4 โรงแรมของ Hoshino Resorts ที่ต้องพักเมื่อไปเที่ยวเกียวโต! เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสี และการเข้าพักสุดวิเศษในเกียวโต
ความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโตเป็นที่เลื่องลือ ทำให้ทุกปีมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากมาย บทความนี้ขอแนะนำ 4 โรงแรมในเกียวโตที่สามารถดื่มด่ำกับการเข้าพักแสนวิเศษและเสน่ห์ของใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโต
-
สารบัญ
- เหตุผลที่ใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโตได้รับการเล่าขานว่า "งดงามยิ่ง"
- Hoshino Resorts มอบบริการเข้าพักโรงแรมที่หลากหลาย
- HOSHINOYA Kyoto เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีของอาราชิยามะ เมืองอันเป็นที่รักของขุนนางสมัยเฮอันในบรรยากาศสุดแสนวิเศษ
- OMO5 Kyoto Sanjo by Hoshino Resorts เจาะลึกวัฒนธรรมชาวเมืองเกียวโตในพื้นที่ซันโจ
- OMO5 Kyoto Gion by Hoshino Resorts ให้ความรู้สึกเหมือนอาศัยอยู่ในย่านกิอง
- OMO3 Kyoto Toji by Hoshino Resorts ชมการประดับไฟไลต์อัพใบไม้เปลี่ยนสีสุดอัศจรรย์ที่ "วัดโทจิ" มรดกโลก
- เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโตได้ในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม
เหตุผลที่ใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโตได้รับการเล่าขานว่า "งดงามยิ่ง"
ญี่ปุ่นมีใบไม้เปลี่ยนสีงดงามหลายแห่ง แต่ใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโตนั้นงดงามเป็นที่สุด
เหตุผลใหญ่ที่สุดก็คือเกียวโตเป็นศูนย์กลางการเมืองและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 1,000 ปี มีสวนที่เป็นสมบัติล้ำค่าของชาติอยู่มากมายทั่วเกียวโต และมีผู้ดูแลสวนที่มีทักษะความเชี่ยวชาญมากมายคอยดูแลสวนเหล่านี้ (ในจำนวน "สวนที่เป็นจุดชมทัศนียภาพอันงดงามทางธรรมชาติ" ที่ได้รับขึ้นทะเบียนระดับชาติของญี่ปุ่น 234 แห่ง และในจำนวน "สวนที่เป็นจุดชมทัศนียภาพอันงดงามทางธรรมชาติพิเศษ” ซึ่งเทียบเท่ากับมรดกชาติของญี่ปุ่น 24 แห่งนั้น ที่เกียวโตมีจำนวนมากที่สุด โดยมี 53 แห่ง และ 13 แห่งตามลำดับ)
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือพื้นที่แห่งนี้มีลักษณะภูมิศาสตร์ตามธรรมชาติตรงตามเงื่อนไขที่ทำให้ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงมีสีสันงดงาม ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีเมื่ออุณหภูมิต่ำสุดลดลงต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส และมีสีสันสดใสที่อุณหภูมิ 5 - 6 องศาเซลเซียส ว่ากันว่าเงื่อนไขที่ใบไม้เปลี่ยนสีจะมีสีสันสวยงามนั้นมาจากอุณหภูมิต่างกันมากระหว่างกลางวันกับกลางคืน แสงแดดและความชื้นที่พอเหมาะ เกียวโตเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ มีอุณหภูมิระหว่างกลางวันกับกลางคืนต่างกันมาก อีกทั้งยังมีแสงแดดส่องลงมามาก (เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางบดบังอย่างอาคารต่างๆ น้อย) และมีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์สามารถกล่าวได้ว่าเป็นพื้นที่ซึ่งใบไม้เปลี่ยนสีมักมีสีสันสดใสสวยงาม
เกียวโตยังมีเอกลักษณ์พิเศษตรงที่สามารถเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีในหลากหลายเทคนิค เช่น สวนที่ออกแบบโดยคำนึงถึงภูมิทัศน์ที่ตัดกันกับสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น สวนที่ใช้ประโยชน์จากทิวทัศน์ธรรมชาติ และการประดับไฟไลต์อัพในยามค่ำคืน
Hoshino Resorts มอบบริการเข้าพักโรงแรมที่หลากหลาย
เพื่อให้การพักผ่อนในเกียวโตพิเศษยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ที่พัก” เกียวโตมีโรงแรมที่พักหลากหลาย ทั้งเรียวกัง โรงแรมหรู และเกสต์เฮาส์ แต่ในที่นี้ ขอแนะนำโรงแรมของ Hoshino Resorts (โฮชิโนะ รีสอร์ตส์) ซึ่งดำเนินงานภายใต้ 5 แบรนด์หลัก ได้แก่ HOSHINOYA (โฮชิโนยะ), KAI (ไค), RISONARE (ริโซแนร์), OMO (โอโมะ) และ BEB (เบฟ) ในธีม “สร้างสรรค์การเดินทางแสนสนุกแก่ผู้เข้าพัก”
อีกเหตุผลหนึ่งของความนิยมก็คือ โรงแรมแต่ละแบรนด์ให้บริการในธีมที่ต่างกันเพื่อให้ผู้เข้าพักเพลิดเพลินกับย่านต่างๆ ในแบบที่ไม่เหมือนใคร เช่น HOSHINOYA ในธีม “วันพักผ่อนแสนวิเศษสุดสร้างสรรค์” และ OMO ในคอนเซ็ปต์ “โรงแรมท้องถิ่นที่เติมความคึกคักให้กับการเดินทาง” จากนี้จะพาไปสำรวจ 4 โรงแรมในเกียวโตกัน
HOSHINOYA Kyoto เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีของอาราชิยามะ เมืองอันเป็นที่รักของขุนนางสมัยเฮอันในบรรยากาศสุดแสนวิเศษ
HOSHINOYA Kyoto ตั้งอยู่ในอาราชิยามะ (Arashiyama) พื้นที่ตากอากาศที่ขุนนางสมัยเฮอันหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงมาเพลิดเพลินกับความงดงามของฤดูกาลที่ผันเปลี่ยนไปกัน
ขึ้นเรือสุดพิเศษจากสะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsu-kyo Bridge) ล่องไปตามแม่น้ำโออิ (Oi River) ราว 15 นาที ก็จะถึง HOSHINOYA Kyoto (โฮชิโนยะ เกียวโต) ที่พักซึ่งสร้างขึ้นตามแนวหุบเขาอันเงียบสงบ วิธีการเข้าที่พักเหมือนกับปราสาทฮอกวอตส์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์นี้ให้ความรู้สึกที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
คอนเซ็ปต์ของ HOSHINOYA Kyoto ซึ่งเปิดเมื่อปี 2009 คือ “เพลิดเพลินจนลืมเวลาในที่พักส่วนตัวริมน้ำ” ห้องพักทั้ง 25 ห้องของที่นี่มองเห็นวิวแม่น้ำ ทำให้สัมผัสได้ถึงภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวญี่ป่นสมัยก่อนที่ยังคงอยู่ในเกียวโต สามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติที่ผันเปลี่ยน พร้อมสัมผัสกับสุนทรียภาพและภูมิปัญญาดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่นี่ยังให้บริการอาหารไคเซกิที่ใช้ประโยชน์จากรสชาติความอร่อยที่รวมอยู่ในเกียวโต และอาหารเช้าที่รับประทานพร้อมชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยบำรุงร่างกายเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงจิตใจด้วย
สถาปัตยกรรมของโรงแรมก็งดงาม ตัวโรงแรมเองก็มีเสน่ห์น่าไปเยือนเช่นกัน มีทั้ง Floating Tea Room ห้องน้ำชาซึ่งยื่นออกไปในแม่น้ำโออิที่ไหลอยู่เบื้องหน้า HOSHINOYA Kyoto, พื้นที่ทางเดินกลางสวนที่ดูแปลกตา และ Library Lounge พื้นที่พักผ่อนที่สามารถเพลิดเพลินกับหนังสือประเภทต่างๆ พร้อมเครื่องดื่มและขนมหวานจากชาตามฤดูกาล
โรงแรมมีสวน และจุดที่ต้องไปชมก็คือต้นเมเปิลยักษ์อายุ 400 ปีในสวนโอคุโนะซึ่งมีเขาโอกุระ (Mt. Okura) อยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นฉากหลัง ตลอดช่วงเวลาที่เข้าพัก โรงแรมแห่งนี้จะสร้างความทรงจำสุดประทับที่จะคงอยู่ตลอดไป ทั้งทางด้านจิตใจซึ่งจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่ผันเปลี่ยนตามกาลเวลา อันเป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นหวงแหนมาตั้งแต่สมัยโบราณ และทางด้านร่างกายกับการบริการสไตล์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุด ในคืนแรกก่อนเช็คอิน ขอแนะนำให้เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีและสวนต่างๆ ภายในเมืองเกียวโตและอาราชิยามะ จากนั้นค่อยไปพักผ่อนที่ HOSHINOYA Kyoto กัน!
OMO5 Kyoto Sanjo by Hoshino Resorts เจาะลึกวัฒนธรรมชาวเมืองเกียวโตในพื้นที่ซันโจ
OMO เป็นแบรนด์หนึ่งของ Hoshino Resorts ที่ช่วยให้เพลิดเพลินไปกับย่านนั้นได้เต็มที่ เสน่ห์อย่างหนึ่งของแบรนด์นี้ก็คือสามารถเข้าพักในทำเลที่ดีที่สุดของย่านนั้น และมีกิจกรรมมากมายให้ใกล้ชิดกับย่านนั้นมากขึ้น ผู้ที่อยากเจาะลึกที่เที่ยวต่างๆ ที่ไม่มีในหนังสือนำเที่ยว ไม่ใช่แค่การเที่ยวชมเมืองแบบผิวเผิน แต่อยากรู้จักบ้านเมืองและผู้คนที่อาศัยอยู่ด้วย ที่นี่คือโรงแรมที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับตัวเลขด้านหลัง OMO นั้นบ่งบอกถึงขอบข่ายการบริการต่างๆ ตัวเลขนี้จะช่วยให้เลือกโรงแรมได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการเดินทางและวิธีใช้เวลาได้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ OMO1 เล็กๆ เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยสิ่งที่ช่วยให้สนุกเพลิดเพลินกับย่านต่างๆ ได้ OMO3 มีห้องพักเรียบง่าย ขนาดกะทัดรัด และย่อมเยา ส่วน OMO5 มีห้องพักสวยหรู คาเฟ่และอาหารเช้าแสนอร่อย และ OMO7 โรงแรมที่ให้บริการเต็มรูปแบบ สามารถเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยที่ใช้ประโยชน์จากเสน่ห์ของท้องถิ่นในห้องพักที่กว้างขวาง
OMO5 Kyoto Sanjo by Hoshino Resorts เปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายน 2021 ในย่านอันเงียบสงบที่มีร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย อีกทั้งยังเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดายเช่น มีรถไฟใต้ดินสายคาราซึมะ (Karasuma Subway Line) ซึ่งวิ่งจากทางเหนือจรดทางใต้ของเกียวโต และสามารถโดยสารไปยังสถานีเกียวโตได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟ, รถไฟใต้ดินสาย โทไซ (Tozai Subway Line) ซึ่งโดยสารไปอาราชิยามะ (Arashiyama) ได้สะดวก และไปปราสาทนิโจ (Nijo Castle) และฮิกาชิยามะ (Higashiyama) ได้ง่ายดาย รวมทั้งรถไฟเคฮัน (Keihan Electric Railway) ซึ่งโดยสารไปโอซาก้าได้ง่ายๆ ด้วย
ญี่ปุ่นมีทางหลวง 5 สายที่สร้างขึ้นโดยเอโดะบุคุฟุ (รัฐบาลโชกุนสมัยเอโดะ) ทางหลวงสายสำคัญที่สุดคือทางหลวงโทไคโด (Tokaido Highway) ซึ่งเชื่อมสะพานนิฮมบาชิ (Nihonbashi Bridge) ของโตเกียว (Tokyo) กับสะพานซันโจโอฮาชิ (Sanjo Ohashi Bridge) ของเกียวโต ถัดจากแม่น้ำคาโมะ (Kamo River)ซึ่งสะพานซันโจโอฮาชิตัดผ่าน มีแม่น้ำทาคาเซะ (Takase River) แม่น้ำสายสำคัญซึ่งช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของเกียวโตด้านการขนส่งสินค้า และทำให้วัฒนธรรมการค้าในพื้นที่ซันโจเจริญรุ่งเรือง
OMO5 Kyoto Sanjo มีกิจกรรมที่น่าสนใจในคอนเซ็บปต์ “เดินเที่ยวริมน้ำในย่านเคียวมาจิ” ให้เพลิดเพลินกัน เช่น มี Go-KINJO Map แผนที่รวบรวมที่เที่ยวแนะนำซึ่งพนักงานโรงแรมเคยไปเที่ยวจริงๆ, Kyomachi walking tour along the river กิจกรรมเดินเล่นริมแม่น้ำในย่านเคียวมาจิ (ฟรี, เวลา 16:30 - 17:30 น.) โดยจะเดินเล่นไปตามแม่น้ำเซกาวะพร้อมกับเรนเจอร์ (เจ้าหน้าที่นำทัวร์), Walk to old stores of Kyomachi กิจกรรมเดินเล่นชมร้านค้าเก่าแก่ในย่านเคียวมาจิ (ฟรี, เวลา 11:00 - 12:00 น.) โดยจะเดินเล่นไปตามถนนซันโจ (Sanjo Street) ชมสิ่งของต่างๆ ที่ชาวเกียวโตใช้สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อเติมเต็มการเดินทางให้สมบูรณ์ อย่างผ้าฟุโรชิกิ (ผ้าสารพันประโยชน์ที่ชาวญี่ปุ่นใช้กันในชีวิตประจำวัน ทั้งห่อของ กล่องข้าว หรือมัดเป็นถุงใส่ของต่างๆ) ถุงหอม พัดพับได้ และลูกปัด รวมทั้ง Kyomachi Junkissa Selection เที่ยวจุนคิซซะในย่านเคียวมาจิ (200 เยน * รวมค่ากาแฟแล้ว, เวลา 20:00 - 21:00 น.) ด้วยการเฟ้นหาจุนคิซซะ (ร้านกาแฟที่ปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์) ที่ถูกใจและไปสัมผัสวัฒนธรรมคาเฟ่ของเกียวโตกัน
OMO Cafe ที่ช่วยเติมพลังให้ไปสนุกกับการเดินเล่นรอบเมืองได้เต็มที่ สามารถเพลิดเพลินเมนูอาหารเช้าอย่าง Nama Yuba & Pickles Rissoto ริซอตโต้หน้ายูบะ (ฟองเต้าหู้) และผักดอง 3 ชนิด ซึ่งเป็นเมนูออริจินัลแสนอร่อยสไตล์เกียวโต, Prosciutto Genovese Rissoto ริซอตโต้หน้านามะแฮมหรือพาร์ม่าแฮมกับชีส, Pumpkin Ricotta Rissoto (ริซอตโต้หน้าฟักทองกับชีสริคอตต้า) และ Shrimp & Tomato Sauce Rissoto (ริซอตโต้หน้ากุ้งกับซอสมะเขือเทศ) รวมถึงเมนูขนมหวานอย่าง Hassun Sweets Plate ชุดขนมหวานชิ้นน่ารักๆ และ Ippuku Issen Set ชุดเครื่องดื่มกับขนมหวานแห้ง
OMO5 Kyoto Gion by Hoshino Resorts ให้ความรู้สึกเหมือนอาศัยอยู่ในย่านกิอง
กิอง (Gion) เป็นมงเซ็นมาจิ (เมืองรอบวัดหรือศาลเจ้า) ของศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) พื้นที่ซึ่งวัฒนธรรมที่มีสีสันของย่านเกอิชาหรือย่านโคมแดงเจริญรุ่งเรือง OMO5 Kyoto Gion by Hoshino Resorts จะทำให้รู้สึกเหมือนอาศัยอยู่ในย่านแห่งนี้
โรงแรมที่มีคอนเซ็ปต์ว่า “วันนี้ฉันอาศัยอยู่ในกิอง” แห่งนี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของย่านกิอง พื้นที่สาธารณะ OMO Base (Travelers' Fun Lounge) เปรียบเสมือนโรงน้ำชาที่แวะพักผ่อนระหว่างเดินทางได้ ความนุ่มสบายของเสื่อทาทามิจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เคาน์เตอร์ในบริเวณเดียวกันจัดแสดงเครื่องมือต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในกิอง
ห้องพักยังติดตั้งชั้นวางที่ตกแต่งด้วยโคมไฟซึ่งใช้แขวนตรงชายคาเพื่อความสว่างในย่านนี้ (ในย่านเกอิชา 5 แห่ง อย่างย่านกิอง มีประเพณีการจุดโคมไฟที่มีลวดลายแตกต่างกันแขวนตรงชายคา) และบริเวณที่ไม่ได้ปูเสื่อซึ่งใช้วางสัมภาระได้ CHANOMA Room ห้องพักที่มีห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว ทำให้เพลิดเพลินกับการเดินทางเหมือนเป็นชาวเกียวโตที่อาศัยอยู่ที่นี่
Gion Uruwashi Asamairi กิจกรรมทัวร์ซึ่งจัดขึ้นทุกเช้า โดยจะตระเวนชมย่านกิองพร้อมกับ OMO Ranger (เจ้าหน้าที่นำทัวร์) ซึ่งจะได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของการพัฒนาย่านเกอิชาในมงเซ็นมาจิและงานเทศกาลตามฤดูกาล ขณะที่เดินเล่นไปท่ามกลางบ้านเรือนอันงดงาม หลังตระเวนชมศาลเจ้ายาซากะและศาลเจ้าต่างๆ ที่ว่ากันว่าจะนำโชคดีมาให้ ทัวร์จะเสร็จสิ้นด้วยการดื่มโอโคเซ็น (เครื่องดื่มที่ทำขึ้นด้วยการเทน้ำร้อนลงบนเกลือคั่วกับส่วนผสมต่างๆ อย่างพริกไทย เปลือกส้ม ดอกซากุระ และชิโซะ) ซึ่งเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ยอดเยี่ยมมากๆ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น Night Omo Chawakai งานเลื้ยงน้ำชายามค่ำคืนซึ่งจะได้สัมผัสถึงการใช้ชีวิตในกิองผ่านชาและขนมญี่ปุ่น และบริการที่ OMO Ranger จะช่วยแนะนำร้านค้าน่าสนใจในกิอง ดังนั้นอย่าลืมใช้บริการกัน
OMO3 Kyoto Toji by Hoshino Resorts ชมการประดับไฟไลต์อัพใบไม้เปลี่ยนสีสุดอัศจรรย์ที่ "วัดโทจิ" มรดกโลก
OMO3 Kyoto Toji by Hoshino Resorts เดินจากวัดโทจิ (Toji Temple) มรดกโลกเพียง 8 นาที วัดโทจิที่เก่าแก่แห่งนี้สร้างมานานกว่า 1,200 ปี เป็นเพียงวัดเดียวในเฮอันเกียว (ที่ตั้งเมืองหลวงในสมัยเฮอัน ปัจจุบันคือจังหวัดเกียวโต) ที่หลงเหลืออยู่ มีเจดีย์ห้าชั้นซึ่งเป็นหอคอยสัญลักษณ์ของเกียวโต สูงราว 55 เมตร และเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในบรรดาสถาปัตยกรรมไม้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
สิ่งที่ต้องแวะไปชมที่วัดโทจิให้ได้คือการประดับไฟไลต์อัพใบไม้เปลี่ยนสียามค่ำคืน ช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม (เวลา 18:00 - 21:30 น. * แผนกต้อนรับเปิดทำการถึงเวลา 21:00 น.) สามารถเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีที่ประดับไฟไลต์อัพสุดอัศจรรย์ และพระพุทธรูปสุดประทับใจ
ญี่ปุ่นมีเทคนิคการจัดสวนสไตล์ “มิซึคากามิ (กระจกน้ำ)” ซึ่งช่วยให้เพลิดเพลินกับภาพใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนบนผิวน้ำ วัดโทจิสามารถเพลิดเพลินกับมิซึคากามิอันงดงามที่สะท้อนในบ่อน้ำเฮียวตัน (บ่อน้ำรูปร่างเหมือนน้ำเต้า) ได้ (หมายเหตุ HOSHINOYA Kyoto ที่แนะนำไปก่อนหน้านี้ ก็มีสวนที่สามารถเพลิดเพลินกับภาพใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนบนอิชิคากามิหรือก้อนหินที่พื้นผิวด้านบนมีการขัดเงา ซึ่งเป็นการนำหลักการของมิซึคากามิมาประยุกต์ใช้)
คอนเซ็ปต์ของ OMO3 Kyoto Toji by Hoshino Resorts คือ “เดินทางข้ามห้วงเวลาของจิตใจ” ที่ทางเข้ามี Go-KINJO Map (Local guide map) แผนที่บ้านเมืองในอดีตและปัจจุบันของพื้นที่โทจิ ด้านหน้าติดประตูเป็นแผนที่ปัจจุบัน ส่วนด้านในเป็นแผนที่สมัยเฮอัน ด้วยการเปิดและปิดประตูบานเลื่อน ทำให้สามารถสลับยุคสมัยต่างๆ และเพลิดเพลินกับพื้นที่โทจิทั้งในอดีตและปัจจุบันได้ อย่าพลาดแวะไปร้านดังซึ่งไม่มีในหนังสือนำเที่ยวซึ่งเหล่า OMO Rangers ค้นพบระหว่างเดินเที่ยวกันนะ
ที่นี่มีกิจกรรมมากมายให้สัมผัสวัฒนธรรมพุทธศาสนาของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิดด้วย เช่น Toji Temple Mandara Walk กิจกรรมซึ่งจะพาไปตระเวนเที่ยวชมรอบๆ “วัดโทจิ” มรดกโลก และ National Treasure Morning Walk —Wake-up Mandala Maru Morning Stretch— กิจกรรมออกกำลังกายยามเช้าท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี (ระหว่างทางหลังออกกำลังกาย สามารถแวะซื้อ “โทจิโมจิ” ขนมขึ้นชื่อของวัดโทจิด้วย)
เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโตได้ในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม
ใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโตมีช่วงเวลาเปลี่ยนสีต่างกันในแต่ละพื้นที่ ลำดับใบไม้เปลี่ยนสีจะเริ่มจากพื้นที่เคโฮกุ (Keihoku) ซึ่งอยู่ใกล้ภูเขา พื้นที่ทาคาโอะ (Takao) และเข้าสู่เมืองเกียวโต บางพื้นที่เริ่มเปลี่ยนสีในช่วงปลายเดือนตุลาคม มีสีสันเต็มมากสุดในเดือนพฤศจิกายน และสิ้นสุดในต้นเดือนธันวาคม กล่าวคือสามารถเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโตได้ค่อนข้างยาวนาน
เดือนพฤศจิกายนจะมีผู้คนมาเที่ยวชมค่อนข้างหนาแน่นมาก ดังนั้นขอแนะนำให้ขยับช่วงเวลาจองโรงแรม หรือขยับช่วงเวลาไปชมเป็นตอนเช้าตรู่หรือไปชมการประดับไฟไลต์อัพตอนค่ำๆ กัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปเพลิดเพลินกับทริปเกียวโตอันน่าจดจำ โดยพักที่โรงแรมแสนยอดเยี่ยมพร้อมเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงามกัน
Hoshino Resorts ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2457 ในฐานะ Hoshino Onsen Ryokan ใน Karuizawa Hoshinoya เป็นโรงแรมที่พิเศษไม่เหมือนใครในธีมดั้งเดิม เราดำเนินการ 62 สิ่งอำนวยความสะดวกในญี่ปุ่นและต่างประเทศ (58 แห่งในญี่ปุ่น 4 แห่งในต่างประเทศ) โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ 5 แบรนด์ ได้แก่ RISONARE, OMO, a โรงแรมในเมือง และ BEB โรงแรมเพื่อการพักผ่อน .
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง
หน้าเว็บไซต์นี้ใช้เครื่องมือแปลภาษาอัตโนมัติบางส่วน