Start planning your trip
ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต! “ศาลเจ้าโคโตฮิรางู” จ.คากาวะ
ฤดูใบไม้ร่วงนับเป็นฤดูกาลที่มีอากาศแจ่มใสและเหมาะกับการชมใบเมเปิ้ลสุดๆ นอกจากกิจกรรมสัมผัสประวัติศาสตร์และลิ้มลองอุด้งรสเลิศในเมืองทาคามัตสึแล้วแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิตอย่าง “ศาลเจ้าโคโตฮิรางู” ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
ฤดูใบไม้ร่วงนับเป็นฤดูกาลที่มีอากาศแจ่มใสและเหมาะกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเกิดใครต้องการเพลิดเพลินกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีใน ภูมิภาคชิโกกุ ก็ขอแนะนำให้มาเที่ยวโคโตฮิระ เมืองทาคามัตสึ จ.คากาวะแห่งนี้เลยค่ะ ^^
เมื่อได้มาเที่ยวโคโตฮิระก็บอกเลยว่าห้ามพลาดมาชมใบไม้เปลี่ยนสีอันแสนงดงามที่ “Kotohira-gū (ศาลเจ้าโคโตฮิรางู)” ศาลเจ้าที่ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิตด้วยประการทั้งปวง! เอาล่ะ ขึ้นบันไดสูง 1368 ขั้นไปชมที่ราบซานูกิอันแสนกว้างใหญ่ข้างบนกันเลยดีกว่า~
“ศาลเจ้าโคโตฮิรางู” ที่รายล้อมไปด้วยป่าไม้อันเขียวขจี
ผู้คนส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเยือนโคโตฮิระแห่งนี้มักมาด้วยจุดประสงค์เพื่อสักการะศาลเจ้าโคโตฮิรางูซึ่งตั้งอยู่บนเนินสูง 521 เมตรเหรือระดับน้ำทะเลกันทั้งนั้น ที่นี่เป็นศาลเจ้าสาขาหลักของศาลเจ้าโคโตฮิระ (金刀比羅
神社), ศาลเจ้าโคโตฮิระ (琴平神社) และศาลเจ้าคอมปิระซึ่งตั้งอยู่ทั่วญี่ปุ่น โดยเป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์เรื่องการเดินเรืออย่างปลอดภัย
ใน สมัยเอโดะ ที่นี่เป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันอย่างลึกซึ้งของคนญี่ปุ่นถึงขนาดว่ากันว่าเป็น “ศาลเจ้าที่ต้องมาสักการะให้ได้สักครั้งในชีวิต” เลยทีเดียว โดยขึ้นชื่อเรื่องทางเดินสู่ศาลเจ้ายาวเฟื้อยซึ่งกว่าจะเดินขึ้นไปถึงศาลเจ้าอิซึทามะที่ตั้งอยู่ด้านบนสุดของถนนหน้าศาลเจ้าก็ต้องขึ้นบันไดกว่า 1368 ขั้นเพื่อเป็นการทดสอบพลังกายและพลังความศรัทธาของผู้สักการะ
เที่ยวโคโตฮิระต้องนั่งรถไฟเท่านั้น!
การเดินทางไปยังโคโตฮิระมีทั้งหมด 2 วิธีด้วยกันประกอบด้วยการนั่งรถไฟ JR จาก Takamatsu Station มาถึง JR Kotohira Station หรือการนั่งรถไฟ Kotoden จาก Takamatsu-Chikko Station มาถึง Kotoden "Kotohira Station" ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 40 นาที – 1 ชั่วโมง ในครั้งนี้เราเดินทางมาโดยใช้บริการ KotodenKotohira Station
เนื่องจากรถไฟ Kotoden มีจำหน่ายตั๋วฟรีพาสสุดคุ้มสำหรับขึ้น-ลงรถไฟ Kotoden ได้อย่างไม่จำกัดตลอด 1 วัน (1,230 เยน) นั่นเอง ถ้าเกิดใช้ตั๋วฟรีพาสใบนี้ เราก็จะสามารถเดินทางจากทาคามัตสึมาถึงโคโตฮิระได้ในราคาถูกกว่าการนั่งรถไฟไป-กลับระหว่าง Takamatsu-Chikko Station และ Kotoden "Kotohira Station" (1,240 เยน) ซะอีก
เมื่อเดินทางมาถึง KotodenKotohira Station กันแล้วก็เดินลอดเสาโอโทริอิและข้ามสะพานด้านหน้ามาเลย ตรงนี้ถือเป็นจุดสตาร์ทของถนนหน้าศาลเจ้าโคโตฮิรางู
เดินเล่นบนถนนหน้าศาลเจ้าที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศเก่าแก่
ถนนหน้าศาลเจ้าที่ยังไง๊...ยังไงก็ต้องผ่านถ้าหากจะเดินทางไปยังศาลเจ้าโคโตฮิรางูแห่งนี้อบอวลไปด้วยบรรยากาศเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่น ทั้งสองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านอุด้ง, ร้านอาหาร และร้านจำหน่ายของฝากน้อย-ใหญ่มากมายเต็มไปหมด ระหว่างที่กำลังเดินไปกินไปอย่างเมามันส์เผลอแป๊บเดียวก็มาถึงประตูใหญ่ทางเข้าเขตศาลเจ้าโคโตฮิรางูแล้วล่ะค่ะ
แถวนี้มีร้านจำหน่าบของฝากจากโคโตฮิระเพียบเลยนะเนี่ย... เนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่แจกไม้เท้าสำหรับปีนเขาฟรี เราจึงสามารถขอได้อย่างอิสระ โดยหลังจากลงเขาก็อย่าลืมนำไม้เท้าไปคืนที่ร้านกันด้วยเนอะ
Photo by juson.tw
ทำยังไงดี...ขาไม่มีแรงจะเดินแล้ว? สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ก็สามารถนั่งเกี้ยวตรงประตูทางเข้าของถนนหน้าศาลเจ้าได้เลย เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถขึ้น-ลงเขาได้อย่างสบายๆโดยพึ่งแรงของพนักงานแบกเกี้ยวเอาแทน แต่เกี้ยวนี้ให้บริการไปถึงแค่ประตูใหญ่เท่านั้นนะจ๊ะ... ส่วนเส้นทางที่เหลือก็ต้องพึ่งแรงตัวเองเท่านั้นแล้ว
ออกเดินทางไปยังศาลเจ้าหลัก
เป้าหมายหลักของการเดินทางมาเที่ยวโคโตฮิระเลยก็คือการสักการะศาลเจ้าโคโตฮิรางูแน่นอนอยู่แล้ว แต่การที่จะขึ้นไปถึงศาลเจ้าโคโตฮิรางูได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผู้สักการะส่วนใหญ่แค่เดินขึ้นมาถึงศาลเจ้าหลัก (785 ขั้น) ก็ไม่ไหวกันแล้ว เมื่อลอดประตูใหญ่มาก็ไม่ได้มีร้านรวงให้บริการอะไรก็จริง แต่เราจะได้พบกับโซนสุดศักดิ์สิทธิ์และเคร่งขรึมของศาลเจ้าท่ามกลางเสียงนกกระจอกที่ร้องเจื้อยแจ้วและบรรยากาศเงียบสงบแทน
เมื่อมองเห็น “โกะนินเฮียคุโช” ร้านขนมน้ำตาลที่ได้รับอนุญาตพิเศษให้ตั้งร้านค้าภายในศาลเจ้าได้ก็ถือเป็นหลักฐานว่าเราได้เข้ามาเหยียบศาลเจ้าโคโตฮิรางูอันศักดิ์สิทธิ์อย่างเป็นทางการแล้วล่ะค่ะ ““โกะนินเฮียคุโช” คือ ร้านจำหน่ายขนมหวานคามิโยะอาเมะทั้งหมด 5 ร้าน โดยเป็นร้านค้าเพียงเจ้าเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาค้าขายภายในศาลเจ้าได้ เนื่องจากแต่เดิมแล้วบรรพบุรุษของร้านค้าทั้ง 5 แห่งเคยอุทิศทุ่มเทอย่างหนักในการจัดพิธีทางศาสนาให้กับศาลเจ้าโคโตฮิรางูนั่นเอง ส่วนร้านค้าอื่นๆนอกจากทั้ง 5 ร้านนี้สามารถตั้งร้านได้เฉพาะบนถนนร้านค้าและถนนหน้าศาลเจ้าก่อนเข้าประตูใหญ่เท่านั้น
ระหว่างทางเดินสู่ศาลเจ้าเราจะได้พบกับ “คอมปิระอินุ” ตามภาพด้วยนะเออ... “คอมปิระอินุ” คือ สุนัขที่เดินทางมาสักการะศาลเจ้าโคโตฮิรางูแทนเจ้าของ
ในสมัยเอโดะซึ่งยังไม่มียานพาหนะอะไรนอกจากการเดินเท้าเปล่า การเดินทางมาสักการะศาลเจ้าโคโตฮิรางูจากดินแดนห่างไกลถือเป็นเรื่องยากลำบากมาก ดังนั้นจึงเกิดธรรมเนียมการให้สุนัขที่เลี้ยงไว้เดินทางมาสักการะศาลเจ้าแทนเจ้าของขึ้นมา โดยเจ้าของจะแขวนถุงเล็กๆซึ่งใส่ป้ายไม้, เงินทำบุญ และค่าเดินทางเอาไว้ตรงคอสุนัข ผู้สักการะศาลเจ้าที่ผ่านมาพบเห็นก็จะช่วยกันพาไปและส่งต่อหน้าที่กันไปเรื่อยๆ เมื่อเดินทางมาถึงศาลเจ้าโคโตฮิรางูอย่างปลอดภัยก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจของเจ้าสุนัขแล้วล่ะค่ะ
ภายในศาลเจ้าเต็มไปด้วยคอมปิระอินุตัวเล็กตั้งอยู่เต็มไปหมด โดยของเหล่านี้เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกแก่เหล่าสุนัขที่เดินทางมาสักการะศาลเจ้าแทนเจ้าของ ถ้าเกิดลองดึงเซียมซีจากหลังของมันดูจะก็รู้โชคชะตาของตัวเองด้วยนะเออ...
ภายในศาลเจ้าหลักมีจำหน่าย “เครื่องรางสีเหลืองแห่งความโชคดี” (800 เยน) และ “เครื่องรางแห่งความร่าเริงสดใส” (500 เยน) “เครื่องรางแห่งความร่าเริงสดใส” ซึ่งประกอบด้วยสีแดง, สีน้ำเงิน และสีขาวเป็นของมงคลที่สังฆราชผลิตขึ้นมาจากภาพลักษณ์ความยิ้มแย้มแจ่มใสบริสุทธิ์ไร้มลทินของเหล่าเด็กๆที่เดินทางมาสักการะศาลเจ้า เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มเหล่านี้ เราก็จะได้รับพลังแห่งความร่าเริงแจ่มใสและความโชคดีแล้วล่ะค่ะ!
ชมวิวที่ราบซานูกิจากศาลเจ้าหลัก
บริเวณใกล้กับศาลเจ้าหลักเป็นจุดชมวิวที่สามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของที่ราบซานูกิได้ บอกเลยว่าเพียงแค่ได้ชมทัศนียภาพอันงดงามของสะพานใหญ่เซะโตและภูเขาอีโนะก็ช่วยให้ลืมความเหนื่อยล้าจากการเดินขึ้นเขามาถึงที่นี่เป็นปลิดทิ้ง สำหรับใครที่ยังไหวอยู่ก็มุ่งหน้าไปยังศาลเจ้าด้านในสุดกันต่อเลย! เมื่อเดินขึ้นบันไดมาจนครบ 1368 ขั้นก็จะพบกับวิวสุดงามชวนฟินของโคโตฮิระแบบนี้รออยู่...
แนะนำแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสี
Photo by juson.tw
เมื่อเอ่ยถึงแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีแนะนำของทาคามัตสึแล้วก็ต้องยกให้ศาลเจ้าโคโตฮิรางูอย่างแน่นอน เมื่อย่างเข้าสู่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ทั่วทั้งภูเขาก็จะย้อมไปด้วยสีแดงสด ทุกแห่งหนตั้งแต่ถนนหน้าศาลเจ้าไปจนสุดทางเดินสักการะจะผสมผสานไปด้วยสีแดง, สีส้ม, สีเหลือง และสีเขียวปนๆกันไป ทัศนียภาพอันงดงามแบบนี้ไม่ว่าใครก็ต้องเผลอหยุดยืนชมกันทุกราย
Photo by Naoki Sato
บรรยากาศที่ใบไม้สีเหลืองโปรยปรายไปทั่วทั้งบริเวณช่วยให้สัมผัสถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ร่วงได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ ภายในศาลเจ้าโคโตฮิรางูแห่งนี้ก็ยังมีการจัด “งานเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี” ขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายนของทุกปีอีกด้วย ผู้คนที่เดินทางมาเยือนจะไม่ได้แค่เพลิดเพลินกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีเท่านั้น แต่ยังสามารถสัมผัสบรรยากาศสุดคึกคักของเหล่านักแสดง, มิโกะ และนักบวชชินโตบนถนนหน้าศาลเจ้าได้อีกด้วย ส่วนบริเวณศาลเจ้าหลักจะมีการจัดการแสดงร่ายรำดั้งเดิมที่เรียกว่า “ซานูกิฟูโซคุไม” และ “ยาโอโตเมะไม” ให้ได้ชมกัน
เพลิดเพลินกับศาลเจ้าโคโตฮิรางูกันให้จุใจ!
เราไม่เพียงแค่สามารถเพลิดเพลินกับประวัติศาสตร์และอุด้งแสนอร่อยในโคโตฮิระได้เท่านั้น แต่เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงก็เหมาะกับการแวะมาเดินทางไกลที่ศาลเจ้าโคโตฮิรางูสุดๆ บอกเลยว่าทัศนียภาพอันงดงามของฤดูใบไม้ร่วงเป็นอะไรที่มองกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน เอาล่ะ เพื่อนๆเตรียมพร้อมไปขึ้นบันไดสูงกว่า 1000 ขั้นกันรึยังเอ่ย? ^^
有些事現在不做一輩子都不會做了,所以動身來到日本,準備瘋狂地實現夢想。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง