[เมืองโกเบ] คฤหาสน์ของพ่อค้าชาวเยอรมัน "คาซามิโดริ โนะ ยากาตะ"

• สารบัญ
• เข้าถึงได้สะดวกผ่าน City Loop
• ตั๋วโดยสารรถบัสราคาสุดคุ้ม
• “Weathervane House” คือบ้านของพ่อค้าชาวเยอรมันชื่อโธมัส
• แต่ละห้องมีการออกแบบที่แตกต่างกัน! จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์
• สินค้าออริจินัลที่สามารถซื้อได้ที่นี่เท่านั้น
• ข้อมูลพื้นฐาน

เข้าถึงได้สะดวกผ่าน City Loop

The Weathercock House ตั้งอยู่บนยอดเขา ห่างจากสถานี Sannomiya หรือสถานี Shin-Kobe บนเส้นทางสายต่างๆ ประมาณ 15 นาทีเมื่อเดิน หากคุณใช้เส้นทาง City Loop คุณสามารถเดินทาง ซาก้า จากสถานี Sannomiya ได้อย่างง่ายดาย และเดินจากป้าย Kitano Ijinkan เป็นเวลา 5 นาที

ตั๋วโดยสารรถบัสราคาสุดคุ้ม

ตั๋วรถบัสโกเบ 1 วัน

ตั๋วรถบัสนี้สามารถใช้โดยสารรถบัส City Loop และ Port Loop ที่วิ่ง เมืองโกเบ ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งในราคา 700 เยนต่อวัน หากคุณมีแผนจะเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของ โกเบ ให้ใช้ตั๋วใบนี้เพื่อการเดินทางที่ง่ายดายและสะดวกสบาย

ไม่มีที่จอดรถเฉพาะที่ Weathervane House หากท่านเดินทางมาด้วยรถยนต์ กรุณาใช้ลานจอดรถแบบเสียค่าบริการในบริเวณใกล้เคียง

คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดและซื้อตั๋วรถบัสโกเบ 1 วัน

ตั๋วใบนี้แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยว ฮิเมจิ และจังหวัด เฮียวโก นอกเหนือไปจาก โกเบ ! เนื้อหาของตั๋วรถบัสโกเบ 1 วัน + ตั๋วมือถือที่ให้โดยสารรถบัสสาย Shinki Bus ได้ไม่อั้นในราคา 1,000 เยนต่อวัน *จำกัดเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น

คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดและซื้อ Hyogo Amazing Pass

“Weathervane House” คือบ้านของพ่อค้าชาวเยอรมันชื่อโธมัส

ใน Kitano Ijinkan-gai ยังมีบ้านสไตล์ต่างประเทศเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก แต่บ้าน Weathercock House แห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่โดยเฉพาะ ได้รับการแนะนำในหนังสือท่องเที่ยวว่าเป็น "จุดที่ต้องไปชม" เมื่อมาเยือน Kitano Ijinkan-gai

บ้าน Weathervane สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2452 (เมจิ 42) อาคารนี้สร้างขึ้นโดย Gottfried Thomas พ่อค้าชาวเยอรมัน และได้รับการออกแบบโดย Georg de Lalande ชาวเยอรมันที่เคลื่อนไหวในญี่ปุ่นตั้งแต่ครึ่งหลังของยุคเมจิมาจนถึงยุคไทโช

ภาพถ่ายครอบครัวโทมัส

ดูเหมือนว่าอาคารหลังนี้ยังใช้เป็นเกสต์เฮาส์สำหรับโธมัสซึ่งเป็นพ่อค้าเพื่อเชิญชวนพันธมิตรทางธุรกิจอีกด้วย หากมองดูภายนอกอาคารซึ่งว่ากันว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอย่างใกล้ชิด และภายในอาคารก็จะพบกับการออกแบบที่น่าสนใจมากมาย

สิ่งแรกที่ต้องสังเกตคือภายนอก ภายนอกที่ตกแต่งด้วยอิฐเป็นบ้านสไตล์ต่างประเทศเพียงหลังเดียวที่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ในบริเวณคิตาโนะ/ยามาโมโตะ อิฐเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะได้รับการออกแบบตามสไตล์การก่ออิฐแบบอังกฤษและถูกสร้างขึ้นโดยใช้วิธีการก่อสร้างล่าสุดในยุคนั้น

นอกจากนี้ ยังมีการนำรูปแบบที่แตกต่างกันสี่แบบมาใช้: หลังคาเป็นแบบนีโอโกธิค ป้อมปราการด้านล่างและชั้นสองเป็นแบบโครงไม้ และงานหินในห้องใต้ดินแบบกึ่งๆ เป็นแบบคลาสสิก

ลักษณะเด่นประการหนึ่งของ Weathervane House ก็คือ ป้ายบอกทิศทางลมที่ตั้งอยู่บนยอดแหลม นอกจากจะมีพลังในการปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายแล้ว ยังกล่าวกันว่าใบพัดบอกทิศทางลมยังทำหน้าที่เป็นจุดสังเกตในบ้านของโธมัสอีกด้วย

ภายนอกที่ตกแต่งด้วยอิฐและใบพัดบอกทิศทางลมบนยอดแหลมนั้นมองเห็นได้ชัดเจนจากทะเลในสมัยนั้น และยังได้รับการออกแบบมาให้จดจำคฤหาสน์หลังนี้ได้ง่ายสำหรับแขกที่มาเยือนโดยเรืออีกด้วย

Weathervane House มีชื่อเสียงโด่งดังหลังจากถูกใช้เป็นฉากในละครซีรีส์ทางช่อง NHK เรื่อง "Weathervane" ซึ่งออกอากาศตั้งแต่ โชวะ ถึงปี 1978 และใน โชวะ บ้านแห่งนี้ก็ได้รับการกำหนดให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ

พิพิธภัณฑ์มีกำหนดปิดให้บริการเป็นระยะเวลาขยายเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 31 มีนาคม 2568 (วันที่คาดการณ์) เนื่องจากงานปรับปรุงเพื่อต้านทานแผ่นดินไหว คุณยังคงสามารถเข้าไปชมภายในอาคารได้เหมือนตอนที่สร้างขึ้นครั้งแรกจนถึงวันที่ 30 กันยายน ดังนั้น ทำไมไม่ถือโอกาสนี้มาเยี่ยมชมล่ะ

แต่ละห้องมีการออกแบบที่แตกต่างกัน! จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์

เมื่อคุณก้าวเข้าไปในอาคาร คุณจะสังเกตเห็นชั้น 1 ได้ทันทีด้วยการออกแบบที่หรูหรา โดยแต่ละห้องก็มีการออกแบบที่แตกต่างกันออกไป ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ คฤหาสน์หลังนี้ยังทำหน้าที่เป็นเกสต์เฮาส์ที่โทมัสจะใช้ต้อนรับหุ้นส่วนทางธุรกิจ และความเอาใจใส่ในรายละเอียดของโทมัสสามารถเห็นได้ทั่วทั้งภายในชั้นแรก

ตัวอย่างเช่น ห้องรับประทานอาหารที่นี่ได้รับการตกแต่งด้วยการออกแบบที่ดูเหมือนจะได้รับแรงบันดาลใจจากปราสาท Stolzenfels ในเยอรมนีตะวันตก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโทมัส การออกแบบหยักๆ บนแผงไม้ฝาที่ปกป้องผนังนั้นมีไว้เพื่อให้คล้ายกับกำแพงปราสาท และโคมระย้าที่อยู่เหนือศีรษะนั้นมีไว้เพื่อให้คล้ายกับมงกุฎ

การออกแบบกำแพงปราสาท

ในทางกลับกัน ชั้นสองซึ่งเป็นห้องอาหารเช้า ห้องนอน ห้องเด็ก ฯลฯ ได้รับการออกแบบอย่างเรียบง่ายมาก ชั้นสองได้รับการออกแบบให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของครอบครัว จึงออกแบบอย่างเรียบง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย

สิ่งที่น่าสนใจคือเมื่อเปรียบเทียบชั้น 1 และชั้น 2 แล้ว แสงไฟและลูกบิดประตูจะแตกต่างกัน ซึ่งทำให้เข้าใจปรัชญาส่วนตัวของนายโธมัสได้ดีขึ้น

โคมไฟระย้าในห้องนั่งเล่นชั้น 1 (ซ้าย) และไฟส่องสว่างโต๊ะสนุกเกอร์ชั้น 2 (ขวา)

ป้ายชื่อที่แขวนอยู่บริเวณประตูทางเข้าหลัก

อาคารแห่งนี้มีการเปลี่ยนมือเก้าครั้ง เจ้าของปัจจุบันลำดับที่ 10 คือ เมืองโกเบ แต่เจ้าของเดิมคือโรงเรียนประถมและมัธยมต้นจีน ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนสำหรับชาวจีนโพ้นทะเล

ปัจจุบันภายในได้รับการบูรณะให้กลับไปสู่สภาพเดิมเมื่อโทมัสอาศัยอยู่ โดยอ้างอิงจากรูปถ่ายเก่าๆ แต่เดิมนั้นจะมีเตียงสองชั้นและเคยเป็นหอพักที่มีเด็กๆ ประมาณ 50 คนอาศัยอยู่ นี่แสดงให้เห็นว่าคฤหาสน์หลังนี้มีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอให้คนจำนวนมากอาศัยอยู่ได้

ทั่วทั้งพิพิธภัณฑ์มีคำอธิบายเกี่ยวกับจุดเด่นของ Weathervane House ดังนั้นคุณจะเพลิดเพลินไปกับการเยี่ยมชมมากยิ่งขึ้นหากสละเวลาอ่านคำอธิบายเหล่านี้ หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Weathervane House เราขอแนะนำให้คุณเข้าร่วมทัวร์ (ราคาเริ่มต้นที่ 500 เยนต่อคน มีค่าธรรมเนียมการเข้าชมแยกต่างหาก)

ห้องใต้หลังคาที่สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ระหว่างทัวร์หลังเวที

จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2023 จะมี "Art Tour" ที่จะแนะนำงานศิลปะและงานฝีมือที่ยังคงอยู่ในอาคาร "Butler Tour" ที่จะแนะนำวิถีชีวิตของตระกูลโทมัส รวมถึง "Weathercock House & Moegi House Backyard Tour" ที่ให้คุณได้ชมพื้นที่ต่างๆ ที่ไม่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมใน เฮียวโก Terroir Travel Special Tour และ "โกเบ Kitano Ijinkan Weathercock House & Rhein House Night View Tour" ที่ให้คุณได้ทัวร์ชมอาคารหลังบ้านหลังปิดทำการ นี่คือสิ่งที่ต้องมาชมสำหรับใครก็ตามที่อยากเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์พิเศษ

อ้างอิง: ทริป เฮียวโก Terroir ที่ KOBE

บ้านชาวต่างชาติ โกเบ คิตาโนะ "Weathervane House"

สินค้าออริจินัลที่สามารถซื้อได้ที่นี่เท่านั้น

ชั้นสองมีร้านค้าซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมจากร้าน Kazamidori no Yakata หากคุณกำลังมองหาของที่ระลึกหรือของฝากจากการเยี่ยมชมของคุณ อย่าลืมแวะมา

ที่รองแก้ว (420 เยน) นี้เป็นสินค้าที่สร้างสรรค์โดย STUDIO KIICHI ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องหนังจากเมืองโมโตมาจิ โกเบ หนังหรูหรามีการแกะสลักโลโก้ "Weathercock House" ดั้งเดิม

มีสีให้เลือก โทโยโทมิ ให้เลือกอย่างสนุกสนาน

สลักรูปใบพัดบอกทิศทางลมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำคฤหาสน์

“กระเป๋าผ้า” ดีไซน์เรียบง่ายก็ได้รับความนิยมเช่นกัน มี 2 ​​ขนาด คือ เล็ก (2,000 เยน) และใหญ่ (2,800 เยน) กระเป๋าใบเล็กมี 2 สี คือ สีน้ำเงินกรมท่าและสีขาว ในขณะที่กระเป๋าใบใหญ่มี 3 สี คือ สีน้ำเงินกรมท่า สีขาว และสีน้ำตาล

">

"สติ๊กเกอร์ออริจินัล" (2 ชิ้น 380 เยน)

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2023 ถึง 31 มีนาคม 2025 (เบื้องต้น) Weathercock House จะปิดให้บริการเป็นระยะเวลานานเนื่องจากงานปรับปรุงเพื่อต้านทานแผ่นดินไหว (อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของงาน เป็นต้น สามารถเข้าชมภายนอกได้)

จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2023 จะมีงาน "Closing Event - Until We Meet Again" ซึ่งจะมีการตั้งจุดถ่ายรูปนับถอยหลัง "นิทรรศการความคิดสำหรับ Weathercock House" "สัมมนา Oshikatsu Weathercock House" และพิธีปิด "Looking forward to the Day We Meet Again"

อย่าพลาดโอกาสนี้!

(ผู้แต่ง : นากาตะ/เวสต์แพลน)

*บทความนี้เป็นข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2023 ราคาสินค้ารวมภาษีแล้ว เนื้อหาและราคาผลิตภัณฑ์อาจมีการเปลี่ยนแปลง

ข้อมูลพื้นฐาน

บ้านกังหันลม

ที่อยู่: 3-13-3 จังหวัดเฮียวโก , เขตชูโอ , เมืองโกเบ

เบอร์โทร : 078-242-3223

เวลาทำการ : 09:00-18:00 น. (เข้าได้ถึง 17:45 น.)

*ภายในสถานที่ไม่มีห้องน้ำ กรุณาใช้ห้องน้ำที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวคิตาโนะ

ปิดทำการ: วันอังคารแรกของเดือนมิถุนายนและกุมภาพันธ์ (หากวันปิดทำการปกติตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะปิดทำการในวันถัดไป) ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 500 เยน นักเรียนมัธยมปลายและต่ำกว่าเข้าชมฟรี

*450 เยน สำหรับผู้ที่มีบัตร City Loop 1 วัน

การเดินทาง: เดิน 15 นาทีจากสถานี Sannomiya หรือสถานี Shin-Kobe บนทุกสาย เดิน 5 นาทีจากสถานี Kitano Ijinkan บน City Loop

ที่จอดรถ : ไม่มี

เว็บไซต์: https://kobe-kazamidori.com/

โซเชียลมีเดีย: อินสตาแกรม