ไปเที่ยวและสัมผัสผู้คนท้องถิ่นและร้านขึ้นชื่อประจำเมืองที่ "ฮิตะ" ในโออิตะ (Oita)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

เมืองฮิตะ (Hita) จังหวัดโออิตะ (Oita) ขึ้นชื่อว่าจุดเชื่อมต่อสำหรับการท่องเที่ยวคิวชู ผู้คนจึงคุ้นเคยและเป็นกันเองกับนักท่องเที่ยวต่างถิ่น ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำร้านผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อประจำเมือง ใครที่อยากสัมผัสผู้คนท้องถิ่นต้องมาเที่ยวฮิตะกันให้ได้ค่ะ!

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

เมืองฮิตะ (Hita) จังหวัดโออิตะ (Oita) "จุดเชื่อมต่อ" การท่องเที่ยวของคิวชู

สำหรับใครที่อยากเดินเล่นชมอาคารบ้านเมืองดั้งเดิมของญี่ปุ่นในคิวชูขอแนะนำให้แวะมาเที่ยวบริเวณมาเมดะมาจิในเมืองฮิตะ

"เมืองฮิตะ" จังหวัดโออิตะขึ้นชื่อเรื่องอาคารบ้านเมืองสไตล์ญี่ปุ่นของมาเมดะมาจิ

ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเชื่อมต่อของการท่องเที่ยวคิวชูที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันอย่างขวักไขว่อีกด้วย

เพราะตั้งอยู่ตรงใจกลางภาคเหนือของภูมิภาคคิวชู จึงสามารถนั่งรถบัสไปถึงเมืองฟุกุโอกะ เมืองโออิตะ และเมืองคุมาโมโตะได้โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

ออกทริปสัมผัสผู้คนท้องถิ่นเมืองฮิตะ

ด้วยบทบาทดังกล่าวทำให้ผู้คนท้องถิ่นในเมืองฮิตะคุ้นเคยและเป็นกันเองกับบรรดานักท่องเที่ยว

ผู้คนที่นี่รักบ้านเกิดของตัวเองและมีความผูกพันกันอย่างแนบแน่น สำหรับใครที่อยากสัมผัสความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับท้องถิ่นและผู้คนต่อผู้คน บอกเลยว่าคงไม่มีที่ไหนเหมาะสมไปกว่าที่นี่อีกแล้ว

ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำร้านอาหาร ที่พัก และแหล่งพบปะผู้คนภายในเมืองฮิตะที่บริหารโดยเจ้าของที่มีความเป็นตัวของตัวเองกันค่ะ! ^^

"ลิเบอร์เต (Liberte)"
โรงภาพยนตร์แหล่งรวมข้อมูลข่าวสารและผู้คนเมืองฮิตะ

ซีเนมาเทค ลิเบอร์เต (Cinematheque Liberte) บริหารโดยคุณฮาระ ชิเกคิ ที่นี่ก้าวข้ามจากการเป็น "โรงภาพยนตร์" กลายเป็นศูนย์วัฒนธรรมที่รวบรวมผู้คนของเมืองฮิตะไปแล้ว

บริเวณล็อบบี้ของโรงหนังเป็นทั้งร้านค้าและคาเฟ่

ก่อนอื่น เรามาดื่มด่ำกับกาแฟลิเบอร์เต ออริจินัลเบลนด์จากเมล็ดกาแฟของร้าน Tokado Coffee ระดับแชมป์โลกคั่วกาแฟ แล้วก็แวะเดินชมสินค้าด้านในร้านไปด้วยเลยค่ะ

สินค้าที่จำหน่ายมีมากมายหลากหลายชนิดตั้งแต่สินค้าหัตถกรรมของเมืองฮิตะไปจนถึงเสื้อยืดและสินค้าดีไซน์เฉพาะของทางร้าน เครื่องเขียนแฮนด์เมด CD รูปภาพ หนังสือเกี่ยวกับภาพยนตร์และดนตรี

ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าผลงานของช่างฝีมือและศิลปินที่คุณฮาระได้พบปะมาจริงๆ และพวกเขาเหล่านั้นเองก็เป็นแฟนๆ ที่แวะมาเยือนลิเบอร์เตแห่งนี้กันด้วย

เนื่องจากคุณฮาระรู้จักลักษณะนิสัยของเจ้าของผลงานแต่ละท่านอยู่แล้ว จึงสามารถแนะนำผลงานแต่ละชิ้นให้กับบรรดานักท่องเที่ยวได้อย่างมั่นใจ

เมื่อคุณฮาระเห็นว่ามีลูกค้ากำลังสนใจสินค้าภายในร้าน รับรองว่าจะต้องเข้ามาพูดคุยให้คำแนะนำอย่างแน่นอน

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นมาของผลงาน ศิลปินหรือช่างฝีมือเจ้าของผลงาน ไปจนถึงเรื่องราวความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมเมืองฮิตะก็ยินดีให้คำแนะนำอย่างเต็มที่

ใครที่กังวลใจเรื่องแผนเที่ยวเมืองฮิตะขอแนะนำให้ลองสอบถามคุณฮาระกันดู เราอาจจะได้แผนเที่ยวเจ๋งๆ โดนใจจากการแนะนำของคุณฮาระก็เป็นได้!

"Hazebo coffee"
ร้านกาแฟหัวมุมสี่แยก แหล่งพบปะของผู้คนท้องถิ่น

หลังจากผ่านประสบการณ์การทำงานเป็นดีไซเนอร์ในโตเกียวมาหลายปี คุณนากาตะ เคนก็ตัดสินใจมาเปิดร้าน Hazebo coffee ในเมืองฮิตะเมื่อปีที่แล้วนี้เอง

เขาละทิ้งบ้านเกิดในโตเกียวออกมาทำตามความฝันอันยาวนานกว่า 25 ปีที่อยากเป็นเจ้าของร้านกาแฟด้วยการเปิดร้านกาแฟขึ้นในเมืองแหล่งน้ำสะอาดอย่างฮิตะ

ร้านตั้งอยู่ตรงสี่แยกด้านหน้าที่ทำการอำเภอใจกลางเมืองฮิตะเลย ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่ไม่ว่าใครก็สามารถแวะมานั่งจิบกาแฟได้อย่างสะดวกสบาย

Hazebo coffee แห่งนี้มีลูกค้าหลากหลายแบบตั้งแต่พนักงานบริษัทไปจนผู้สูงอายุที่อยากแวะมาดื่มเมนูกาแฟสุดพิเศษของร้าน

เห็นว่าในฤดูร้อนก็มีเหล่านักเรียนมัธยมต้นแวะมาทานน้ำแข็งไสกันด้วย

แถมตอนกลางคืนยังมีการจัดกิจกรรมเช่นการแสดงดนตรีแจ๊สอีกต่างหาก ที่นี่จึงนับเป็นเหมือนสี่แยกศูนย์รวมของชาวเมืองที่มีผู้คนหลากหลายในเมืองฮิตะแวะมาใช้บริการมากมาย

ด้านหน้าร้านมีเจ้า "กัมโมะ" ที่เป็นเหมือนมาสคอตประจำร้าน Hazebo coffee นั่งโชว์ตัวอยู่ด้วย บอกเลยว่าเจ้ากัมโมะเชื่องคนมาก ไม่ว่าใครย่อมจะต้องยิ่งรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้เห็นมันตลอดเวลาที่อยู่ในคาเฟ่แน่นอน

เมื่อลองถามคุณนากาตะว่าเมืองฮิตะเป็นเมืองแบบไหน ก็ได้คำตอบกลับมาว่าเป็น "เมืองที่พระอาทิตย์ยามเช้าและยามเย็นสวยมาก" ธรรมชาติของเมืองฮิตะที่ขนาดชาวเมืองโตเกียวยังหลงใหลจะงดงามขนาดไหน คงต้องลองมาพิสูจน์ด้วยตาของตัวเองกันแล้วค่ะ

4 ร้านอาหารแนะนำประจำ "เมืองฮิตะ" เมืองแห่งอาหารแสนอร่อย

ลิ้มลองเมนูจัมป้งขึ้นชื่อที่ร้านดัง "ทาคารายะ (Takaraya)"

บริเวณใกล้กับสถานีฮิตะเป็นที่ตั้งของร้านทาคารายะ (Takaraya) ร้านอาหารในดวงใจของผู้คนท้องถิ่นที่แนะนำกันว่าห้ามพลาด!

