ไปเที่ยวและสัมผัสผู้คนท้องถิ่นและร้านขึ้นชื่อประจำเมืองที่ "ฮิตะ" ในโออิตะ (Oita)
เมืองฮิตะ (Hita) จังหวัดโออิตะ (Oita) ขึ้นชื่อว่าจุดเชื่อมต่อสำหรับการท่องเที่ยวคิวชู ผู้คนจึงคุ้นเคยและเป็นกันเองกับนักท่องเที่ยวต่างถิ่น ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำร้านผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อประจำเมือง ใครที่อยากสัมผัสผู้คนท้องถิ่นต้องมาเที่ยวฮิตะกันให้ได้ค่ะ!
เมืองฮิตะ (Hita) จังหวัดโออิตะ (Oita) "จุดเชื่อมต่อ" การท่องเที่ยวของคิวชู
สำหรับใครที่อยากเดินเล่นชมอาคารบ้านเมืองดั้งเดิมของญี่ปุ่นในคิวชูขอแนะนำให้แวะมาเที่ยวบริเวณมาเมดะมาจิในเมืองฮิตะ
"เมืองฮิตะ" จังหวัดโออิตะขึ้นชื่อเรื่องอาคารบ้านเมืองสไตล์ญี่ปุ่นของมาเมดะมาจิ
ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเชื่อมต่อของการท่องเที่ยวคิวชูที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันอย่างขวักไขว่อีกด้วย
เพราะตั้งอยู่ตรงใจกลางภาคเหนือของภูมิภาคคิวชู จึงสามารถนั่งรถบัสไปถึงเมืองฟุกุโอกะ เมืองโออิตะ และเมืองคุมาโมโตะได้โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
ออกทริปสัมผัสผู้คนท้องถิ่นเมืองฮิตะ
ด้วยบทบาทดังกล่าวทำให้ผู้คนท้องถิ่นในเมืองฮิตะคุ้นเคยและเป็นกันเองกับบรรดานักท่องเที่ยว
ผู้คนที่นี่รักบ้านเกิดของตัวเองและมีความผูกพันกันอย่างแนบแน่น สำหรับใครที่อยากสัมผัสความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับท้องถิ่นและผู้คนต่อผู้คน บอกเลยว่าคงไม่มีที่ไหนเหมาะสมไปกว่าที่นี่อีกแล้ว
ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำร้านอาหาร ที่พัก และแหล่งพบปะผู้คนภายในเมืองฮิตะที่บริหารโดยเจ้าของที่มีความเป็นตัวของตัวเองกันค่ะ! ^^
"ลิเบอร์เต (Liberte)"
โรงภาพยนตร์แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารและผู้คนเมืองฮิตะ
ซีเนมาเทค ลิเบอร์เต (Cinematheque Liberte) บริหารโดยคุณฮาระ ชิเกคิ ที่นี่ก้าวข้ามจากการเป็น "โรงภาพยนตร์" กลายเป็นศูนย์วัฒนธรรมที่รวบรวมผู้คนของเมืองฮิตะไปแล้ว
บริเวณล็อบบี้ของโรงหนังเป็นทั้งร้านค้าและคาเฟ่
ก่อนอื่น เรามาดื่มด่ำกับกาแฟลิเบอร์เต ออริจินัลเบลนด์จากเมล็ดกาแฟของร้าน Tokado Coffee ระดับแชมป์โลกคั่วกาแฟ แล้วก็แวะเดินชมสินค้าด้านในร้านไปด้วยเลยค่ะ
สินค้าที่จำหน่ายมีมากมายหลากหลายชนิดตั้งแต่สินค้าหัตถกรรมของเมืองฮิตะไปจนถึงเสื้อยืดและสินค้าดีไซน์เฉพาะของทางร้าน เครื่องเขียนแฮนด์เมด CD รูปภาพ หนังสือเกี่ยวกับภาพยนตร์และดนตรี
ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าผลงานของช่างฝีมือและศิลปินที่คุณฮาระได้พบปะมาจริงๆ และพวกเขาเหล่านั้นเองก็เป็นแฟนๆ ที่แวะมาเยือนลิเบอร์เตแห่งนี้กันด้วย
เนื่องจากคุณฮาระรู้จักลักษณะนิสัยของเจ้าของผลงานแต่ละท่านอยู่แล้ว จึงสามารถแนะนำผลงานแต่ละชิ้นให้กับบรรดานักท่องเที่ยวได้อย่างมั่นใจ
เมื่อคุณฮาระเห็นว่ามีลูกค้ากำลังสนใจสินค้าภายในร้าน รับรองว่าจะต้องเข้ามาพูดคุยให้คำแนะนำอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นมาของผลงาน ศิลปินหรือช่างฝีมือเจ้าของผลงาน ไปจนถึงเรื่องราวความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมเมืองฮิตะก็ยินดีให้คำแนะนำอย่างเต็มที่
ใครที่กังวลใจเรื่องแผนเที่ยวเมืองฮิตะขอแนะนำให้ลองสอบถามคุณฮาระกันดู เราอาจจะได้แผนเที่ยวเจ๋งๆ โดนใจจากการแนะนำของคุณฮาระก็เป็นได้!
"Hazebo coffee"
ร้านกาแฟหัวมุมสี่แยก แหล่งพบปะของผู้คนท้องถิ่น
หลังจากผ่านประสบการณ์การทำงานเป็นดีไซเนอร์ในโตเกียวมาหลายปี คุณนากาตะ เคนก็ตัดสินใจมาเปิดร้าน Hazebo coffee ในเมืองฮิตะเมื่อปีที่แล้วนี้เอง
เขาละทิ้งบ้านเกิดในโตเกียวออกมาทำตามความฝันอันยาวนานกว่า 25 ปีที่อยากเป็นเจ้าของร้านกาแฟด้วยการเปิดร้านกาแฟขึ้นในเมืองแหล่งน้ำสะอาดอย่างฮิตะ
ร้านตั้งอยู่ตรงสี่แยกด้านหน้าที่ทำการอำเภอใจกลางเมืองฮิตะเลย ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่ไม่ว่าใครก็สามารถแวะมานั่งจิบกาแฟได้อย่างสะดวกสบาย
Hazebo coffee แห่งนี้มีลูกค้าหลากหลายแบบตั้งแต่พนักงานบริษัทไปจนผู้สูงอายุที่อยากแวะมาดื่มเมนูกาแฟสุดพิเศษของร้าน
เห็นว่าในฤดูร้อนก็มีเหล่านักเรียนมัธยมต้นแวะมาทานน้ำแข็งไสกันด้วย
แถมตอนกลางคืนยังมีการจัดกิจกรรมเช่นการแสดงดนตรีแจ๊สอีกต่างหาก ที่นี่จึงนับเป็นเหมือนสี่แยกศูนย์รวมของชาวเมืองที่มีผู้คนหลากหลายในเมืองฮิตะแวะมาใช้บริการมากมาย
ด้านหน้าร้านมีเจ้า "กัมโมะ" ที่เป็นเหมือนมาสคอตประจำร้าน Hazebo coffee นั่งโชว์ตัวอยู่ด้วย บอกเลยว่าเจ้ากัมโมะเชื่องคนมาก ไม่ว่าใครย่อมจะต้องยิ่งรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้เห็นมันตลอดเวลาที่อยู่ในคาเฟ่แน่นอน
เมื่อลองถามคุณนากาตะว่าเมืองฮิตะเป็นเมืองแบบไหน ก็ได้คำตอบกลับมาว่าเป็น "เมืองที่พระอาทิตย์ยามเช้าและยามเย็นสวยมาก" ธรรมชาติของเมืองฮิตะที่ขนาดชาวเมืองโตเกียวยังหลงใหลจะงดงามขนาดไหน คงต้องลองมาพิสูจน์ด้วยตาของตัวเองกันแล้วค่ะ
4 ร้านอาหารแนะนำประจำ "เมืองฮิตะ" เมืองแห่งอาหารแสนอร่อย
ลิ้มลองเมนูจัมป้งขึ้นชื่อที่ร้านดัง "ทาคารายะ (Takaraya)"
บริเวณใกล้กับสถานีฮิตะเป็นที่ตั้งของร้านทาคารายะ (Takaraya) ร้านอาหารในดวงใจของผู้คนท้องถิ่นที่แนะนำกันว่าห้ามพลาด!
คู่สามีภรรยาซาซากิเจ้าของร้านมีนิสัยน่ารักเป็นกันเองมากๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่เพิ่งเคยมาทานอาหารที่ร้านครั้งแรกก็ยินดีเล่าเรื่องเกี่ยวกับเมืองฮิตะให้ฟังกันแบบหมดเปลือกเลยทีเดียว
เมนูขึ้นชื่อประจำร้าน "ทาคารายะ" แห่งนี้ก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากจัมป้ง ที่ใส่พืชผักสดใหม่แบบเน้นๆ นี่แหละ
จัมป้งคือเมนูเส้นในน้ำซุปจากปลาตัวเล็ก รสชาติเบาๆ ทานง่าย แต่กลมกล่อม ปริมาณเต็มอิ่มจากวัตถุดิบแบบจัดเต็มทั้งถั่วงอก กะหล่ำปลี ปลาหมึก เนื้อสัตว์ และอื่นๆ
นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูแนะนำเป็นอาหารญี่ปุ่นท้องถิ่นอย่างโทริเท็น (เท็มปุระไก่) ของขึ้นชื่อประจำจังหวัดโออิตะอีกด้วย
ปี 2018 นี้ก็ครบรอบเปิดทำการทาคารายะเป็นปีที่ 89 แล้ว ยังไงก็ขอแนะนำให้เพื่อนๆ แวะมาอร่อยกับอาหารที่เติมพลังให้กับคนท้องถิ่นและสัมผัสบรรยากาศเก่าๆ ของร้านอันเป็นที่รักของชาวเมืองฮิตะมาเป็นเวลายาวนานกันให้ได้นะคะ
"ไดยารุ (Daiyaru)" ร้านสปาเก็ตตี้นโปลิตันแสนอร่อยในบรรยากาศย้อนยุค
เดินจากสถานีฮิตะเพียงประมาณ 6 นาทีจะพบกับร้านไดยารุ (Daiyaru) ร้านอาหารในบรรยากาศย้อนยุคโดดเด่นสะดุดตา
เห็นว่าสมัยที่เปิดร้านตอนแรกในปี 1948 ที่นี่เคยเป็นร้านจำหน่ายไอศกรีมแท่งมาก่อน หลังจากนั้นก็ตั้งใจว่าจะทำเมนูที่ไม่มีจำหน่ายในเมืองฮิตะและเริ่มให้บริการเมนูสปาเก็ตตี้ขึ้นมา
ทำให้ที่นี่กลายเป็นร้านอาหารโยโชคุ (อาหารตะวันตก) แห่งแรกในเมืองฮิตะไปโดยปริยาย
เมนูสปาเก็ตตี้นาโปลิตัน ของไดยารุ (ภาพขวาบน) ใช้ซอสเดมิกลาสโฮมเมด เป็นเมนูขึ้นชื่อประจำเมืองฮิตะที่รู้กันเฉพาะในหมู่ผู้รู้จริงเท่านั้น
เมนูที่เสิร์ฟภายในร้านรวมถึงพาเฟ่ต์ใส่ผลไม้แสนอร่อยจากท้องถิ่นไปจนถึงซอสล้วนเป็นเมนูโฮมเมดทั้งสิ้น
เมื่อได้ลองถามความเป็นมาของชื่อร้านไดยารุ (dial - แป้นโทรศัพท์แบบหมุน) คุณป้าเจ้าของร้านก็อธิบายให้ฟังพลางหัวเราะว่าเพราะว่าอยากให้ร้านคึกคักเหมือนกับแป้นหมุนโทรศัพท์ที่หมุนไปเรื่อยๆ นั่นเอง
เห็นว่ามีชาวบ้านบางกลุ่มแวะมาทานอาหารที่ร้านกันเป็นครอบครัวแบบครบ 3 รุ่นตั้งแต่พ่อแม่ ลูก ยันหลานเลยทีเดียว ลองแวะมาสัมผัสรสชาติและประวัติศาสตร์แห่งเมืองฮิตะที่ร้านไดยารุ ร้านอาหารคู่เมืองฮิตะแห่งนี้กันดูนะคะ
"โอซุโซะวาเกะ ยาไซ โนะ เรสโตรัน มัตสึบาระ (Osusowake Yasai no Restaurant Matsubara)" ร้านอาหารที่เป็นกำลังใจให้คนท้องถิ่น
คุณคาวัตสึ นัตสึโกะ ประธานกรรมการผู้จัดการผู้วางคอนเส็ปต์ร้านอาหารบริการด้วยใจ
โอซุโซะวาเกะ ยาไซ โนะ เรสโตรัน มัตสึบาระ (Osusowake Yasai no Restaurant Matsubara) ร้านอาหารสารพัดเมนูจากพืชผักที่ปลูกในครัวเรือนแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตโอยามะมาจิทางตอนใต้ของเมืองฮิตะ
ร้านมีเอกลักษณ์เป็นคอนเซ็ปต์ที่แสนน่าสนใจ ทางร้านสั่งซื้อพืชผักที่เหลือจากการปลูกทานเองในครัวเรือนของบรรดาคุณลุงคุณป้าในท้องถิ่นมาจำหน่ายและทำเป็นเมนูต่างๆ ภายในร้าน
เนื่องจากเป็นการแบ่งผลผลิตส่วนที่เหลือมาให้ จึงอาจมีพืชผักบางส่วนที่รูปร่างบิดเบี้ยวหรือโดนแมลงกินไปบ้าง แต่สิ่งนี้นี่แหละที่ทำให้มันมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร
ใบสั่งซื้อผักที่เรียงรายไปด้วยข้อความ "ขอบคุณ" และ "สวัสดีปีใหม่"
คุณลุงคุณป้าที่เกษียณอยู่บ้านก็รู้สึกว่าตนเองมีประโยชน์สำหรับใครสักคน ทำให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิต ส่วนลูกค้าก็ได้ทานพืชผักสดใหม่แสนอร่อยจากท้องถิ่นกันถ้วนหน้า
นับเป็นระบบที่ทำให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคนมีความสุขกันทุกฝ่ายเลยทีเดียว
ผู้วางคอนเซ็ปต์สุดยอดนี้คือประธานกรรมการผู้จัดการ คุณคาวัตสึ นัตสึโกะ ซึ่งหลังจากเธอทำงานในโตเกียวมาหลายปีก็กลับมาเปิดร้านอาหารที่เมืองฮิตะ
เมนูแนะนำของทางร้านคือ "เซ็ตโอซุโซะวาเกะ ยาไซ" (ราคารวมภาษี 780 เยน) ที่สามารถเพลิดเพลินกับรสชาติอันหลากหลายได้จากกับข้าวเต็มชามและผักดองที่ทำมาจากพืชผักหลากสี
ทางร้านเสิร์ฟอาหารด้วยภาชนะเครื่องปั้นดินเผาอนตายากิซึ่งเป็นหัตถกรรมขึ้นชื่อประจำเมืองฮิตะ ช่วยเพิ่มสีสันและความสวยงามให้กับมื้ออาหารได้อีกเท่าตัวเลยค่ะ
รับรองว่าลูกค้าทุกท่านจะมีความสุขไปกับรสชาติของพืชผักท้องถิ่นในฮิตะและความร่าเริงของคุณคาวัตสึกันอย่างแน่นอน
"ร้านสเต็ก & โรงน้ำชา วาคุระ (steak & tea salon WAKURA)" ร้านแนะนำสำหรับวันครบรอบและมื้อค่ำ!
ร้านสเต็ก & โรงน้ำชา วาคุระ (steak & tea salon WAKURA) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมิคุมะ (Mikuma River) เป็นร้านสเต็กกระทะร้อนที่สามารถดื่มด่ำกับมื้อค่ำสุดพิเศษพลางชมแม่น้ำท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็น
แต่เดิมแล้วฮิตะเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้านอุตสาหกรรมการแปรรูปไม้ วัสดุไม้ถูกขนส่งโดยอาศัยกระแสน้ำของแม่น้ำมิคุมะ ริมแม่น้ำจึงมีบ้านของเหล่าคนที่ทำงานที่นี่และทำงานที่โรงงานแปรรูปไม้ตั้งกระจายกันอยู่ทั่วไป
ร้านสเต็ก & โรงน้ำชา วาคุระแห่งนี้ได้ถ่ายทอดภาพในอดีตเหล่านั้นให้กับลูกค้าผู้มาเยือนได้สัมผัส
โกดังที่สร้างขึ้นในปี 1917 ได้รับการรีโนเวทใหม่กลายเป็นร้านสเต็กกระทะร้อนสุดเก๋ไก๋สไตล์โมเดิร์นในปี 1989
ด้วยแนวคิดของเจ้าของร้านอย่างคุณฟุรุตะ คาสุมิว่า "อยากเปิดร้านที่สามารถใช้ทานอาหารในโอกาสพิเศษเฉลิมฉลองต่างๆ ได้" ทำให้เกิดร้านที่ลูกค้าจะได้ลิ้มรสอาหารแสนอร่อยในโอกาสพิเศษ
เมนูคอร์สมื้อค่ำของทางร้านจะเป็นการทำอาหารโชว์ต่อหน้าลูกค้ากันแบบจานต่อจานโดยเชฟมืออาชีพ บอกเลยว่าทุกเมนูล้วนเป็นเมนูชั้นเลิศสุดสร้างสรรค์ที่ปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยใจทั้งนั้น
ด้วยองค์ประกอบทั้งเมนูจากพืชผักท้องถิ่นในเมืองฮิตะและเนื้อวัวบุงโกะกิวขึ้นชื่อประจำจังหวัดโออิตะ ทัศนียภาพของแม่น้ำมิคุมะซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิตะ และโกดังที่อยู่เคียงคู่เมืองเมืองฮิตะมาเป็นเวลายาวนาน จึงทำให้ "ร้านสเต็ก & โรงน้ำชา วาคุระ" แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารที่สามารถสัมผัสกับวัฒนธรรม ธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ของเมืองฮิตะด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้เลยทีเดียว
"bajio" บาร์ชุมชนริมฝั่งแม่น้ำสำหรับผู้ที่อยากหาเพื่อนในเมืองฮิตะ
bajio แห่งนี้เป็นคาเฟ่บาร์ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคะเก็ตสึ (Kagetsu River) สุดเขตมาเมดะมาจิ
ตัวร้านสร้างขึ้นจากการรีโนเวทบ้านในมาเมดะมาจิเมื่อ 4 ปีก่อน ชื่อร้าน bajio เป็นภาษาสเปนหมายถึง "น้ำตื้นหรือหาดตื้น" ซึ่งเหมาะกับทำเลที่ตั้งริมฝั่งแม่น้ำแบบนี้สุดๆ
นอกจากนี้ อักษรตัวแรก 瀬 ของชื่อเจ้าของร้าน เซโตะกุจิ (瀬戸口) ก็มีความหมายเดียวกันอีกด้วย
เมื่อมองไปรอบๆ ภายในร้านจะพบกับเครื่องปั้นดินเผาอนตายากิและเฟอร์นิเจอร์สไตล์โบราณเหมือนกับเป็นเมืองฮิตะฉบับย่อเลยก็ว่าได้
นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ สามารถเพลิดเพลินกับการดื่มเหล้าหลากหลายชนิดหรือเครื่องดื่มจินเจอร์เอลจากขิงท้องถิ่นพลางพูดคุยกับผู้คนท้องถิ่นได้ที่ bajio เลย
บอกเลยว่าร้าน bajio ที่รองรับภาษาอังกฤษแห่งนี้เหมาะกับการหาเพื่อนคนญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง!
กระดานดำบนเคาน์เตอร์มีข้อความภาษาต่างๆ จากบรรดานักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมเยือนเขียนเอาไว้เป็นที่ระลึกด้วย
สำหรับใครที่มีโอกาสได้มาที่ร้าน bajio ก็ลองหาข้อความภาษาของประเทศตัวเองกันดูนะคะ แต่ถ้ายังไม่มีก็อย่าลืมเขียนข้อความทิ้งเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ กันด้วยล่ะ!
"ซุยโคะมาเรโซ (Suikomareso)" เกสต์เฮาส์ที่สามารถเพลิดเพลินกับบ้านสไตล์ญี่ปุ่นในเมืองฮิตะได้
ซุยโคมาเรโซ (Suikomareso) แห่งนี้ตั้งอยู่ด้านหลังติดกับ bajio เป็นเกสต์เฮาส์ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2018 ที่ผ่านมา
เป็นบ้าน 2 ชั้นรวม 3 ห้องประกอบด้วยห้องสไตล์ตะวันตกและห้องสไตล์ญี่ปุ่น สามารถเข้าพักได้สูงสุด 6 ท่าน
ภายในบ้านจะสามารถสัมผัสกับกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่นได้จากการจัดเรียงห้องหรือรายละเอียดของดีไซน์หน้าต่าง และถ้าใครเข้าพักติดกันหลายวันรับรองว่าจะได้เพลิดเพลินกับการใช้ชีวิต วัฒนธรรมเมืองและได้พบปะพูดคุยอย่างสบายๆ กับผู้คนท้องถิ่น
คุณซากาโมโตะ ริวอิจิท่านนี้เป็นผู้ดูแลเกสต์เฮาส์ที่คอยประดับดอกไม้ตามฤดูกาลสดใหม่ภายในห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นอยู่เสมอ
เขาพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้ลูกค้าของซุยโคมาเรโซมีความสุขกับการเข้าพักมากที่สุด
คุณซากาโมโตะเองก็มีความรักในเมืองฮิตะไม่แพ้ใคร สำหรับใครที่อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเมืองฮิตะในมุมมองของผู้คนท้องถิ่นก็ลองถามเขาคนนี้ดูได้ค่ะ
ทริปท่องเที่ยวหาเพื่อนใหม่ใน "ฮิตะ" เมืองแห่งมิตรภาพ
สำหรับใครที่มีโอกาสได้มาเยือนเมืองฮิตะ สิ่งแรกที่จะต้องสะดุดตาทุกคนเลยก็คือเรือยากาตะบูเนะ (เรือพร้อมหลังคาแบบญี่ปุ่น) ในแม่น้ำมิคุมะและมาเมดะมาจิที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอย่างแน่นอน
แต่บริเวณใกล้กันนั้นก็เป็นแหล่งรวมร้านค้าที่มีเจ้าของผู้แสนเป็นตัวของตัวเองและมีความมุ่งมั่น
ใครอยากไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมก็ดี แต่ลองแวะไปเที่ยวสัมผัสผู้คนท้องถิ่นในเมืองฮิตะเพื่อประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นที่พิเศษยิ่งขึ้นก็ไม่เลวเหมือนกันนะ!
Supported by Hita City Tourism Department
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง