4 โรงแรมของ Hoshino Resorts ที่ต้องพักเมื่อไปเที่ยวเกียวโต! เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสี และการเข้าพักสุดวิเศษในเกียวโต

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

ความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโตเป็นที่เลื่องลือ ทำให้ทุกปีมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากมาย บทความนี้ขอแนะนำ 4 โรงแรมในเกียวโตที่สามารถดื่มด่ำกับการเข้าพักแสนวิเศษและเสน่ห์ของใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโต

บทความโดย

Hoshino Resorts ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2457 ในฐานะ Hoshino Onsen Ryokan ใน Karuizawa Hoshinoya เป็นโรงแรมที่พิเศษไม่เหมือนใครในธีมดั้งเดิม เราดำเนินการ 62 สิ่งอำนวยความสะดวกในญี่ปุ่นและต่างประเทศ (58 แห่งในญี่ปุ่น 4 แห่งในต่างประเทศ) โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ 5 แบรนด์ ได้แก่ RISONARE, OMO, a โรงแรมในเมือง และ BEB โรงแรมเพื่อการพักผ่อน .

more

เหตุผลที่ใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโตได้รับการเล่าขานว่า "งดงามยิ่ง"

ญี่ปุ่นมีใบไม้เปลี่ยนสีงดงามหลายแห่ง แต่ใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโตนั้นงดงามเป็นที่สุด

เหตุผลใหญ่ที่สุดก็คือเกียวโตเป็นศูนย์กลางการเมืองและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 1,000 ปี มีสวนที่เป็นสมบัติล้ำค่าของชาติอยู่มากมายทั่วเกียวโต และมีผู้ดูแลสวนที่มีทักษะความเชี่ยวชาญมากมายคอยดูแลสวนเหล่านี้ (ในจำนวน "สวนที่เป็นจุดชมทัศนียภาพอันงดงามทางธรรมชาติ" ที่ได้รับขึ้นทะเบียนระดับชาติของญี่ปุ่น 234 แห่ง และในจำนวน "สวนที่เป็นจุดชมทัศนียภาพอันงดงามทางธรรมชาติพิเศษ” ซึ่งเทียบเท่ากับมรดกชาติของญี่ปุ่น 24 แห่งนั้น ที่เกียวโตมีจำนวนมากที่สุด โดยมี 53 แห่ง และ 13 แห่งตามลำดับ)

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือพื้นที่แห่งนี้มีลักษณะภูมิศาสตร์ตามธรรมชาติตรงตามเงื่อนไขที่ทำให้ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงมีสีสันงดงาม ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีเมื่ออุณหภูมิต่ำสุดลดลงต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส และมีสีสันสดใสที่อุณหภูมิ 5 - 6 องศาเซลเซียส ว่ากันว่าเงื่อนไขที่ใบไม้เปลี่ยนสีจะมีสีสันสวยงามนั้นมาจากอุณหภูมิต่างกันมากระหว่างกลางวันกับกลางคืน แสงแดดและความชื้นที่พอเหมาะ เกียวโตเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ มีอุณหภูมิระหว่างกลางวันกับกลางคืนต่างกันมาก อีกทั้งยังมีแสงแดดส่องลงมามาก (เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางบดบังอย่างอาคารต่างๆ น้อย) และมีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์สามารถกล่าวได้ว่าเป็นพื้นที่ซึ่งใบไม้เปลี่ยนสีมักมีสีสันสดใสสวยงาม

เกียวโตยังมีเอกลักษณ์พิเศษตรงที่สามารถเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีในหลากหลายเทคนิค เช่น สวนที่ออกแบบโดยคำนึงถึงภูมิทัศน์ที่ตัดกันกับสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น สวนที่ใช้ประโยชน์จากทิวทัศน์ธรรมชาติ และการประดับไฟไลต์อัพในยามค่ำคืน

Hoshino Resorts มอบบริการเข้าพักโรงแรมที่หลากหลาย

เพื่อให้การพักผ่อนในเกียวโตพิเศษยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ที่พัก” เกียวโตมีโรงแรมที่พักหลากหลาย ทั้งเรียวกัง โรงแรมหรู และเกสต์เฮาส์ แต่ในที่นี้ ขอแนะนำโรงแรมของ Hoshino Resorts (โฮชิโนะ รีสอร์ตส์) ซึ่งดำเนินงานภายใต้ 5 แบรนด์หลัก ได้แก่ HOSHINOYA (โฮชิโนยะ), KAI (ไค), RISONARE (ริโซแนร์), OMO (โอโมะ) และ BEB (เบฟ) ในธีม “สร้างสรรค์การเดินทางแสนสนุกแก่ผู้เข้าพัก”

อีกเหตุผลหนึ่งของความนิยมก็คือ โรงแรมแต่ละแบรนด์ให้บริการในธีมที่ต่างกันเพื่อให้ผู้เข้าพักเพลิดเพลินกับย่านต่างๆ ในแบบที่ไม่เหมือนใคร เช่น HOSHINOYA ในธีม “วันพักผ่อนแสนวิเศษสุดสร้างสรรค์” และ OMO ในคอนเซ็ปต์ “โรงแรมท้องถิ่นที่เติมความคึกคักให้กับการเดินทาง” จากนี้จะพาไปสำรวจ 4 โรงแรมในเกียวโตกัน

HOSHINOYA Kyoto เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีของอาราชิยามะ เมืองอันเป็นที่รักของขุนนางสมัยเฮอันในบรรยากาศสุดแสนวิเศษ

HOSHINOYA Kyoto ตั้งอยู่ในอาราชิยามะ (Arashiyama) พื้นที่ตากอากาศที่ขุนนางสมัยเฮอันหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงมาเพลิดเพลินกับความงดงามของฤดูกาลที่ผันเปลี่ยนไปกัน

ขึ้นเรือสุดพิเศษจากสะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsu-kyo Bridge) ล่องไปตามแม่น้ำโออิ (Oi River) ราว 15 นาที ก็จะถึง HOSHINOYA Kyoto (โฮชิโนยะ เกียวโต) ที่พักซึ่งสร้างขึ้นตามแนวหุบเขาอันเงียบสงบ วิธีการเข้าที่พักเหมือนกับปราสาทฮอกวอตส์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์นี้ให้ความรู้สึกที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

คอนเซ็ปต์ของ HOSHINOYA Kyoto ซึ่งเปิดเมื่อปี 2009 คือ “เพลิดเพลินจนลืมเวลาในที่พักส่วนตัวริมน้ำ” ห้องพักทั้ง 25 ห้องของที่นี่มองเห็นวิวแม่น้ำ ทำให้สัมผัสได้ถึงภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวญี่ป่นสมัยก่อนที่ยังคงอยู่ในเกียวโต สามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติที่ผันเปลี่ยน พร้อมสัมผัสกับสุนทรียภาพและภูมิปัญญาดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่นี่ยังให้บริการอาหารไคเซกิที่ใช้ประโยชน์จากรสชาติความอร่อยที่รวมอยู่ในเกียวโต และอาหารเช้าที่รับประทานพร้อมชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยบำรุงร่างกายเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงจิตใจด้วย

สถาปัตยกรรมของโรงแรมก็งดงาม ตัวโรงแรมเองก็มีเสน่ห์น่าไปเยือนเช่นกัน มีทั้ง Floating Tea Room ห้องน้ำชาซึ่งยื่นออกไปในแม่น้ำโออิที่ไหลอยู่เบื้องหน้า HOSHINOYA Kyoto, พื้นที่ทางเดินกลางสวนที่ดูแปลกตา และ Library Lounge พื้นที่พักผ่อนที่สามารถเพลิดเพลินกับหนังสือประเภทต่างๆ พร้อมเครื่องดื่มและขนมหวานจากชาตามฤดูกาล

โรงแรมมีสวน และจุดที่ต้องไปชมก็คือต้นเมเปิลยักษ์อายุ 400 ปีในสวนโอคุโนะซึ่งมีเขาโอกุระ (Mt. Okura) อยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นฉากหลัง ตลอดช่วงเวลาที่เข้าพัก โรงแรมแห่งนี้จะสร้างความทรงจำสุดประทับที่จะคงอยู่ตลอดไป ทั้งทางด้านจิตใจซึ่งจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่ผันเปลี่ยนตามกาลเวลา อันเป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นหวงแหนมาตั้งแต่สมัยโบราณ และทางด้านร่างกายกับการบริการสไตล์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุด ในคืนแรกก่อนเช็คอิน ขอแนะนำให้เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีและสวนต่างๆ ภายในเมืองเกียวโตและอาราชิยามะ จากนั้นค่อยไปพักผ่อนที่ HOSHINOYA Kyoto กัน!

จองที่พักของ HOSHINOYA Kyoto ในราคาที่ดีที่สุด

OMO5 Kyoto Sanjo by Hoshino Resorts เจาะลึกวัฒนธรรมชาวเมืองเกียวโตในพื้นที่ซันโจ

OMO เป็นแบรนด์หนึ่งของ Hoshino Resorts ที่ช่วยให้เพลิดเพลินไปกับย่านนั้นได้เต็มที่ เสน่ห์อย่างหนึ่งของแบรนด์นี้ก็คือสามารถเข้าพักในทำเลที่ดีที่สุดของย่านนั้น และมีกิจกรรมมากมายให้ใกล้ชิดกับย่านนั้นมากขึ้น ผู้ที่อยากเจาะลึกที่เที่ยวต่างๆ ที่ไม่มีในหนังสือนำเที่ยว ไม่ใช่แค่การเที่ยวชมเมืองแบบผิวเผิน แต่อยากรู้จักบ้านเมืองและผู้คนที่อาศัยอยู่ด้วย ที่นี่คือโรงแรมที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับตัวเลขด้านหลัง OMO นั้นบ่งบอกถึงขอบข่ายการบริการต่างๆ ตัวเลขนี้จะช่วยให้เลือกโรงแรมได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการเดินทางและวิธีใช้เวลาได้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ OMO1 เล็กๆ เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยสิ่งที่ช่วยให้สนุกเพลิดเพลินกับย่านต่างๆ ได้ OMO3 มีห้องพักเรียบง่าย ขนาดกะทัดรัด และย่อมเยา ส่วน OMO5 มีห้องพักสวยหรู คาเฟ่และอาหารเช้าแสนอร่อย และ OMO7 โรงแรมที่ให้บริการเต็มรูปแบบ สามารถเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยที่ใช้ประโยชน์จากเสน่ห์ของท้องถิ่นในห้องพักที่กว้างขวาง

OMO5 Kyoto Sanjo by Hoshino Resorts เปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายน 2021 ในย่านอันเงียบสงบที่มีร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย อีกทั้งยังเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดายเช่น มีรถไฟใต้ดินสายคาราซึมะ (Karasuma Subway Line) ซึ่งวิ่งจากทางเหนือจรดทางใต้ของเกียวโต และสามารถโดยสารไปยังสถานีเกียวโตได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟ, รถไฟใต้ดินสาย โทไซ (Tozai Subway Line) ซึ่งโดยสารไปอาราชิยามะ (Arashiyama) ได้สะดวก และไปปราสาทนิโจ (Nijo Castle) และฮิกาชิยามะ (Higashiyama) ได้ง่ายดาย รวมทั้งรถไฟเคฮัน (Keihan Electric Railway) ซึ่งโดยสารไปโอซาก้าได้ง่ายๆ ด้วย

ญี่ปุ่นมีทางหลวง 5 สายที่สร้างขึ้นโดยเอโดะบุคุฟุ (รัฐบาลโชกุนสมัยเอโดะ) ทางหลวงสายสำคัญที่สุดคือทางหลวงโทไคโด (Tokaido Highway) ซึ่งเชื่อมสะพานนิฮมบาชิ (Nihonbashi Bridge) ของโตเกียว (Tokyo) กับสะพานซันโจโอฮาชิ (Sanjo Ohashi Bridge) ของเกียวโต ถัดจากแม่น้ำคาโมะ (Kamo River)ซึ่งสะพานซันโจโอฮาชิตัดผ่าน มีแม่น้ำทาคาเซะ (Takase River) แม่น้ำสายสำคัญซึ่งช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของเกียวโตด้านการขนส่งสินค้า และทำให้วัฒนธรรมการค้าในพื้นที่ซันโจเจริญรุ่งเรือง

OMO5 Kyoto Sanjo มีกิจกรรมที่น่าสนใจในคอนเซ็บปต์  “เดินเที่ยวริมน้ำในย่านเคียวมาจิ” ให้เพลิดเพลินกัน เช่น มี  Go-KINJO Map แผนที่รวบรวมที่เที่ยวแนะนำซึ่งพนักงานโรงแรมเคยไปเที่ยวจริงๆ, Kyomachi walking tour along the river กิจกรรมเดินเล่นริมแม่น้ำในย่านเคียวมาจิ (ฟรี, เวลา 16:30 - 17:30 น.) โดยจะเดินเล่นไปตามแม่น้ำเซกาวะพร้อมกับเรนเจอร์ (เจ้าหน้าที่นำทัวร์), Walk to old stores of Kyomachi กิจกรรมเดินเล่นชมร้านค้าเก่าแก่ในย่านเคียวมาจิ (ฟรี, เวลา 11:00 - 12:00 น.) โดยจะเดินเล่นไปตามถนนซันโจ (Sanjo Street) ชมสิ่งของต่างๆ ที่ชาวเกียวโตใช้สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อเติมเต็มการเดินทางให้สมบูรณ์ อย่างผ้าฟุโรชิกิ (ผ้าสารพันประโยชน์ที่ชาวญี่ปุ่นใช้กันในชีวิตประจำวัน ทั้งห่อของ กล่องข้าว หรือมัดเป็นถุงใส่ของต่างๆ) ถุงหอม พัดพับได้ และลูกปัด รวมทั้ง Kyomachi Junkissa Selection เที่ยวจุนคิซซะในย่านเคียวมาจิ (200 เยน * รวมค่ากาแฟแล้ว, เวลา 20:00 - 21:00 น.) ด้วยการเฟ้นหาจุนคิซซะ (ร้านกาแฟที่ปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์) ที่ถูกใจและไปสัมผัสวัฒนธรรมคาเฟ่ของเกียวโตกัน

OMO Cafe ที่ช่วยเติมพลังให้ไปสนุกกับการเดินเล่นรอบเมืองได้เต็มที่ สามารถเพลิดเพลินเมนูอาหารเช้าอย่าง Nama Yuba & Pickles Rissoto ริซอตโต้หน้ายูบะ (ฟองเต้าหู้) และผักดอง 3 ชนิด ซึ่งเป็นเมนูออริจินัลแสนอร่อยสไตล์เกียวโต, Prosciutto Genovese Rissoto ริซอตโต้หน้านามะแฮมหรือพาร์ม่าแฮมกับชีส, Pumpkin Ricotta Rissoto (ริซอตโต้หน้าฟักทองกับชีสริคอตต้า) และ Shrimp & Tomato Sauce Rissoto (ริซอตโต้หน้ากุ้งกับซอสมะเขือเทศ) รวมถึงเมนูขนมหวานอย่าง Hassun Sweets Plate ชุดขนมหวานชิ้นน่ารักๆ และ Ippuku Issen Set ชุดเครื่องดื่มกับขนมหวานแห้ง

จองที่พักของ OMO5 Kyoto Sanjo by Hoshino Resorts ในราคาที่ดีที่สุด

OMO5 Kyoto Gion by Hoshino Resorts ให้ความรู้สึกเหมือนอาศัยอยู่ในย่านกิอง

กิอง (Gion) เป็นมงเซ็นมาจิ (เมืองรอบวัดหรือศาลเจ้า) ของศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) พื้นที่ซึ่งวัฒนธรรมที่มีสีสันของย่านเกอิชาหรือย่านโคมแดงเจริญรุ่งเรือง OMO5 Kyoto Gion by Hoshino Resorts จะทำให้รู้สึกเหมือนอาศัยอยู่ในย่านแห่งนี้

โรงแรมที่มีคอนเซ็ปต์ว่า “วันนี้ฉันอาศัยอยู่ในกิอง” แห่งนี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของย่านกิอง พื้นที่สาธารณะ OMO Base (Travelers' Fun Lounge) เปรียบเสมือนโรงน้ำชาที่แวะพักผ่อนระหว่างเดินทางได้ ความนุ่มสบายของเสื่อทาทามิจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เคาน์เตอร์ในบริเวณเดียวกันจัดแสดงเครื่องมือต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในกิอง

ห้องพักยังติดตั้งชั้นวางที่ตกแต่งด้วยโคมไฟซึ่งใช้แขวนตรงชายคาเพื่อความสว่างในย่านนี้ (ในย่านเกอิชา 5 แห่ง อย่างย่านกิอง มีประเพณีการจุดโคมไฟที่มีลวดลายแตกต่างกันแขวนตรงชายคา) และบริเวณที่ไม่ได้ปูเสื่อซึ่งใช้วางสัมภาระได้ CHANOMA Room ห้องพักที่มีห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว ทำให้เพลิดเพลินกับการเดินทางเหมือนเป็นชาวเกียวโตที่อาศัยอยู่ที่นี่

Gion Uruwashi Asamairi กิจกรรมทัวร์ซึ่งจัดขึ้นทุกเช้า โดยจะตระเวนชมย่านกิองพร้อมกับ OMO Ranger (เจ้าหน้าที่นำทัวร์) ซึ่งจะได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของการพัฒนาย่านเกอิชาในมงเซ็นมาจิและงานเทศกาลตามฤดูกาล ขณะที่เดินเล่นไปท่ามกลางบ้านเรือนอันงดงาม หลังตระเวนชมศาลเจ้ายาซากะและศาลเจ้าต่างๆ ที่ว่ากันว่าจะนำโชคดีมาให้ ทัวร์จะเสร็จสิ้นด้วยการดื่มโอโคเซ็น (เครื่องดื่มที่ทำขึ้นด้วยการเทน้ำร้อนลงบนเกลือคั่วกับส่วนผสมต่างๆ อย่างพริกไทย เปลือกส้ม ดอกซากุระ และชิโซะ) ซึ่งเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ยอดเยี่ยมมากๆ

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น Night Omo Chawakai งานเลื้ยงน้ำชายามค่ำคืนซึ่งจะได้สัมผัสถึงการใช้ชีวิตในกิองผ่านชาและขนมญี่ปุ่น และบริการที่ OMO Ranger จะช่วยแนะนำร้านค้าน่าสนใจในกิอง ดังนั้นอย่าลืมใช้บริการกัน

จองที่พักของ OMO5 Kyoto Gion by Hoshino Resorts ในราคาที่ดีที่สุด

OMO3 Kyoto Toji by Hoshino Resorts ชมการประดับไฟไลต์อัพใบไม้เปลี่ยนสีสุดอัศจรรย์ที่ "วัดโทจิ" มรดกโลก

OMO3 Kyoto Toji by Hoshino Resorts เดินจากวัดโทจิ (Toji Temple) มรดกโลกเพียง 8 นาที  วัดโทจิที่เก่าแก่แห่งนี้สร้างมานานกว่า 1,200 ปี เป็นเพียงวัดเดียวในเฮอันเกียว (ที่ตั้งเมืองหลวงในสมัยเฮอัน ปัจจุบันคือจังหวัดเกียวโต) ที่หลงเหลืออยู่ มีเจดีย์ห้าชั้นซึ่งเป็นหอคอยสัญลักษณ์ของเกียวโต สูงราว 55 เมตร และเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในบรรดาสถาปัตยกรรมไม้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

สิ่งที่ต้องแวะไปชมที่วัดโทจิให้ได้คือการประดับไฟไลต์อัพใบไม้เปลี่ยนสียามค่ำคืน ช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม (เวลา 18:00 - 21:30 น. * แผนกต้อนรับเปิดทำการถึงเวลา 21:00 น.) สามารถเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีที่ประดับไฟไลต์อัพสุดอัศจรรย์ และพระพุทธรูปสุดประทับใจ

ญี่ปุ่นมีเทคนิคการจัดสวนสไตล์ “มิซึคากามิ (กระจกน้ำ)” ซึ่งช่วยให้เพลิดเพลินกับภาพใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนบนผิวน้ำ วัดโทจิสามารถเพลิดเพลินกับมิซึคากามิอันงดงามที่สะท้อนในบ่อน้ำเฮียวตัน (บ่อน้ำรูปร่างเหมือนน้ำเต้า) ได้ (หมายเหตุ HOSHINOYA Kyoto ที่แนะนำไปก่อนหน้านี้ ก็มีสวนที่สามารถเพลิดเพลินกับภาพใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนบนอิชิคากามิหรือก้อนหินที่พื้นผิวด้านบนมีการขัดเงา ซึ่งเป็นการนำหลักการของมิซึคากามิมาประยุกต์ใช้)

คอนเซ็ปต์ของ OMO3 Kyoto Toji by Hoshino Resorts คือ “เดินทางข้ามห้วงเวลาของจิตใจ” ที่ทางเข้ามี Go-KINJO Map (Local guide map) แผนที่บ้านเมืองในอดีตและปัจจุบันของพื้นที่โทจิ ด้านหน้าติดประตูเป็นแผนที่ปัจจุบัน ส่วนด้านในเป็นแผนที่สมัยเฮอัน ด้วยการเปิดและปิดประตูบานเลื่อน ทำให้สามารถสลับยุคสมัยต่างๆ และเพลิดเพลินกับพื้นที่โทจิทั้งในอดีตและปัจจุบันได้ อย่าพลาดแวะไปร้านดังซึ่งไม่มีในหนังสือนำเที่ยวซึ่งเหล่า OMO Rangers ค้นพบระหว่างเดินเที่ยวกันนะ

ที่นี่มีกิจกรรมมากมายให้สัมผัสวัฒนธรรมพุทธศาสนาของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิดด้วย เช่น Toji Temple Mandara Walk กิจกรรมซึ่งจะพาไปตระเวนเที่ยวชมรอบๆ “วัดโทจิ” มรดกโลก  และ National Treasure Morning Walk —Wake-up Mandala Maru Morning Stretch— กิจกรรมออกกำลังกายยามเช้าท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี (ระหว่างทางหลังออกกำลังกาย สามารถแวะซื้อ “โทจิโมจิ” ขนมขึ้นชื่อของวัดโทจิด้วย)

จองที่พักของ OMO3 Kyoto Toji by Hoshino Resorts ในราคาที่ดีที่สุด

เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโตได้ในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม

ใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโตมีช่วงเวลาเปลี่ยนสีต่างกันในแต่ละพื้นที่ ลำดับใบไม้เปลี่ยนสีจะเริ่มจากพื้นที่เคโฮกุ (Keihoku) ซึ่งอยู่ใกล้ภูเขา พื้นที่ทาคาโอะ (Takao) และเข้าสู่เมืองเกียวโต บางพื้นที่เริ่มเปลี่ยนสีในช่วงปลายเดือนตุลาคม มีสีสันเต็มมากสุดในเดือนพฤศจิกายน และสิ้นสุดในต้นเดือนธันวาคม กล่าวคือสามารถเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีของเกียวโตได้ค่อนข้างยาวนาน

เดือนพฤศจิกายนจะมีผู้คนมาเที่ยวชมค่อนข้างหนาแน่นมาก ดังนั้นขอแนะนำให้ขยับช่วงเวลาจองโรงแรม หรือขยับช่วงเวลาไปชมเป็นตอนเช้าตรู่หรือไปชมการประดับไฟไลต์อัพตอนค่ำๆ กัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปเพลิดเพลินกับทริปเกียวโตอันน่าจดจำ โดยพักที่โรงแรมแสนยอดเยี่ยมพร้อมเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงามกัน

บทความโดย

โฮชิโนะ รีสอร์ท

จังหวัดโตเกียว

Hoshino Resorts ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2457 ในฐานะ Hoshino Onsen Ryokan ใน Karuizawa Hoshinoya เป็นโรงแรมที่พิเศษไม่เหมือนใครในธีมดั้งเดิม เราดำเนินการ 62 สิ่งอำนวยความสะดวกในญี่ปุ่นและต่างประเทศ (58 แห่งในญี่ปุ่น 4 แห่งในต่างประเทศ) โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ 5 แบรนด์ ได้แก่ RISONARE, OMO, a โรงแรมในเมือง และ BEB โรงแรมเพื่อการพักผ่อน .

more
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

หน้าเว็บไซต์นี้ใช้เครื่องมือแปลภาษาอัตโนมัติบางส่วน