คู่สามีภรรยาซาซากิเจ้าของร้านมีนิสัยน่ารักเป็นกันเองมากๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่เพิ่งเคยมาทานอาหารที่ร้านครั้งแรกก็ยินดีเล่าเรื่องเกี่ยวกับเมืองฮิตะให้ฟังกันแบบหมดเปลือกเลยทีเดียว

เมนูขึ้นชื่อประจำร้าน "ทาคารายะ" แห่งนี้ก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากจัมป้ง ที่ใส่พืชผักสดใหม่แบบเน้นๆ นี่แหละ

จัมป้งคือเมนูเส้นในน้ำซุปจากปลาตัวเล็ก รสชาติเบาๆ ทานง่าย แต่กลมกล่อม ปริมาณเต็มอิ่มจากวัตถุดิบแบบจัดเต็มทั้งถั่วงอก กะหล่ำปลี ปลาหมึก เนื้อสัตว์ และอื่นๆ

นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูแนะนำเป็นอาหารญี่ปุ่นท้องถิ่นอย่างโทริเท็น (เท็มปุระไก่) ของขึ้นชื่อประจำจังหวัดโออิตะอีกด้วย

ปี 2018 นี้ก็ครบรอบเปิดทำการทาคารายะเป็นปีที่ 89 แล้ว ยังไงก็ขอแนะนำให้เพื่อนๆ แวะมาอร่อยกับอาหารที่เติมพลังให้กับคนท้องถิ่นและสัมผัสบรรยากาศเก่าๆ ของร้านอันเป็นที่รักของชาวเมืองฮิตะมาเป็นเวลายาวนานกันให้ได้นะคะ

"ไดยารุ (Daiyaru)" ร้านสปาเก็ตตี้นโปลิตันแสนอร่อยในบรรยากาศย้อนยุค

เดินจากสถานีฮิตะเพียงประมาณ 6 นาทีจะพบกับร้านไดยารุ (Daiyaru) ร้านอาหารในบรรยากาศย้อนยุคโดดเด่นสะดุดตา

เห็นว่าสมัยที่เปิดร้านตอนแรกในปี 1948 ที่นี่เคยเป็นร้านจำหน่ายไอศกรีมแท่งมาก่อน หลังจากนั้นก็ตั้งใจว่าจะทำเมนูที่ไม่มีจำหน่ายในเมืองฮิตะและเริ่มให้บริการเมนูสปาเก็ตตี้ขึ้นมา

ทำให้ที่นี่กลายเป็นร้านอาหารโยโชคุ (อาหารตะวันตก) แห่งแรกในเมืองฮิตะไปโดยปริยาย

เมนูสปาเก็ตตี้นาโปลิตัน ของไดยารุ (ภาพขวาบน) ใช้ซอสเดมิกลาสโฮมเมด เป็นเมนูขึ้นชื่อประจำเมืองฮิตะที่รู้กันเฉพาะในหมู่ผู้รู้จริงเท่านั้น

เมนูที่เสิร์ฟภายในร้านรวมถึงพาเฟ่ต์ใส่ผลไม้แสนอร่อยจากท้องถิ่นไปจนถึงซอสล้วนเป็นเมนูโฮมเมดทั้งสิ้น

