Start planning your trip
เปิดทริปตามรอยการ์ตูน ณ Kanazawa - Nanto เมื่อโลกจินตนาการเชื่อมโยงกับโลกแห่งความเป็นจริง !
ทริปพิเศษสู่ธรรมชาติที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของท้องถิ่นญี่ปุ่น ที่ถูกขับเน้นแต่งแต้มสีสันจากจินตนาการในโลกอนิเมชั่น สู่โลกแห่งความเป็นจริง ณ ยูวากุออนเซ็นแห่งคานาซาวะ และ เมืองนันโตะแห่งโทยามะ กับอนิเมของ P.A.Works ทั้งเรื่อง Hanasaku Iroha และ Sakura Quest
มนต์เสน่ห์แห่งนันโตะ
ซึ่งหลังจากนั้น พวกเรายังได้มีโอกาสไปชมสถานีรถไฟ Johana Station ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้กับ Nanto City Creator Plaza มากที่สุด และยังเป็นหนึ่งในฉากที่ปรากฏในอนิเมชั่น Sakura Quest ด้วย แม้ว่าจะเป็นสถานีเล็ก ๆ แต่ก็เป็นปลายสายที่อยู่ใจกลางเมืองนันโตะอันแสบเงียบสงบ ได้บรรยากาศดี ๆ สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจครับ
และในเมืองเล็ก ๆ นี้ ก็ยังมีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อยู่ โดยที่พิพิธภัณฑ์ Hikiyama Kaikan ภายในตัวเมืองนั้น จะมีการเก็บขบวนรถแห่ ที่มีรูปแบบคล้ายกับยามะโบโกะจุงโคในเทศกาลกิออนที่จังหวัดเกียวโต แต่สำหรับขบวนรถแห่ที่นี่ จะใช้สำหรับเทศกาล Johana Hikiyama ที่จะจัดในช่วงเดือนพฤษภาคม และมีการสืบทอดกันมากว่า 300 ปีแล้ว โดยขบวนรถแห่นี้จะมีการเน้นโครงสร้างที่ประณีต ประดับด้วยรูปปั้นเทพเจ้าที่ถ่ายทอดมาจากตำนานจีน อาทิ เทพเจ้ากวนอู และยังมีเทพเจ้าของตำนานญี่ปุ่นเองก็คือ เทพเอบิสึ หรือเทพเจ้าแห่งการตกปลา
ขบวนรถแห่นี้ได้รับการรับรองจาก UNESCO ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกอันทรงคุณค่าเลยทีเดียว โดยแฟน ๆ อนิเมชั่นของสตูดิโอ P.A.Works อาจจะได้เคยผ่านตาเทศกาลรถแห่นี้จากเรื่อง Koi Tabi หรือ True Tours ที่เกี่ยวกับความรักของหนุ่มสาว 3 คู่ ในสถานที่ต่าง ๆ ภายในเมืองนันโตะนั่นเอง
และในผลงานชิ้นต่อไปของ P.A.Works ที่จะฉายในโรงภาพยนตร์ญี่ปุ่นเดือนกุมภาพันธ์ 2018 นี้อย่าง Sayonara no Asa ni Yakusoku no Hana o Kazarou (มาตกแต่งรุ่งสางของวันที่ลาจากด้วยดอกไม้แห่งคำสัญญากันเถอะ) หรือเรียกกันย่อ ๆ ว่า Sayo-Asa นั้น แม้ว่าจะนำเสนอโลกแฟนตาซี แต่ภายในตัวอย่างภาพยนตร์นั้นจะได้เห็นศิลปะการทอผ้าไหมที่สวยงามด้วย
โดยที่แรงบันดาลใจของงานถักทอเหล่านั้น ก็มาจากงานผ้าไหมในเมืองนันโตะแห่งนี้นั่นเอง ซึ่งพวกเราก็ได้รับเชิญให้มาชมในโรงทอผ้าไหม Matsui Kigyo ที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ที่ถูกจัดเตรียมอย่างประณีตงดงามมากทีเดียวครับ
นอกจากนี้พวกเรายังได้มีโอกาสลิ้มรสอาหารจากวัตถุดิบพื้นเมืองและปรุงด้วยกรรมวิธีของเมืองนันโตะเองอย่างหลากหลาย ทั้งเต้าหู้ เกาลัด ปลาทอด รวมไปถึงเป็ดย่างสมุนไพรอย่างดีที่หอมทั้งกลิ่นและรสชาติอีกด้วย
สัมผัสศิลปะจากงานแกะสลักไม้อินามิ
ทั้งในอนิเมชั่น Sakura Quest ก็จะมีเหตุการณ์ที่ทีมตัวเอกจะพยายามหาจุดขายใหม่ ๆ ให้กับเมืองมาโนะยามะ ซึ่งการพยายามสร้างงานแกะสลักไม้ที่แปลกใหม่และแหวกแนว ก็เป็นหนึ่งในฉากที่น่าสนใจ รวมไปถึงเรื่อง Koi Tabi ก็มีตัวเอกหนุ่มคนหนึ่งที่ศึกษางานแกะสลักไม้ และแน่นอนครับว่า จุดกำเนิดของไอเดียเหล่านั้น ก็มาจากงานศิลปะแกะสลักไม้อันเก่าแก่ของเมืองนันโตะนั่นเอง
โดยพวกเราได้มีโอกาสพบกับคุณ ทาคะอากิ/โคเมย์ ทานากะ นักแกะสลักไม้ที่มีชื่อเสียงเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และให้เราได้ทดลองแกะสลักไม้เบื้องต้นด้วยการแกะสลักช้อน ซึ่งก็จะพบว่างานเหล่านี้ต้องใช้ความใจเย็นและประณีต มีการถ่ายทอดไอเดียลงไปตลอดเวลาขณะทำผลงาน รวมไปถึงการใช้มีดแกะสลักแต่ละชนิดที่มีศักยภาพการใช้งานที่ต่างกัน
ที่สำคัญคือคุณทานาเกะได้บอกกับพวกเราว่า เขาได้เคยไปร่วมงานแกะสลักเทียนพรรษาที่ประเทศไทย ณ จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อปี ค.ศ.2009 อีกด้วย
ไม่เพียงแค่คุณทานากะเท่านั้น แต่ในเมืองนี้ยังมีช่างแกะสลักอีกมากมาย บ้างก็สร้างผลงานแกะสลักไม้ในแบบที่ตนเองชื่นชอบ รวมถึงผลงานบางชิ้นของพวกเขาก็ได้ปรากฏอยู่ในอนิเมชั่น Koi Tabi ไปจนถึงผลงานไม้แกะสลักที่ยิ่งใหญ่ของเมืองนี้อย่างวัดซุยเซนจิ (Zuisenji) ที่งดงามตระการตา และแน่นอนว่าเป็นฉากหนึ่งในเรื่อง Koi Tabi อีกเช่นกัน
นับว่านี่ก็เป็นอีกหนึ่งการเชื่อมโยงโลกแห่งความเป็นจริง และโลกในอนิเมชั่นที่มาจากจินตนาการเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน และยิ่งทำให้พวกเรารู้สึกทึ่งในความตั้งใจของ P.A.Works ที่ต้องการถ่ายทอดสิ่งเหล่านั้นออกมาผ่านผลงานมากขึ้นไปอีกครับ
มรดกโลกท่ามกลางอ้อมกอดของธรรมชาติที่โกะคายามะ
แต่ไหนแต่ไร ประเทศญี่ปุ่นเองมีความเป็นอยู่ที่คู่กับธรรมชาติมาช้านาน ด้วยความที่ภูมิประเทศส่วนใหญ่นั้นเป็นภูเขา ความเชื่อดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นนั้นก็มีการผูกโยงธรรมชาติกับชีวิตประจำวันกันอย่างแยกไม่ออก
ผู้คนใช้ประโยชน์จากผลิตผลทางธรรมชาติเพื่อการดำรงชีพ และก็ตอบแทนธรรมชาติคืนกลับไปด้วยการไม่ทำร้ายพวกเขา เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างอ่อนโยน
โกะคายามะ (Gokayama) คือชื่อเรียกดินแดนแห่งขุนเขาในเมืองนันโตะ ที่ถูกโอบล้อมด้วยสายน้ำและภูเขา 5 ลูกอันอุดมสมบูรณ์ ด้วยภาพลักษณ์ของหมู่บ้านทรง “กัชโชสุกุริ” หรือก็คือการมุงหลังคาเป็นสามเหลี่ยมคล้ายการพนมมือ และใช้วัสดุธรรมชาติในการสร้างทั้งหมด ซึ่งโดยปกติแล้วการสร้างบ้านในทรงกัชโชสุกุริ เป็นสิ่งที่เคยแพร่หลายในหลากภูมิภาคของญี่ปุ่น ที่มีไว้เพื่อรองรับการทับถมของหิมะในฤดูหนาว และจะปลอดโปร่งเย็นสบายในฤดูร้อน แต่เมื่อความทันสมัยของสังคมเมืองเริ่มเข้ามาแทนที่ บ้านทรงกัชโชสุกุริก็เริ่มลดหายไปตามกาลเวลา
หากจังหวัดกิฟุมีหมู่บ้านกัชโชที่ชิราคาวะโกะ จังหวัดโทยามะก็มีหมู่บ้านโกะคายามะอยู่นั่นเอง และนี่ก็คือหนึ่งในหมู่บ้านมรดกโลกที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งขุนเขาและธรรมชาติที่ตระการตาครับ
และท้ายที่สุดของทริปนี้ พวกเราก็ได้ไปรับชมกระบวนการทำกระดาษสาสไตล์ญี่ปุ่นที่เรียกว่า “วาชิ” (Washi) ที่สกัดเอาเยื่อไม้ออกมาต้มและแช่น้ำจนกลายสภาพเหลือเป็นผงเมือกแป้ง จากนั้นเมื่อผ่านการทับถมกันอีกครั้ง ก็จะกลายสภาพเป็นผืนกระดาษที่มีความละมุนละไมในตัวอย่างน่ามหัศจรรย์ ซึ่งแน่นอนว่า พวกเราทุกคนก็ได้ทำโปสการ์ดจากวาชิกลับมาด้วยนั่นเองครับ
สัมผัสรสชาติใหม่ของการท่องเที่ยวไปด้วยกัน!
จากทริปนี้ เราได้สัมผัสกับกลิ่นอายของท้องถิ่นไม่ว่าจะทั้งยูวากุออนเซ็นที่คานาซาวะ หรือเมืองนันโตะที่โทยามะ แต่ในกลิ่นอายนั้น มันก็เจือไปด้วยการปรุงแต่งในรูปแบบใหม่ ที่มาจากการร่วมแรงร่วมใจสร้างสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น ทั้งเทศกาลบงโบริ หรือจุดมุ่งหมายการจัดกิจกรรมปลูกซากุระที่มีไอเดียต้นกำเนิดมาจากอนิเมชั่นที่เคยเป็นเพียงจินตนาการบนหน้าจอโทรทัศน์ แต่สิ่งเหล่านั้นก็ค่อย ๆ กลายเป็นความจริง และกลายเป็นรสชาติใหม่ของการท่องเที่ยวที่กลมกลืนไปกับความดั้งเดิม จึงกลายเป็นมนต์สเน่ห์ใหม่ของทั้งสองเมืองนี้นั่นเอง
เราเชื่อว่าจากนี้ไป ทั้งคานาซาวะ และนันโตะ จะต้องมีสิ่งใหม่ ๆ ที่โดดเด่นเกิดขึ้นอีกมากมาย และสร้างรสชาติใหม่ ๆ รอต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ได้ลิ้มลองกันเต็มอิ่ม แล้วพบกันใหม่อีกครั้งนะครับ ทางผู้เขียนเองถ้ามีโอกาส ก็จะไปเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอน
สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณทาง JETRO, สตูดิโอ P.A.Works และผู้เกี่ยวข้องทุกคนในโปรเจคทริปนี้ สำหรับโอกาสที่ให้เราได้เข้าร่วมทริปอันแสนประทับใจครั้งนี้ด้วยนะครับ!
รักคันไซ และมีความสุขกับการได้เห็นใบโมมิจิ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง