ที่เที่ยวและร้านอาหารแนะนำโดยผู้อาศัยในเขตซุกินามิและเส้นทางรถไฟสายจูโอ
จุดเด่นของเขตซุกินามิคือเดินทางมาง่าย นั่งรถไฟจากชินจูกุแค่ราว 10 นาที มีสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย บทความนี้ขอแนะนำที่เที่ยวและร้านอาหารละแวก 4 สถานีรถไฟ (โคเอ็นจิ อาซากายะ โอกิคุโบะ และนิชิโอกิคุโบะ) บนเส้นทางรถไฟสาย JR จูโอ ซึ่งแนะนำโดยผู้อาศัญหลากสัญชาติในเขตซูกินามิ
เขตซุกินามิ สะดวกสบาย น่าอยู่ การเดินทางเป็นเยี่ยม แค่ 10 นาทีก็ถึงชินจูกุ
Photos by Pixta
เขตซุกินามิ (Suginami) เป็นหนึ่งใน 23 เขตของโตเกียว ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตก เนื่องจากสะดวกสบายต่อการอยู่อาศัยและการเดินทางไปยังใจกลางกรุงโตเกียว มีศูนย์กลางอยู่ที่ละแวก 4 สถานีรถไฟในเส้นทางรถไฟสาย JR จูโอ (JR Chuo Line) ได้แก่ โคเอ็นจิ (Koenji) อาซากายะ (Asagaya) โอกิคุโบะ (Ogikubo) และนิชิโอกิคุโบะ (Nishi-Ogikubo) จึงมีนักเรียนต่างชาติและผู้อยู่อาศัยเป็นครอบครัวจำนวนมาก ปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยราว 570,000 คน โดยมีชาวต่างชาติราว 17,000 คน ทำให้พื้นที่นี้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและความหลากหลายทางวัฒนธรรม
บริเวณนี้มีชื่อเสียงเป็นพิเศษในเรื่องงานเทศกาลร่ายรำแห่งฤดูร้อนอาวะโอโดริ โคเอ็นจิ โตเกียว (Tokyo Koenji Awa-Odori) ในโคเอ็นจิ แต่ยังมีของอร่อยและที่เที่ยวเลิศๆ มากมาย
ในปี 2023 MATCHA ได้จัดการสนทนาพูดคุยเกี่ยวกับเสน่ห์ของพื้นที่นี้กับผู้คนหลากสัญชาติ ทั้งชาวญี่ปุ่น ชาวอเมริกัน และชาวไต้หวันที่อาศัยอยู่ในเขตซุกินามิแห่งนี้
ผู้เขียนได้เล่าเนื้อหาการสนทนาดังกล่าวไว้ในบทความก่อนหน้านี้แล้ว แต่สำหรับครั้งนี้ผู้เขียนจะพาไปรู้จักร้านค้าและที่เที่ยวแนะนำซึ่งได้กล่าวถึงในการสนทนาดังกล่าวกัน
โคเอ็นจิพอลโชเท็นไก (KOENJI pal Shopping Street): อยู่เคียงข้างการใช้ชีวิตของผู้คนชาวโคเอ็นจิ
บังเอิญว่าผู้ร่วมการสนทนาดังกล่าวทุกท่านอาศัยอยู่ใกล้สถานีโคเอ็นจิ และมักไปชอปปิง กินข้าว และเดินเล่นในย่านชอปปิงใกล้สถานี
สถานีโคเอ็นจิเปิดให้บริการก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นับแต่นั้นมา พื้นที่ละแวกสถานีแห่งนี้ก็ค่อยๆ เจริญขึ้น ปัจจุบันยังคงมีร้านค้าเก่าแก่ที่ดำเนินกิจการมาราว 100 ปีเปิดกิจการสืบต่อกันมา จากการพัฒนาในละแลกสถานีรถไฟนี้ ทำให้ปัจจุบันมีโชเท็นไก (ย่านการค้า) ที่คึกคักมีชีวิตชีวาหลายแห่ง
Picture courtesy of Tokyo Koenji Awa-Odori Promotional Association
หนึ่งในนั้นคือโคเอ็นจิพอลโชเท็นไกซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของสถานีรถไฟ เป็นอาร์เคดที่มีความยาวราว 250 เมตร และมีร้านค้าราว 100 ร้าน ที่นี่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการเป็นสถานทีจัด Tokyo Koenji Awa-Odori
โชเท็นไกแห่งนี้มีร้านเสื้อผ้ามือสองมากมายที่ขายเสื้อผ้าหลากหลายประเภท ตามคำบอกเล่าของคนท้องถิ่น ร้านเสื้อผ้ามือสองเหล่านี้มีมาตั้งแต่ราว 50 ปีก่อน แต่หลังจากสร้างอาร์เคด จำนวนร้านเสื้อผ้ามือสองก็เพิ่มขึ้น อีกทั้งมีร้านอาหารและร้านคัดสรรต่างๆ มาเปิดให้บริการที่นี่กัน
“พอล” หมายถึง มิตรภาพ โคเอ็นจิพอลโชเท็นไก (Koenji pal Shopping Street) ได้สร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกับโชเท็นไกอื่นๆ ร่วมกันจัดอีเวนท์ใหญ่ๆ มากมาย ในช่วงมีงานอีเวนท์ต่างๆ โรงเรียนและผู้คนในท้องถิ่นจะร่วมมือกัน ทำให้ความสัมพันธ์ของชุมชนแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โชเท็นไกแห่งนี้อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง ไม่เพียงเจ้าของร้านและผู้พักอาศัย แต่นักท่องเที่ยวเองยังดูเป็นมิตรด้วยเช่นกัน
โคเอ็นจิพอลโชเท็นไกอยู่ติดกับทางออกทิศใต้ของสถานีโคเอ็นจิ ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะร้อนจัดก็สามารถเดินเล่นได้สบายๆ เมื่อมาที่โคเอ็นจิ ลองแวะมาสัมผัสบรรยากาศสุดพิเศษของโชเท็นไกแห่งนี้กันนะ
ศาลเจ้าอาซากายะชินเมกู (Asagaya Shinmeigu Shrine): สถานที่รับพลังเสริมดวงที่คุณโมริยะแวะไป
คุณโมริยะ หนึ่งในผู้ร่วมการสนทนากล่าวว่าหนึ่งในสถานที่ที่เธอชื่นชอบคือศาลเจ้าอาซากายะชินเมกู
ศาลเจ้าอาซากายะชินเมกูใช้เวลาเดินจากสถานีอาซากายะทางออกทิศเหนือเพียง 2 นาที มีอาณาบริเวณราว 3,000 สึโบะ (1 สึโบะ มีขนาดราว 3.3 ตารางเมตร) ซึ่งใหญ่มากจนไม่คิดว่าจะตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียว อันที่จริงที่นี่เป็นศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาศาลเจ้าที่เกี่ยวข้องกับศาลเจ้าอิเซะจิงกู (Ise Grand Shrine) ในโตเกียว
ทั่วบริเวณศาลเจ้าเต็มไปด้วยแมกไม้ ทั้งต้นโอ๊ก ต้นการบูร และต้นแปะก๊วย สามารถสูดอากาศบริสุทธิ์และชื่นชมแมกไม้เขียวขจีได้
ในญี่ปุ่นมีความเชื่อเรื่องอายุที่เป็นยาคุโดชิ (*) ดังนั้นผู้ที่มีอายุดังกล่าวในปีนั้นต้องระวังว่าอาจจะเจอเคราะห์หรือโชคร้าย ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะไปทำพิธีแก้ชงเพื่อขับไล่โชคร้ายในปีชงกัน ศาลเจ้าอาซากายะชินเมกูซึ่งมีประวัติอันยาวนาน เป็นที่รู้จักในฐานะศาลเจ้าแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่สามารถขอพรเพื่อปัดเป่าโชคร้ายทั้งหมดได้ในคราวเดียว
หากมีโอกาสไปเยือนศาลเจ้าอาซากายะชินเมกูในช่วงปีชงพอดีละก็ ขอแนะนำให้ลองไปสัมผัสประสบการณ์พิธีแก้ชงของศาลเจ้าแห่งนี้กัน
* ยาคุโดชิ (ปีเคราะห์หรือปีชง) … การนับอายุแบบดั้งเดิมของญีปุ่นและแบบจีน จะเริ่มนับตั้งแต่ตอนอยู่ในท้องแม่ ดังนั้นเมื่อตอนที่เกิดมาจึงถือว่าเป็น 1 ขวบ ดังนั้นปีชงของผู้ชายคืออายุ 25, 42 และ 61 ปี และปีชองผู้หญิงคือ 19, 33, 37 และ 61 ปี
ที่ศาลเจ้าอาซากายะชินเมกูสามารถเขียนคำอธิษฐานลงบนแผ่นเอมะ (แผ่นไม้ขอพรในศาลเจ้า) รูปพระจันทร์ได้ ว่ากันว่าเมื่อทำเช่นนี้ เทพเจ้าจะประทานให้สมปรารถนา
ปัจจุบัน ศาลเจ้าอาซากายะชินเมกูดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศด้วยโกะชุอิน (สมุดตราประทับของศาลเจ้าและวัดต่างๆ) แบบพิเศษและ “คามิมุซุบิ” กำไลเครื่องราง
รูปด้านบนคือโกะชุอินปักดอกอาจิไซ (ดอกไฮเดรนเยีย) รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นปี 2021 ลวดลายจะเปลี่ยนไปทุกปีและทุกฤดูกาล
โกะชุอินแบบพิเศษที่ผสานงานปักผ้าเข้ากับมิโนะวาชิ (กระดาษมิโนะซึ่งเทคนิคการทำกระดาษมิโนะทำมือได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของ UNESCO) งานหัตถกรรมพื้นบ้านของญี่ปุ่นนี้ เป็นรูปแบบออริจินัลของศาลเจ้าอาซากายะชินเมกู เมื่อประทับตราของศาลเจ้าลงไปบนกระดาษญี่ปุ่นที่ผสานการออกแบบที่สร้างสรรค์อย่างประณีตจะได้เป็นโกะชุอินอันงดงาม สำหรับผู้ที่สะสมโกะชุอิน ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับคามิมุซุอันวิจิตรประณีตนี้ ว่ากันว่าช่วยเพิ่มโชคลาภและได้รับการคุ้มครองจากเทพเจ้า สร้อยข้อมือสีสันสดใสและออกแบบอย่างสวยงาม สามารถสวมใส่บนมือหรือประดับบนกระเป๋าก็ได้
ชื่อ “คามิมุซุบิ” ไม่ได้หมายถึงแค่การถักเชือกเท่านั้น แต่ยังหมายถึง “การสร้างสายสัมพันธ์กับเทพเจ้าด้วย” ว่ากันว่าสีสันบนเชือกเหล่านี้มาจากดอกไม้และต้นไม้ใบหญ้าภายในศาลเจ้าชินเมอิกูแห่งนี้ นอกจากนี้ คามิมุซุบิยังมีดีไซน์แตกต่างกันตามฤดูกาลด้วย
Neiroya (เนอิโรยะ) ในโอกิคุโบะ: ราเม็งกับน้ำแข็งไสที่คุณอเล็กซานดรา ชาวอเมริกันชื่นชอบ
เมื่อพูดถึงโอกิคุโบะ ก็จะนึกถึงสมรภูมิของร้านราเม็งชื่อดังในญี่ปุ่น Neiroya เป็นหนึ่งในร้านสุดฮิต
ร้านตั้งอยู่ในตรอกเล็กๆ อันเงียบสงบบนถนนเคียวไก (Kyokai-dori) หน้าสถานีโอกิคุโบะ และภายนอกร้านให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศญี่ปุ่นสมัยก่อน ป้ายไม้ซึ่งว่ากันว่าแขวนมาตั้งแต่สมัยก่อนตอนที่ยังเป็นร้านโซบะ ปัจจุบันตัวอักษรจางหายจนอ่านแทบไม่ออกแล้ว
ร้านเป็นบ้านเก่าที่นำมารีโนเวท มีซีดีเพลงจัดเรียงอยู่ที่ผนังด้านหนึ่ง ซึ่งจะสัมผัสได้ถึงความรักในเสียงเพลงของเจ้าของร้านซึ่งเป็นอดีตสมาชิกวงดนตรี นอกจากนี้ยังมีกระดานไวท์บอร์ดอันสวยงามที่เขียนเมนูตามฤดูกาลไว้
การตกแต่งภายในที่สว่างสดใสและเรียบง่าย ดูคล้ายคาเฟ่บ้านโบราณ จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือร้านราเม็ง
เซโตะอุจิโชยุราเม็ง เมนูดังของร้าน
ราเม็งร้อนๆ กับน้ำแข็งไสเย็นๆ มองเผินๆ อาจดูไม่ค่อยเกี่ยวกัน แต่ทั้งสองเมนูฮิตมากๆ
เจ้าของร้านเกิดในจังหวัดเอฮิเมะ (Ehime) จึงเลือกใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่ของเซโตะอุจิ (Seitouchi) เซโตะอุจิโชยุราเม็งซึ่งเป็นเมนูดังของร้าน ใช้วัตถุดิบทุกอย่างตั้งแต่เนื้อไก่ ปลาตัวเล็กๆ สำหรับทำน้ำซุป และโชยุจากเซโตะอุจิสร้างสรรค์น้ำซุปที่มีรสชาติแสนอร่อย
เส้นราเม็งไม่ใส่ไข่ ผู้ที่แพ้ไข่จึงสบายใจได้ ราเม็งเส้นเล็กสั่งทำพิเศษจากโรงงานผลิตเส้นราเม็ง มีรสชาติดีเข้ากับน้ำซุปมากๆ
อีกหนึ่งเมนูสุดฮิตคือคากิโกริ (น้ำแข็งไส) เป็นน้ำแข็งไสเนื้อละเอียดเหมือนหิมะ ราดด้วยซอสที่ทำจากผลไม้ตามฤดูกาลจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น มีรสชาติใหม่ๆ ทุกฤดูกาล
น้ำแข็งไสรสชาติโด่งดังที่สุดของที่นี่คือรส "ถั่วพิสตาชิโอ" เจ้าแรกของญี่ปุ่น ซอสเข้มข้นที่ทำจากถั่วพิสตาชิโอบดละเอียด มีรสชาติหวานกลมกล่อม จับคู่กับซอสสตรอเบอร์รี่รสเปรี้ยว อร่อยเข้ากันสุดๆ จนหยุดกินไม่ได้
รสถั่วพิสตาชิโอนี้ได้รับรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ (MICHELIN Bib Gourmand) 2 ปีซ้อน ซึ่งบ่งชี้ว่า “อาหารเมนูนี้ให้ความพึงพอใจเกินราคา” และเป็นรสชาติที่โดยใจนักท่องเที่ยวต่างชาติมากๆ
French Curry SPOON (เฟรนช์เคอรี่สพูน) ในนิชิโอกิคุโบะ: ร้านแกงกะหรี่ญี่ปุ่นสุดโปรดของคุณเฉิน ชาวไต้หวัน
นิชิโอกิคุโบะมีร้านอาหารอร่อยดังๆ มากมาย เหล่านักชิมในโตเกียวมักแวะมากัน มีร้านแกงกะหรี่ญี่ปุ่นชื่อดังหลายร้าน หนึ่งในนั้นคือ French Curry SPOON
บางคนอาจสงสัยว่า “ฝรั่งเศสมีแกงกะหรี่ด้วยหรือ?” แต่เชฟของที่นี่ผู้ร่ำเรียนการทำอาหารฝรั่งเศส ได้ผสานเทคนิคของฝรั่งเศสเข้ากับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นสไตล์ครอบครัว รังสรรค์แกงกะหรี่สุดอร่อยขึ้นมา
เมนูสุดฮิต แกงกะหรี่ญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่งเศสสูตรพิเศษ
แกงกะหรี่ญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่งเศสสูตรพิเศษ เมนูสุดฮิตนี้ เป็นเมนูสุขภาพซึ่งใช้เครื่องเทศ 13 ชนิดและผักตามฤดูกาลนานาชนิดเคี่ยวในซอส เนื้อวัวตุ๋นไวน์แดงสุดนุ่มละลายในปาก มีรสชาติสไตล์อาหารฝรั่งเศส
วางไข่ต้มยางมะตูมด้านบน ช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อยให้มีความหลากหลาย ดังนั้นหน้าร้านจึงมักมีลูกค้ารอคิวเสมอ
Lassi เมนูเครื่องดื่มโยเกิร์ตโฮมเมด โดดเด่นที่รสชาติเข้มข้น ต่างจากร้านแกงกะหรี่อื่นๆ ช่วยรีเซ็ตความเผ็ดของแกงกะหรี่ เมื่อดื่มในระหว่างรับประทานแกงกะหรี่ จะช่วยลดความเผ็ดและชาที่ลิ้น ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับความอร่อยของแกงกะหรี่ได้เต็มที่
ลองแวะมาเที่ยวละแวก 4 สถานีรถไฟ (โคเอ็นจิ, อาซากายะ, โอกิคุโบะ และนิชิโอกิคุโบะ) บนเส้นทางรถไฟสาย JR จูโอกัน
เขตซุกินามิในโตเกียว นอกจากจะมีร้านอาหารอร่อยชื่อดังและที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมายในละแวกสถานีโคเอ็นจิ อาซากายะ โอกิคุโบะ และนิชิโอกิคุโบะ ยังมีงานเทศกาลและอีเวนท์ต่างๆ มากมายให้เพลิดเพลินตลอดทั้งปีด้วย
นอกจากสถานที่แนะนำในบทความนี้ ที่นี่ยังมีสถานที่น่าสนใจต่างๆ อีกมากมายรอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนให้แวะไปสำรวจกัน
Main image courtesy of PIXTA
Written by 咖啡星人秋桑
In cooperation with Koenji pal Shopping Street, Asagaya Shinmeigu Shrine, Neiroya, French Curry SPOON
Sponsored by Chuosen Aruaru Project/Experience SUGINAMI TOKYO
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง