Start planning your trip
ฟินไปกับซาวน่าบ่อทรายร้อนในร่มแห่งทาเคกาวาระออนเซ็นของเบ็ปปุในฤดูหนาว
ทาเคกาวาระออนเซ็นใกล้สถานีเบ็ปปุเป็นโรงออนเซ็นเพียงไม่กี่แห่งในญี่ปุ่นที่มีบริการซาวน่าบ่อทรายร้อนในร่ม โดยเป็นไฮไลท์แนะนำสำหรับฤดูหนาว เพราะตั้งอยู่ในอาคารอบอุ่น แถมเราจะได้ชมโครงสร้างภายในอาคารเก่าแก่สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่นอีกด้วย
สัมผัสประสบการณ์แช่บ่อทรายร้อนที่ “ทาเคกาวาระออนเซ็น” สัญลักษณ์แห่งเบ็ปปุ
“ทาเคกาวาระออนเซ็น (Takegawara Onsen)” โรงอาบน้ำซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเบ็ปปุแห่งนี้เป็นสถานที่ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์และสัมผัสประสบการณ์แช่ “บ่อทรายร้อน” หรือซาวน่าทรายยอดนิยม
ออนเซ็นประจำเมืองรูปร่างหน้าตาโอ่อ่าสวยงามราวกับวัด
photo by มิยาคาวะ มาโระ
ทาเคกาวาระออนเซ็นสร้างขึ้นในปี 1978 รูปลักษณ์ภายนอกของอาคารสไตล์โออ่าสวยงามนี้นับเป็นสัญลักษณ์ของเบ็ปปุออนเซ็นเลยก็ว่าได้ เนื่องจากในสมัยที่ก่อตั้งนั้นสร้างหลังคาขึ้นมาจากไม้ไผ่ จึงเรียกกันว่า 瓦 (กระเบื้อง) 竹 (ไม้ไผ่) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ถึงแม้ว่ารูปร่างหน้าตาภายนอกจะดูสวยงามอลังการ แต่ค่าบริการออนเซ็นกลับถูกมากเพียง 100 เยนเท่านั้น แถมยังเปิดให้บริการตั้งแต่ 6.30 น. จนถึง 22.30 น. เลยอีกด้วย จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นโรงอาบน้ำสาธารณะในดวงใจของทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเมืองไปโดยปริยาย
บ่อทรายร้อนของทาเคกาวาระออนเซ็นตั้งอยู่ในร่ม ไม่ว่าจะอยู่ในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บแค่ไหนก็ไม่หวั่น!
photo by มิยาคาวะ มาโระ
อีกหนึ่งในไฮไลท์ขึ้นชื่อห้ามพลาดเมื่อได้มาเที่ยวทาเคกาวาระออนเซ็นเลยก็คือ “บ่อทรายร้อน” นั่นเอง
photo by มิยาคาวะ มาโระ
นอกจากในเบ็ปปุจะเป็นที่ตั้งของทาเคกาวาระออนเซ็นแล้วก็ยังมี “เฮียวตันออนเซ็น (Hyotan Hot Spring)” ของคานาวะและ “บ่อทรายร้อนชายหาดเบ็ปปุ (Beppu Kaihin Sunayu)” เลียบชายฝั่งทะเลของเบ็ปปุคังโคโคอีกด้วย เนื่องจากบ่อทรายร้อนของทาเคกาวาระออนเซ็นตั้งอยู่ในร่ม อีกหนึ่งเหตุผลที่แนะนำให้มาใช้บริการที่นี่จึงอยู่ที่สามารถแช่ออนเซ็นได้อย่างอบอุ่นสบายแม้ในฤดูหนาวนี่แหละ
เปิดประสบการณ์แช่บ่อทรายร้อน
photo by มิยาคาวะ มาโระ
เนื่องจากค่าบริการบ่อทรายร้อน 1,030 เยนนั้นรวมค่าเช่าชุดยูกาตะสำหรับเปลี่ยนชุดเอาไว้ด้วย หลังจากชำระค่าบริการและรับชุดยูกาตะตรงเคาน์เตอร์รับรองมาแล้วก็เดินจากประตูทางเข้าซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงอาบน้ำแบบปกติเข้าไปในโรงอาบน้ำกันเลย!
ประตูทางเข้าของฝั่งผู้ชายเป็นประตูที่แขวนผ้าสีน้ำเงิน ส่วนฝั่งผู้หญิงแขวนผ้าสีแดง
photo by มิยาคาวะ มาโระ
ข้างในเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ถัดเข้าไปเป็นบ่อออนเซ็นขนาดเล็กและโซนอาบน้ำ ตรงนี้เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับล้างทรายหลังจากขึ้นมาจากบ่อทรายร้อน
เนื่องจากบ่อทรายร้อนจำกัดระยะเวลาการใช้บริการระหว่าง 10 – 15 นาที ก่อนอื่น เราก็รีบเปลี่ยนเป็นชุดยูกาตะกันก่อนเลย
photo by มิยาคาวะ มาโระ
ภายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามีการตั้งตู้ล็อคเกอร์เอาไว้ด้วย แต่ไม่มีระบบคืนเงินนะจ๊ะ... ค่าบริการ 100 เยน
ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและโซนอาบน้ำของชาย-หญิงตั้งอยู่แยกจากกัน แต่ด้านในจะเชื่อมต่อไปยังบ่อทรายร้อนซึ่งใช้ห้องเดียวกันทั้งชาย-หญิง
photo by มิยาคาวะ มาโระ
สำหรับชุดยูกาตะจะใส่เป็นลักษณะตามภาพข้างต้น แต่ไม่อนุญาตให้ใส่ชุดชั้นในนะจ๊ะ... ระวังตอนใส่ชุดยูกาตะเอาไว้นิดนึงว่าให้สวมชายเสื้อแบบซ้ายทับขวาเท่านั้น เพราะว่าในญี่ปุ่นมีธรรมเนียมการใส่เสื้อให้คนตายแบบสวมชายเสื้อขวาทับซ้ายซึ่งถือว่าเป็นเคล็ดที่ไม่ดี
เนื่องจากทรายจะติดตามเส้นผม จึงขอแนะนำสำหรับคนผมยาวให้รวบรวมเอาไว้สูง ๆ หรือสวมหมวกอาบน้ำจะดีที่สุด
photo by มิยาคาวะ มาโระ
ถึงตรงนี้ให้นอนลงบนทราย พนักงานจะใช้อุปกรณ์คล้ายจอบซึ่งเรียกว่า “โจะเร็น” โกยทรายร้อนๆ ลงบนร่างกายของเรา
จริงหรือนี่!? วิธีสร้างบ่อทรายร้อนสุดเอกลักษณ์ของทาเคกาวาระออนเซ็น
photo by มิยาคาวะ มาโระ
เพื่อน ๆ สังเกตกันรึเปล่าคะว่าโรงอาบน้ำของบ่อทรายร้อนนั้นถูกกั้นกลางด้วยระเบียงทางเดิน? โซนฝั่งหนึ่งของห้องเต็มไปด้วยทราย แต่โซนอีกครึ่งหนึ่งของห้องเต็มไปด้วยน้ำ
โดยน้ำที่ว่านี้คือน้ำร้อนออนเซ็นซึ่งข้างใต้อัดแน่นไปด้วยทรายที่ใช้ในบ่อทรายร้อน พูดง่าย ๆ ก็คือทรายที่แช่อยู่ในออนเซ็นจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นจนร้อน ทุก ๆ 1 ชั่วโมง 30 นาที พนักงานจะตักทรายออกจากออนเซ็นมาใช้อีกฝั่งสลับกันไป
photo by มิยาคาวะ มาโระ
ทรายที่ชุ่มไปด้วยน้ำจะมีน้ำหนักมากกว่าปกติ ทุกครั้งที่พนักงานโกยทรายทับถมทั่วทั้งร่างกาย เราจะรู้สึกได้ถึงความหนักของทรายที่กระทบกับร่างกาย
แต่ความรู้สึกที่โดนกดทับไปทั่วทั้งร่างกายนั้นกลับมีสรรพคุณแห่งความผ่อนคลายอันน่าอัศจรรย์ บอกเลยว่าทุกคนจะได้สัมผัสกับความสงบแบบที่ไม่เคยได้สัมผัสจากที่ไหนมาก่อนเลยล่ะค่ะ มีผู้คนไม่น้อยเลยที่เผลอหลับไปภายในเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น เพราะความสบายสุดขีดเลยนี่แหละ
photo by มิยาคาวะ มาโระ
น้ำที่ซึมซาบอยู่ในทรายนับเป็นปัจจัยสำคัญเลยก็ว่าได้ ช่องว่างระหว่างทรายและร่างกายจะไหลเวียนไปด้วยไอน้ำและค่อย ๆ ให้ความอบอุ่นไปทั่วทั้งร่างกาย บอกเลยว่าเวลา 10 นาทีเป็นอะไรที่แป๊บเดียวมาก ๆ ขณะแช่ทรายร้อน หน้าของเราจะโผล่ออกมารับอากาศข้างนอก จึงขอแนะนำสำหรับใครที่ไม่ค่อยชอบการอบซาวน่าซึ่งทำให้หายใจไม่ค่อยสะดวกเลยค่ะ
photo by มิยาคาวะ มาโระ
เมื่อครบเวลาแล้วจะมีพนักงานมาเรียก ถึงตอนนี้ให้เราเอาทรายออกจากร่างกายด้วยตัวเองตามคำแนะนำของพนักงาน
photo by มิยาคาวะ มาโระ
หลังขึ้นมาจากบ่อทรายร้อนและกลับไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ก่อนอื่นให้ถอดชุดยูกาตะเพื่ออาบน้ำชำระล้างทรายออกจากร่างกายให้สะอาดแล้วค่อยเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับเป็นชุดเดิม
ส่วนชุดยูกาตะที่เปื้อนทรายให้ใส่เอาไว้ในตะกร้าด้านหน้าโซนอาบน้ำได้เลย เดี๋ยวจะมีพนักงานมาเก็บคืนหลังจากนั้นเอง
บทส่งท้าย
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ยกับทาเคกาวาระออนเซ็นที่สามารถเพลิดเพลินกับบ่อทรายร้อนพลางชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ได้อย่างจุใจแห่งนี้?
ระวังเอาไว้นิดนึงว่าบ่อทรายร้อนของที่นี่เปิดให้บริการระหว่างเวลา 08.00 – 22.30 น. (เคาน์เตอร์รับรองเปิดให้บริการถึงเวลา 21.30 น.) นะจ๊ะ...
บ่อทรายร้อนสามารถใช้บริการได้สูงสุดเพียง 8 ท่านพร้อมกัน จึงอาจมีกรณีที่ต้องรอคิวบ้างจากการเตรียมอบ่อน้ำร้อนหรือคนแน่น
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง