Start planning your trip
ชมวิวหิมะเทือกเขาเจแปนแอลป์แบบ 1 วันจากทาคายาม่าที่ ชินโฮทากะโรปเวย์ (Shinhotaka Ropeway)
มานั่งโรปเวย์ 2 ชั้น หนึ่งเดียวในญี่ปุ่นของ ชินโฮทากะโรปเวย์ (Shinhotaka Ropeway) ขึ้นไปชมวิวหิมะแสนสวยของเทือกเขาเจแปนแอลป์ (Japan Alps) ทานอาหารอร่อยจากเนื้อหมูฮิดะและเนื้อวัวฮิดะ เดินทางสะดวกด้วยรถบัสจากเมืองทาคายาม่า เที่ยววันเดียวแบบไปเช้าเย็นกลับก็ยังได้
นั่งโรปเวย์ชมวิวหิมะของเทือกเขาเจแปนแอลป์ แบบไปเช้าเย็นกลับจากทาคายาม่า
หลายคนที่มาเที่ยวเมืองทาคายาม่า (Takayama) ของจังหวัดกิฟุ (Gifu) ก็มักจะวางแผนนั่งรถบัสไปชมหมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวะโก (Shirakawago) แบบไปเช้าเย็นกลับกันด้วย โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่ทั้งหมู่บ้านถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาว
คราวนี้เราขอแนะนำที่เที่ยวในโซนโอคุฮิดะ (Okuhida) ที่สามารถนั่งรถบัสจากทาคายาม่าไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้เหมือนกัน นั่งชินโฮทากะโรปเวย์ (Shinhotaka Ropeway) ขึ้นไปชมวิวเทือกเขาหิมะเจแปนแอลป์แสนอลังการ ถึงจะคนละบรรยากาศกับชิราคาวะโก แต่บอกเลยว่าความสวยไม่แพ้กันแน่นอน
การเดินทางไปทาคายาม่าจะสะดวกมากถ้านั่งรถบัสมาจากนาโกย่า ยิ่งตอนนี้มีสายการบินที่บินตรงมาลงสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport) เพิ่มขึ้นแล้วด้วย จากสนามบินนั่งรถไฟและต่อรถบัสรวมประมาณ 3 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงทาคายาม่า
การเดินทางจากสนามบินชูบุไปถึงสถานีรถบัสทาคายาม่าโนฮิที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางในวันนี้ก็สามารถไปได้ง่ายๆ โดยเริ่มจากจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport) นั่งรถไฟเมเท็ตสึ (Meitetsu) ประมาณ 40 นาที ลงที่สถานีนาโกย่า (Nagoya) จากนั้นนั่งรถบัสด่วนประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ถึงสถานีรถบัสทาคายาม่าโนฮิ (Takayama Nohi Bus Center)
7:00 ออกเดินทางจากทาคายาม่า
เรามาขึ้นรถบัสรอบ 7:00 กันที่ สถานีรถบัสทาคายาม่าโนฮิ (Takayama Nohi Bus Center) ตั้งอยู่ข้างสถานีรถไฟทาคายาม่า ไปลงป้ายสุดท้าย ชินโฮทากะโรปเวย์ แบบไม่ต้องเปลี่ยนรถเลย
ซื้อตั๋วได้ในวันนั้นไม่ต้องจองล่วงหน้า ตอนซื้อเจ้าหน้าที่จะมีแนะนำโปรโมชั่นตั๋วแบบต่างๆ ให้ด้วย ทั้งแบบนั่งรถบัสได้ไม่จำกัด หรือจะเป็นเซ็ตตั๋วรถบัสพร้อมตั๋วโรปเวย์ คุ้มกว่าซื้อแยกนะ
ในครั้งนี้ใช้ตั๋ว Takayama & Shinhotaka Open Ticket ขึ้นรถบัสของบริษัทโนฮิในเส้นทางทาคายาม่า-ฮิรายุ-ชินโฮทากะ ได้ไม่จำกัดภายในระยะเวลา 2 วัน ราคา 4,110 เยน ถึงจะใช้วันเดียวก็คุ้มเพราะราคาตั๋วปกติเที่ยวเดียวก็ 2,160 เยนแล้ว
ส่วนตั๋วขึ้นโรปเวย์แบบไป-กลับ ผู้ใหญ่ (อายุ 13 ปีขึ้นไป) ราคา 2,900 เยน เด็ก (อายุ 6-12 ปี) ราคา 1,450 เยน
8:45 ถึงชินโฮทากะโรปเวย์
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีก็มาถึงป้ายชินโฮทากะโรปเวย์ (Shinhotaka Ropeway) ลงจากรถก็จะเจออาคารสถานีโรปเวย์อยู่ตรงหน้าเลย
ขึ้นบันไดไปชั้น 1 จะเป็นร้านของฝาก ชั้น 2 เป็นจุดจำหน่ายตั๋วโรปเวย์ ถ้าใครไม่ได้ซื้อตั๋วแบบเซ็ตพร้อมรถบัสก็มาซื้อกันตรงนี้ก่อน โรปเวย์ของที่นี่จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ โรปเวย์หมายเลข 1 และ 2 เราจะขึ้นไปยังชั้นบนสุดอยู่แล้วเพราะงั้นซื้อตั๋วแบบรวมโรปเวย์ทั้ง 1 และ 2 แบบไป-กลับได้เลย ราคาผู้ใหญ่ (ตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป) 2,900 เยน เด็ก (6-12 ปี) 1,450 เยน
กอนโดล่าของโรปเวย์หมายเลข 1
ช่วงที่มานี่เป็นช่วงฤดูหนาว โรปเวย์จะเริ่มวิ่งรอบแรกตอน 9 โมงตรง นี่มาถึงก่อนเปิดก็นึกว่าเร็วแล้วนะยังมีคนมาเร็วกว่าอีกเยอะเลย แต่รอไม่นานก็ได้ขึ้นแล้ว
ใช้เวลาแค่ประมาณ 4 นาทีก็ขึ้นมาถึงสถานีนาเบะไดระโคเก็น (Nabedairakogen Station) ปลายทางของโรปเวย์หมายเลข 1
ออกจากสถานีมาจะเห็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวซังกาคุคัง (Sangakukan Shinhotaka Visitor Center) อยู่ทางขวามือไม่ไกล เราจะมาแวะที่นี่กันก่อนเพราะมีกิจกรรมหนึ่งที่อยากแนะนำคือ สโนว์ชูส์
9:30 ร่วมกิจกรรมสโนว์ชูส์ สำรวจโลกสีขาวแห่งหิมะ
Picture courtesy of Shinhotaka Ropeway
สโนว์ชูส์ (Snow shoes half day tour) กิจกรรมเดินท่องไปในภูเขาหิมะ มาสวมรองเท้าเดินหิมะแล้วตามไกด์เข้าไปยังป่าในส่วนที่ปกติไม่สามารถเดินเข้าถึงได้ถ้าหิมะไม่ตกจนทับถมอย่างนี้ ถ้าโชคดีก็อาจจะมีสัตว์ป่าตัวเล็กๆ น่ารักๆ โผล่มาให้เห็นด้วย มาเดินชมธรรมชาติ ถ่ายรูปสวยๆ สัมผัสกับหิมะกันให้เต็มที่ตลอดช่วงเวลา 2 ชั่วโมงเลย
กิจกรรมสโนว์ชูส์ (Snow shoes half day tour)
ต้องติดต่อจองล่วงหน้าทางโทรศัพท์หมายเลข 0578-89-2254
ช่วงจัดกิจกรรม : ปลายเดือนธันวาคม - ปลายเดือนมีนาคม (ขึ้นอยู่กับสภาพของหิมะ)
เวลา : วันละ 2 รอบ 9:30-12:00 และ 13:00-15:30
ค่ากิจกรรมต่อคน : ผู้ใหญ่ 4,000 เยน เด็ก 2,900 เยน รวมชุด อุปกรณ์ และไกด์นำทาง
กำหนดผู้เข้าร่วมขั้นต่ำ 2 คนต่อรอบ
12:10 เติมพลังมื้อเที่ยงด้วยหมูฮิดะแสนอร่อย
ห้องอาหาร แอลป์ (Restaurant ALPS) / สองภาพล่าง Picture courtesy of Shinhotaka Ropeway
หลังจากเดินตะลุยหิมะกันเสร็จก็มาเติมพลังกันที่ร้านอาหาร แอลป์ (Restaurant ALPS) อยู่ชั้น 2 ของอาคารสถานีชิราคาบะไดระ (Shirakabadaira Station) มีอาหารที่ทำจากหมูและเนื้อวัวฮิดะชื่อดังให้เลือก เช่น ข้าวหน้าเนื้อฮิดะ ชุดข้าวสเต็กเนื้อฮิดะย่างมิโซะบนใบโฮบะ ข้าวแกงกะหรี่หมูฮิดะชุบแป้งทอด ทาคายาม่าราเม็ง
หลายคนจะนึกว่าที่ฮิดะดังแค่เนื้อวัว ที่จริงเนื้อหมูฮิดะก็ดังไม่แพ้กันนะ เลยขอเลือกข้าวหน้าหมูฮิดะชุบแป้งทอดราดซอสมิโซะ (Hida pork miso katsudon) ราคารวมภาษี 1,200 เยน แป้งกรอบๆ กับซอสมิโซะโรยงายิ่งช่วยเพิ่มความอร่อยเข้าไปอีก มาพร้อมซุปมิโซะและผักดอง
ขนมปังแกงกะหรี่เนื้อวัวฮิดะ / ภาพบน Picture courtesy of Shinhotaka Ropeway
บนชั้นเดียวกันยังมีร้านขนมปัง Bread shop in the ALPS ที่เค้าอบกันสดๆ บนเขานี่เลย เมนูขายดีคือขนมปังครัวซองต์ มีทั้งแบบธรรมดา และแบบมีไส้ (ถั่วแดงกวน ช็อกโกแลต และครีมวนิลา) หรือจะลองขนมปังแกงกะหรี่เนื้อวัวฮิดะกับโครกเกะเนื้อวัวฮิดะก็ได้
13:15 ได้เวลาขึ้นไปยอดเขาแล้ว
อิ่มท้องแล้วก็มาขึ้นไปดูวิวบนยอดเขากันดีกว่า จากสถานีชิราคาบะไดระที่เราอยู่ตอนนี้มีระดับความสูง 1,308 เมตร เราจะขึ้นโรปเวย์หมายเลข 2 ไปยังสถานีนิชิโฮทากะกุจิ (Nishihotakaguchi Station) บนยอดเขาที่ความสูง 2,156 เมตร ด้วยเวลาแค่ 7 นาทีเท่านั้น
Picture courtesy of Shinhotaka Ropeway
กอนโดล่าของโรปเวย์หมายเลข 2 นี้เป็นกอนโดล่า 2 ชั้นเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่น และมีอยู่แค่ 4 แห่งทั่วโลกเท่านั้น!
ถึงแล้วขอขึ้นไปชั้น 5 ดาดฟ้าของอาคารสถานีก่อนเลย ออกมาตรงจุดชมวิวปุ๊บก็เจอตุ๊กตาหิมะนิชิโฮคุงมารอต้อนรับ ถึงจะปลายเดือนมีนาคมแล้วแต่บนนี้ก็ยังอุณหภูมิ -7 องศาเซลเซียสอยู่นะ!
ทั้งจุดที่เรายืนอยู่และภูเขาที่เห็นอยู่ตรงหน้านี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาเจแปนแอลป์เหมือนกัน
ที่นี่ได้รับการจัดอันดับ 2 ดาว ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การไปเยือนจากมิชลิน กรีนไกด์ (Michelin Green Guide) ด้วย
ยอดเขาตรงกลางที่สูงที่สุดคือ ยอดเขายาริกาทาเกะ (Mt. Yarigatake) สูง 3,180 เมตร
จากตรงนี้มองลงไปจะเห็นคนเดินผลุบๆ โผล่ๆ อยู่กลางหิมะ เดี๋ยวขอลงไปบ้างดีกว่า
ตรงนี้คือ เซ็นโกคุเอ็นจิ ที่เดินเล่นถ่ายรูปท่ามกลางกำแพงหิมะ ในช่วงพีคเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ กำแพงนี้จะสูงถึง 3 เมตรเลย!
หิมะก็นุ่มละเอียดมากเพราะอุณหภูมิต่ำจนหิมะไม่ละลายจับตัวเป็นก้อน ลองเอามือดันเข้าไปทีนี่หายเข้าไปทั้งแขนเลย
ถ่ายรูปจนหนำใจแล้วก็ขอมานั่งอังเตาผิงจิบกาแฟหลบหนาวกันใน Cafe Mount View พร้อมกับเนื้อวัวฮิดะย่างร้อนๆ อีกหนึ่งไม้ ใครอยากทานอะไรหนักๆ ก็มีราเม็ง ข้าวแกงกะหรี่ อุด้ง และอื่นๆ อีกมาก
ร้านขายของฝากที่ชั้น 3 มีของฝากน่าซื้อหลายอย่าง ที่พิเศษคือไปรษณียบัตรจากไม้ที่ส่งได้จริง เอามาหย่อนที่ตู้จดหมายที่เปิดทำการตลอดทั้งปีที่อยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่นนี่ได้เลย!
ของฝากแบบแปลกๆ ก็มีนะ อย่างกระดิ่งไล่หมี! (รูปล่างซ้าย) อันนี้สำหรับคนที่มาเดินป่าเดินเขา เวลาหมีได้ยินเสียงกระดิ่งก็จะไม่เข้ามาใกล้ หรือจะเป็นตุ๊กตาคิซุนะซารุโบโบะกับคิทแคทลายพิเศษ (รูปล่างขวา)
ซารุโบโบะเป็นผลิตภัณฑ์พื้นเมืองของแถบฮิดะและทาคายาม่า นอกจากน่ารักแล้วยังเป็นเหมือนเครื่องรางช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้าย แต่ตุ๊กตาคิซุนะซารุโบโบะ (ซารุโบโบะแห่งความผูกพัน) ที่เห็นนี้พิเศษขึ้นไปอีกเพราะมีเส้นลวดสลิงของชินโฮทากะโรปเวย์ติดมาด้วยในจี้ใส ช่วยเพิ่มความขลังว่าความสัมพันธ์ของเราจะไม่ตัดขาดแน่นอน!
14:15 กลับมาแช่ออนเซ็นธรรมชาติที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
นั่งกระเช้ากลับลงมาหนึ่งชั้นแล้วไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอีกครั้ง เพราะด้านในนี้มี คามิทาคาระโนะยุ (Kamitakara no yu) บ่อแช่น้ำออนเซ็นธรรมชาติกลางแจ้ง อากาศหนาวๆ อย่างนี้พอได้มาแช่ออนเซ็นร้อนๆ นี่รู้สึกสบายจนไม่อยากขึ้นจากน้ำเลย
เพื่อเป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ที่นี่จึงมีไว้สำหรับแช่ตัวเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใช้สบู่หรือแชมพู ค่าแช่น้ำผู้ใหญ่ 600 เยน เด็ก 400 เย็น มีผ้าเช็ดหน้าและผ้าเช็ดตัวขายสำหรับคนที่ต้องการ (200 และ 400 เยน)
ถ้าเวลาไม่พอก็มานั่งแช่ออนเซ็นเท้าฟรีตรงข้างอาคารสถานีได้
15:00 แวะช้อปของฝากทิ้งท้าย
นั่งโรปเวย์หมายเลข 1 กลับลงมายังชั้นล่างสุดแล้วแวะดูของฝากทิ้งท้ายกันหน่อย
ด้านในร้านของฝากเป็นคาเฟ่คาซากาทาเกะ (Cafe Kasagatake) มีไอศกรีมวาซาบิ อุด้ง โซบะ ราเม็ง และของว่าง ส่วนด้านหน้าอาคารมีร้านโอคุฮิดะ (Oku-hida) มีทั้งไข่ลวกออนเซ็นและซาลาเปาเนื้อฮิดะ หรือจะลองเป็นกอนโดล่ายากิ ขนมรูปกอนโดล่า 2 ชั้นของชินโฮทากะโรปเวย์สอดไส้ถั่วแดง ไม่มีขายที่อื่นแน่นอน!
15:55 นั่งรถบัสกลับทาคายาม่า
ได้เวลานั่งรถบัสกลับทาคายาม่ากันแล้ว ขึ้นรถบัสรอบ 15:55 จะกลับไปถึงสถานีรถบัสทาคายาม่าโนฮิเวลา 17:31 ถ้าใครจะนั่งรสบัสต่อไปนาโกย่าก็มาซื้อตั๋วรถรอบ 18:00 จะถึงสถานีนาโกย่าเวลาประมาณ 20:30 ราคา 2,980 เยน ถูกและสะดวกกว่านั่งรถไฟอีกนะ!
เที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากทาคายาม่า ชมวิวเทือกเขาเจแปนแอลป์อันยิ่งใหญ่
Picture courtesy of Shinhotaka Ropeway
ถ้าอยากมาชมวิวหิมะสวยๆ แสนอลังการของเทือกเขาเจแปนแอลป์แบบนี้สามารถมาได้ถึงช่วงปลายเดือนเมษายน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแต่ละปี) แต่ไม่ว่าจะฤดูไหนที่นี่ก็มีวิวสวยๆ ให้ชมอยู่เสมอ อากาศบนยอดเขาก็เย็นสบายแม้จะเป็นฤดูร้อน นอกจากนี้ยังมีช่วงบริการพิเศษนั่งโรปเวย์ขึ้นไปชมดาวยามค่ำคืนอีกด้วย
เว็บไซต์ทางการท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ : https://www.centrair.jp/th/
บริเวณใกล้เคียงท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย ดูเพิ่มเติมได้ที่รวมบทความท่องเที่ยวภูมิภาคชูบุ
Written by TeiChayangkul
In cooperation with Shinhotaka Ropeway
Sponsored by Chubu Centrair International Airport
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง