ทริปเที่ยวเมืองฮิตะสำหรับคนทุกสไตล์ทั้งสายชิลล์ สายกิจกรรม และสายวัฒนธรรม
เมืองฮิตะ จังหวัดโออิตะ (Oita) เป็นศูนย์กลางสำหหรับท่องเที่ยวคิวชูที่มีเสน่ห์ด้านการท่องเที่ยวหลายแบบ เราจึงสามารถเลือกสไตล์การท่องเที่ยวให้เข้ากับรสนิยมของตัวเองได้ เราจะมาแนะนำแผนเที่ยวถูกใจทั้งสำหรับสายชิลล์ สายกิจกรรม และสายวัฒนธรรมในเมืองฮิตะกันค่ะ!
เลือกเที่ยวตามสไตล์ที่เมืองฮิตะในจังหวัดโออิตะ (Oita)
เมืองฮิตะในจังหวัดโออิตะตั้งอยู่ห่างจากสนามบินฟุกุโอกะ (Fukuoka Airport) ประมาณ 1 ชั่วโมง
เมืองนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแม้แต่สำหรับคนญี่ปุ่นเอง และยังเต็มไปด้วยไฮไลท์มากมายไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ออนเซ็น และอาคารบ้านเรือนภายในเมืองมาเมดะมาจิ (Mamedamachi) ที่ยังคงหลงเหลือบรรยากาศสมัยเอโดะให้ได้ชมกันจนถึงปัจจุบัน
เนื่องจากเมืองฮิตะอุดมไปด้วยทรัพยากรด้านการท่องเที่ยว เราจึงสามารถเลือกสไตล์การท่องเที่ยวได้ตามความชอบ
ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำแผนเที่ยวฮิตะที่เหมาะกับสไตล์การท่องเที่ยวถึง 3 แบบกันค่ะ! นั้นก็คือ
1. แผนเที่ยวฮิตะสำหรับสายชิลล์
แผนเที่ยวชมทัศนียภาพอันงดงามและแช่ออนเซ็นแบบชิลล์ๆ สำหรับผู้ที่อยากใช้ช่วงเวลาผ่อนคลายหลีกหนีชีวิตประจำวันอันวุ่นวาย
2. แผนเที่ยวฮิตะกลางแจ้งสำหรับสาย Outdoor
แผนเที่ยวสำหรับสายกิจกรรมกลางแจ้งเหมาะกับผู้ที่อยากดื่มด่ำกับธรรมชาติของญี่ปุ่นแบบสบายๆ
3. แผนเที่ยวฮิตะสำหรับสายวัฒนธรรม
แผนเที่ยวสำหรับผู้ที่อยากท่องเที่ยวพลางพบปะพูดคุยกับผู้คนท้องถิ่นและเรียนรู้เสน่ห์ที่ซุกซ่อนอยู่ของเมืองฮิตะที่ไม่สามารถหาอ่านได้ในหนังสือนำเที่ยว
รับรองว่าเพื่อนๆ จะได้พบกับทริปท่องเที่ยวที่เหมาะกับตัวเองอย่างแน่นอน!
เช่ารถขับเที่ยวเองสำหรับใครที่อยากดื่มด่ำกับเมืองฮิตะทุกซอกทุกมุม
เช่ารถยนต์ด้านหน้าสถานีรถไฟภายในเมืองฮิตะ
การใช้ถนนหนทางและรถยนต์ในญี่ปุ่นรวมถึงในเมืองฮิตะมีความเจริญก้าวหน้ามาก สำหรับใครที่อยากดื่มด่ำกับการท่องเที่ยวกันแบบเต็มอิ่มเราจะขอแนะนำให้เช่ารถยนต์ขับเที่ยวเอง
นอกจากจะทำให้เดินทางท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นแล้วก็ยังสามารถเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่มีใครรู้ได้ด้วย!
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการเช่ารถขับในญี่ปุ่นสามารถเข้าไปดูได้จากบทความนี้ ส่วนข้อมูลการเดินทางไปยังเมืองฮิตะดูได้จากบทความนี้
ผู้ที่ไม่ชอบการขับรถหรือไม่อยากวุ่นวายทำใบขับขี่สากลก็ขอแนะนำเป็น "แผนเที่ยวฮิตะสำหรับสายวัฒนธรรม" ที่สามารถท่องเที่ยวได้ในบริเวณพอเหมาะแสนสะดวก
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
1. แผนเที่ยวฮิตะสำหรับสายชิลล์
~ ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจไปกับวิวสวยๆ และออนเซ็น ~
แผนเที่ยวฮิตะสำหรับสายชิลล์คือ แผนเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน (หรือ 3 วัน 2 คืน) สำหรับผู้ที่อยากเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวฮิตะแบบสบายๆ ตามใจตัวเอง
เนื่องจากวันที่ 1 จะเป็นการตระเวนเที่ยวแหล่งชมวิวแสนสวนห่างจากตัวเมืองอันแสนวุ่นวาย จึงขอแนะนำให้เช่ารถและเตรียมข้าวกล่องไปด้วยเลย
ไม่มีเสบียงอันไหนเหมาะไปกว่าข้าวกล่องต้นตำรับคิริโกะเมชิ (Kirikomeshi) ของเมืองฮิตะ ณ ร้านทาคารายะ (Takaraya) ด้านหน้าสถานีฮิตะ (Hita) อีกแล้ว
หลังจากนั้นก็ขับรถจากด้านหน้าสถานีฮิตะขึ้นทางพิเศษจังหวัดโออิตะ (OITA EXPRESSWAY) มุ่งหน้าไปยังทาคาสึกะ อาตาโกะ จิโซซนโดยใช้เวลาประมาณ 23 นาที
ทาคาสึกะ อาตาโกะ จิโซซน (Takatsuka Atago Jizoson) ที่ยังคงหลงเหลือแนวคิดทางศาสนาของญี่ปุ่น
ทาคาสึกะ อาตาโกะ จิโซซน (Takatsuka Atago Jizoson) แห่งนี้เป็นสถานที่สัมผัสวัฒนธรรมชิมบุตสึชูโก (*1) เฉพาะของญี่ปุ่น
เสาโทริอิที่ปกติแล้วตั้งอยู่เฉพาะในศาลเจ้าและระฆังที่ปกติแล้วตั้งอยู่เฉพาะในวัดกลับมาตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันเสียอย่างนั้น!?
สำหรับใครที่มีโอกาสได้เดินทางมาเยือนก็ลองมาค้นหาเอกลักษณ์ของวัดและศาลเจ้าที่หลอมรวมกันอยู่ที่นี่ดูนะคะ
*1 : ชิมบุตสึชูโก ... ชื่อเรียกสภาพที่ลัทธิชินโตกับศาสนาพุทธถูกเคารพบูชาร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ก่อนจะถูกแยกจากกันในสมัยเมจิ
จุดเด่นสำคัญของศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ที่รูปปั้นพระจิโซ (พระกษิติครรภโพธิสัตว์) จำนวนมากมายนับไม่ถ้วนด้านหลังวิหาร ภาพของเขาที่ถูกห้อมล้อมด้วยรูปปั้่นพระจิโซเยอะขนาดนี้เป็นอะไรที่หาชมไม่ได้ง่ายเลย
พระจิโซ คือ พระโพธิสัตว์ผู้คุ้มครองเด็กและนักเดินทาง ดังนั้น การเริ่มทริปจากทาคาสึกะ อาตาโกะ จิโซซนซึ่งสักการะบูชาพระจิโซจะทำให้เราได้รับพรจากเทพเจ้าหรือที่เรียกว่า โกะริยะคุ ให้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ตลอดทั้งทริปอย่างแน่นอน
อามากาเสะออนเซ็น (Amagase Onsen) สัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของน้ำผ่านออนเซ็นและน้ำตก
จุดหมายถัดไปของเราคืออามากาเสะออนเซ็น (Amagase Onsen) ขับรถยนต์จากทาคาสึกะ อาตาโกะ จิโซซนไปประมาณ 16 นาที
เมื่อเอ่ยถึงไฮไลท์ของอามากาเสะก็ต้องหมู่บ้านออนเซ็น กับวิวเลียบแม่น้ำแสนสวย และน้ำตกซากุระดากิ (Sakuradaki Waterfall) อันงดงามสูงกว่า 25 เมตร
สัมผัสไอเย็นของละอองน้ำอาบแก้มริมน้ำตกซากุระดากิ
น้ำตกซากุระดากิซึ่งว่ากันว่าสายน้ำตกกระเซ็นราวกับกลีบดอกซากุระที่กำลังร่วงโปรยปรายนั้นงดงามจนถึงขนาดที่เชื่อกันว่าช่วยชำระร่างกายและจิตใจของเราได้เลยทีเดียว
สำหรับใครที่ซื้อข้าวกล่องมาด้วยขอแนะนำให้มานั่งทานข้าวกล่องบนม้านั่งในสวนซากุระดากิเลยค่ะ
ส่วนผู้ที่อยากเพลิดเพลินกับอามากาเสะออนเซ็นแบบพิเศษๆ ก็อย่าลืมแวะมาใช้เวลาผ่อนคลายไปกับการแช่ออนเซ็นกลางแจ้งริมแม่น้ำท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามกันนะคะ
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีเพลิดเพลินกับออนเซ็นริมแม่น้ำ "คาวายุ (Kawayu)" ของอามากาเสะออนเซ็นอ่านได้ที่นี่เลย
วันนี้ให้ค้างคืนที่เรียวกังพร้อมออนเซ็นในอามากาเสะ ผ่อนคลายไปกับการแช่ออนเซ็น และเต็มอิ่มกับเมนูท้องถิ่นแสนอร่อย
สำหรับใครที่ยังอยากเที่ยวชมอะไรเพิ่มเติมอีกนิดก็มุ่งหน้าต่อไปยังเมืองโอยามะซึ่งเป็นจุดหมายถัดไปของเรากันเลย!
สัมผัสทัศนียภาพของหุบเขาและลิ้มลองบ๊วยขึ้นชื่อที่ โอคุฮิตะออนเซ็น อุเมะฮิบิกิ (Okuhita Onsen Umehibiki)
นั่งรถจากอามากาเสะมาประมาณ 24 นาทีก็จะถึง โอคุฮิตะออนเซ็น อุเมะฮิบิกิ (Okuhita Onsen Umehibiki) เรียวกังพร้อมออนเซ็นในเมืองโอยามะแล้วล่ะค่ะ เราสามารถเพลิดเพลินกับเมนูอาหารและการออกแบบภายในเรียวกังที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ๊วยซึ่งเป็นของขึ้นชื่อประจำท้องถิ่นได้ที่นี่เลย
แถมยังมีโรงงานเหล้าบ๊วยอยู่ติดกัน เปิดให้ทดลองชิม ช้อปปิ้ง และเข้าร่วมกิจกรรมทำเหล้าบ๊วยด้วย
เราจะได้ชมวิวหุบเขาฮิบิกิซึ่งเป็นชื่อของเรียวกัง แช่ออนเซ็นอันกว้างใหญ่ และรับประทานเมนูอาหารสุดพิถีพิถัน ที่นี่จึงนับเป็นเรียวกังติดออนเซ็นสำหรับสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นชั้นหนึ่งเลยก็ว่าได้
โอซุโซะวาเกะ ยาไซ โนะ เรสโตรัน มัตสึบาระ (Osusowake Yasai no Restaurant Matsubara) กับเมนูจากพืชผักท้องถิ่นสดๆ
ในวันรุ่งขึ้นก็ตื่นสายนิดและใช้เวลาชิลล์ๆ ไปกับการทานมื้อเช้าและแช่ออนเซ็นยามเช้า
หลังจากเช็คเอาท์ออกมาก็ขับรถเลียบแม่น้ำโอยามะ (Oyama River) แสนงามมุ่งหน้าไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านโอซุโซะวาเกะ ยาไซ โนะ เรสโตรัน มัตสึบาระ (Osusowake Yasai no Restaurant Matsubara) ในนิชิโอยามะกันต่อ
ทางร้านแสนภาคภูมิใจในเมนูสไตล์ธรรมชาติจากพืชผักที่รวบรวมมาจากแปลงผักของคุณตาคุณยายในท้องถิ่น สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับร้านอาหารสามารถเข้าไปดูได้จากบทความนี้เลย
ปิดทริปด้วยที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองฮิตะ เดินเล่นชมอาคารบ้านเรือนในสมัยเอโดะ
หลังมื้อเที่ยงก็มุ่งหน้ากลับไปยังใจกลางเมืองฮิตะเพื่อเดินเล่นชมเมืองมาเมดะมาจิบรรยากาศเก่าแก่กันสักหน่อย
ภายในเมืองมาเมดะมาจิเรียงรายไปด้วยร้านค้าจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผาอนตายากิ ผลงานหัตถกรรมของเมืองฮิตะ และขนมต่างๆ ในเมืองนี้เราจะได้พบกับของฝากที่น่าซื้อกลับไปเป็นความทรงจำดีๆ จากทริปเที่ยวฮิตะมากมายเลยล่ะค่ะ
สรุปแผนเที่ยวฮิตะสำหรับสายชิลล์
สถานีฮิตะ (Hita) → ทาคาสึกะ อาตาโกะ จิโซซน (Takatsuka Atago Jizoson) → อามากาเสะออนเซ็น (Amagase Onsen) → โอคุฮิตะออนเซ็น อุเมะฮิบิกิ (Okuhita Onsen Umehibiki : ทานมื้อค่ำ + ค้างคืน) → โอซุโซะวาเกะ ยาไซ โนะ เรสโตรัน มัตสึบาระ (Osusowake Yasai no Restaurant Matsubara : ทานมื้อเที่ยง) → เมืองมาเมดะมาจิ (Mamedamachi)
2. แผนเที่ยวฮิตะกลางแจ้งสำหรับสาย Outdoor
~ สัมผัสความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติแห่งเมืองฮิตะผ่านกการปีนเขาและตั้งแคมป์~
สำหรับผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งที่มาเที่ยวคิวชูกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนขอแนะนำเป็น "แผนเที่ยวฮิตะกลางแจ้งสำหรับสาย Outdoor" ที่จะได้สัมผัสธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของเมืองฮิตะ
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พกอุปกรณ์ปีนเขาหรือตั้งแคมป์มาก็ไม่มีปัญหา เพราะว่าแพ็คเกจ "เทะบุระแคมป์ (ตั้งแคมป์แบบตัวเปล่า)" ของสโนว์พีค โอคุฮิตะ แคมป์ฟิลด์ (Snow Peak Okuhita Campfield) เป็นบริการเช่ายืมอุปกรณ์จำเป็นทั้งหมดโดยไม่ต้องเตรียมอะไรมาเองเลย
แผนเที่ยวนี้ก็เป็นแบบ 2 วัน 1 คืนเช่นเดียวกัน โดยจำเป็นต้องนั่งรถยนต์จากสถานีฮิตะมาถึงสโนว์พีค โอคุฮิตะ แคมป์ฟิลด์โดยใช้เวลาประมาณ 35 นาที
สัมผัสประสบการณ์ปีนเขาแสนสบายที่ภูเขาโกะเซ็น ใกล้จุดตั้งแคมป์
พอเดินทางมาถึงโซนตั้งแคมป์แล้ว วันแรกมาใช้เวลากับกิจกรรมปีนเขาโกะเซ็น (Mt. Gozen) และเดินเล่นชมป่าดงดิบต้นชิโอจิที่อุดมไปด้วยน้ำผุดอันเป็นเอกลักษณ์ของภูเขาแห่งนี้
เมื่อกลับมายังจุดตั้งแคมป์ก็ถึงเวลากางเต็นท์และเพลิดเพลินกับการย่างบาร์บีคิวแสนอร่อย
ในวันถัดไปถ้าใครตื่นเช้าหน่อยก็สามารถปีนไปยังยอดเขาชากะ (Mt. Shaka - ใช้เวลาปีนเขาประมาณ 1 ชั่วโมง) เพื่อชมพระอาทิตย์ยามเช้าได้
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมกลางแจ้งที่น่าสนใจในโอคุฮิตะมีแนะนำเอาไว้ในบทความนี้แล้ว
สรุปแผนเที่ยวฮิตะกลางแจ้งสำหรับสาย Outdoor
สถานีฮิตะ (Hita) → ซื้อหรือเช่าอุปกรณ์ปีนเขาที่สโนว์พีค โอคุฮิตะ แคมป์ฟิลด์ (Snow Peak Okuhita Campfield) → ทางขึ้นเขาป่าดิบต้นชิโอจิบนภูเขาโกะเซ็น (Mt. Gozen) → ยอดเขาโกะเซ็น → ลงเขา → ตั้งแคมป์ย่างบาร์บีคิวที่สโนว์พีค โอคุฮิตะ แคมป์ฟิลด์ → ชมพระอาทิตย์ยามเช้าบนภูเขาชากะ (Mt. Shaka)
3. แผนเที่ยวฮิตะสำหรับสายวัฒนธรรม
~ พบปะพูดคุยกับผู้คนท้องถิ่น & สัมผัสวัฒนธรรมหลักของเมืองฮิตะ ~
ส่วนใครที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่นอกจากแค่ตระเวนเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวแบบปกติก็ขอแนะนำเป็น "แผนเที่ยวฮิตะสำหรับสายวัฒนธรรม" ที่สามารถพบปะพูดคุยกับชาวเมืองฮิตะได้เลยค่ะ
ถ้าใครมีโอกาสได้มาพักในเมืองฮิตะสักพัก รับรองว่าจะสัมผัสได้ถึงความร่าเริงแจ่มใส ความเป็นมิตร และความสุขของการได้มีชีวิตอยู่ของชาวเมืองกันอย่างแน่นอน
แผนเที่ยวนี้ก็เป็นแบบ 2 วัน 1 คืนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นทริปตระเวนเที่ยวบริเวณใจกลางเมืองฮิตะ จึงไม่จำเป็นต้องเช่ารถอะไร ใช้วิธีเดินหรือเช่าจักรยานตามหน้าสถานีรถไฟก็เพียงพอแล้ว
สำหรับผู้ที่เริ่มทริปจากสถานีฮิตะขอแนะนำให้ทานมื้อเที่ยงที่ร้านทาคารายะ (Takaraya) ด้านหน้าสถานีรถไฟกันก่อนเลย โดยมีเมนูแนะนำประจำร้านเป็นราเมงสไตล์ จัมปง
ตอนคิดเงินก็อย่าลืมลองถามคุณซาซากิเจ้าของร้านกันดูนะคะว่ามีข้าวกล่องคิโคริเมชิ (Kikorimeshi) ขายรึเปล่า (คลิกเพื่อดูรายละเอียด)
ถึงแม้ว่าทางร้านจะมีข้าวกล่องคิโคริเมชิเตรียมเอาไว้หรือไม่ก็ตาม แต่เจ้าของร้านจะต้องตกใจที่เห็นว่าเพื่อนๆ รู้จักข้าวกล่องต้นตำรับของเมืองฮิตะอย่างแน่นอน รับรองว่าคุยต่อได้อีกยาวค่ะ
หากจองเอาไว้ล่วงหน้า ทางร้านจะทำข้าวกล่องเตรียมเอาไว้ในวันถัดไป บอกเลยว่าห้ามพลาดโอกาสทองแบบนี้ด้วยประการทั้งปวงค่ะ!
ต่อไปก็ได้เวลามุ่งหน้าไปยัง ซีเนมาเทค ลิเบอร์เต (Cinematheque Liberte) โรงภาพยนตร์ศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของเมืองฮิตะ
ถึงแม้ว่าเป้าหมายของเราจะไม่ใช่การดูหนัง แต่เพียงแค่ไปสั่งกาแฟสักแก้วและนั่งคุยกับคุณฮาระเจ้าของร้านเกี่ยวกับเมืองฮิตะก็จะได้รู้เรื่องราวที่น่าสนใจหลายอย่างตั้งแต่อีเว้นท์ทางวัฒนธรรมล่าสุดไปจนถึงประวัติศาสตร์ของเมืองฮิตะเลยทีเดียว
แถมเรายังสามารถชมผลงานหัตถกรรม หนังสือ และผลงานศิลปะฝีมือศิลปินท้องถิ่นได้ด้วย ถ้าถูกใจผลงานชิ้นไหนก็อย่าลืมซื้อกลับไปเป็นที่ระลึกกันด้วยนะ
ส่วนมื้อเย็นแนะนำให้แวะไปฝากท้องกันที่ร้านสเต็ก & โรงน้ำชา วาคุระ (steak & tea salon WAKURA) เลียบแม่น้ำมิคุมะ (Mikuma River) ที่ปกคลุมไปด้วยแสงอาทิตย์ยามเย็นสวยงามมาก และยังเป็นโอกาสให้เราได้พูดคุยกับเชฟที่พูดเก่งเป็นกันเองหรือเจ้าของร้านที่เกิดและเติบโตมากับเมืองฮิตะอีกด้วยนะ
หลังมื้อเย็นลองแวะมานั่งดื่มชิลล์ๆ สักแก้วที่ร้าน bajio เลียบแม่น้ำฮานัตสึกิ (Hanatsuki River) สุดเขตมาเมดะมาจิกันไหมคะ?
bajio คาเฟ่บาร์ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเยือนกันมากมายแห่งนี้เป็นสถานที่ชุมชนที่สามารถพบปะพูดคุยกับคุณเซโตะกุจิเจ้าของร้านและผู้คนท้องถิ่นได้อย่างง่ายๆ
หลังจากค้างคืนที่ซุยโคะมาเรโซ (Suikomareso) (*ต้องจองล่วงหน้า) ติดกับ bajio ในวันรุ่งขึ้นก็ออกไปเดินเล่นชมเมืองมาเมดะมาจิกันต่อเลย
เดินทะลุเมืองมาเมดะมาจิมาก็จะถึง Hazebo coffee ที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมสี่แยกด้านหน้าที่ทำการอำเภอเมืองฮิตะ
ถ้าใครมีโอกาสพูดคุยกับเจ้าของร้านที่ย้ายมาจากโตเกียวก็จะได้รู้ถึงเสน่ห์ของเมืองฮิตะในมุมมองที่แตกต่างออกไป
เข้ามานั่งผ่อนคลายสักพักก็ออกไปเดินเล่นสัมผัสชีวิตประจำวันของเมืองฮิตะที่แตกต่างจากสถานที่ท่องเที่ยวกันดูสักหน่อย โดยขอแนะนำให้แวะไปเที่ยวชมศาลเจ้าโอฮาระฮาจิมังกู (Oharahachimangu) ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ เลยค่ะ
สำหรับใครที่เลือกแผนเที่ยวสายนี้จะได้รับฟังเรื่องราวต่างๆ มากมายเกี่ยวกับเมืองฮิตะและสัมผัสความสุขจากเสน่ห์ที่แท้จริงของเมืองนี้กันแบบเต็มๆ ในเวลา 2 วัน 1 คืน
สรุปแผนเที่ยวฮิตะสำหรับสายวัฒนธรรม
สถานีฮิตะ (Hita) → ทาคารายะ (Takaraya) → ซีเนมาเทค ลิเบอร์เต (Cinematheque Liberte) → ร้านสเต็ก & โรงน้ำชา วาคุระ (steak & tea salon WAKURA) → bajio → ซุยโคะมาเรโซ (Suikomareso : ค้างคืน) → เมืองมาเมดะมาจิ (Mamedamachi) → Hazebo coffee → ศาลเจ้าโอฮาระฮาจิมังกู (Oharahachimangu) → ฮิตะบัสเซ็นเตอร์ (Hita Bus Center) สถานีฮิตะ
บทส่งท้าย
เพื่อนๆ เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าเมืองฮิตะที่ตั้งอยู่ใจกลางทางตอนเหนือของคิวชูแห่งนี้เต็มไปด้วยไฮไลท์น่าสนใจมากมายขนาดไหน
ไม่ว่าจะเป็นสายชิลล์ สายกิจกรรม หรือสายวัฒนธรรมก็สามารถท่องเที่ยวเมืองฮิตะได้อย่างเต็มอิ่มเหมือนกันหมด
ทริปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้าต้องใส่เมืองฮิตะของจังหวัดโออิตะเอาไว้ในตัวเลือกบ้างแล้วล่ะ!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Sponsored by Hita City Tourism Department
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง