ไปหาเหล่าโยไคที่ Yokai Art Museum บนเกาะโชโดชิมะ จังหวัดคากาวะ

เกาะโชโดชิมะ มิติลี้ลับที่ไม่มีใครรู้จัก

จาก "17 สิ่งควรทำเมื่อได้มาเที่ยวทาคามัตสึและเกาะโชโดชิมะ"

เกาะโชโดชิมะ (Shodoshima) ในจังหวัดคากาวะ (Kagawa) คือสถานที่ท่องเที่ยวที่ใช้เวลาเดินทางจากเมืองทาคามัตสึ (Takamatsu) 1 ชั่วโมงด้วยเรือเฟอร์รี่ มีสันทรายแองเจิลโร้ด (Angel Road) ซึ่งจะมองเห็นเฉพาะช่วงน้ำลงและหุบเขาคังคะเค (Kankakei) ที่ได้รับเลือกให้ 1 ใน 3 หุบเขาที่มีวิวสวยที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งผลิตมะกอกและโชยุที่มีชื่อเสียง จึงมีอาหารอร่อยๆ มากมายให้ลิ้มลอง

ยิ่งไปกว่านั้นเกาะโชโดชิมะยังเป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ด้านศาสนา โดยเป็นหนึ่งในทางเดินแสวงบุญของ “88 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเกาะชิโกคุ (Shikoku eighty-eight places Sacred Sites)” Yokai Art Museum ได้เริ่มเปิดให้บริการในปี 2011 ด้วยรากฐานทางวัฒนธรรมด้านจิตวิญญาณดังกล่าว และเปิดใหม่อีกครั้งหลังจากรีโนเวทในปี 2019

Yokai Art Museum สถานที่ซึ่งได้เล่นสนุกไปกับโยไคในยุคปัจจุบัน

Yokai Art Museumคือพิพิธภัณฑ์จัดแสดง "โยไคในยุคปัจจุบัน" ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ใช้เวลาเดิน 15 นาทีจากท่าเรือโทโนะโช (Tonosho Port) ซึ่งเป็นประตูสู่เกาะโชโดชิมะ

โยไคคือปีศาจญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นจากจินตนาการของคนญี่ปุ่นในอดีต สมัยก่อนคนญี่ปุ่นยอมรับเรื่องไม่สมเหตุสมผลหลายๆ อย่างโดยคิดว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่อธิบายไม่ได้คือ "ฝีมือของโยไค"

แต่โยไคไม่ใช่ของเก่าคร่ำครึในอดีต การที่มนุษย์หลงไปกับยอดไลค์ในสื่อโซเชียลและเคลิ้มไปกับคำพูดหวานๆ คือสิ่งที่แสดงว่าโยไคยังดำรงอยู่ในมุมมืดของจิตใจมนุษย์อย่างต่อเนื่อง

Yokai Art Museum จัดแสดงงานศิลปะโยไคสามมิติที่เกิดมาจากจินตนาการในยุคปัจจุบันมากกว่า 800 ชิ้น มีโยไคใกล้ตัวคุณอยู่เยอะเลยล่ะ

สนุกกับโยไคที่ Yokai Art Museum จาก 5 มุมมอง

สิ่งจำเป็นที่ต้องเอาติดตัวเวลาไป Yokai Art Museum คือสมาร์ตโฟน เพราะจะทำให้เรารู้สึกเหมือนได้เจอปีศาจจริงๆ ผ่านเสียงจากแอพพลิเคชั่น Audio Guide (*) ที่รองรับภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ อักษรจีนตัวเต็มและตัวย่อ

Yokai Art Museum ประกอบด้วยอาคาร 5 หลังที่มีทริคต่างๆ ให้สนุกกับปีศาจได้ทุกซอกทุกมุมเลย

*：วิธีใช้ Audio Guide ให้สแกน QR CODE ในแผ่นพับของ Yokai Art Museum สำหรับใครที่ไม่มีสมาร์ตโฟนหรือหูฟังสามารถเช่าได้ที่ประชาสัมพันธ์

"อาคาร Yokai Art Museum01" เรียนความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโยไค

ที่อาคาร Yokai Art Museum01 เราจะได้เรียนรู้ต้นกำเนิดของโยไค เมื่อมองต้นไม้รูปร่างประหลาดอย่างรูปข้างบนแล้วเห็นหน้าใครมั้ย หรือได้ยินเสียงลมในป่าแล้วรู้สึกเหมือนปีศาจกำลังกระซิบอยู่รึเปล่า

ความรู้สึกต่อสิ่งลี้ลับทางธรรมชาติแบบนี้แหละที่เชื่อมกับจินตนาการของคนญี่ปุ่นให้สร้างโยไคออกมา เสียงน้ำและลมจาก Audio Guide จะทำให้เรายิ่งเข้าใจความรู้สึกของคนญี่ปุ่นในสมัยก่อนได้มากยิ่งขึ้น

ที่อาคาร Yokai Art Museum01 ยังมีรูปปั้น "เท็นงู (Tengu)" (รูปขวา) และโยไคตัวอื่นๆ ที่ปรากฏในนิทานญี่ปุ่นโบราณให้ดูอีกด้วย

จากนี้จะเริ่มเข้าสู่นิทรรศการโยไคในยุคปัจจุบันแล้วนะ!

"อาคาร Yokai Art Museum02" โดนปีศาจยักษ์กินซะแล้ว!?

"อาคาร Yokai Art Museum02" ที่นำโกดังข้าวและโชยุเก่ามารีโนเวทใหม่ มีบรรยากาศวังเวงชวนขนลุก เมื่อเข้าไปข้างในอาคาร สิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็คือทางเข้าที่เหมือนปากทางเข้าถ้ำขอบสีทอง (ตามภาพ)

การตกแต่งภายในนั้นชวนให้รู้สึกหลอน ยิ่งเดินลึกเข้าไปข้างในและโผล่หน้าออกมาจากรูเล็กๆ 2 รูที่อยู่ในรูปแล้ว...

ก็ถูกโยไคกินไปเรียบร้อยแล้ว

โยไคตัวนี้คือโต๊ะโคทัตสึกลายร่าง ด้วยความเหงาที่ไม่มีใครใช้งาน มันจึงคอยหลอกล่อผู้มาเยือนให้เดินเข้ามาแล้วจับกินซะ

เมื่อมองจากจมูกของโยไคตัวนี้ออกมา จะเห็นตุ๊กตาญี่ปุ่นและของอื่นๆ ที่มีหน้าตาน่ากลัว ของพวกนี้อาจเป็นร่างของมนุษย์ในสายตาของโยไคก็ได้ เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดอาจเป็นมนุษย์ที่ทิ้งสิ่งของที่ไม่ต้องการโดยไม่สนใจใยดี

โยไคโคทัตสึชอบให้มนุษย์ดูแลใส่ใจ เพราะฉะนั้นมาถ่ายรูปกับมันเยอะๆ นะ!

"อาคาร Yokai Art Museum03 หอโมโนโนเคะ" นิทรรศการโยไคในยุคปัจจุบัน

อาคาร Yokai Art Museum03 หอโมโนโนเคะ ตรงทางเข้ามีร้านขายขนมให้เราได้สนุกกับขนมญี่ปุ่นโบราณที่เรียกว่าดากาชิ (Dagashi) ส่วนด้านในเป็นสถานที่จัดแสดงโยไกที่ถือกำเนิดในยุคปัจจุบัน

ผู้เขียนมาที่นี่ตอนเดือนพฤษภาคม 2019 ตอนนั้นที่นี่กำลังจัดแสดงนิทรรศการโยไคที่ถือกำเนิดในยุคเฮเซ (1989-2019)

ผลงานชิ้นนี้คือ "คนดังนักตกยอดไลค์” เป็นโยไคที่คอยเกาะติดคนอยากได้ยอดไลค์บนสื่อโซเชียลเยอะๆ โยไคตัวนี้อาจกำลังแพร่พันธุ์อยู่ในหมู่คนที่กำลังมองหา "ยอดไลค์" ก็ได้ แล้วหัวใจของคุณล่ะ กำลังถูกโยไคตัวนี้ควบคุมอยู่รึเปล่า?

โยไคหน้าตาน่ารักตัวนี้คือ "อีโคโมโดคิ (Ecomodoki)" สิ่งตรงข้ามกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูน่ารักภายใต้อิมเมจ "รักษ์โลก" คือการหลอกเอาเงินจากภาครัฐและกิจการต่างๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงก็อาจมีคนแบบนี้อยู่ก็ได้

โยไคหน้าตาชวนขนลุกตัวนี้คือ "นาราคุ (Naraku)" ที่คอยกลืนกินความวุ่นวายและรักษาสมดุลให้กับโลก ถึงร่างกายของมันแตกด้วยความวุ่นวายมหาศาลที่กลืนกินเข้าไป แต่เพราะมันนี่แหละ โลกถึงยังคงความสงบสุขไว้ได้ไม่มากก็น้อย

เมื่อมีโยไคหน้าตาน่ารักแต่คอยทำเรื่องไม่ดี ก็ย่อมมีโยไคที่ภายนอกดูน่ากลัวแต่จิตใจดีอยู่เช่นกัน เหล่าโยไคก็เหมือนภาพสะท้อนสังคมมนุษย์นี่แหละ

พวกโยไคคิดยังไงกับมนุษย์นะ? ที่ด้านในของอาคาร Yokai Art Museum03 พวกโยไคกำลังเปิด "ประชุมยุทธการโยไค" และวางแผนกันว่าจะใช้กลยุทธ์ใดทำให้มนุษย์กลัวได้บ้าง

ถ้าเปิดฟัง Audio จะได้ยินความคิดของพวกมันนะ

"อาคาร Yokai Art Museum04" มองหาโยไคที่สิงอยู่ในใจ กับเสา "โจเคชิ"

โยไคเกิดจากจินตนาการของมนุษย์ แล้วภายในใจของพวกเราล่ะ มีโยไคแบบไหนอยู่? พวกเรากำลังเลี้ยงโยไคที่ทำให้ตัวเองทุกข์ทรมานอยู่รึเปล่า?

อาคาร Yokai Art Museum04 เป็นพื้นที่ทำสมาธิ ในความมืดสลัว เราจะมองเห็นภาพโยไคลางๆ บนเพดาน ภาพวาดนี้เป็นผลงานของยะกิว จูเบ (Yagyu Chubei) เจ้าของ Yokai Art Museum โยไคตนนี้คอยดูดกลืนความชั่วร้ายในจิตใจและความทรงจำที่ไม่ดีของผู้มาเยือน ช่างเป็นโยไคที่น่าขอบคุณจริงๆ

พื้นของอาคาร Yokai Art Museum04 ปูด้วยเสื่อทาทามิจึงเหมาะมากที่จะเอนตัวนอนรีแลกซ์สบายๆ ลองมาค้นหาจิตใจของตัวเองแบบเงียบๆ ที่นี่ดูมั้ย?

เมื่อออกจากอาคาร Yokai Art Museum04 แล้วจะเห็นเสาแขวนป้ายเอมะ เสานี้คือโจเคชิ (Chokeshi) เครื่องผลิตโยไคพันธุ์ใหม่ ซึ่งจะรับโยไคที่มีชื่อตามนิสัยไม่ดีที่คุณเขียนบนป้ายเอมะไว้ และปัดเป่าให้หายไปจากตัวเรา

บนป้ายเอมะจะเขียนคำอธิษฐานว่า ขอให้ "โยไคที่โกรธง่าย" "โยไคขี้หงุดหงิด" จงหายไป หลังจากแขวนป้ายนี้แล้ว คุณยะกิว เจ้าของพิพิธภัณฑ์จะนำไปเป็นไอเดียสร้างเป็นโยไคจริงๆ ขึ้นมา

ผลงานร่วมกับไต้หวัน! ค้นหาโยไคด้วยสมาร์ตโฟนที่ "อาคาร Yokai Art Museum05"

อาคาร Yokai Art Museum05 จัดแสดงผลงานที่ทำร่วมกับนักศึกษามหาวิทยาลัย Taiwan Art University ที่นี่มีบรรยากาศต่างไปจากอาคาร Yokai Art Museum01-04 เพราะเราจะได้สนุกไปกับโยไคของไต้หวัน

ที่นี่เราสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นชื่อ "โย-อี (妖e)" เมื่อใช้แอพนี้ จะมองเห็นโยไคที่ซ่อนอยู่ตรงนั้นตรงนี้ทั่วบ้านโบราณผ่านสมาร์ตโฟนเหมือนกับเล่นเกม Poke'mon Go เลย!

พิพิธภัณฑ์โยวไค อาคารหมายเลข 01

405 Ko, Tonosho-cho, Shozu-gun, Kagawa 761-4106

เอ็นจอยอาหารอร่อยๆ และช็อปของฝากที่ Yokai Art Museum!

บริษัท Shodoshima Healthyland Co., Ltd. ผู้บริหาร Yokai Art Museum คือบริษัทเก่าแก่ที่ผลิตสินค้าเกี่ยวกับมะกอกมามากกว่า 30 ปี ผลิตภัณฑ์ของบริษัทอย่างน้ำมันมะกอกและโชยุซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของเกาะโชโดชิมะก็มีวางจำหน่ายที่อาคาร Yokai Art Museum04 ให้เลือกซื้อเป็นของฝากด้วยนะ

ของดีอีกอย่างบนเกาะโชโดชิมะคือ "โอลีฟวากิว (Olive Wagyu)" เนื้อวัวญี่ปุ่นที่เลี้ยงโดยให้กินมะกอก

ร้านอาหารเซโตะโนะอุจิ ชิมะเมชิยะ (Setonouchi Shimameshiya) ซึ่งอยู่ในอาคาร Yokai Art Museum04 มีเมนู "เซ็ตโรสต์บีฟโอลีฟวากิวกับผักในเกาะ" (ราคารวมภาษี 1,900 เยน) ที่จะได้ลองกินเนื้อสามส่วนจากโอลีฟวากิวเปรียบเทียบกัน

มาต่อกันที่คาเฟ่ 405CAFE ซึ่งอยู่ข้างอาคาร Yokai Art Museum01 มีเมนูซอฟต์ครีม Angel Soft ที่ตั้งชื่อให้คล้ายกับวิวสันทราย Angel Road ของเกาะโชโดชิมะ นอกจากนี้ที่ชั้น 2 ของ 405CAFE ยังมีโปสการ์ดและเครื่องเขียนสวยๆ ของทะเลเซโตะใน (Seto Inland Sea) ให้เราเลือกซื้ออีกด้วย

กลับมาที่อาคาร Yokai Art Museum01 ที่นี่ยังมีมิวเซียมช็อปซึ่งมีสินค้าเกี่ยวกับโยไคให้เลือกซื้อ เช่น เครื่องราง "ชิรุเบ (Shirube)" เจ้าโยไคมาสคอตที่คุณยะกิว เจ้าของพิพิธภัณฑ์เป็นผู้วาด ถ้ามีพกติดตัวเอาไว้จะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นเยอะเลยล่ะ

มาเที่ยวใน "เมืองทางวงกต" กันเถอะ

ในอดีตบริเวณรอบๆ Yokai Art Museum เป็นศูนย์กลางของเกาะโชโดชิมะ มีผังเมืองที่สร้างขึ้นมาให้มีลักษณะเหมือนทางวงกตเพื่อป้องกันการโจมตีจากโจรสลัด

เมืองทางวงกตแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างวัดไซโคจิ (Saikoji Temple) ที่ดังเรื่องทางเดินใต้ดินชื่อ "ไคดันเมกุริ (Kaidan Meguri)" และร้านโอคาดะโชเอโด ฮนเท็น (Okada-Choeido Honten) ที่มีเมนูเด็ดอย่างโชยุชูครีมให้ลองทาน

นอกจากนี้ในช่วงฤดูร้อน Yokai Art Museum จะมีอีเวนท์เดินชมเมืองและ Yokai Art ตอนกลางคืนด้วย สามารถติดตามข้อมูลอีเวนท์ล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ทางการ

In cooperation with Yokai Art Museum, ON THE TRIP