ใช้ชีวิต & สัมผัสไลฟ์สไตล์แบบญี่ปุ่นที่ Guesthouse MAYA ในโกเบ (Kobe)

"Guesthouse MAYA"
ที่พักสำหรับเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตสไตล์ญี่ปุ่น

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Guesthouse MAYA

ผู้เขียนเชื่อว่ามีชาวต่างชาติไม่น้อยเลยที่คิดว่า "อุตส่าห์มาเที่ยวถึงญี่ปุ่นทั้งที ก็อยากลองสัมผัสวิถีชีวิตแบบเงียบสงบ นอกเหนือจากไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวสุดคึกคักบ้าง"

"เกสต์เฮ้าส์ มายะ (Guesthouse MAYA)" ที่เราจะมาแนะนำกันในครั้งนี้เป็นเกสต์เฮ้าส์ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสวิถีชีวิตอันแสนเรียบง่ายสบาย ๆ สไตล์โกเบ

เพียงแค่นั่งรถไฟ JR จากสถานีใจกลางเมืองโกเบอย่างสถานีซันโนะมิยะ (Sannomiya Station) ถัดมา 1 สถานีมาลงที่สถานีนาดะ (Nada Station) โดยใช้เวลาประมาณ 2 นาที หลังจากนั้นก็เดินเท้าจากทางออกทิศเหนือ (North Exit) ของสถานีไปประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้วล่ะค่ะ

เกสต์เฮาส์รีโนเวทมาจากอาคารคลินิกขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย เปิดให้บริการเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมาจากความร่วมมือของผู้คนท้องถิ่น

ลูกค้ากว่าครึ่งของที่นี่เป็นชาวต่างชาติทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นชาวเกาหลี ไต้หวัน ชาวตะวันตก และอื่นๆ ซึ่งบอกเลยว่าลูกค้าส่วนใหญ่เดินทางมาเข้าพักตามรีวิวจากทั้งเว็บไซต์จองที่พัก บล็อก กระแสแบบปากต่อปาก ไปจนถึงคำแนะนำของผู้คนท้องถิ่นเลยทีเดียว

เช็คอินกันก่อนดีกว่า!

ที่นี่เปิดให้เช็คอินระหว่างเวลา 16:00 - 22:00 น. ในช่วงเวลาเช็คอินจะมีพนักงานคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการท่องเที่ยวภายในท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นร้านค้าในดวงใจของผู้คนท้องถิ่นและสถานที่ลับที่ไม่บอกก็ไม่มีทางรู้!

เมื่อดำเนินการเช็คอินเรียบร้อยก็จะได้รับแผ่นไม้ขนาดเล็กสำหรับใช้เป็นกุญแจห้องพักตามภาพมาจากพนักงาน

กุญแจรหัสที่คล้องมากับแผ่นไม้เป็นกุญแจสำหรับตู้ล็อคเกอร์ภายในโซนหอพัก เนื่องจากไม่มีช่วงเวลาเปิด-ปิดประตู หลังจากเช็คอินแล้วจะกลับที่พักดึกแค่ไหนก็ได้ไม่มีใครว่า ... เจ๋งสุด ๆ

ห้องพักมีให้เลือก 2 ประเภททั้งแบบห้องรวมและห้องส่วนตัว

ห้องพักมีให้เลือกทั้งหมด 2 ประเภททั้งแบบห้องรวมและห้องส่วนตัว ห้องรวมแบบรวมชาย-หญิงเข้าพักได้สูงสุด 6 ท่าน / ห้อง (ราคารวมภาษีสำหรับ 1 ท่านเริ่มต้นที่ 3,300 เยนเป็นต้นไปต่อคืน) ส่วนหอพักสำหรับผู้หญิงเข้าพักได้สูงสุด 6 ท่าน / ห้อง (ราคารวมภาษีสำหรับ 1 ท่านเริ่มต้นตั้งแต่ 3,500 เยนเป็นต้นไปต่อคืน)

จากภาพด้านบนคือห้องรวมสำหรับผู้หญิง หลังคาที่นอนเป็นสไตล์กระท่อมบนภูเขาดูน่ารักใช่เล่นเลยนะเนี่ย!

ภายในห้องรวมสำหรับผู้หญิงมีการจัดเตรียมโซนแต่งหน้าแสนสะดวกเอาไว้ให้ด้วย โดยเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นสำลีพันหู สำลี ทิชชู่เปียก และอื่นๆ อีกเพียบ เรียกได้ว่าใส่ใจลูกค้าสาวๆ สุดๆ ไปเลยล่ะค่ะ ^^

บริเวณเตียงนอนจะกั้นแบ่งให้อย่างเป็นส่วนตัว เพียบพร้อมไปด้วยที่นอนสะอาดเอี่ยม ผ้าห่ม โคมไฟอ่านหนังสือ เต้ารับปลั๊กไฟ ผ้าม่าน และช่องเก็บของล็อคได้สำหรับเก็บสิ่งของมีค่า แถมข้างที่นอนยังเผื่อที่สำหรับวางสัมภาระให้ด้วย

นอกจากห้องรวมแล้วก็ยังมีห้องพักเดี่ยว ห้องพักเตียงคู่ และห้องพักสำหรับ 2 – 4 ท่านให้บริการเช่นเดียวกัน บอกเลยว่าห้องพักทุกแบบได้รับการตกแต่งอย่างเรียบง่ายในโทนธรรมชาติทั้งนั้น ทำให้เราสามารถใช้เวลาผ่อนคลายได้อย่างชิลล์ๆ

เนื่องจากราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าพัก จึงขอแนะนำให้เข้าไปเช็คจากเพจจองห้องพักทางการกันก่อนเลยค่ะ ^^

โซนส่วนกลางที่เต็มไปด้วยลูกเล่นเพียบ!

บนชั้น 1 เป็นที่ตั้งของห้องครัวและห้องทานอาหารแบบส่วนรวมซึ่งแน่นอนว่าเราสามารถซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารทานเองได้เลย

ด้านในเป็นโซนเลานจ์ทรงกลมคล้ายกับเปลือกหอย โดยมีม้านั่งทรงก้นหอยให้เรามานั่งทานอาหาร อ่านหนังสือ พูดคุย หรือพักผ่อนได้อย่างอิสระ

อ่างล้างมือและห้องอาบน้ำ 3 ห้อง เป็นโซนส่วนรวม โดยมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะด้วย ห้องอาบน้ำเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่มีข้อจำกัดเรื่องการใช้งานไดร์เป่าผมช่วงกลางคืน ยังไงก็อย่าลืมสอบถามพนักงานให้ดีตอนเช็คอินกันด้วยเนอะ

เพลิดเพลินกับการตกแต่งภายในสไตล์แฮนด์เมด!

การตกแต่งสไตล์แฮนด์แมดทั้งภายในและภายนอกที่เต็มไปด้วยลูกเล่นเพียบ! ขอท้าให้ทุกท่านลองค้นหาคำว่า "萬家" และ "MAYA" ที่ซุกซ่อนอยู่ตามจุดต่าง ๆ กันดูค่ะ อยากรู้ว่าเพื่อนๆ จะเจอทั้งหมดกี่แห่ง ^o^

คำว่า "萬家 (MAYA)" ซุกซ่อนความหมายแฝงเอาไว้นั่นก็คือคำอธิษฐานขอให้ที่นี่เป็น "แหล่งรวมผู้คนจำนวนมหาศาล" นั่นเอง รวมทั้งยังสื่อถึงคำว่า MAYA ของ "ภูเขามายะ (Mount Maya)" ยอดเขาขึ้นชื่อประจำโซนเทือกเขารคโคซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองโกเบด้วยนะ จากจุดชมวิวบนภูเขามายะคิคุเซได (Maya Kikuseidai) เราสามารถดื่มด่ำกับทัศนียภาพยามค่ำคืนอันแสนงดงามของโกเบได้อย่างชิลล์ๆ เลยล่ะค่ะ

อย่างที่บอกเอาไว้ในตอนแรกว่าเกสต์เฮ้าส์แห่งนี้เคยเป็นคลินิกมาก่อน ขนาดอุปกรณ์ที่เคยใช้ในคลินิกก็ยังเอามาตกแต่งเป็นคำว่า "MAYA" ได้เลยคิดดู! ทำให้เราเห็นถึงความมีน้ำใจของเจ้าของเกสต์เฮ้าส์ที่อยากรักษาความทรงจำของเจ้าของคนเดิมเอาไว้

ไหนใครอยากอิ่มอร่อยกับขนมปังแสนอร่อยเป็นมื้อเช้าบ้าง?

ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ได้มีเสิร์ฟอาหารหรือเครื่องดื่มอะไร แต่สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะไปทานมื้อเช้าหรือมื้อเย็นที่ไหนก็สามารถสอบถามจากพนักงานได้เลย เพราะว่าใกล้กับเกสต์เฮ้าส์เป็นที่ตั้งของร้านขนมปังที่แนะนำสำหรับมื้อเช้าสไตล์เมืองขนมปังอย่างโกเบด้วย

ภายในห้องครัวของเกสต์เฮ้าส์มีเตาปิ้งขนมปังตั้งเอาไว้ให้บริการ ยิ่งถ้าเกิดได้ทานคู่กับกาแฟของร้านฮากิฮาระ (HAGIHARA COFFEE) (200 เยน / แก้ว) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยของโกเบด้วยล่ะก็จะกลายเป็นมื้อเช้าในฝันไปเลยล่ะค่ะ! ^o^

พิกัดร้านจำหน่ายครัวซองที่เราซื้อมาทานกันในวันนี้ก็คือร้านขนมปังเก่าแก่ชื่อว่า "Leman (เรมัง)" แห่งนี้นั่นเอง แซนวิชก็อร่อยนะ ใครมีโอกาสแวะมาก็ขอแนะนำว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!

เข้าร่วมทัวร์ตะลุยชิมภายในย่านร้านค้าของมายะกัน!

เพื่อนๆ รู้มั้ยคะว่าที่นี่บางครั้งยังมีการจัด "ทัวร์ตะลุยชิม" พาเที่ยวย่านร้านค้าซุยโดสึจิ (Suidosuji Shotengai) ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเกสต์เฮ้าส์ในระยะเดินเท้าถึงกันได้

ซุยโดสึจิเป็นย่านร้านค้าสุดคึกคักที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน โดยเปรียบเหมือนกับเป็นครัวที่คอยค้ำจุนวิถีชีวิตของชาวเมืองท้องถิ่นเลยก็ว่าได้ ที่นี่เรียงรายไปด้วยร้านขายปลา ร้านขายผัก ร้านขายเต้าหู้ และร้านค้าจิปาถะเก่าแก่มากมาย

ด้านซ้ายมือของภาพคือคุณปาร์คซึ่งเป็นเจ้าของเกสต์เฮ้าส์ มาร่วมถ่ายภาพคู่กับผู้เข้าพักและพ่อค้า-แม่ค้าภายในย่านร้านค้า

บอกเลยว่าเพื่อนๆ ต้องมาเข้าร่วมทัวร์สัมผัสความรู้สึกราวกับเป็นผู้คนท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นชิมของอร่อยหรือพูดคุยกับเจ้าของร้านค้าแต่ละแห่งกันดูสักครั้งค่ะ สำหรับรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายและวันจัดอีเว้นท์สามารถสอบถามจากทางเกสต์เฮ้าส์ล่วงหน้าได้เลย

แสนสบายจนต้องอยากพักต่อ!

ในครั้งนี้เราก็มีโอกาสได้พูดคุยกับลูกค้าชาวเกาหลี (ซ้ายมือ) โดยมีคุณปาร์คมาเป็นล่ามแปลภาษาเกาหลีให้

เขาเล่าว่าเขามาเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งที่ 5 แล้ว แต่เพิ่งเคยได้มาเที่ยวโกเบเป็นครั้งแรก โดยรู้จักกับเกสต์เฮ้าส์มายะจากเว็บไซต์จองที่พักและบล็อกท่องเที่ยว เขารู้สึกติดใจในเกสต์เฮ้าส์สไตล์อบอุ่นราวกับอยู่บ้านตัวเองมากจนอยากพักต่อเลยทีเดียว

"คุณปาร์ค" เจ้าของเกสต์เฮ้าส์ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ

สุดท้ายเราก็ได้พูดคุยกับคุณปาร์คชาวเกาหลีเกี่ยวกับความเป็นมาก่อนมาเปิดเกสต์เฮ้าส์และสถานการณ์ในปัจจุบัน

เขาเล่าเกี่ยวกับแรงบันดาลใจในการเปิดเกสต์เฮ้าส์แห่งนี้ให้ฟังว่า "ในสมัยมัธยมปลาย ผมรู้สึกสนใจเรื่องการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากสมาคมนักเรียนแลกเปลี่ยนญี่ปุ่น - เกาหลี หลังจากที่ผมย้ายมาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นก็รู้สึกว่าถึงแม้วัฒนธรรมและชาติพันธุ์จะแตกต่างกัน เราก็สามารถเข้าใจซึ่งกันและกันได้จากการพูดคุยแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมโดยตรง

ในที่สุดจึงเกิดความคิดว่าอยากพบปะกับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและเปิดเกสต์เฮ้าส์ให้เป็นสถานที่สร้างความสัมพันธ์กับท้องถิ่นจนเกิดเป็นสถานที่แห่งนี้ขึ้นมา

ผมตระเวนค้นหาสถานที่เปิดเกสต์เฮ้าส์ตามสถานที่ต่างๆ ในโกเบและเกิดชอบย่านร้านค้าชุมชนสุดคึกคักแห่งนี้ ในตอนแรกผมไม่มีคนรู้จักเลยสักคนเดียว ผู้คนที่พบกันโดยบังเอิญจึงแนะนำให้ผมรู้จักกับคนที่เกี่ยวข้องกับงานพัฒนาเมือง

ผมมาทำงานในเมืองและร่วมทำงานอาสาสมัคร โดยค้นหาสถานที่ไปพร้อมกับการสร้างความสัมพันธ์กับชาวเมืองและท้องถิ่น หลังจากนั้น 2 ปีต่อมาจึงค้นพบสถานที่แห่งนี้

ก่อนเปิดกิจการเกสต์เฮ้าส์ ทั้งผู้คนในท้องถิ่น เพื่อนๆ และคนอื่นๆ รวมกว่า 300 คนมาช่วยกันทำงานทั้งทาสี ปูพื้น ปูหลังคาเป็นเวลากว่า 4 เดือนเต็มจนเสร็จสมบูรณ์

ผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความมีน้ำใจของผู้คนและผืนดินที่พร้อมต้อนรับผู้มาใหม่ ในฐานะของเจ้าของที่พักผมจึงอยากตอบสนองความรู้สึกดังกล่าวด้วยการช่วยเหลือชุมชนแห่งนี้ให้คึกคักมากยิ่งขึ้น"

ความจริงใจและความกระตือรือร้นของคุณปาร์คที่สื่อออกมาผ่านเรื่องเล่าเป็นอะไรที่น่าประทับใจมาก

นอกจากนี้ ผู้คนที่มีส่วนร่วมกับการรีโนเวทก็ได้เล่าถึงบรรยากาศแสนสนุกในครั้งนั้นให้เราฟังด้วยว่าพวกเขาต้องทำงานในวันธรรมดา จึงสามารถมาช่วยงานได้เฉพาะในวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ แต่ไม่รู้ทำไมทำไปทำมาถึงรู้สึกสนุกจนรอให้ถึงวันหยุดครั้งต่อไปแทบไม่ไหวเลยทีเดียว

ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆ ลองมาเข้าพักที่เกสต์เฮ้าส์มายะที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมนุษย์แห่งนี้กันให้ได้นะคะ รับรองว่าทุกคนจะเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมท้องถิ่นของโกเบและได้ความทรงจำดีๆ ในการท่องเที่ยวกลับไปเพียบอย่างแน่นอนค่ะ ^^

ความร่วมมือในการเก็บข้อมูลโดย : Guesthouse MAYA