เมื่อได้ลองถามความเป็นมาของชื่อร้านไดยารุ (dial - แป้นโทรศัพท์แบบหมุน) คุณป้าเจ้าของร้านก็อธิบายให้ฟังพลางหัวเราะว่าเพราะว่าอยากให้ร้านคึกคักเหมือนกับแป้นหมุนโทรศัพท์ที่หมุนไปเรื่อยๆ นั่นเอง

เห็นว่ามีชาวบ้านบางกลุ่มแวะมาทานอาหารที่ร้านกันเป็นครอบครัวแบบครบ 3 รุ่นตั้งแต่พ่อแม่ ลูก ยันหลานเลยทีเดียว ลองแวะมาสัมผัสรสชาติและประวัติศาสตร์แห่งเมืองฮิตะที่ร้านไดยารุ ร้านอาหารคู่เมืองฮิตะแห่งนี้กันดูนะคะ

"โอซุโซะวาเกะ ยาไซ โนะ เรสโตรัน มัตสึบาระ (Osusowake Yasai no Restaurant Matsubara)" ร้านอาหารที่เป็นกำลังใจให้คนท้องถิ่น

日本のローカルに触れる。旅人の町「日田」の名物オーナーを訪ねる「人」の旅

คุณคาวัตสึ นัตสึโกะ ประธานกรรมการผู้จัดการผู้วางคอนเส็ปต์ร้านอาหารบริการด้วยใจ

โอซุโซะวาเกะ ยาไซ โนะ เรสโตรัน มัตสึบาระ (Osusowake Yasai no Restaurant Matsubara) ร้านอาหารสารพัดเมนูจากพืชผักที่ปลูกในครัวเรือนแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตโอยามะมาจิทางตอนใต้ของเมืองฮิตะ

ร้านมีเอกลักษณ์เป็นคอนเซ็ปต์ที่แสนน่าสนใจ ทางร้านสั่งซื้อพืชผักที่เหลือจากการปลูกทานเองในครัวเรือนของบรรดาคุณลุงคุณป้าในท้องถิ่นมาจำหน่ายและทำเป็นเมนูต่างๆ ภายในร้าน

เนื่องจากเป็นการแบ่งผลผลิตส่วนที่เหลือมาให้ จึงอาจมีพืชผักบางส่วนที่รูปร่างบิดเบี้ยวหรือโดนแมลงกินไปบ้าง แต่สิ่งนี้นี่แหละที่ทำให้มันมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร

九州を訪れるならここが必見!地元の人が語る日田市の魅力

ใบสั่งซื้อผักที่เรียงรายไปด้วยข้อความ "ขอบคุณ" และ "สวัสดีปีใหม่"

คุณลุงคุณป้าที่เกษียณอยู่บ้านก็รู้สึกว่าตนเองมีประโยชน์สำหรับใครสักคน ทำให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิต ส่วนลูกค้าก็ได้ทานพืชผักสดใหม่แสนอร่อยจากท้องถิ่นกันถ้วนหน้า

นับเป็นระบบที่ทำให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคนมีความสุขกันทุกฝ่ายเลยทีเดียว

ผู้วางคอนเซ็ปต์สุดยอดนี้คือประธานกรรมการผู้จัดการ คุณคาวัตสึ นัตสึโกะ ซึ่งหลังจากเธอทำงานในโตเกียวมาหลายปีก็กลับมาเปิดร้านอาหารที่เมืองฮิตะ

เมนูแนะนำของทางร้านคือ "เซ็ตโอซุโซะวาเกะ ยาไซ" (ราคารวมภาษี 780 เยน) ที่สามารถเพลิดเพลินกับรสชาติอันหลากหลายได้จากกับข้าวเต็มชามและผักดองที่ทำมาจากพืชผักหลากสี

ทางร้านเสิร์ฟอาหารด้วยภาชนะเครื่องปั้นดินเผาอนตายากิซึ่งเป็นหัตถกรรมขึ้นชื่อประจำเมืองฮิตะ ช่วยเพิ่มสีสันและความสวยงามให้กับมื้ออาหารได้อีกเท่าตัวเลยค่ะ

รับรองว่าลูกค้าทุกท่านจะมีความสุขไปกับรสชาติของพืชผักท้องถิ่นในฮิตะและความร่าเริงของคุณคาวัตสึกันอย่างแน่นอน

"ร้านสเต็ก & โรงน้ำชา วาคุระ (steak & tea salon WAKURA)" ร้านแนะนำสำหรับวันครบรอบและมื้อค่ำ!

ร้านสเต็ก & โรงน้ำชา วาคุระ (steak & tea salon WAKURA) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมิคุมะ (Mikuma River) เป็นร้านสเต็กกระทะร้อนที่สามารถดื่มด่ำกับมื้อค่ำสุดพิเศษพลางชมแม่น้ำท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็น

แต่เดิมแล้วฮิตะเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้านอุตสาหกรรมการแปรรูปไม้ วัสดุไม้ถูกขนส่งโดยอาศัยกระแสน้ำของแม่น้ำมิคุมะ ริมแม่น้ำจึงมีบ้านของเหล่าคนที่ทำงานที่นี่และทำงานที่โรงงานแปรรูปไม้ตั้งกระจายกันอยู่ทั่วไป

ร้านสเต็ก & โรงน้ำชา วาคุระแห่งนี้ได้ถ่ายทอดภาพในอดีตเหล่านั้นให้กับลูกค้าผู้มาเยือนได้สัมผัส

โกดังที่สร้างขึ้นในปี 1917 ได้รับการรีโนเวทใหม่กลายเป็นร้านสเต็กกระทะร้อนสุดเก๋ไก๋สไตล์โมเดิร์นในปี 1989

ด้วยแนวคิดของเจ้าของร้านอย่างคุณฟุรุตะ คาสุมิว่า "อยากเปิดร้านที่สามารถใช้ทานอาหารในโอกาสพิเศษเฉลิมฉลองต่างๆ ได้" ทำให้เกิดร้านที่ลูกค้าจะได้ลิ้มรสอาหารแสนอร่อยในโอกาสพิเศษ

เมนูคอร์สมื้อค่ำของทางร้านจะเป็นการทำอาหารโชว์ต่อหน้าลูกค้ากันแบบจานต่อจานโดยเชฟมืออาชีพ บอกเลยว่าทุกเมนูล้วนเป็นเมนูชั้นเลิศสุดสร้างสรรค์ที่ปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยใจทั้งนั้น

ด้วยองค์ประกอบทั้งเมนูจากพืชผักท้องถิ่นในเมืองฮิตะและเนื้อวัวบุงโกะกิวขึ้นชื่อประจำจังหวัดโออิตะ ทัศนียภาพของแม่น้ำมิคุมะซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิตะ และโกดังที่อยู่เคียงคู่เมืองเมืองฮิตะมาเป็นเวลายาวนาน จึงทำให้ "ร้านสเต็ก & โรงน้ำชา วาคุระ" แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารที่สามารถสัมผัสกับวัฒนธรรม ธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ของเมืองฮิตะด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้เลยทีเดียว

"bajio" บาร์ชุมชนริมฝั่งแม่น้ำสำหรับผู้ที่อยากหาเพื่อนในเมืองฮิตะ

bajio แห่งนี้เป็นคาเฟ่บาร์ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคะเก็ตสึ (Kagetsu River) สุดเขตมาเมดะมาจิ

ตัวร้านสร้างขึ้นจากการรีโนเวทบ้านในมาเมดะมาจิเมื่อ 4 ปีก่อน ชื่อร้าน bajio เป็นภาษาสเปนหมายถึง "น้ำตื้นหรือหาดตื้น" ซึ่งเหมาะกับทำเลที่ตั้งริมฝั่งแม่น้ำแบบนี้สุดๆ

นอกจากนี้ อักษรตัวแรก 瀬 ของชื่อเจ้าของร้าน เซโตะกุจิ (瀬戸口) ก็มีความหมายเดียวกันอีกด้วย

เมื่อมองไปรอบๆ ภายในร้านจะพบกับเครื่องปั้นดินเผาอนตายากิและเฟอร์นิเจอร์สไตล์โบราณเหมือนกับเป็นเมืองฮิตะฉบับย่อเลยก็ว่าได้

นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ สามารถเพลิดเพลินกับการดื่มเหล้าหลากหลายชนิดหรือเครื่องดื่มจินเจอร์เอลจากขิงท้องถิ่นพลางพูดคุยกับผู้คนท้องถิ่นได้ที่ bajio เลย

บอกเลยว่าร้าน bajio ที่รองรับภาษาอังกฤษแห่งนี้เหมาะกับการหาเพื่อนคนญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง!

กระดานดำบนเคาน์เตอร์มีข้อความภาษาต่างๆ จากบรรดานักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมเยือนเขียนเอาไว้เป็นที่ระลึกด้วย

สำหรับใครที่มีโอกาสได้มาที่ร้าน bajio ก็ลองหาข้อความภาษาของประเทศตัวเองกันดูนะคะ แต่ถ้ายังไม่มีก็อย่าลืมเขียนข้อความทิ้งเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ กันด้วยล่ะ!

"ซุยโคะมาเรโซ (Suikomareso)" เกสต์เฮาส์ที่สามารถเพลิดเพลินกับบ้านสไตล์ญี่ปุ่นในเมืองฮิตะได้

ซุยโคมาเรโซ (Suikomareso) แห่งนี้ตั้งอยู่ด้านหลังติดกับ bajio เป็นเกสต์เฮาส์ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2018 ที่ผ่านมา

เป็นบ้าน 2 ชั้นรวม 3 ห้องประกอบด้วยห้องสไตล์ตะวันตกและห้องสไตล์ญี่ปุ่น สามารถเข้าพักได้สูงสุด 6 ท่าน

ภายในบ้านจะสามารถสัมผัสกับกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่นได้จากการจัดเรียงห้องหรือรายละเอียดของดีไซน์หน้าต่าง และถ้าใครเข้าพักติดกันหลายวันรับรองว่าจะได้เพลิดเพลินกับการใช้ชีวิต วัฒนธรรมเมืองและได้พบปะพูดคุยอย่างสบายๆ กับผู้คนท้องถิ่น

คุณซากาโมโตะ ริวอิจิท่านนี้เป็นผู้ดูแลเกสต์เฮาส์ที่คอยประดับดอกไม้ตามฤดูกาลสดใหม่ภายในห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นอยู่เสมอ

เขาพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้ลูกค้าของซุยโคมาเรโซมีความสุขกับการเข้าพักมากที่สุด

คุณซากาโมโตะเองก็มีความรักในเมืองฮิตะไม่แพ้ใคร สำหรับใครที่อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเมืองฮิตะในมุมมองของผู้คนท้องถิ่นก็ลองถามเขาคนนี้ดูได้ค่ะ

ทริปท่องเที่ยวหาเพื่อนใหม่ใน "ฮิตะ" เมืองแห่งมิตรภาพ

สำหรับใครที่มีโอกาสได้มาเยือนเมืองฮิตะ สิ่งแรกที่จะต้องสะดุดตาทุกคนเลยก็คือเรือยากาตะบูเนะ (เรือพร้อมหลังคาแบบญี่ปุ่น) ในแม่น้ำมิคุมะและมาเมดะมาจิที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอย่างแน่นอน

แต่บริเวณใกล้กันนั้นก็เป็นแหล่งรวมร้านค้าที่มีเจ้าของผู้แสนเป็นตัวของตัวเองและมีความมุ่งมั่น

ใครอยากไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมก็ดี แต่ลองแวะไปเที่ยวสัมผัสผู้คนท้องถิ่นในเมืองฮิตะเพื่อประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นที่พิเศษยิ่งขึ้นก็ไม่เลวเหมือนกันนะ!

Supported by Hita City Tourism Department

Written by

Avatar

MATCHA-PR

Tokyo, Japan

บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง