[เมืองฮิเมจิ] พิพิธภัณฑ์ที่คุณอยากไปเยี่ยมชมด้วยกัน “พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัดเฮียวโกะ”

• สารบัญ
• ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัด เฮียวโก กันเถอะ
• นิทรรศการถาวรที่คุณควรชมก่อนไปปราสาทฮิเมจิ
• โซนนิทรรศการฟรีที่แม้แต่เด็กเล็กก็สามารถเพลิดเพลินได้
• โซนนิทรรศการถาวรที่จัดแสดงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของ จังหวัดเฮียวโก(ต้องเสียค่าธรรมเนียม)
• หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับ เฮียวโก และ ฮิเมจิ โปรดไปที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัด เฮียวโก
• วิธีการเข้าถึง
• ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
• ข้อมูลพื้นฐาน

ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัด เฮียวโก กันเถอะ

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัด เฮียวโก หรือที่เรียกกันติดปากว่า “เรกิฮากุ” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของปราสาทฮิเมจิ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติของชาติ ตั้งอยู่ภายในซากปรักหักพังของปราสาท ฮิเมจิ ซึ่งเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์พิเศษ และอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมือง ฮิเมจิ และสวนอนุสรณ์ชิโรโทเปีย

การออกแบบพื้นฐานของอาคารทำโดยสถาปนิก Kenzo Tange (พ.ศ. 2456-2548) การออกแบบนี้เหมาะสมกับการที่ตั้งอยู่ภายในซากปรักหักพังของปราสาท ฮิเมจิ ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนอยู่ภายในป้อมปราการ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพปราสาทฮิเมจิที่สะท้อนบนกระจกหน้าต่างเป็นภาพที่คุณอยากจะอวดให้นักท่องเที่ยวได้เห็น

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในการปรับปรุงใหม่นั้นส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการขยายอายุการใช้งานของสิ่งอำนวยความสะดวก การอัปเดตอุปกรณ์ และการแปลงไฟเป็นแบบ LED ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญใดๆ ต่อรูปแบบของห้องจัดนิทรรศการ แต่มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามา รวมทั้ง Wi-Fi ฟรีทั่วทั้งพื้นที่จัดนิทรรศการ คู่มือเสียง และประสบการณ์การแต่งกิโมโนโดยใช้เทคโนโลยี AR

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัด เฮียวโก มีคอลเลกชันสิ่งของประมาณ 300,000 ชิ้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่าง จังหวัดเฮียวโก )

“HISTORY OF MUSEUM - History's Past and Future” นิทรรศการพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีการเปิดพิพิธภัณฑ์ จะจัดขึ้นจนถึงวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2566

โปสเตอร์นิทรรศการพิเศษและนิทรรศการที่วางแผนจะจัดขึ้นที่ผ่านมา

นิทรรศการถาวรที่คุณควรชมก่อนไปปราสาทฮิเมจิ

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัด เฮียวโก มีปราสาทฮิเมจิหลายแห่ง

แบบจำลองปราสาทฮิเมจิขนาด 1/15

สิ่งแรกที่คุณเห็นเมื่อเข้าไปในล็อบบี้คือแบบจำลองปราสาทฮิเมจิขนาด 1/15 ตั้งอยู่ติดกับบันไดเลื่อนที่นำไปยังนิทรรศการที่ต้องเสียค่าเข้าชมบนชั้นสอง ดังนั้นการที่สามารถเข้าชมจากด้านบนได้จึงถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างยิ่ง

ห้องพักผ่อนชมวิวปราสาท

Castle View Lounge อยู่บริเวณด้านบนของบันไดเลื่อน พื้นที่ซึ่งแต่เดิมใช้เป็นทางเดินส่วนใหญ่ ได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น “Castle View Lounge” และมีการติดตั้งม้านั่งไว้ชิดผนัง ช่วยให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ได้อย่างเต็มที่

ปราสาทฮิเมจิเมื่อมองจากม้านั่งที่เพิ่งติดตั้งใหม่ (น่าเสียดายที่วันนั้นฝนตก)

โอเค มีพิพิธภัณฑ์คาเฟ่ ซึ่งคุณสามารถมองเห็นปราสาทฮิเมจิได้อีกด้วย ไม่มีร้านกาแฟอื่นในเมืองที่จะมีหน้าต่างเปิดกว้างเพื่อชมวิวหอคอยปราสาทฮิเมจิแบบใกล้ชิดเช่นนี้ นอกจาก Castle View Lounge แล้ว ที่นี่ยังมีที่นั่งพิเศษเพื่อชมปราสาทฮิเมจิอีกด้วย

งานกระจกของปราสาทฮิเมจิ

โอเค ล็อบบี้มีเครื่องแก้วจำลองปราสาทฮิเมจิ รางวัลนี้ได้รับการถวายแด่พระจักรพรรดิและจักรพรรดินี (ซึ่งในขณะนั้นเป็นจักรพรรดิและจักรพรรดินี) ทั้งสองพระองค์โดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคนซัสในประเทศสหรัฐอเมริกา และพระราชทานให้แก่ทั้งสองพระองค์ในปี พ.ศ. 2535

โซนนิทรรศการฟรีชั้น 1 แบ่งออกเป็น 4 ส่วน หนึ่งในนั้นก็คือ “การผ่าปราสาทฮิเมจิ” ที่เราแนะนำให้แวะชมก่อนไปเที่ยวชมปราสาทฮิเมจิ ฐานเสาหลักด้านตะวันออกของหอคอยหลัก ซึ่งได้รับการเปลี่ยนใหม่ในระหว่างการซ่อมแซมครั้งใหญ่ใน โชวะ ได้รับการจัดแสดงไว้

นิทรรศการอันทรงคุณค่านี้จะทำให้คุณได้เห็นซากของการปรับปรุงที่ดำเนินการในสมัยเอโดะ

โรงภาพยนต์ในโซนนิทรรศการฟรีชั้น 1

นิทรรศการอื่นๆ ได้แก่ ชาจิโฮโกะ (วาฬคาร์ป) ซึ่งเป็นพื้นฐานในการบูรณะระหว่างการซ่อมแซมครั้งใหญ่ในสมัย โชวะ และยังมี "โรงละคร" ที่ฉายภาพจากคลังข้อมูลที่หายากซึ่งสามารถชมได้ที่นี่เท่านั้น เมื่อพาเพื่อนจากแดนไกลมาเยี่ยมชมปราสาทฮิเมจิ คุณคงอยากจะเริ่มต้นด้วยการได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์

โซนนิทรรศการฟรีที่แม้แต่เด็กเล็กก็สามารถเพลิดเพลินได้

ชั้น 1 เป็นโซนนิทรรศการฟรี “มินนะโนะอิเอะ” ยังแนะนำสำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กอีกด้วย นิทรรศการอันน่าคิดถึงทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่สนุกสนานสำหรับทุกคน

มีการเพิ่ม “AR Old Costume Shop” เข้ามาแทนที่มุมแต่งตัวที่ผู้เยี่ยมชมสามารถแต่งตัวเป็นนักรบหรือเจ้าหญิง ซึ่งเคยมีอยู่ก่อนการปรับปรุง คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการแต่งตัวและลองสวม “จูนิฮิโตะเอะ” (กิโมโน 12 ชั้น) “โอโยโรอิ” (ชุดเกราะขนาดใหญ่) และ “คาบูโตะ” (หมวกกันน็อก) ผ่านแอปสมาร์ทโฟน

ภาพ AR พร้อมหมวกกันน็อค ระบบจะจดจำใบหน้าได้โดยอัตโนมัติและให้คุณถ่ายเซลฟี่ได้ (ภาพถ่ายจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัด เฮียวโก)

ในนิทรรศการแบบปฏิบัติจริง คุณจะได้สัมผัสสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ได้จริง เช่น การตีระฆังสำริด (แบบจำลอง) และการยกหีบสมบัติ (แบบจำลอง) ซึ่งจะมอบประสบการณ์ที่คุณจะไม่สามารถเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์หากไม่ได้สัมผัสด้วยตนเอง

พวกเขาวางแผนที่จะขยายนิทรรศการในอนาคต ดังนั้นฉันจึงตั้งตารอที่จะเห็นว่ามีอะไรจัดแสดงอยู่

นอกจากนี้ “Hyogo Arts and Crafts” ยังจัดแสดงผลงานศิลปะ เช่น วัฒนธรรมพุทธศาสนา ภาพวาด และงานหัตถกรรมที่เกี่ยวข้องกับ จังหวัดเฮียวโก อีกด้วย ส่วน "ชีวิตในอดีต" จะแสดงสิ่งของต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่สมัยเอโดะจนถึง โชวะ

โซนนิทรรศการถาวรที่จัดแสดงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของ จังหวัดเฮียวโก(ต้องเสียค่าธรรมเนียม)

ชั้นสองเป็นที่ตั้งของห้องนิทรรศการพิเศษที่ใช้จัดนิทรรศการพิเศษและนิทรรศการที่มีการวางแผนไว้ รวมถึงโซนที่ต้องเสียค่าเข้าชมสำหรับนิทรรศการถาวร แม้จะมีค่าธรรมเนียมแต่ก็อยู่ที่ 200 เยนต่อคน ราคา 100 เยนสำหรับนักศึกษาและนักเรียนมัธยมปลายและต่ำกว่านั้นฟรี ดังนั้นจึงใช้งานง่าย (ในช่วงที่มีนิทรรศการพิเศษและนิทรรศการที่วางแผนไว้ จะมีการคิดค่าธรรมเนียมเข้าชมนิทรรศการพิเศษและนิทรรศการที่วางแผนไว้)

ประวัติศาสตร์ของทั้งห้าประเทศในจังหวัดเฮียวโก

นิทรรศการนี้จะแนะนำประวัติศาสตร์ของ 5 จังหวัดที่ก่อตั้งเป็น จังหวัดเฮียวโก(ห้าจังหวัดเดิม ได้แก่ เซทสึ ฮาริมะ ทาจิมะ ทัมบะ และ อาวาจิ) ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงช่วงยุคต้นสมัยใหม่ ตลอดจนความก้าวหน้า จังหวัดเฮียวโก

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบของเก่า ขอแนะนำพิพิธภัณฑ์เด็ก นิทรรศการแนะนำวัฒนธรรมของเด็กๆ ตั้งแต่สมัยเอโดะจนถึงปัจจุบัน เต็มไปด้วยของเล่นและสิ่งของอื่นๆ คงมีคนจำนวนมากที่รู้สึกคิดถึงมุมที่มองกลับไปถึงสวนสนุกที่เปิดใหม่ใน จังหวัดเฮียวโก

สำหรับผู้ชื่นชอบปราสาท มี "สารานุกรมปราสาทญี่ปุ่น" การจำลองหอคอยปราสาทที่มีอยู่ 12 แห่งขนาด 1/50 เป็นสิ่งที่ต้องชม แฟนๆ ของปราสาทฮิเมจิอาจจะอิจฉาโมเดลปราสาทเอโดะขนาด 1/50 ที่สร้างโดยโชกุนคนที่ 3 โทคุงาวะ แสงสว่าง และตั้งอยู่ในห้องเดียวกัน

โอเค เป็นแบบจำลองปราสาทเอโดะขนาด 1/50

นอกจากนี้ ยังมีโมเดลและแผงต่างๆ มากมายจัดแสดงไว้ สร้างความสุขให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบปราสาทและประวัติศาสตร์

รถแห่ดันจิริและยาไตที่ปรากฏในงานเทศกาลใน ฮิเมจิ

"เทศกาลเฮียวโก" แนะนำเทศกาลและศิลปะการแสดงพื้นบ้านผ่านสื่อ โมเดล วิดีโอ และอื่นๆ อีกมากมาย นิทรรศการนี้จะให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสความอลังการของขบวนแห่ในเทศกาลต่อสู้และความงดงามของการเต้นรำสิงโตอย่างใกล้ชิด

หากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับ เฮียวโก และ ฮิเมจิ โปรดไปที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัด เฮียวโก

แม้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญใดๆ เกิดขึ้นกับนิทรรศการ แต่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัด เฮียวโก ก็ได้ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย รวมถึงปรับปรุงส่วนอื่นๆ ที่มองไม่เห็นด้วย ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ได้ปรับปรุงแสงสว่างด้วยไฟ LED มี Castle View Lounge ใหม่ และได้แนะนำแอพพลิเคชั่นแนะนำนิทรรศการฟรีสำหรับสมาร์ทโฟน (ขอแนะนำให้พกหูฟังมาเพื่อป้องกันเสียงรั่ว) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีนิทรรศการแบบสัมผัสได้ และนิทรรศการยังนำหลักการออกแบบที่เป็นสากลมาใช้ด้วย หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับปราสาทฮิเมจิและ เฮียวโก เราขอแนะนำพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัด เฮียวโก

(ผู้เขียน: ริวจิ สึคาโมโตะ)

*บทความนี้เป็นข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2023 ราคาสินค้ารวมภาษีแล้ว เนื้อหาและราคาผลิตภัณฑ์อาจมีการเปลี่ยนแปลง

วิธีการเข้าถึง

เดินจากสถานี ฮิเมจิ บนรถไฟ JR และ Sanyo ประมาณ 25 นาที นั่งรถบัส Shinki [ผ่าน ฮิเมจิ Medical Center] ประมาณ 8 นาทีแล้วลงที่ Himeyama Park North/Museum Front หรือขึ้นรถบัสสายเที่ยวชมปราสาทประมาณ 8 นาที ลงที่ป้าย "Museum Mae"

ข้อมูลที่เป็นประโยชน์

เฮียวโกะอเมซิ่งพาส

ตั๋วรถบัสมือถือใบนี้ไม่เพียงแต่สามารถโดยสารรถบัสท้องถิ่น Shinki Bus ได้ไม่อั้นในราคา 1,000 เยนต่อวันเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณสามารถโดยสาร โกเบ's City Loop และ Port Loop ได้อีกด้วย *จำกัดเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น

คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดและซื้อ Hyogo Amazing Pass

บริการรับฝากสัมภาระ

คุณอยากจะไปเที่ยวท่องเที่ยวแบบมือเปล่าบ้างไหม?

ข้อมูลพื้นฐาน

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จังหวัด เฮียวโก

ที่อยู่: 68 Honmachi, เมืองฮิเมจิ , Hyogo จังหวัดเฮียวโก

เบอร์โทร : 079-288-9011

เวลาทำการ : 10.00-17.00 น. (เข้าได้ถึง 16.30 น.)

ค่าเข้าชม: ชั้น 1 ฟรี ชั้น 2 นิทรรศการถาวร ผู้ใหญ่ 200 เยน นักศึกษา 150 เยน นักเรียนมัธยมปลายและต่ำกว่าเข้าชมฟรี มีค่าธรรมเนียมพิเศษระหว่างนิทรรศการพิเศษ เป็นต้น ปิด: ทุกวันจันทร์ (เปิดหากวันจันทร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ปิดในวันธรรมดาถัดไป) วันหยุดปีใหม่ (29 ธันวาคมถึง 3 มกราคม) และปิดทำการพิเศษอื่นๆ

ที่จอดรถ : ไม่มี (ใช้ที่จอดรถแบบเสียเงินบริเวณใกล้เคียง)

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ที่นี่

โซเชียลมีเดีย: Instagram , Facebook , YouTube