“ผ้ายูกิ-ทสึมุกิ” ของอิบารากิ ไปสัมผัสงานหัตถกรรมซึ่งเป็นมรดกโลกกัน
เมืองยูกิในอิบารากิเป็นแหล่งผลิตผ้ายูกิ-ทสึมุกิซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก เชิญมาเยี่ยมชมเมืองยูกิ เพื่อเรียนรู้เทคนิคอันปราณีตที่ใช้สร้างสรรค์กิโมโนผ้าไหมทอมือที่ล้ำค่าที่สุดของญี่ปุ่นกัน โดยจะขอแนะนำสถานที่และพิพิธภัณฑ์ที่สามารถชมการทำงานของช่างฝีมือ รวมถึงสตูดิโอที่สัมผัสประ...
"ผ้ายูกิ-ทสึมุกิ" ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของ UNESCO ในปี 2010
ไม่ว่าใครก็ตามที่เคยหรือไม่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่น ต่างต้องตะลึงกับความงามของชุดกิโมโนแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ชุดกิโมโนมีหลากหลายประเภท ทั้งชุดที่มีสีสันจัดจ้านและชุดที่มีลวดลายสวยงาม โดยเฉพาะชุดกิโมโนผ้าไหมทอมืออันเรียบหรูที่ทำให้ผู้สวมใส่เปล่งประกายงดงามและโดดเด่น
ผ้าไหมทอมือที่ใช้ทำชุดกิโมโนมีผลิตอยู่ในท้องถิ่นต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือผ้ายูกิ-ทสึมุกิ (Yuki Tsumugi) ซึ่งเป็นเทคนิคทอผ้าไหมที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งสืบทอดกันมากว่า 2,000 ปีในพื้นที่่แถบเมืองยูกิ (Yuki) ในจังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) และเมืองโอยามะ (Oyama) ในจังหวัดโทจิกิ (Tochigi) ในปัจจุบัน
นอกจากประวัติอันยาวนานแล้ว ผ้าทอนี้ยังโดดเด่นด้วยกระบวนผลิตตั้งแต่การปั่นด้าย การย้อม การออกแบบ และการทอทั้งหมดนั้นทำด้วยมือ ทำให้ได้ชุดกิโมโนที่เบา อบอุ่น และทนทานที่สามารถสวมใส่กันได้หลายชั่วอายุคน เทคนิคการผลิตผ้ายูกิ-ทสึมุกินี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้จากยูเนสโก (UNESCO) ในปี 2010
บทความนี้ ขอแนะนำจุดเด่นและประวัติของผ้ายูกิ-ทสึมุกิ รวมถึงสถานที่ที่สามารถชมช่างฝีมือทำงาน และสตูดิโอที่สามารถสัมผัสประสบการณ์การทอผ้ายูกิ-ทสึมุกิ
จุดเด่นและการทำผ้ายูกิ-ทสึมุกิ
ถนนในเมืองยูกิที่มีบ้านเรือนแบบดั้งเดิมตั้งเรียงราย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ Photo by Pixta
เมืองยูกิตั้งอยู่ทางเหนือของโตเกียว เลียบแม่น้ำคินุกาวะ (Kinugawa River) มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ เหมาะกับการปลูกต้นหม่อนและเลี้ยงไหม ทำให้การเลี้ยงไหมเป็นอุตสาหกรรมหลักในพื้นที่นี้มานานหลายศตวรรษ
ผ้ายูกิ-ทสึมุกิมีกระบวนการผลิตมากกว่า 30 ขั้นตอน! เริ่มแรกคือการแผ่รังไหมเพื่อทำเส้นไหม และกระบวนการปั่นเส้นไหมด้วยมือโดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ซึ่งเรียกว่า ทสึมุกิ (ปั่นด้าย) และนี่คือที่มาของชื่อยูกิ-ทสึมุกิ ผ้ายูกิ-ทสึมุกิได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผ้าไหมชนิดเดียวในโลกที่ใช้ด้ายปั่นมือทั้งด้ายยืนและด้ายพุ่ง ด้วยคุณสมบัติพิเศษของรังไหม ทำให้ผ้าทอมีความทนทานและสัมผัสที่เรียบลื่น
สิ่งสำคัญยิ่งที่ต้องกล่าวถึงก็คือผ้ายูกิ-ทสึมุกิสามารถใช้รังไหมที่เสียหายหรือบิดเบี้ยวซึ่งการปั่นด้วยเครื่องจักรไม่สามารถใช้ได้ จึงช่วยลดการสิ้นเปลืองวัตถุดิบที่มีค่าสำหรับผ้าไหมและสนับสนุนอุตสาหกรรมการเลี้ยงไหมในท้องถิ่น
หลังจากพันด้ายบนม้วนหลอดด้ายแล้ว เป็นการสร้างลวดลายบนด้ายโดยตรง ด้วยการผูกปมด้วยมือตามการออกแบบที่เตรียมไว้ล่วงหน้าซึ่งเรียกว่า คาซุริ-คุคุริ แม้เป็นด้ายที่ย้อมแล้ว สีของผ้าที่ผูกปมด้วยมือก็จะไม่เปลี่ยนไป
ในกระบวนการทอ จะมีการทักทอด้ายยืนและด้ายพุ่งอย่างปราณีตามรูปแบบที่ตั้งใจไว้ ในการทอผ้านี้จะใช้เครื่องทอผ้าที่เรียกว่า จิบาตะ (หูกหรือกี) เครื่องทอผ้านี้มีเอกลักษณ์ตรงที่เอวของช่างทอและเครื่องทอผ้าจะเชื่อมต่อกันด้วยสายรัดเอว ช่างทอสามารถปรับความตึงของด้ายยืนได้ด้วยการขยับหลัง
จุดเด่นของชุดกิโมโนยูกิ-ทสึมุกิคือ เบา นุ่ม และทนทานมาก อีกทั้งยังช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อบอุ่นแม้ในวันที่อากาศหนาว นอกจากนี้ ทุกครั้งที่สวมใส่ ยิ่งเพิ่มประกายของเนื้อผ้าให้เจิดจ้ามากขึ้น และงดงามขึ้นตามเวลา กล่าวกันว่า ชุดกิโมโนยูกิ-ทสึมุกิสวมใส่กันได้นานกว่า 3 ชั่วอายุคน และถือเป็นสมบัติล้ำค่าของครอบครัวที่ส่งต่อจากพ่อแม่สู่ลูก
ชุดกิโมโนผ้าไหมทสึมุกิแทบไม่มีแบบสำเร็จรูป โดยทั่วไปจะทำโดยการซื้อผ้าไหมทสึมุกิ 1 ทัง (สำหรับตัดชุดกิโมโน 1 ชุด ประมาณ 10.9 เมตร) แล้วทำตามขนาดของผู้สวมใส่ เนื่องจากต้องใช้ผ้าไหมทสึมุกิสำหรับชุดกิโมโนและสายรัดเอวค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่ผ้าไหมทสึมุกิ 1 ทังจะมีราคาหลายแสนเยน แม้จะมีราคาแพงกว่าชุดกิโมโนผ้าไหมอื่นๆ แต่ว่ากันว่าชุดกิโมโนผ้าไหมทสึมุกินั้นเหมาะสวมใส่ในทุกโอกาสทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
ประวัติผ้ายูกิ-ทสึมุกิ
ต้นกำเนิดของผ้ายูกิ-ทสึมุกินั้น เชื่อกันว่าย้อนกลับไปในรัชสมัยของจักรพรรดิซูจิน จักรพรรดิองค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น ซึ่งปกครองแผ่นดินในช่วงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล ในสมัยนั้น พื้นที่ของคุจิ (ปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของจังหวัดอิบารากิ) มีการทำผ้าทออาชิกินุ ผ้าไหมที่ทนทานซึ่งทอจากไหมดิบเส้นหนา จากนั้นได้ส่งต่อวิธีการผลิตผ้าไหมมาสู่เมืองยูกิแห่งนี้
ในปี 714 มีการถวายผ้าไหมที่ทอในเมืองยูกิแก่จักรพรรดิของนารา ผ้าทอนี้ได้รับการเก็บไว้ในโชโซอิน คลังสมบัติของวัดโทไดจิ (Todai-ji Temple) รวมกับสิ่งของล้ำค่าของญี่ปุ่นและจากต่างประเทศ สมัยนั้น จะเรียกผ้าทอนี้ว่า "ฮิตาจิ-ทสึมุกิ" ตามชื่อฮิตาจิโนะคุนิ (ปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของจังหวัดอิบารากิ)
ช่วงสมัยมุโรมาจิ (ปี 1333 - 1572) ถึงสมัยเอโดะ (ปี 1603 - 1868) ตระกูลยูกิซึ่งปกครองพื้นที่ยูกิได้ส่งผ้าไหมเป็นของขวัญถวายให้กับตระกูลโชกุน จนกระทั่งในสมัยเอโดะ จึงมีการเรียกผ้าไหมนี้ว่า "ยูกิ-ทสึมุกิ"
ในสมัยเอโดะ มีเพียงผู้ชายเท่านั้นที่สวมชุดกิโมโนผ้ายูกิ-ทสึมุกิ เนื่องจากระบบชนชั้นที่เข้มงวดและข้อห้ามการออกแบบที่ฟุ่มเฟือย จึงจำกัดให้ชนชั้นพ่อค้าสวมกิโมโนสีพื้นๆ ได้เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ พ่อค้าที่มั่งคั่งจึงสวมชุดกิโมโนลวดลายปราณีตซับซ้อนซึ่งมองไม่เห็นหากไม่มองใกล้ๆ นี่คือเหตุผลที่ผ้ายูกิ-ทสึมุขึ้นชื่อในด้านความงามอันเรียบหรู
ชุดกิโมโนของผู้หญิงที่ทำจากผ้ายูกิ-ทสึมุกิ เริ่มปรากฏหลังช่วงต้นสมัยเมจิ (ปี 1878 - 1912) ขณะที่ญี่ปุ่นกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ความหลากหลายในสีสันและลวดลายของผ้ายูกิ-ทสึมุกิเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีการออกแบบมากมายเหมือนเช่นในปัจจุบัน ผ้ายูกิ-ทสึมุกิจึงได้รับคำชื่นชมและเป็นที่นิยมมากๆ จากผู้ที่ชื่นชอบ อย่างอดีตจักรพรรดินีมิชิโกะก็ทรงสวมชุดกิโมโนผ้ายูกิ-ทสึมุกิเช่นกัน
แต่ละขั้นตอนในการทำผ้ายูกิ-ทสึมุกิ เป็นงานหัตถกรรมที่ปราณีตมากๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการปั่นด้าย การขึ้นลวดลายบนเส้นด้าย ไปจนถึงการทอผ้า ผ้ายูกิ-ทสึมุกิจึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติทางวัฒนธรรมที่ไม่มีรูปร่างที่สำคัญยิ่งของญี่ปุ่นเมื่อปี 1956 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้โดย UNESCO เมื่อปี 2010
สถานที่ซึ่งเชี่ยวชาญในเรื่องผ้ายูกิ-ทสึมุกิ สามารถร่วมกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ได้ด้วย
หากต้องการร่วมกิจกรรมทำผ้ายูกิ-ทสึมุกิ ขอแนะนำให้ไปที่เมืองยูกิในจังหวัดอิบารากิ สามารถขึ้นรถไฟชินคันเซ็นสายโทโฮคุ (Tohoku Line) จากสถานีโตเกียว (Tokyo) ไปลงที่สถานีโอยามะ (Oyama) แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายมิโตะ (Mito Line) ไปลงสถานียูกิ (Yuki) ใช้เวลาเดินทางรวมราว 1 ชั่วโมง
ขอแนะนำ 3 สถานที่ซึ่งจะได้ชมช่างฝีมือผ้ายูกิ-ทสึมุกิ และยังสามารถร่วมกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์การทอและย้อมสีผ้าด้วย
1. ศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านเมืองยูกิ (Yuki City Traditional Crafts Center)
หากอยากชมการสาธิตโดยช่างฝีมือ ต้องแวะไปที่ศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านเมืองยูกิ ด้านในมีมุมนิทรรศการที่แนะนำกระบวนการผลิตของผ้ายูกิ-ทสึมุกิ และบอร์ดอธิบายเกี่ยวกับผ้ายูกิ-ทสึมุกิพร้อมคำแปลภาษาอังกฤษ
ที่นี่มีช่างฝีมือท้องถิ่นประจำทุกวัน สามารถชมสาธิตการปั่นด้ายด้วยมือและการทอผ้ายูกิ-ทสึมุกิได้ฟรี (* ไม่ต้องจองล่วงหน้า)
แค่ได้ชมผลงานของช่างฝีมือก็สนุกแล้ว ท่านที่อยากลองปั่นเส้นไหมสามารถลองขอได้ อนึ่ง ช่างฝีมือไม่สามารถพูดภาษาอื่นได้นอกจากภาษาญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังมีการอธิบายเทคนิคการทำลวดลายบนเส้นด้ายที่ใช้ในผ้ายูกิ-ทสึมุกิให้เข้าใจง่ายๆ ด้วยแผนผัง การออกแบบส่วนใหญ่จะขอให้ผู้จัดการร้านจำหน่ายผ้าไหมทำกิโมโนที่คุ้นเคยกับเทรนด์และแบบที่ขายดีเป็นผู้ทำให้
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือมีช่างฝีมือไม่กี่คนที่ทุ่มเทในการทำผ้ายูกิ-ทสึมุกิ ช่างฝีมือส่วนใหญ่จะมีอาชีพหลักกันและทำผ้ายูกิ-ทสึมุกิเป็นอาชีพเสริมในยามว่างเสียมากกว่า ปกติชาวเมืองยูกิจะประกอบอาชีพเกษตรกรในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิถึงปลายฤดูใบไม้ร่วง ส่วนในช่วงที่อากาศหนาวก็จะทำงานเกี่ยวกับผ้าไหมทสึมุกิ
เมื่อพิจารณาจากเวลาและปริมาณงานที่ต้องใช้ในการทำผ้าไหมทสึมุกิ 1 ทัง จะเห็นว่าไม่ใช่งานที่สามารถทำกันได้ด้วยช่างฝีมือแค่ 1 - 2 คน แต่เป็นงานที่ช่างฝีมือหลายคนต้องทำงานร่วมกัน
บทบาทหนึ่งของศูนย์หัตถกรรมพื้นบ้านเมืองยูกิคือการสืบทอดเทคนิคของผ้าไหมทสึมุกิให้กับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ ด้วยเหตุนี้ช่างฝีมือจึงมารวมตัวกันเป็นประจำเพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งสร้างสรรค์ผ้าไหมทสึมุกิใหม่ๆ
ข้อมูล
สถานที่: Yuki City Traditional Crafts Center
ที่อยู่: 3018-1 Yuki, Yuki City, Ibaraki
ติดต่อ : 029-632-1108
การเดินทาง: จากสถานี Higashi-Yuki รถไฟสาย Mito เดิน 5 นาที
เว็บไซต์ทางการ: https://www.city.yuki.lg.jp/page/page004042.html
Google Map: https://goo.gl/maps/RK4VshUHHc6zeuCv8
2. พิพิธภัณฑ์ผ้าไหมทสึมุกิ (Tsumugi Silk Museum หรือ Tsumugi no Yakata)
พิพิธภัณฑ์ผ้าไหมทสึมุกิเป็นกลุ่มอาคารซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 2006 เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ผ้ายูกิ-ทสึมุกิ
หากอยากรู้ประวัติของผ้ายูกิ-ทสึมุกิ ก่อนอื่นให้ไปที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ที่นี่จัดแสดงเอกสารทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับผ้ายูกิ-ทสึมุกิตั้งแต่สมัยนารา (ปี 710 - 794) จนถึงปัจจุบันไว้
โดยเฉพาะหนังสือคำร้อง "ขอให้ลดราคาของผ้าไหม" ที่พ่อค้าสิ่งทอชื่อดังของเอโดะ (ชื่อเดิมของโตเกียว) ส่งถึงช่างฝีมือในยูกิช่วงสมัยเอโดะ เป็นเอกสารที่น่าสนใจมาก ซึ่งทำให้รู้ว่า ในสมัยนั้น ผ้ายูกิ-ทสึมุกิได้รับการยอมรับมาก เป็นที่ต้องการสูง และมีราคาแพงมากทีเดียว และแม้แต่ในสมัยเอโดะ ก็มีเพียงไม่กี่คนที่ซื้อหามาครอบครองได้
พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงกระบวนการปั่น การย้อม และการทอผ้าไหมที่หลากหลาย
บนชั้น 2 จะเห็นผ้ายูกิ-ทสึมุกิที่งดงามซึ่งทอขึ้นในสมัยเอโดะ เมื่อชมชุดกิโมโนของผู้ชายอย่างใกล้ชิด จะสังเกตเห็นว่าชุดกิโมโนเหล่านี้มีลวดลายที่ทอด้วยความปราณีตมากจนแทบแยกไม่ออกด้วยตาเปล่า
มีชุดกิโมโนของผู้หญิงที่มีลวดลายสีสันสวยงามซึ่งทอขึ้นในสมัยเมจิจัดแสดงเช่นกัน รับรองว่าต้องประทับใจกับชุดกิโมโนที่เปล่งประกายดูอบอุ่นนี้อย่างแน่นอน
อาคารที่อยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์เป็นสตูดิโอที่จัดกิจกรรมเวิร์คชอปต่างๆ เมื่อสมัครล่วงหน้า สามารถร่วมกิจกรรมเวิร์คชอปทำที่รองแก้วจากผ้ายูกิ-ทสึมุกิได้
เมื่อเลือกเส้นด้ายได้แล้ว จะมีการสอนวิธีใช้เครื่องทอผ้าให้แล้ว ก็เริ่มลงมือทำที่รองแก้วได้เลย ช่างเป็นประสบการณ์ที่สนุกมากๆ เสียงเครื่องทอผ้านั้นน่าฟังจนทำให้หลงไหลโดยไม่รู้ตัว ที่รองแก้วใช้เวลาทำราว 15 - 20 นาที
สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้สูงสุดครั้งละ 10 คน มีค่าใช้จ่าย 2,200 เยน ที่นี่มีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้ ในวันเสาร์จะมีการสาธิตการทอผ้าจิบาตะ โดยทั่วไป จิบาตะคือหูกหรือกีที่ใช้ทอผ้าไหม ช่างฝีมือจะใช้เทคนิคทักทอเส้นด้านพุ่งกับเส้นด้ายยืนอย่างปราณีต สร้างสรรค์ให้เป็นลวดลายที่มีดีไซน์ซับซ้อน ที่มีเสน่ห์มากๆ
พิพิธภัณฑ์ผ้าไหมทสึมุกิมีแกลเลอรีที่แสดงและจำหน่ายผ้าไหมราว 200 ทัง มีลวดลายและสีสันหลากหลายน่าทึ่งมาก นอกจากนี้ ที่ร้านค้าในแผนกต้อนรับของอาคารยังวางจำหน่ายของฝากที่ทำจากผ้ายูกิ-ทสึมุกิ เช่น ผ้าคลุมไหล่ เครื่องประดับ และกระเป๋าสตางค์สุดหรู
ข้อมูล
https://visit.ibarakiguide.jp/th/sightseeing/22276/
3. ทสึมุกิโนะซาโตะ (Tsumugi no Sato)
ทสึมุกิโนะซาโตะตั้งอยู่ใกล้พิพิธภัณฑ์ผ้าไหมทสึมุกิ เป็นสตูดิโอเชิงปฏิบัติสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้เข้าชมเป็นหมู่คณะ หนึ่งในนั้นคือกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ทำผ้ายูกิ-ทสึมุกิ ทั้งสามารถสัมผัสประสบการณ์ทอผ้าไหมทสึมุกิเป็นของต่างๆ เช่น ผ้ารองแก้ว (930 เยน) ผ้าคลุมไหล่ (5,000 เยนขึ้นไป) ผ้าคาดโต๊ะ (4,000 เยน) และการย้อมสีคราม
สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้สูงสุดครั้งละ 20 คน ต้องจองล่วงหน้าทางโทรศัพท์ ในสตูดิโอมีมุมจำหน่ายของฝากที่รวบรวมงานหัตถกรรมต่างๆ เช่น เครื่องประดับ ของตกแต่งภายใน เครื่องแก้ว และอื่นๆ ที่มีดีไซน์ของผ้าไหมทสึมุกิเป็นแรงบันดาลใจ
ข้อมูล
สถานที่: Tsumugi no Sato
ที่อยู่: 2515 Yuki, Yuki City, Ibaraki
ติดต่อ: 029-632-8002 อีเมล: info@tsumugi.co.jp
การเดินทาง: จากสถานี Yuki รถไฟสาย Mito เดิน 25 นาทีหรือนั่งแท็กซี่ 7 นาที
เว็บไซต์ทางการ: http://www.tsumugi.co.jp/top.php?cID=1
Google Map: https://goo.gl/maps/zPYScXW7d1wNiwh3A
ไปเที่ยวเมืองยูกิและสัมผัสผ้ายูกิ-ทสึมุกิกัน
เมืองยูกิในจังหวัดอิบารากิเป็นสถานที่ซึ่งจะได้สัมผัสผ้ายูกิ-ทสึมุกิซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก ไปสัมผัสความงดงามของงานฝีมือที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณกัน ซึ่งจะได้ชมการทำงานที่ปราณีตของช่างฝีมือ และสัมผัสประสบการณ์การทอผ้าทสึมุกิแบบง่ายๆ ด้วย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Written by Ramona Taranu
Sponsored by Ibaraki Prefecture
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง