Start planning your trip
คามิโคจิ (Kamikochi) รวมวิธีเดินทาง จากโตเกียว ทาคายาม่า นาโกย่า และสภาพอากาศ
คามิโคจิ (Kamikochi) เปรียบเทียบวิธีการเดินทางแบบต่างๆ จากโตเกียว นาโกย่า ทาคายาม่า ไปยังคามิโคจิ และข้อมูลพื้นฐานอย่างสภาพอากาศ และการแต่งกาย
รวมวิธีเดินทาง สภาพอากาศ และเรื่องราวของคามิโคจิ (Kamikochi)
คามิโคจิ (Kamikochi) ดินแดนแห่งสายน้ำท่ามกลางหุบเขาที่เค้าว่ากันว่าสวยอย่างกับสวรรค์บนดิน จนใครหลายๆ คนตั้งปณิธานว่าจะต้องไปให้ได้ซักครั้ง! ผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น พอมีโอกาสได้ไปเยือนจริงๆ ก็ต้องยอมรับเลยว่ามันสวยมากๆ แค่แม่น้ำใสๆ มีเทือกเขาสูงโอบล้อมเป็นฉากหลังแค่นี้ทำไมมันสวยได้ขนาดนี้ ครั้งนี้เลยขอรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับคามิโคจิ ทั้งเปรียบเทียบวิธีเดินทางแบบต่างๆ สภาพอากาศ และประวัติเล็กๆ น้อยๆ ให้เป็นข้อมูลสำหรับคนที่สนใจจะไปกัน
คามิโคจิเปิดเส้นทางให้ท่องเที่ยวระหว่างช่วง กลางเดือนเมษายน - กลางเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น
สารบัญ
・การเดินทางไปคามิโคจิ
・สภาพอากาศ
・ประวัติของคามิโคจิ
ซื้อตั๋วเจอาร์พาสที่ KLOOK ได้ที่นี่ มีทั้งแบบ 7 วัน 14 วันและ 21 วันให้เลือก!
ซื้อตั๋ว JR East Nagano-Niigata Area Pass จาก Klook ได้ที่นี่
แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการไปใกล้ Kamikochi โดยรถเช่า! Nippon Rent-A-Car 10%OFF
การเดินทางไปคามิโคจิ |
การไปคามิโคจิสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราแนะนำให้ใช้รถสาธารณะน่าจะสะดวกที่สุดเพราะถนนส่วนใหญ่เป็นเส้นทางผ่านเขา และพอเข้าใกล้พื้นที่คามิโคจิจะไม่อนุญาตให้รถยนต์ส่วนตัวผ่าน ต้องใช้บริการรถบัสประจำทางเท่านั้น
ก่อนอื่นจะขอแบ่งเป็นการเดินทางจากเมืองใหญ่ๆ 3 จุด
1. จากโตเกียว (Tokyo)
2. จาก นาโกย่า / ทาคายาม่า (Nagoya / Takayama)
3. จาก โอซาก้า / เกียวโต (Osaka / Kyoto)
1. การเดินทางจากโตเกียว
ถ้าดูจากแผนผังด้านบนจะเห็นว่ามีวิธีเดินทางจากโตเกียวไปคามิโคจิให้เลือกเยอะมาก เลยขอแบ่งเป็น 3 วิธีหลักๆ
1) สะดวกสุด รถบัสตรงจากโตเกียว → คามิโคจิ
2) ประหยัดสุด ตั๋วชุดคามิโคจิยูยู รถบัส+รถไฟ
3) ประหยัดขึ้นอีกนิดสำหรับคนมี JR PASS นั่งรถไฟมาลงมัตสึโมโตะก่อน
1) สะดวกสุด รถบัสตรงจากโตเกียว → คามิโคจิ
รถบัสด่วนพิเศษ สายซาวายากะชินชู (Sawayaka Shinshu Express Bus) วิ่งตรงจากสถานีรถบัสชินจูกุ (Shinjuku Bus Terminal) ไปยังสถานีรถบัสคามิโคจิ (Kamikochi Bus Terminal)
รอบรถ | ออก | ถึง | ใช้เวลา |
รอบเช้า | 7:15 | 12:02 | 4 ชั่วโมง 47 นาที |
รอบกลางคืน | 22:25 | 5:20 | 6 ชั่วโมง 55 นาที |
ประเภทรถ | ราคาช่วงปกติ (เยน) เที่ยวเดียว |
ราคาช่วงไฮซีซั่น (เยน) เที่ยวเดียว |
รถธรรมดา (Standard) ที่นั่ง 4 แถว |
6,700 | 7,900 |
รถกรีนคาร์ (Green Car) ที่นั่ง 3 แถว |
8,500 | 9,700 |
รถรอบเช้าเหมาะสำหรับคนที่จะไปเที่ยวแบบค้างคืน มีเฉพาะรถแบบธรรมดาเท่านั้น ส่วนรถรอบกลางคืนเหมาะสำหรับคนที่จะไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ มีรถกรีนคาร์ให้เลือกด้วย (บางวันอาจไม่มี)
■ สถานที่จำหน่าย
1. สถานีรถบัสชินจูกุ (Shinjuku Bus Terminal) เวลา 5:50 - 23:55
2. สถานีรถบัสคามิโคจิ (Kamikochi Bus Terminal) เวลาตั้งแต่รถบัสเที่ยวแรก - เที่ยวสุดท้าย
3. เว็บไซต์ของ Highwaybus.com https://www.highwaybus.com/gp/inbound/inbPlanList?lineId=155
■ รวมค่าเดินทางแบบไป-กลับ : ในกรณีที่นั่งรถธรรมดา ช่วงปกติ ราคา 13,400 เยน
■ ข้อดี : สะดวก ไม่ต้องเปลี่ยนรถระหว่างทาง
■ ข้อเสีย : ราคาสูงนิดนึง
2) ประหยัดสุด ตั๋วชุดคามิโคจิยูยู (Kamikochi Yu Yu Ticket)
ตั๋วชุดสุดประหยัด ตั๋วคามิโคจิยูยู (Kamikochi Yu Yu Ticket) ราคา 10,000 เยน (ประหยัดกว่าซื้อตั๋วแยกประมาณ 2,000 เยน) ประกอบด้วย
・ตั๋วรถบัสด่วนพิเศษ (Expressway Bus) ไป-กลับ สถานีรถบัสชินจูกุ - สถานีรถบัสมัตสึโมโตะ
・ตั๋วรถไฟไป-กลับ สถานีมัตสึโมโตะ - สถานีชินชิมะชิมะ
・ตั๋วรถบัสประจำทางไป-กลับ ชินชิมะชิมะ - คามิโคจิ
ตั๋วมีอายุ 7 วันนับตั้งแต่วันเริ่มใช้ตั๋ว เพราะงั้นถ้าอยากไปค้างที่คามิโคจิซักหลายคืน หรืออยากแวะเที่ยวที่มัตสึโมโตะต่ออีกหลายวันก็ยังได้
ลองดูรีวิวเที่ยวด้วยตั๋วคามิโคจิยูยูได้ที่ "คามิโคจิ (Kamikochi) เที่ยว 2 วัน 1 คืน นั่งบัสจากโตเกียวไปสวรรค์บนดินที่นากาโนะ"
■ กำหนดการใช้ตั๋ว
17 เมษายน - 15 พฤศจิกายน (ยกเว้นระหว่าง 27 เมษายน - 6 พฤษภาคม และ 13 กรกฎาคม - 25 สิงหาคม) ถ้าใครอยากไปในช่วงที่ใช้ตั๋วนี้ไม่ได้ก็ขอแนะนำให้นั่งบัสวิ่งตรงแบบวิธีที่ 1
■ สถานที่จำหน่าย
1. เคาน์เตอร์ของ Central Honshu Information Plaza ชั้นใต้ดิน B1 ของศูนย์การค้าเคโอมอลล์ (KEIO MALL) ชินจูกุ เวลา 8:30 - 18:00
2. เคาน์เตอร์หมายเลข 5 หรือเครื่องขายตั๋ว ที่ชั้น 4 ของสถานีรถบัสชินจูกุ เวลา 5:50 - 23:55
3. เว็บไซต์ของ Highwaybus.com https://highway-buses.jp/thai/ticket/kamikochi.php
ถ้าซื้อทางเว็บไซต์จะชำระเงินเลย แล้วต้องไปรับตั๋วที่เคาน์เตอร์ Central Honshu Information Plaza
■ รวมค่าเดินทางแบบไป-กลับ : 10,000 เยน
■ ข้อดี : ราคาถูกที่สุด, มีระยะเวลาใช้งานตั้ง 7 วัน
■ ข้อเสีย : เปลี่ยนรถหลายต่อ, มีช่วงวันที่ใช้ตั๋วนี้ไม่ได้ (ดูด้านบน)
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
คลิกที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่
3) ใครมี JR PASS นั่งรถไฟมาลงมัตสึโมโตะก่อน
วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ใช้ JR PASS เพราะสามารถนั่งรถไฟด่วนพิเศษขบวนอาซุซะ (Azusa) จากสถานีชินจูกุไปลงที่สถานีมัตสึโมโตะได้แบบฟรีๆ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที แล้วค่อยไปเสียค่ารถเพิ่มเฉพาะส่วนรถไฟ+รถบัสประจำทางจากสถานีมัตสึโมโตะไปคามิโคจิ แบบไป-กลับแค่ 4,550 เยน
JR PASS ที่ใช้ขึ้นรถขบวนอาซุซะได้คือ JAPAN RAIL PASS แบบครอบคลุมทั่วประเทศ และ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) เท่านั้น
■ รวมค่าเดินทางแบบไป-กลับ : ในกรณีที่ใช้ JR PASS ราคา 4,550 เยน ถ้าไม่ใช้ ราคา 17,550 เยน
■ ข้อดี : สำหรับคนมี JR PASS จะประหยัดที่สุด, เวลาเดินทางจะเร็วกว่าแบบที่ 2 ประมาณ 50 นาที
■ ข้อเสีย : เปลี่ยนรถหลายต่อ, สำหรับคนที่ไม่มี JR PASS จะแพงที่สุด
ซื้อตั๋วเจอาร์พาสที่ KLOOK ได้ที่นี่ มีทั้งแบบ 7 วัน 14 วันและ 21 วันให้เลือก!
ซื้อตั๋ว JR East Nagano-Niigata Area Pass จาก Klook ได้ที่นี่
2. การเดินทางจากนาโกย่า / ทาคายาม่า
พอเริ่มมีสายการบินโลว์คอสต์บินตรงไปลงสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ หลายๆ คนก็เลยเลือกไปเที่ยวนาโกย่า (Nagoya) กันมากขึ้น ถ้ามาซัก 4 - 5 คืนล่ะก็ขอแนะนำให้ไปเที่ยวเมืองอื่นรอบๆ ด้วย เช่น ทาคายาม่า (Takayama) เพราะถ้าไปค้างคืนที่ทาคายาม่าจะสามารถนั่งรถบัสไปเที่ยวที่สวยๆ แบบไปเช้าเย็นกลับ 1 วันได้อย่าง หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวะโก (Shirakawago) หรือดูวิวหิมะของเจแปนแอลป์ที่ชินโฮทากะโรปเวย์ (Shinhotaka Ropeway)
นาโกย่า ⇔ คามิโคจิ
สำหรับคนที่อยากจะไปคามิโคจิตรงจากนาโกย่าเลยก็สบายมาก จะมีรถบัสวิ่งตรงวันละ 1 รอบ ออกจากนาโกย่าตอนกลางคืน ถึงคามิโคจิตอนเช้าตี 5 แต่ไม่ต้องกลัวว่าฟ้าจะมืดเพราะช่วงนั้นเป็นช่วงหน้าร้อนพระอาทิตย์ขึ้นเร็ว ประมาณตี 5 ก็สว่างแล้ว
แต่รถบัสนี้จะวิ่งเฉพาะช่วงเดือนกรกฎาคม - ตุลาคม เท่านั้น แล้วก็ช่วงสิงหาคมจะเป็นช่วงหยุดฤดูร้อนของญี่ปุ่น มีเปอร์เซ็นต์ที่รถจะเต็มสูงมาก
ออก | ถึง | ราคา (เยน) | |
ขาไปจากนาโกย่า | 23:10 | ตี 5:15 | 7,800 |
ขากลับจากคามิโคจิ | 16:30 | 21:20 | 6,700 |
■ สถานที่จำหน่าย
1. เว็บไซต์ของ Highwaybus.com https://www.highwaybus.com/gp/inbound/inbPlanList?lineId=685&offStationCd=498
■ รวมค่าเดินทางแบบไป-กลับ : 14,500 เยน
■ ข้อดี : สะดวก ไม่ต้องไปต่อรถระหว่างทาง
■ ข้อเสีย : รอบรถน้อย และเต็มเร็ว
ทาคายาม่า ⇔ คามิโคจิ
สำหรับคนที่จองรถบัสตรงแบบข้างบนไม่ได้ หรืออยากไปในช่วงที่วิธีข้างบนยังไม่เปิดบริการ หรือตั้งใจจะไปพักที่ทาคายาม่าก่อนอยู่แล้วก็ขอแนะนำวิธีนี้แทน คือนั่งรถบัสหรือรถไฟจากนาโกย่าไปลงที่ทาคายาม่าก่อน แล้วค่อยนั่งรถบัสไปคามิโคจิอีกที
ขึ้นรถบัสจากสถานีรถบัสทาคายาม่าโนฮิ (Takayama Nohi Bus Center) ไปลงที่ป้ายฮิรายุออนเซ็น (Hirayu Onsen / Hirayu Bus Terminal) รถออกทุกๆ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 7:00 - 18:40 จากนั้นค่อยเปลี่ยนเป็นรถอีกคันที่วิ่งไปคามิโคจิ รถออกทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่ 6:30 - 17:00 รวมใช้เวลาจากทาคายาม่าไปคามิโคจิประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง สามารถซื้อตั๋วได้ตรงจุดขึ้นรถแต่ละจุด (มีรถรอบเช้ามืดและเย็นเพิ่มเป็นพิเศษในบางช่วง)
■ รวมค่าเดินทางแบบไป-กลับ : ทาคายาม่า - คามิโคจิ 5,460 เยน
■ ข้อดี : รอบรถเยอะมาก อยากไปเวลาไหนก็ได้
■ ข้อเสีย : -
3. การเดินทางจากโอซาก้า / เกียวโต
รถบัสด่วนพิเศษ สายซาวายากะชินชู (Sawayaka Shinshu Express Bus) รถเริ่มออกจากป้ายตรงสถานีโอซาก้า (Osaka) จากนั้นไปจอดรับที่สถานีชินโอซาก้า (Shin-Osaka) ต่อด้วยสถานีเกียวโต (Kyoto) แล้วตรงไปยังสถานีรถบัสคามิโคจิ (Kamikochi Bus Terminal) เป็นรถรอบกลางคืนเท่านั้น
ออก | ถึง | ใช้เวลา | |
ขาไปจากโอซาก้า | 21:30 | ตี 5:15 | 7 ชั่วโมง 50 นาที |
ขากลับจากคามิโคจิ | 15:40 | 22:25 | 6 ชั่วโมง 45 นาที |
ประเภทรถ | ราคาช่วงปกติ (เยน) เที่ยวเดียว |
ราคาช่วงไฮซีซั่น (เยน) เที่ยวเดียว |
รถธรรมดา (Standard) ที่นั่ง 4 แถว |
7,700 | 8,900 |
รถกรีนคาร์ (Green Car) ที่นั่ง 3 แถว |
9,500 | 10,700 |
มีรถแบบธรรมดา (Standard) แถวละ 4 ที่นั่ง และรถพิเศษกรีนคาร์ (Green Car) แถวละ 3 ที่นั่ง เก้าอี้ใหญ่กว้างขวาง นั่งสบายกว่า
■ สถานที่จำหน่าย
1. สถานีรถบัสอุเมดะ โอซาก้า เวลา 6:50 - 23:00
2. เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วชินโอซาก้า เวลา 8:00 - 18:30
3. เว็บไซต์ของ Japan Bus Online https://japanbusonline.com/en/CourseSearch/11600210210
■ รวมค่าเดินทางแบบไป-กลับ : ในกรณีที่นั่งรถธรรมดา ช่วงปกติ ราคา 15,400 เยน
■ ข้อดี : สะดวก ไม่ต้องไปต่อรถระหว่างทาง
■ ข้อเสีย : ใช้เวลานั่งนานพอสมควร
สภาพอากาศของคามิโคจิ |
พื้นที่บริเวณสะพานคัปปะบาชิมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1509 เมตร เทียบกับโตเกียวที่สูงแค่ 6 เมตรก็ถือว่ามีความต่างกันมากเลย แล้วที่นี่ยังเป็นพื้นที่ป่าท่ามกลางหุบเขา เลยมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นตลอดปี
คามิโคจิจะเปิดเส้นทางให้เข้าในช่วงกลางเดือนเมษายน - กลางพฤศจิกายนเท่านั้น เพราะในช่วงฤดูหนาวจะมีหิมะตกหนัก
ช่วงต้นฤดูราวกลางเมษายนจะยังมีหิมะปกคลุมตามทางเยอะ และอากาศหนาวมากในตอนกลางคืน ไม่แนะนำสำหรับคนที่อยากจะมาเดินเล่นกินลมชมวิวเท่าไหร่ ช่วงต้นพฤษภาคมเป็นช่วงวันหยุดยาวโกลเด้นวีค (Golden Week) คนจะเยอะมาก ขอแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยง
เดือนมิถุนายนเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน เป็นช่วงที่คนพลุกพล่านน้อยที่สุดในรอบปี อากาศตอนกลางคืนยังเป็นเลขตัวเดียวอยู่ ส่วนกลางวันก็เย็นสบายใส่เสื้อยืดและเสื้อตัวนอกอีกตัวก็เอาอยู่ ถ้ามีเสื้อนอกที่กันน้ำด้วยก็ดีเพราะอาจมีฝนตกด้วย
กลางกรกฎาคม - กลางสิงหาคมเป็นช่วงฤดูร้อนที่มีทั้งวันหยุดฤดูร้อนและเทศกาลโอบ้ง คนจะมาเที่ยวกันเยอะมาก และถือเป็นฤดูที่เหมาะจะมาปีนเขาที่คามิโคจิมากที่สุด ตอนกลางวันใส่เสื้อยืดตัวเดียวก็พอ กลางคืนก็เป็นเสื้อแขนยาวหรือเสื้อทับบางๆ
ปลายสิงหาคม - กันยายนอากาศจะเริ่มเย็นลง โดยเฉพาะตอนกลางคืน ขอให้พกเสื้อกันหนาวมาเผื่อไว้ด้วย และพระอาทิตย์จะเริ่มตกเร็วขึ้น ถ้าไปเดินเขาปีนเขาต้องเผื่อเวลากลับให้ทันก่อนมืดด้วย
เดือนตุลาคมเป็นอีกช่วงไฮซีซั่นของคามิโคจิเพราะมีใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงพีคจะอยู่ราวๆ กลางเดือน ในบางปีพอเข้าปลายเดือนก็เริ่มมีหิมะตกบ้างแล้ว
เดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่คนน้อยเพราะอากาศหนาวเทียบเท่ากับช่วงกลางฤดูหนาวของโตเกียวเลย จะมีพิธีปิดฤดูปีนเขาประจำปีในวันที่ 15 พฤศจิกายน เป็นอันจบฤดูท่องเที่ยวของคามิโคจิในปีนั้นๆ
ประวัติและเรื่องราวของคามิโคจิ |
มาคุยกันเรื่องประวัติของคามิโคจิกันหน่อยดีกว่า ผู้ที่ทำให้คามิโคจิและพื้นที่แถบเทือกเขาเจแปนแอลป์มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกก็คือ วอลเตอร์ เวสตัน (Walter Weston) มิชชันนารีชาวอังกฤษผู้มาแผยแผ่คริสตศาสนาในญี่ปุ่นระหว่างปีค.ศ. 1888 - 1915 วอลเตอร์เป็นนักเดินเขาอยู่แล้วเมื่อมาญี่ปุ่นก็มีความสนใจในธรรมชาติและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
ที่จริงก็มีการเรียกชื่อกลุ่มเทือกเขาบริเวณนี้ว่าเจแปนแอลป์ (Japan Alps) อยู่แล้ว แต่เริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกผ่านหนังสือชื่อ "Mountaineering and Exploration in the Japanese Alps" ที่วอลเตอร์เขียนขึ้นในปี 1896
ประติมากรรมนูนต่ำของวอลเตอร์ เวสตัน / Photo by pixta
เดิมทีการเดินเขาของชาวญี่ปุ่นมีจุดประสงค์คือการไปแสวงบุญฝึกตน อย่างภูเขาไฟฟูจิก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่วอลเตอร์เป็นผู้เสนอแนวคิดการเดินเขาเพื่อความเพลิดเพลินเหมือนงานอดิเรกให้เป็นที่แพร่หลาย จนได้รับการเรียกขานว่าเป็นบิดาแห่งการปีนเขายุคใหม่ของญี่ปุ่น มีการสร้างประติมากรรมนูนต่ำของวอลเตอร์ไว้ที่ผาหินริมแม่น้ำใกล้โรงแรมคามิโคจิลูมิเอสตา (Kamikochi Lemeiesta Hotel) ด้วย
จาก "คามิโคจิ (Kamikochi) เที่ยว 2 วัน 1 คืน นั่งบัสจากโตเกียวไปสวรรค์บนดินที่นากาโนะ"
มีเรื่องราวของชายชาวญี่ปุ่นหนึ่งคนปรากฎอยู่ในหน้าหนังสือด้วยคือ คามิโจ คามนจิ (Kamijo Kamonji) พรานป่าผู้ทำหน้าที่นำทางวอลเตอร์ในการเดินสำรวจไปตามหุบเขาของเจแปนแอลป์
ใครที่ได้ไปบึงเมียวจิน (Myojin Pond) อาจจะคุ้นชื่อนี้ เพราะตรงหน้าทางเข้าบึงเมียวจินจะมีบ้านพักและร้านอาหารเล็กๆ ชื่อ คามนจิโกยะ (Kamonjigoya) ตั้งอยู่ บ้านหลังเล็กอายุร้อยกว่าปีนี้คือบ้านของคามิโจ คามนจิ ซึ่งปัจจุบันก็ดำเนินกิจการโดยลูกหลานของตระกูลคามิโจสืบต่อกันมา
เพื่อรักษาธรรมชาติแสนสวยของคามิโคจิ จึงมีการจำกัดการใช้รถยนต์ส่วนตัวในพื้นที่ตั้งแต่ปี 1975 เพื่อลดปริมาณไอเสียให้น้อยที่สุด
ปัจจุบันพื้นที่บริเวณคามิโคจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น สถานที่ชมทัศนียภาพอันงดงามเป็นพิเศษ มีคุณค่าเทียบเท่ากับสมบัติชาติ และ อนุสรณ์ทางธรรมชาติพิเศษ หมายถึงสถานที่หรือทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าต่อประเทศและในระดับโลก ปัจจุบันสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนพร้อมกันถึง 2 ประเภทมีแค่ 2 แห่งเท่านั้นคือ คามิโคจิ และ หุบเขาคุโรเบะ
หากใครอยากเดินเที่ยวคามิโคจิแบบสบายๆ มีไกด์นำทาง (ภาษาอังกฤษ) ก็สามารถซื้อบริการทัวร์ครึ่งวันจาก Voyagin ได้ที่นี่
มาให้ธรรมชาติช่วยเยียวยาที่คามิโคจิ
ใครที่กำลังวางแผนจะไปคามิโคจิ ถ้าจะให้แนะนำก็อยากให้ลองจองที่พักล่วงหน้าแล้วไปนอนค้างซัก 1 คืน วันรุ่งขึ้นก็ไปเดินทางเส้นทางเดินเขา ใช้เวลาไม่เกิน 2 - 3 ชั่วโมง เส้นทางเดินก็มีให้เห็นชัดเจนไม่ลำบากเลย เชื่อว่าอากาศบริสุทธิ์และธรรมชาติสวยๆ ของคามิโคจิจะช่วยชาร์จพลังทั้งกายและใจให้กับทุกคนได้แน่นอน
ซื้อตั๋วเจอาร์พาสที่ KLOOK ได้ที่นี่ มีทั้งแบบ 7 วัน 14 วันและ 21 วันให้เลือก!
ซื้อตั๋ว JR East Nagano-Niigata Area Pass จาก Klook ได้ที่นี่
แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการไปใกล้ Kamikochi โดยรถเช่า! Nippon Rent-A-Car 10%OFF
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง