแสดงความรู้สึกของกลอนวาะโบราณ โดยนำชื่อสถานที่ที่มีชื่อเสียงซึ่งชวนให้ผู้ประพันธ์และผู้อ่านกลอนวากะนึกถึงภาพหรือมีจินตนาการร่วมกัน
"ตลาดปลาเมืองมินาโตะชิโอกามะ" ที่สามารถชมการประมูลปลามากุโระและนิทรรศการเชิงปฏิบัติ
ตลาดปลามินาโตะชิโอกามะ (Minato Shiogama Fish Market) จำหน่ายปลาที่จับได้ในทะเลของเมืองชิโอกามะให้กับผู้ค้าส่งด้วยการประมูล
หากมาเยี่ยมชมตั้งแต่เช้าตรู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม ก็จะได้ชมการประมูลปลามากุโระ ปลามากุโระที่จับได้ในเมืองชิโอกามะมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ปลาเมบาจิมากุโระที่จับได้นั้นมีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ฤดูกาลของปลาเมบาจิมากุโระจะอยู่ในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม
ชิโอกามะจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ท้องถิ่น Sanriku Shiogama Higashimono ผลิตจากปลามากุโระที่คัดเลือกอย่างดีโดยคำนึงถึงสภาพต่างๆ เช่น ความสด สี ปริมาณเนื้อกับไขมันที่พอดี และรสชาติอูมามิ
สามารถชมการประมูลปลามากุโระได้จากพิพิธภัณฑ์ปลา (Fish Museum) บนชั้น 2 ของตลาด พิพิธภัณฑ์ยังมีนิทรรศการที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการประมงต่อเมืองชิโอกามะและการเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งกับชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น
พิพิธภัณฑ์ปลายังมีนิทรรศการเชิงปฏิบัติที่สนุกสนานด้วย เช่น ปริศนาปลามากุโระ 3 มิติในรูปนี้! ที่ทำให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับพันธุ์ปลาและสัตว์ทะเลต่างๆ ในท้องถิ่นผ่านการเล่น
นอกจากนี้ยังมีวิดีโอและรูปภาพที่แสดงถึงการทุ่มเทของผู้คนในท้องถิ่นเกี่ยวกับการประมงและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล
ถึงไปชมการประมูลปลามากุโระแต่เช้าตรู่ไม่ได้ แต่ยังสามารถชมวิดีโอแบบไทม์แลปส์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ตลาดปลาชิโอกามะได้
ไปเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ มากมายเกี่ยวกับปลาและการประมงที่พิพิธภัณฑ์ปลากัน!
"ตลาดค้าส่งอาหารทะเลชิโอกามะ" ที่สามารถซื้อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแสนอร่อยได้
ตลาดค้าส่งอาหารทะเลชิโอกามะ (Shiogama Seafood Wholesale Market) อยู่ห่างจากตลาดปลาชิโอกามะ (Shiogama Fish Market) เพียง 600 เมตร มีร้านค้าปลีกจำหน่ายอาหารทะเลสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปแก่ลูกค้าทั่วไป เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อวัตถุดิบในท้องถิ่นและลิ้มรสอาหารทะเลที่ปรุงสดใหม่!
เมื่อก้าวเข้าไปในตลาดค้าส่งอาหารทะเลชิโอกามะ (Shiogama Seafood Wholesale Market) จะตะลึงกับความหลากหลายของอาหารทะเลที่จัดจำหน่าย ตั้งแต่ปลามากุโรและปลาแซลมอนไปจนถึงปลาหมึก ปลาหมึกยักษ์ หอยนางรม ปู และกุ้ง ทุกร้านมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจเรียงรายอยู่มากมาย
แน่นอนว่ามีผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปที่บรรจุห่อจำหน่าย อาหารกระป๋อง และอาหารแห้งที่สามารถรับประทานเป็นของว่างจำหน่ายด้วยเช่นกัน
ในแต่ละส่วนของตลาดยังมีร้านอาหารที่สามารถพักรับประทานอาหารที่ทำจากอาหารทะเลสดใหม่
สำหรับผู้ที่ต้องการลิ้มลองไคเซ็นด้ง (ข้าวหน้าอาหารทะเลหรือข้าวหน้าซาชิมิ) รสเลิศ ขอแนะนำร้าน Kase ในตลาดแห่งนี้ ข้าวสวยหุงใหม่ๆ โปะด้วยอาหารทะเลชิ้นใหญ่ รับรองว่าอร่อยจนตะลึงแน่นอน! รูปด้านบนคือซังโชคุมากุโระด้ง (ข้าวหน้าปลามากุโระสามสี) ที่ใช้เนื้อปลามากุโระสามอย่าง ไปลิ้มลองรสชาติที่แตกต่างของเนื้อปลากัน!
ร้าน Kase ให้บริการไคเซ็นด้งและซูชิ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับผักดองและซุปมิโซะร้อนๆ ดังนั้นอย่าลืมแวะมาเมื่อหิวนะ
การท้าทายของ Kaishin และผลิตภัณฑ์อาหารทะเลชั้นเลิศของชิโอกามะที่สั่งซื้อทางออนไลน์ได้
Picture courtesy of ร้านค้าออนไลน์ของ Kaishin
Kaishin ถือเป็นขุมสมบัติของผลิตภัณฑ์ทางทะเล จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชั้นเยี่ยมที่ผลิตในชิโอกามะผ่านทางร้านค้าออนไลน์และจากแคตตาล็อกของขวัญในร้านจำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่ Kaishin เป็นบริษัทแปรรูปอาหารทะเลที่เปิดมานานถึง 13 ปีที่แล้ว
จุดเปลี่ยนของ Kaishin คือเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคม 2011 หลังจากเริ่มต้นธุรกิจเพียง 2 ปี โรงงานก็ถูกทำลายโดยคลื่นสึนามิ ญาติของพนักงานก็เสียชีวิตด้วย
หลังจากนั้น Kaishin ก็ค่อยๆ ฟื้นตัว แต่ก็ยังสูญเสียลูกค้ารายย่อยที่เคยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตนไปหลายราย แต่ด้วยความเชื่อมั่นว่า "ของอร่อยเท่านั้นที่จะคงอยู่ต่อไป" Kaishin จึงท้าทายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ
3 ผลิตภัณฑ์แนะนำของ Kaishin อร่อยง่ายๆ ที่บ้านได้!
3 ผลิตภัณฑ์ที่ Kaishin ภาคภูมิใจ ทั้งหมดล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประโยชน์จากความอร่อยของอาหารทะเลในชิโอกามะ สามารถสั่งซื้อจากร้านค้าออนไลน์ของ Kaishin
1. ปลาต้ม
หนึ่งในผลิตภัณฑ์ยอดฮิตของ Kaishin คือปลาต้ม เมนูปลาแสนอร่อยที่จัดส่งแบบแช่แข็ง เพียงนำถุงไปอุ่นในน้ำเดือดแค่ 10 นาที เทใส่จานก็เรียบร้อย!
เคล็ดลับของรสชาติสุดพรีเมื่ยมอยู่ในน้ำซุป น้ำซุบที่ปรุงจากโชยุและเครื่องปรุงรสที่หอมหวนช่วยดึงรสอูมามิที่ละเมืยดของเนื้อปลาออกมา
ผลิตภัณฑ์ปลาต้มของ Kaishin มีปลา 3 ชนิด ได้แก่ ปลาคินคิ ปลาเมนุเคะ (ปลากระพงแดง) และปลาคินทาระ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนี้มีรสชาติเยี่ยมที่เข้ากันดีกับเหล้าญี่ปุ่นมาก!
ปลาต้ม (煮魚) Kaishin: 778 เยน (ราคารวมภาษี)
2. “ดาเตะมุซุบิ” ไคเซ็นโอโควะ
“โอโควะ” เป็นของว่างเพื่อฉลองในโอกาสพิเศษ ข้าวเหนียวนึ่งผสมกับน้ำซุปดาชิ ปรุงรสและคลุกเคล้าส่วนผสมต่างๆ แล้วนำมาปั้น หน้าตาคล้ายกับโอนิกิริ (ข้าวปั้น) แต่ส่วนผสมและขั้นตอนต่างกัน
โอโควะไม่ใช่อาหารที่ทำในบ้านกันบ่อยๆ เพราะขั้นตอนเยอะ คนส่วนใหญ่จึงสั่งซื้อจากร้านโอโควะมารับประทานกัน
“ดาเตะมุซุบิ” ของ Kaishin ปรุงรสด้วยน้ำซุปทะเล ข้าวที่ใช้คือข้าวดาเตะมาซายุเมะผสมกับข้าวเหนียวมิยาโกะ โคโกเนะ ทั้งคู่เป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมของจังหวัดมิยางิ ทำให้ได้ข้าวที่ไม่แข็งเมื่อเย็นและคุณภาพเยี่ยมที่ได้รับความนิยมมากๆ
“ดาเตะมุซุบิ” มี 5 รสชาติ ได้แก่ ข้าวธรรมดา (プレーン) ข้าวผสมธัญพืช (雑穀米) ทาโกะโอโควะ (たこおこわ ผสมปลาหมึกยักษ์) โฮยะโอโควะ (ほやおこわ ผสมสัปปะรดทะเล) และคาคิโอโควะ (牡蠣おこわ ผสมหอยนางรม) สำหรับข้าวธรรมดาจะได้เพลิดเพลินกับรสชาติอูมามิของน้ำซุปทะเลกับเนื้อสัมผัสของข้าวที่เหนียวนุ่มได้อย่างเต็มที่ ส่วนข้าวผสมธัญพืชเหมาะเป็นอาหารว่างเพื่อสุขภาพ
“ดาเตะมุซุบิ” ของ Kaishin จะจัดส่งมาให้แบบแช่แข็ง แต่เมื่อนำไปอุ่นในไมโครเวฟสัก 2 - 3 นาที ก็จะนุ่มและหอมกรุ่นพร้อมรับประทานทันที! ลองเพลิดเพลินรสชาติความอร่อยคู่กับชาเขียวเซ็นฉะ จะสัมผัสได้ถึงรสชาติที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ
ดาเตะมุซุบิ (伊達結び): ชิ้นละ 270 เยน, ชุด 8 ชิ้นราคา 3,240 เยน (ทั้งหมดเป็นราคารวมภาษี) * ผลิตภัณฑ์แบบเป็นชุดจัดส่งฟรีภายในญี่ปุ่น
3. สเต็กปลามากุโระ
สเต็กปลามากุโระ (まぐろステーキ) เป็นสเต็กที่ทำจากชิ้นเนื้อปลามากุโระส่วนที่เหลือหลังการตัดปลามากุโระเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมในตลาดปลา “อย่าทิ้งของที่กินได้” วลีนี้คือหลักการที่ผู้คนในวงการอุตสาหกรรมประมงยึดถือกัน
สเต็กปลามากุโระของ Kaishin โดดเด่นด้วยการปรุงรสชาติแบบอ่อนๆ ทำให้สามารถลิ้มรสอูมามิของปลามากุโระได้เต็มที่ รับประทานง่ายเพียงแค่อุ่นในไมโครเวฟไม่กี่นาที เหมาะรับประทานกับสลัดเป็นมื้อเย็น ผู้ที่ชื่นชอบการดื่ม ต้องลองรับประทานคู่กับดื่มไฮบอล (วิสกี้ผสมน้ำโซดา) ดู
ร้านค้าออนไลน์ของ Kaishin ยังมีสินค้าอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถเพลิดเพลินได้ง่ายๆ ที่บ้าน ลองเลือกสรรกันได้เลย!
ศาลเจ้าชิวาฮิโกะและศาลเจ้าชิโอกามะที่คอยดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมง
หลังจากเยี่ยมชมตลาดปลาและชิมอาหารทะเลแสนอร่อยแล้ว อย่าลืมแวะไปที่ศาลเจ้าชิโอกามะ (Shiogama Shrine) และศาลเจ้าชิวาฮิโกะ (Shiwahiko Shrine) สองศาลเจ้าที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองชิโอกามะ ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มองเห็นทะเล
ศาลเจ้าชิโอกามะที่มีการกล่าวถึงในเอกสารสมัยเฮอันนี้ มีต้นกำเนิดมายาวนานกว่า 1,000 ปี เป็นศาลเจ้าที่สักการะบูชาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เทพผู้พิทักษ์ของชาวประมง และเทพเจ้าแห่งการผลิตเกลือ
ส่วนศาลเจ้าชิวาฮิโกะเป็นศาลเจ้าที่มีต้นกำเนิดในเมืองเซ็นได ซึ่งสักการะบูชาเทพเจ้าผู้ดูแล เกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการพัฒนาประเทศ
เทศกาลประจำปีที่จัดขึ้นในวันที่ 10 กรกฎาคมของทุกปี จะมีการแบกมิโคชิ (ศาลเจ้าเคลื่อนที่) ที่งดงามซึ่งมีเทพเจ้าของศาลเจ้าทั้งสองนี้ประทับอยู่ไปยังท่าเรือ จากนั้นจะนำมิโคชิวางไว้บนเรือพิธี 2 ลำ ลำหนึ่งเป็นหัวมังกรและอีกลำเป็นหัวฟีนิกซ์ ซึ่งจะล่องไปบนน่านน้ำนอกชายฝั่งชิโอกามะ สามารถชมมิโคชิและเรือพิธี 2 ลำในช่วงเทศกาลชิโอกามะมินาโตะที่จัดขึ้นในวันแห่งทะเลด้วยเช่นกัน
อาคารของศาลเจ้าทั้งสองมีไม้แกะสลักสวยงามตั้งแต่ศาลไฮเด็น (วิหารสักการะ) ไปจนถึงประตู รายละเอียดที่เด่นชัดแสดงให้เห็นว่าศาลเจ้าเหล่านี้มีความสำคัญต่อชาวชิโอกามะเพียงใด ลองแวะมาปลดปล่อยจิตใจและดื่มด่ำกับความเงียบสงบของศาลเจ้ากัน
บริเวณศาลเจ้าชิโอกามะมีโคมทองสัมฤทธิ์ในสมัยเอโดะ เป็นโคมที่ได้รับบริจาคจากดาเตะ จิกามุเนะ ผู้ปกครองแคว้นดาเตะลำดับที่ 9 เมื่อปี 1809 ในโอกาสที่ได้รับชัยชนะในสงคราม
ในบริเวณศาลเจ้ายังมีพิพิธภัณฑ์ศาลเจ้าชิโอกามะ (Shiogama Shrine Museum) ซึ่งจัดแสดงเอกสารและวัตถุทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของศาลเจ้า รวมถึงมิโคชิที่ใช้ในเทศกาลด้วย มิโคชิแต่ละอันหนักถึง 1 ตัน! ต้องใช้คนถึง 16 คนช่วยกันแบกลงบันไดจากศาลเจ้าไปยังท่าเรือ
นอกจากนิทรรศการชั่วคราวแล้ว พิพิธภัณฑ์ยังมีนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในการผลิตเกลือด้วย เกลือถือเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์พอๆ กับน้ำ นอกจากนี้ ในญี่ปุ่นยังใช้เกลือในพิธีกรรมและโอกาสต่างๆ เช่น พิธีชำระล้างที่ศาลเจ้าและการแข่งขันกีฬาซูโม่
ใกล้ท่าเรือชิโอกามะ (Shiogama Port) มีเกาะเล็กๆ ที่เชื่อมกับแผ่นดินด้วยสะพาน ศาลเจ้ามากากิ (Magaki Shrine) เป็นศาลเจ้าเล็กซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้าชิโอกามะก็ตั้งอยู่บนเกาะนี้ สามารถขึ้นมาบนเกาะนี้ได้เฉพาะวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ศาลเจ้ามากากิซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ก็เป็นสถานที่อีกแห่งซึ่งปรากฏในกลอนวากะที่ใช้เทคนิคอุตามาคุระเช่นเดียวกับชิโอกามะ เกาะโดดเดี่ยวใต้แสงจันทร์แห่งนี้ปรากฏอยู่ในบทเพลงมากมาย เมื่อไปท่าเรือลองแวะชมในระยะใกล้กันนะ
ไปสนุกกับการท่องเที่ยวในชิโอกามะ เมืองท่าที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์กัน!
แผ่นเอมะ (แผ่นป้ายขอพร) ซึ่งตกแต่งร้านขายของในตลาดค้าส่งอาหารทะเลชิโอกามะมีภาพทิวทัศน์งานเทศกาลของศาลเจ้าชิโอกามะและศาลเจ้าชิวาฮิโกะอยู่
ในทั่วทุกแห่งของชิโอกามะแห่งนี้ เราจะสัมผัสได้ถึงความรักของผู้คนในท้องถิ่นที่มีต่อการประมงและความผูกพันอันลึกซึ้งกับทะเล การได้เห็นความทุ่มเทและความภาคภูมิใจของผู้คนในการทำประมงจะกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำในจิตใจของเราอย่างแน่นอน
ชิโอกามะยังมีศาลเจ้าที่สวยงามและทิวทัศน์ทะเลอันตระการตาเป็นมนต์เสน่ห์ ชิโอกามะคือสถานที่ซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับความงดงามของทะเลด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า อีกทั้งยังมีอาหารทะเลเลิศรสด้วย ดังนั้น หากรวมชิโอกามะเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวรวมกับเซ็นไดและอ่าวมัตสึชิมะที่สามารถเดินทางโดยรถไฟไปได้แค่ 15 นาที ทริปการเที่ยวนี้ก็จะครอบคลุมพื้นที่ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคโทโฮคุ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Written by Ramona Taranu
Sponsored by Reconstruction Fishery Processing Industry Market Recovery Promotion Center
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง
บทความพิเศษ
More
