จุดเที่ยวน่าสนใจของฮิโกเนะ ไมบาระ และนากาฮามะ อยู่ใกล้ทะเลสาบบิวะในจังหวัดชิกะ เดินทางจากนาโกย่าและคันไซมาได้สะดวก
เมืองฮิโกเนะ เมืองไมบาระ และเมืองนากาฮามะในจังหวัดชิกะมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทฮิโกเนะ อาหารรสเลิศมากมาย และที่พักบ้านโบราณ รวมทั้ง Gransnow Okubuki สกีรีสอร์ตยอดฮิตของญี่ปุ่น ขอแนะนำเสน่ห์ของเมืองเหล่านี้ซึ่งเดินทางจากโอซาก้า เกียวโต และนาโกย่ามาได้ง่ายๆ
จุดที่น่าสนใจมากมายรอบทะเลสาบบิวะ มีทั้งแหล่งมรดกทางประวัติศาสตร์ ร้านยอดฮิต และสกีรีสอร์ต
เมืองฮิโกเนะ (Hikone) เมืองไมบาระ (Maibara) และเมืองนากาฮามะ (Nagahama) 3 เมืองในจังหวัดชิกะ (Shiga) ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เป็นท้องถิ่นที่มีความเกี่ยวข้องกับอิชิดะ มิตสึนาริ ขุนศึกชื่อดังในยุคเซ็นโกคุ
นอกจากปราสาทฮิโกเนะซึ่งมีศักยภาพในการเป็นมรดกโลกแล้ว ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น ที่พักบ้านโบราณ ร้านอาหารรสเลิศที่มีประวัติยาวนาน และสกีรีสอร์ตยอดฮิต
บทความนี้ ขอแนะนำ 3 เมืองที่น่าสนใจรอบทะเลสาบบิวะ
เมืองฮิโกเนะที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยเอโดะ
เมืองฮิโกเนะเป็นเมืองศูนย์กลางในพื้นที่ทางตะวันออกของทะเลสาบบิวะ เคยรุ่งเรืองในฐานะเส้นทางคมนาคมสำคัญของญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ ที่นี่สามารถเพลิดเพลินกับมรดกทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสมัยเอโดะได้
ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle) แลนด์มาร์คของฮิโกเนะ ที่มุ่งสู่การเป็นมรดกโลก
ปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีปราสาทอยู่เพียง 12 แห่งที่ยังคงมีเท็นชู (ป้อมสังเกตการณ์ อาคารที่สูงที่สุดในปราสาท) ที่สร้างขึ้นก่อนสมัยเอโดะเหลืออยู่ หนึ่งในนั้นคือปราสาทฮิโกเนะ
ปราสาทฮิโกเนะเป็นแลนด์มาร์คของฮิโกเนะที่มีประวัติยาวนานราว 400 ปี และมีเป้าหมายมุ่งสู่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
สมัยเอโดะ ปราสาทฮิโกเนะเป็นที่พำนักของตระกูลอิอิ ตระกูลขุนนางสำคัญในโทคุกาวะบาคุฟุ ซึ่งให้การปกป้องดูแลไดเมียวต่างๆ ทางตะวันตก และปกครองพื้นที่ฮิโกเนะมายาวนาน 14 รุ่น ตลอดช่วงเวลา 300 ปี
เท็นชูของปราสาทฮิโกเนะสามารถเข้าชมด้านในได้ เมื่อปีนไปบนเท็นชูจะมองเห็นทะเลสาบบิวะและบริเวณโดยรอบ ซึ่งจะเข้าใจได้ว่าทำไมในสมัยเอโดะจึงสร้างปราสาทขึ้นที่นี่
อนึ่ง เนื่องจากบันไดภายในปราสาทค่อนข้างชันและเดินลำบาก ดังนั้น ขอให้ระวังขั้นบันไดให้ดี รวมทั้งท่านที่เป็นโรคกลัวความสูงควรระวังเช่นกัน
ที่ปราสาทฮิโกเนะและพิพิธภัณฑ์ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle Museum) ซึ่งอยู่ติดกัน ในบางครั้งจะได้พบกับฮิโกเนียน (Hikonyan) มาสคอตญี่ปุ่นยอดนิยมของที่นี่ด้วย
หากอยากเจอ “ฮิโกเนียน” สุดน่ารัก สามารถตรวจสอบว่าอยู่ที่ไหนได้ที่เว็บไซต์ทางการของฮิโกเนียน
มินาไก (Minakai) ร้านขนมฝรั่งที่มีประวัติยาวนาน
Picture courtesy of Pixta
Minakai ร้านขนมตะวันตกที่เปิดกิจการมานานกว่า 70 ปี ตั้งอยู่บนถนนถนนชอปปิงยุเมะเคียวบาชิ (Yume Kyobashi Castle Road) ถัดจากปราสาทฮิโกเนะ เป็นร้านสุดฮิตของทั้งนักท่องเที่ยวและผู้คนในท้องถิ่น
เดิมทีครอบครัวเจ้าของร้าน Minakai ทำห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โดยช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 มี 18 สาขาในคาบสมุทรเกาหลีและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ยอดขายในช่วงเวลานั้นสูงกว่า Mitsukoshi (ปัจจุบันเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น) เสียอีก
แต่เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ทรัพย์สินทั้งหมดถูกยึดเป็นของรัฐ หลังจากชีวิตพลิกผันอยู่หลายครั้ง ครอบครัวเจ้าของร้านจึงกลับมาญี่ปุ่นและเปิดร้านขนมตะวันตกในฮิโกเนะเมื่อปี 1954 จนถึงปัจจุบัน
โอลิมเปีย 380 เยน สตรอเบอร์รี่ทาวเวอร์ 440 เยน ชาส้มยูซุ, โคฉะ (ชาดำหรือชาฝรั่ง) 400 เยน
โอลิมเปียเป็นเค้กชื่อดังของ Minakai ด้วยเนื้อเค้กโรลรสชาติหอมหวนมีเอกลักษณ์กับครีมสดและลูกพีชสีเหลือง
ยังมีขนมหวานแนะนำอื่นๆ เช่น ชูครีมและทาร์ตสตรอเบอร์รี่ ภายในร้านมีโต๊ะและเก้าอี้ สามารถนั่งรับประทานได้
เมืองไมบาระมีที่พักบ้านโบราณและสกีรีสอร์ตที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น
เมืองไมบาระอยู่ติดกับจังหวัดกิฟุ (Gifu) เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งที่สำคัญในสมัยเอโดะ อยู่ตรงทางแยกระหว่างเส้นทางนากะเซ็นโด (Nakasendo Road) และทางหลวงโฮคุริคุไคโด (Hokkoku-kaido Road) ซึ่งเป็นทางหลวงสายหลักของญี่ปุ่น ปัจจุบันมีสถานีของรถไฟชินคันเซ็นเพียงแห่งเดียวในจังหวัดชิกะ
จากเมืองไมบาระสามารถเดินทางไปเกียวโต โอซาก้า และนาโกย่าได้สะดวก รวมทั้งยังสามารถเพลิดเพลินกับที่พักบ้านโบราณและการเล่นสกีได้
พักค้างคืนในบ้านโบราณที่ GUSTHOUSE IZAME-ANN
ซาเมไก (Samegai) ในเมืองไมบาระ ช่วงสมัยเอโดะเป็นเมืองพักแรมหมายเลขที่ 61 บนเส้นทางนากะเซ็นโด ปัจจุบันยังคงมีบรรยากาศของช่วงสมัยนั้นอยู่ “ไบคาโมะ” ดอกไม้ใต้น้ำที่หายากมากจะบานสะพรั่งในลำธารกลางเมืองที่มี “อิซาเมะโนะชิมิสึ” น้ำใสสะอาดซึ่งไหลมาจากบริเวณศาลเจ้า
GUSTHOUSE IZAME-ANN (เกสท์เฮาส์อิซาเมอัน) เป็นบ้านโบราณอายุกว่า 200 ปีที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นที่พัก
จุดเริ่มต้นในการเปิด GUSTHOUSE IZAME-ANN นั้นเป็นเรื่องบังเอิญ ตอนที่เจ้าของซึ่งเป็นเพื่อนของคุณอุซุอิ อาราฮิโตะ ผู้บริหารที่พักแห่งนี้ในปัจจุบัน ผ่านมาบริเวณนี้แล้วพบว่าบ้านโบราณซึ่งมีกำหนดจะรื้อถอนกำลังประกาศขายอยู่ เพราะเขาอยากรักษาบ้านหลังนี้ไว้ จึงซื้อและนำมาปรับปรุงใหม่ หลังจากนั้นได้เชิญคุณคุณอุซุอิซึ่งชื่นชอบการใช้ชีวิตในชนบทให้มาดูแลเกสต์เฮ้าส์แห่งนี้
หลังจากคุณอุซุอิย้ายมาที่เมืองไมบาระ ก็ได้ทำธุรกิจเกสท์เฮาส์อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็ทำงานในโครงการฟื้นฟูชุมชนต่างๆ
ที่นี่เป็นอาคาร 2 ชั้น มีห้องพัก 4 ห้องอยู่บนชั้น 2 เป็นห้องสไตล์ตะวันตกและห้องสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งสะดวกสบายทั้งสองห้อง ที่ชั้น 1 มีห้องนั่งเล่นรวมที่กว้างขวางและมีหนังสือมากมายบนชั้นหนังสือ แต่ไม่มีทีวีเพราะอยากให้ลูกค้าได้สนทนาแลกเปลี่ยนกับลูกค้าคนอื่น
ตอนที่ทำการจอง สามารถเลือกว่าจะรับบริการอาหารหรือไม่ได้ คุณอุซุอิซึ่งเคยเรียนรู้และฝึกฝนที่ร้านอาหารไคเซกิจะจัดอาหารที่ใช้โชยุและมิโซะที่ผลิตในซาเมไกรวมทั้งปลานิจิมาซุที่ขึ้นชื่อของท้องถิ่น ปลาที่จับได้ในทะเลสาบมีรสชาติที่ละเมียด จัดเสิร์ฟบนจานอย่างสวยงาม
หากอยากสัมผัสกับบรรยากาศของเก่าๆ รอบทะเลสาบบิวะ ขอแนะนำ GUSTHOUSE IZAME-ANN ในไมบาระ
GRANSNOW Okuibuki สกีรีสอร์ตยอดนิยมอันดับ 1 ของญี่ปุ่น
Picture courtesy of GRANSNOW Okuibuki
GRANSNOW Okuibuki (แกรนด์สโนว์ โอคุอิบุกิ) ในเมืองไมบาระ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในฤดูหนาวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นในการจัดอันดับสกีรีสอร์ตยอดนิยมในญี่ปุ่นจาก Weather News เว็บไซต์พยากรณ์อากาศชื่อเสียงดังของญี่ปุ่น
สกีรีสอร์ตนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่อิบุกิซึ่งมีหิมะตกมากที่สุดในโลก มีหิมะจำนวนมากและคุณภาพดี และยังมีเครื่องทำหิมะเทียม (Snow Machine) รุ่นล่าสุดกว่า 30 เครื่อง ทำให้สกีรีสอร์ตนี้สามารถเพลิดเพลินกับฤดูกาลได้ยาวนาน 4 เดือน
มีเนินเล่นสกีทั้งหมด 14 คอร์ส ทุกคนตั้งแต่ผู้เล่นมือใหม่ ระดับกลาง จนถึงระดับโปรสามารถเล่นสกีได้ตามระดับที่ต้องการ และยังมี Moguls Course สกีโมกุลหนึ่งในคอร์สที่ดีที่สุดในภูมิภาคคันไซซึ่งนักกีฬาทีมชาติญี่ปุ่นในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวฝึกซ้อมกัน
Picture courtesy of GRANSNOW Okuibuki
GRANSNOW Okuibuki สามารถขับรถจากนาโกย่าและโกเบไปถึงได้ภายใน 2 ชั่วโมงซึ่งสะดวกมากๆ การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะสามารถนั่งรถไฟไปไมบาระแล้วต่อรถชัตเติลบัสพิเศษ (สามารถจองทางออนไลน์ได้ ค่าโดยสารไป-กลับ 2,000 เยน) จึงไม่ต้องกังวลกับการขับรถบนถนนที่มีหิมะตก
นอกจากนี้ ที่สกีรีสอร์ตยังมีชุดสกีและสโนว์บอร์ดให้เช่าถึง 2,500 ชุด ดังนั้น ผู้ที่ไม่มีสกีหรือเสื้อผ้าของตัวเองก็สามารถเล่นสกีได้โดยไม่ต้องกังวลใจเลย
Picture courtesy of Green park Santo
ในช่วงฤดูที่ไม่มีหิมะ ยังสามารถเพลิดเพลินกับการตั้งแคมป์และแกลมปิ้งที่ Green Park Santo ซึ่งเป็นสถานที่อเนกประสงค์ที่มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของเขาอิบุกิ (Mt. Ibuki) GLAMPELEMENT จุดต้้งแกลมปิ้งซึ่งเปิดให้บริการในปี 2017 มีที่พักหลากหลายประเภท เช่น แบบเต็นท์และแบบเคบิน พร้อมบริการอาหารฟูลคอร์สหนึ่งอย่างสำหรับการตั้งแกลมปิ้งโดยเมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
ที่นี่จึงเป็นสถานที่อีกแห่งที่สามารถเพลิดเพลินกับฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่นได้ในหลากหลายวิธี
เมืองนากาฮามะที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของทิวทัศน์เมืองเก่าที่สุดแสนโรแมนติก
เมืองนากาฮามะเป็นท้องถิ่นที่มีความเกี่ยวข้องกับโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้ประสบความสำเร็จในการรวมญี่ปุ่นเป็นหนึ่งเดียวในช่วงศตวรรษที่ 16 ที่นี่มีอาหารอร่อยและสถานที่น่าสนใจมากมาย
Bunpuku Chaya ที่สามารถแบ่งปันโชคดี
ย่านคุโรคาเบะสแควร์ (Kurokabe Square) เป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองนากาฮามะ โชเท็นไกหรือย่านการค้า (Shopping Street) ที่มีชีวิตชีวาซึ่งเรียงรายไปด้วยอาคารโบราณที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้มาเยื่ยมชม
ร้านอาหารแนะนำในย่านคุโรคาเบะสแควร์คือ Bunpuku Chaya ซึ่งเปิดกิจการมานาน 30 ปี โดยนำร้านจําหน่ายเส้นไหมดิบอายุกว่า 100 ปีมาปรับปรุงเป็นร้านจําหน่ายของหวานและอาหาร
ครั้งนี้ผู้เขียนสั่งชุดอาหารโคโฮคุ (Kohoku Teishoku) ซึ่งมีวัตถุดิบเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ภาพด้านบนเป็นชุดอาหารโคโฮคุในฤดูร้อน ประกอบด้วยยากินิคุด้ง (ข้าวหน้าเนื้อย่าง) ใช้เนื้อวัวโอมิซึ่งเป็น 1 ใน 3 สุดยอดเนื้อวากิวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นและข้าวจากเมืองนากาฮามะ เสิร์ฟพร้อมอุด้งร้อนๆ
ส่วนของหวานที่ให้มาพร้อมชุดอาหารคือบุนปุคุโมจิ (Bunpuku Mochi) ของหวานชื่อดังในท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้รู้สึกอิ่มเอมใจหลังมื้ออาหาร
Bunpuku Mochi ของหวานที่ขึ้นของเมืองนากาฮามะนี้มีจุดเด่นที่แป้งโมจิซึ่งย่างด้วยอุณหภูมิสูง มีกลิ่นหอมคล้ายโมจิและเนื้อสัมผัสหนึบๆ เล็กน้อย ไส้ข้างในมี 2 แบบให้เลือก ได้แก่ ถั่วแดงกวนอาซุกิ และกับงา แต่ถ้าเลือกไม่ถูก แนะนำให้ลองทั้งสองอย่างเลย
เคอุนคัง (Keiunkan) สถานที่ชมทัศนียภาพอันงดงามระดับชาติของญี่ปุ่น
Picture courtesy of Pixta
เคอุนคัง (Keiunkan) อยู่ตรงข้ามกับสถานีนากาฮามะเก่า (ปัจจุบันคือ NAGAHAMA TETSUDO SQUARE หรือ Nagahama Railway Museum) สามารถเดินจากสถานี JR นากาฮามะ (JR Nagahama) มาเคอุนคังได้แค่ 5 นาที
เดิมสร้างขึ้นเมื่อปี 1877 เพื่อเป็นสถานที่ประทับพักผ่อนของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีในระหว่างการเดินทาง เนื่องจากการเดินทางที่รีบเร่ง สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีทั้งสองพระองค์จึงทรงประทับอยู่ราว 15 นาที แต่ปัจจุบันอาคารแห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ชมทัศนียภาพอันงดงามระดับชาติของญี่ปุ่นในด้านความงดงามและคุณค่าทางประวัติศาสตร์
ชื่อของอาคารได้รับการตั้งโดยอิโต ฮิโรบุมิ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
ชั้นที่ 2 เคยเป็นห้องประทับพักผ่อนของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินี ช่วงที่ก่อสร้างที่นี่ สามารถมองเห็นเขาอิบุกิและทะเลสาบบิวะได้ มีของตกแต่งต่างๆ อย่างโคมไฟระย้าที่ยังคงสภาพเดิมอยู่
สวนที่มองผ่านหน้าต่างได้รับการออกแบบโดยโอกาวะ จิเฮ นักจัดสวนชื่อดัง มีการปลูกพันธุ์ไม้ต่างๆ หลากชนิดที่จะสัมผัสได้ถึงความงามของญี่ปุ่นในทุกฤดูกาล
Picture courtesy of เมืองนากาฮามะ
นอกจากนี้ ทุกปีในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม เคอุนคังยังมีการจัด NAGAHAMA BONSAI EXHIBITION OF UME TREES with blossoms งานแสดงบอนไซต้นบ๊วยหลากชนิด มีการจัดแสดงบอนไซราว 90 ถาดในช่วงที่เหมาะแก่การชมมากที่สุด จากกระถางราว 300 ใบ เช่น ต้นบ๊วยใหญ่สูง 3 เมตร และต้นบ๊วยโบราณซึ่งว่ากันว่ามีอายุราว 400 ปี
ในช่วงที่จัดแสดง เมืองนากาฮามะจะมีหิมะตกเป็นบางครั้ง ความแตกต่างระหว่างสวนที่ปกคลุมด้วยหิมะกับดอกบ๊วยที่บานสะพรั่งอย่างงดงามนั้นช่างงามวิจิตรยิ่งนัก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์งานนิทรรศการ NAGAHAMA BONSAI EXHIBITION OF UME TREES with blossoms
การเดินทางไปฮิโกเนะ ไมบาระ และนากาฮามะ
Picture courtesy of Pixta
กรณีเดินทางจากฝั่งคันไซไปฮิโกเนะ ไมบาระ หรือนากาฮามะ ให้ขึ้นรถไฟเร็วพิเศษ (Special Rapid Service) สายบิวาโกะ (Biwako Line) ที่วิ่งบนเส้นทางสายหลัก JR โทไคโด (JR Tokaido Main Line)
กรณีเดินทางจากฝั่งนาโกย่า ให้ขึ้นรถไฟเร็วพิเศษ (Special Rapid Service) ที่มุ่งหน้าไปยังโอกาคิ (Ogaki) แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟท้องถิ่นที่มุ่งหน้าไปยังไมบาระ (Maibara ) นอกจากนี้ ยังสามารถขึ้นรถไฟชินคันเซ็นโคดามะ (Kodama) หรือฮิคาริ (Hikari) ตรงไปถึงสถานีไมบาระ (Maibara) ได้ด้วย จึงสะดวกมากๆ
3 เมืองรอบทะเลสาบบิวะกำลังรอทุกท่านให้ไปเยือนอยู่!
ฮิโกเนะ ไมบาระ และนากาฮามะ เป็นเมืองที่มีเสน่ห์มาก แถมเดินทางไปสะดวกมากๆ หากต้องการชื่นชมความงามในฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่น รวมถึงทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสาบและภูเขา เมื่อมา 3 เมืองรอบทะเลสาบบิวะนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน
Written by Jacky Chen
Sponsored by Nagahama City, Hikone City, Maibara City
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง