Start planning your trip
10 พระใหญ่ เจ้าแม่กวนอิมยักษ์ในญี่ปุ่น! ไปไหว้เสริมสิริมงคลกัน!
พระใหญ่ญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่คามาคุระ หรือนารา ขอแนะนำ 10 พระใหญ่หรือที่เรียกกันว่า "ไดบุตสึ" และเจ้าแม่กวนอิมขนาดยักษ์ โดยเลือกจากที่เดินทางง่าย ไปสะดวก เที่ยวสนุกแล้วยังได้สิริมงคลด้วยนะ!
เป้าหมายในการมาเที่ยวญี่ปุ่นของหลายคนคงเป็นการเที่ยวชมวัดหรือศาลเจ้า
และแน่นอนว่าจุดหมายยอดนิยมในนั้นก็หนีไม่พ้น "พระใหญ่" หรือพระพุทธรูปขนาดใหญ่โตมโหฬารที่สร้างมาจากความศรัทธาจนทำให้เราสัมผัสได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์
คราวนี้ขอเอาใจแฟนๆ นักเที่ยวสายไหว้พระเสริมสิริมงคล ด้วยการแนะนำ 10 วัดที่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐาน ให้เลือกใส่ลงในแพลนเที่ยวกันตามสะดวกเลย!
10 วัดที่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่
10 พระใหญ่และเจ้าแม่กวนอิมขนาดยักษ์ของญี่ปุ่นที่อยากแนะนำ!
1. ใครๆ ก็รู้จัก หลวงพ่อโตวัดโคโตคุอิน (Kotoku-in) ในคามาคุระ (Kamakura)
2. โตเกียวมีทุกสิ่ง! พระใหญ่วัดโจเรนจิ (Jorenji) ในโตเกียว (Tokyo)
3. เจ้าแม่กวนอิมที่มีตำนานเมือง วัดโอฟุนะคันนงจิ (Ofuna Kannon-ji) ในคานากาว่า (Kanagawa)
4. เจ้าแม่กวนอิมริมอ่าวโตเกียว โตเกียววังคันนง (Tokyowan Kannon) ในชิบะ (Chiba)
5. ใหญ่ทั้งพระพุทธรูปและเจ้าแม่กวนอิม วัดนิฮงจิ เขาโนโคกิริ (Nokogiri Nihonji) ในชิบะ (Chiba)
6. พระพุทธรูปใหญ่อันดับสามของโลก พระใหญ่อุชิคุ (Ushiku Daibutsu) ในอิบารากิ (Ibaraki)
7. เจ้าแม่กวนอิมแห่งความรัก วัดจิเกงอิน (Jigen-in) ในกุนมะ (Gunma)
8. พระใหญ่ในร่มอันเก่าแก่ วัดโทไดจิ (Todaiji) ในนาระ (Nara)
9. เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่แห่งเซนได วัดไดกันมิตสึจิ (Daikanmitsu-ji) ในมิยางิ (Miyagi)
10. พระนอนสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่วัดนันโซอิน (Nanzou-in) ในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
1. ใครๆ ก็รู้จัก หลวงพ่อโตวัดโคโตคุอิน (Kotoku-in) ในคามาคุระ (Kamakura)
Photo by Pixta
ประเดิมด้วยหลวงพ่อโตที่ใครๆ ก็รู้จักกันอย่างหลวงพ่อโตวัดโคโตคุอินในคามาคุระ
จุดเด่นของที่นี่ก็คือเดินทางจากโตเกียวได้สะดวกมากๆ โดยใช้เวลาแค่ประมาณชั่วโมงเศษๆ
แถมมีที่เที่ยวรอบข้างอีกมากมาย ทำให้จัด one day trip จากโตเกียวได้เลย
ตัวองค์พระหลวงพ่อโตสูง 13.35 เมตร (รวมฐาน) เชื่อกันว่าเริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1252
เขาถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะมีเรื่องเล่าขานกันว่าพื้นที่แห่งนี้เคยประสบภัยจากพายุ จนแม้แต่ตัวอาคารวัดยังเสียหายไปจนหมด
แต่ตัวพระพุทธรูปกลับยังปลอดภัยดี เพียงแค่ซ่อมแซมนิดหน่อยเท่านั้น
แถมที่นี่ยังมีความสำคัญทางจิตใจสำหรับคนไทย เพราะมี "ต้นสนสามรัชกาล" ที่พระราชทานจากพระเจ้าอยู่หัวของชาวไทยอีกด้วย
ภายในตัวพระพุทธรูปนั้นสามารถเข้าไปชมวิธีการก่อสร้างและเป็นศิริมงคลได้ในราคาเพียงแค่ 20 เยน จึงขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดเลยจ้า
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
2. โตเกียวมีทุกสิ่ง! พระใหญ่วัดโจเรนจิ (Jorenji) ในโตเกียว (Tokyo)
Photo by Pixta
โตเกียวมีทุกสิ่งให้ช้อป และมีทุกอย่างให้เที่ยว!
แต่หลายครั้งเราก็ลืมไปว่า ในเมืองใหญ่แบบนี้ยังมีที่เที่ยวทางศาสนาที่จะช่วยให้จิตใจสงบอีกมากมาย
รวมไปถึงมีพระใหญ่ให้เราสักการะกันด้วยค่ะ
วัดโจเรนจิเป็นวัดกลางเมืองโตเกียวที่หล่อพระใหญ่ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคนโตเกียวในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากท่ามกลางภัยพิบัติและสงคราม
จึงรับประกันได้กับบรรยากาศที่จะช่วยให้เราสงบใจได้อย่างแน่นอนค่ะ
องค์พระเป็นโลหะสัมฤทธิ์หล่อสูงรวมฐานแล้วราว 13 เมตร
ถือเป็นพระใหญ่จากสัมฤทธิ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ
3. เจ้าแม่กวนอิมที่มีตำนานเมือง วัดโอฟุนะคันนงจิ (Ofuna Kannon-ji) ในคานากาว่า (Kanagawa)
มาที่เราขอแนะนำเป็นที่ที่สาม ไปดูรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมกันบ้างค่ะ กับ "เจ้าแม่กวนอิมแห่งโอฟุนะ" หรือ "โอฟุนะคันนง" ในคานากาว่า จังหวัดที่อยู่ติดๆ กับโตเกียวเลย
พอพูดถึงคานากาว่า คนก็จะแห่ไปสักการะหลวงพ่อโตแห่งคามาคุระกันไปเสียหมด
แต่ที่สถานีโอฟุนะ (Ofuna) หนึ่งในสถานีต่อรถใหญ่ของย่านนี้ ก็มีเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ที่ต้องตะลึงเพราะเห็นได้จากสถานีเลยล่ะค่ะ
เจ้าแม่กวนอิมนี้ประดิษฐานอยู่ในวัดชื่อเดียวกัน คือ วัดโอฟุนะคันนงจิ (Ofuna Kannon-ji)
วัดแห่งนี้อายุอาจจะยังไม่มาก เพราะก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1981 เท่านั้น
แต่เป็นวัดที่รวมความศรัทธาจากผู้คนที่รวมกันเพื่อสร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมมาปลอบประโลมดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตจากภัยสงครามและระเบิดปรมาณู
ตัวองค์เจ้าแม่กวนอิมมีความสูง 25 เมตร แต่มีความแปลกตรงที่ ...
รูปปั้นมีแค่ครึ่งองค์ เท่าที่เห็นในรูปเลยค่ะ!!
จึงทำให้มีตำนานเมืองลือกันว่า ใต้ดินอาจจะมีส่วนของรูปปั้นลึกลงไปอีกก็ได้!!
... ซึ่งก็ไม่ได้เป็นความจริงแต่ประการใด
เพราะสาเหตุที่เจ้าแม่กวนอิมมีแค่ครึ่งองค์นั้น เป็นเพราะพื้นดินในจุดนี้มีความอ่อนนุ่มจนกลัวกันว่าอาจจะไม่สามารถรับน้ำหนักเจ้าแม่ทั้งองค์ได้
แต่ความศรัทธาที่จะสร้างพระพุทธรูปก็ไม่ได้ลดน้อยไป จึงได้ทำการสร้างรูปปั้นแค่ครึ่งองค์แทนค่ะ
ถือเป็นพระพุทธรูปที่แปลก แต่เต็มไปด้วยพลังและแรงศรัทธาโดยแท้จริง
ข้อมูลทั่วไป
ที่อยู่ : 1-5-3 Okamoto, Kamakura, Kangawaga
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าสักการะ ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กมัธยมต้นลงไป 100 เยน เด็กอ่อนฟรี
สถานที่ที่ใกล้ที่สุด : สถานีโอฟุนะ (Ofuna) สาย JR
การเดินทาง : เดินจากสถานี Ofuna ประมาณ 5 นาที Google Map
Offcial Website : http://www.oofuna-kannon.or.jp/index.html
4. เจ้าแม่กวนอิมริมอ่าวโตเกียว โตเกียววังคันนง (Tokyowan Kannon) ในชิบะ (Chiba)
มาชมรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสวยๆ และศักดิ์สิทธิ์กันต่อที่ริมอ่าวโตเกียวกันค่ะ
เดินทางออกจากโตเกียวหน่อย มายังจังหวัดข้างๆ ของโตเกียวที่ชิบะกัน
เจ้าแม่กวนอิมที่นี่ชื่อว่า "โตเกียววังคันนง" แปลตามตัวก็คือ "เจ้าแม่กวนอิมริมอ่าวโตเกียว" ค่ะ
ดูจากรูปก็คงพอเห็นแล้วว่าขนาดใหญ่เอามากๆ! เพราะรูปเคารพนี้มีความสูงถึง 56 เมตรเลยทีเดียว!
รูปปั้นนี้สร้างขึ้นในปี 1961 เพื่ออธิษฐานให้โลกสงบสุข
นอกจากรูปปั้นสีขาวบริสุทธิ์ที่มีสีหน้าผ่องแผ้วแล้ว ภายในยังสามารถเข้าไปชมได้ ซึ่งมีทั้งห้องสวดมนต์และประดิษฐานพระพุทธรูปอีกมากมายสูงถึง 20 ชั้น
แต่ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม จนถึงปลายเดือนธันวาคม ปี 2018
รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมนี้จะมีการตั้งร้านทำความสะอาดโดยรอบ
แม้จะยังเปิดให้ไปชมกันได้โดยลดค่าเข้าสักการะ แต่จะไม่สามารถเข้าไปชื่นชมภายในได้ค่ะ
หากใครอยากจะมาจัดเต็ม อาจจะต้องมาในปี 2019 แทน
ข้อมูลทั่วไป
ที่อยู่ : 1588 Kokubo, Futtsu, Chiba
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าสักการะ ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็กมัธยม 400 เยน เด็กเล็ก (5 ขวบ - ประถม) 300 เยน
สถานที่ที่ใกล้ที่สุด : สถานีซานุกิมาจิ (Sanukimachi) สาย JR Uchibo
การเดินทาง : จากสถานี Sanukimachi นั่งรถบัสไปลงป้าย Kannon Shita (ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร) Google Map
Offcial Website : http://www.t-kannon.jp/index.html
5. ใหญ่ทั้งพระพุทธรูปและเจ้าแม่กวนอิม วัดนิฮงจิ เขาโนโคกิริ (Nokogiri Nihonji) ในชิบะ (Chiba)
ภาพจาก : 5 แหล่งถ่ายรูปวิวสุดสวยลงโซเชียล แบบไปเช้า-เย็นกลับจากโตเกียว & สนามบินนาริตะ!
แนะนำจุดเด็ดอีกจุดในจังหวัดชิบะค่ะ ที่นี่มีดีมากตรงที่มีทั้งพระใหญ่และเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่เลย
เรียกได้ว่าใครอยากไหว้พระ ไม่น่าพลาดเลยล่ะ!
ที่นี่คือวัดนิฮงจิ (Nihonji) ในเขาโนโคกิริ (Nokogiri) ที่จังหวัดชิบะค่ะ
วัดนี้เป็นอีกหนึ่งวัดที่เก่าแก่ของญี่ปุ่น โดยก่อตั้งมานานกว่า 1,300 ปีแล้วด้วยรับสั่งของพระจักรพรรดิ์ในสมัยนั้น
พระประธานของที่นี่เป็นพระพุทธรูปหินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น สูงกว่า 31 เมตร
เป็นพระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุ “ยาคุชิรุริโคเนียวไร” ที่เชื่อกันว่าให้คุณเรื่องการรักษาบาดแผลของนักรบ
ทำให้มีซามูไร โชกุนหลายท่านในอดีตแวะมาสักการะหลังสงครามค่ะ
นอกจากพระประธานแล้ว บริเวณโดยรอบยังมีพระพุทธรูปใหญ่น้อยอีกมากมาย
ที่โดดเด่นมากอีกจุดคือรูปสลักเจ้าแม่กวนอิม "เฮียคุชาคุคันนง" โดยเป็นการสลักลงบนหน้าผา มีความสูงกว่า 30 เมตร
แถมยังมีจุดถ่ายรูปสุดหวาดเสียวตรงหน้าผาในชื่อ จิโกกุโนโซกิ" แปลตรงตัวว่า "แอบมองนรก" อีกต่างหาก
เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวที่น่าสนใจ แถมยังได้ไหว้พระจนอิ่มบุญเลยล่ะค่ะ!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
6. พระพุทธรูปใหญ่อันดับสามของโลก พระใหญ่อุชิคุ (Ushiku Daibutsu) ในอิบารากิ (Ibaraki)
สถานที่ต่อไปนี้อยากจะเล่าออกเสียงดังๆ เลยค่ะ
เพราะเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น แถมยังเคยครองอันดับ 1 เป็นรูปปั้นสัมฤทธิ์ท่ายืนที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย!
(ปัจจุบันกลายเป็นอันดับ 3 ของโลก)
ใหญ่ขนาดไหน ลองดูรูปนะคะว่าคนในรูปเหลือตัวกะจิดริดขนาดไหน!
ด้วยความสูงรวมฐานแล้วสูงถึง 120 เมตร ถ้าใครยังนึกไม่ออก ให้ลองนึกถึงหุ่นจำลองกันดั้มที่โอไดดูบะนะคะ
... แล้วคิดว่าพระพุทธรูปนี้สูงใหญ่กว่านั้นถึงประมาณ 6.7 เท่าเลยล่ะค่ะ!
ความใหญ่อลังการของที่นี่อีกอย่างคือ ถ้าในวันอากาศดี เราสามารถมองเห็นพระพุทธรูปได้จากโตเกียวสกายทรีด้วย!
ภายในองค์พระยังมีห้องที่ใช้ฟังธรรม คัดลอกพระธรรม และมีพระพุทธรูปอีกมากมายเรียงรายกัน
แถมยังมีจุดชมวิวอยู่ที่ความสูง 85 เมตรอีกด้วย
ส่วนภายนอกรอบๆ ยังเป็นสวนที่มีต้นซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ และมีสวนสัตว์เล็กๆ ให้เราได้ชมความน่ารักของกระต่าย กระรอก หนูแกสบี้ และอื่นๆ
การเดินทางเองก็ไม่ได้ลำบากมากนัก เพราะอยู่ในจังหวัดอิบารากิที่ใกล้ๆ โตเกียวเลย จะเดินทางไปกลับ one day trip ก็ยังไหว
ข้อมูลทั่วไป
ที่อยู่ : 2083 Kuno, Ushiku, Ibaraki
เวลาทำการ :
เดือนมีนาคม - กันยายน วันธรรมดาเวลา 9:30- 17:00 และวันหยุด 9:30 - 17:30
เดือนตุลาคม - กุมภาพันธ์ ทุกวันเวลา 9:30- 16:30
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าสักการะ ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 4 ขวบ - ประถม 400 เยน เด็กเล็ก 3 ขวบลงไปฟรี
สถานที่ที่ใกล้ที่สุด : สถานีอุชิคุ (Ushiku) สาย JR Joban Line
การเดินทาง : จากสถานี Ushiku นั่งรถบัสของ Kanto Bus ไปลงป้าย Ushiku Daibutsu (ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที) Google Map
Offcial Website : https://daibutu.net/index.html
7. เจ้าแม่กวนอิมแห่งความรัก วัดจิเกงอิน (Jigen-in) ในกุนมะ (Gunma)
ขยับออกจากโตเกียวอีกนิด ไปที่จังหวัดกุนมะกันค่ะ
ที่นี่มีเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่อีกที่หนึ่ง แต่ไม่ได้มีดีแค่ใหญ่เท่านั้น เพราะที่นี่ถือว่าเป็นเจ้าแม่กวนอิมแห่งความรักเลยก็ว่าได้!
เจ้าแม่กวนอิมแห่งวัดจิเกงอิน (Jigen-in) ในกุนมะนั้นมีชื่อเรียกกันว่า ทาคาซากิเบียะคุเอะไดคันนง (Takasaki Byakue Daikannon) หรือเจ้าแม่กวนอิมใหญ่อาภรณ์ขาวแห่งทาคาซากิ
มีความสูงชวนตะลึงถึง 41.8 เมตร ก่อสร้างเสร็จในปี 1936
ที่บอกว่าเจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้เป็นเจ้าแม่กวนอิมแห่งความรัก ก็เพราะทุกๆ ปีทางเมืองทาคาซากิจะจัดงานเทศกาลวาเลนไทน์เป็นเวลา 1 เดือนจนถึงวันไวท์เดย์ (14 มีนาคม) โดยผูกด้ายแดงตามความเชื่อเนื้อคู่สไตล์ญี่ปุ่นจากนิ้วก้อยขององค์เจ้าแม่กวนอิม ลากยาวมากว่า 30 เมตรลงมาถึงพื้น เพื่อให้ผู้มาสักการะได้เอาด้ายแดงนั้นผูกกับนิ้วก้อยตัวเองแล้วอธิษฐาน
อันที่จริง "ด้ายแดง" ของญี่ปุ่นยังหมายถึงเนื้อคู่และความสัมพันธ์ด้วย
นอกจากจะขอพรเรื่องความรักแล้ว ยังสามารถขอพรในเรื่องความสัมพันธ์กับผู้อื่น หรือการติดต่องานได้เช่นกัน
รอบข้างที่นี่ยังมีสวนต่างๆ คาเฟ่ ให้ได้แวะ
แถมในองค์เจ้าแม่เองก็สามารถเข้าชมพระพุทธรูปต่างๆ มากมายกว่า 20 องค์ ด้วยความสูงประมาณตึก 9 ชั้น (ไม่มีลิฟท์)
ขอบอกว่าเป็นอีกวัดนึงที่น่ามาไหว้พระมากๆ เลยล่ะค่ะ
ข้อมูลทั่วไป
ที่อยู่ : 2710-1 Ishihara, Takasaki, Gunma
เวลาทำการ : เวลาเข้าชมภายในองค์พระ
เดือนมีนาคม - ตุลาคม เวลา 9:00- 17:00
เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ เวลา 9:00- 16:30
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าสักการะ ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กมัธยมต้นลงไป 100 เยน
สถานที่ที่ใกล้ที่สุด : สถานีทาคาซากิ (Takasaki) สาย JR
การเดินทาง : จากสถานี Takasaku นั่งรถบัสรอบเมือง Gururun สาย Kannonyama ไปลงป้าย Byakue Kannon Mae (ใช้เวลาประมาณ 25 นาที) Google Map
Offcial Website : https://takasakikannon.or.jp/
8. พระใหญ่ในร่มอันเก่าแก่ วัดโทไดจิ (Todaiji) ในนาระ (Nara)
พระใหญ่อีกแห่งที่ชื่อดังอยู่แล้ว แต่จะไม่พูดถึงก็คงเหมือนขาดอะไรไป กับพระใหญ่แห่งเมืองนารา
นอกจากความใหญ่ถึง 14.7 เมตรแล้ว ยังเก่าแก่มาก เพราะเริ่มสร้างในช่วงปี ค.ศ. 740 และแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 752 หรือมีอายุมากกว่าพันปีแล้ว! และยังได้รับการบันทึกเป็นสัมบัติชาติตั้งแต่ปี 1958 อีกด้วย
รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของ "อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาระโบราณ" ที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลกของ UNESCO ไปเรียบร้อยแล้ว
แม้คนไทยจะคุ้นเคยกับพระพุทธรูปนี้ดี แต่จะขอเล่าว่า จริงๆ แล้วพระพุทธรูปนี้ไม่ใช่รูปหล่อของพระพุทธเจ้าสิทธัตถะที่คนไทยรู้จักกันค่ะ
แต่นี่คือ "พระไวโรจนพุทธะ" ซึ่งศาสนาพุทธนิกายมหายานบางสายเชื่อกันว่าเป็น "พระพุทธเจ้าองค์แรก" ของจักรวาลเลยทีเดียว
ในอาคารเดียวกันจะมีเสาที่มีรูให้ลอดอยู่ เขาว่ากันว่ารูนี้มีขนาดเท่ารูจมูกขององค์พระพอดี ถ้าใครลอดผ่านจะ "สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย"
เวลาไปเที่ยวเชื่อว่าคงเห็นคนต่อแถวล้อมรอบเสากันอยู่เลยล่ะค่ะ
ด้วยความนิยมขนาดนี้ เขาเลยต้องติดป้ายว่า ถ้าจะถ่ายรูปที่ระลึก ให้ถ่ายได้คนละรูปเท่านั้น
แถมทำเลที่ตั้งถือว่าดีสุดๆ สำหรับนักท่องเที่ยว เพราะรอบๆ ล้วนแล้วแต่เป็นจุดเช็คอินยอดนิยม โดยเฉพาะสำหรับสายชอบประวัติศาสตร์หรือศาสนา
และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ... สวนสาธารณะนาราที่เต็มไปด้วยน้องกวาง!
9. เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่แห่งเซนได วัดไดกันมิตสึจิ (Daikanmitsu-ji) ในมิยางิ (Miyagi)
ห่างจากสถานีเซนไดไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ แม้แต่คนญี่ปุ่นเองถ้าไม่เคยมาแถวนี้มาก่อน จะต้องตกใจกับเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่โตทีปรากฏร่างขึ้น!
เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้มีชื่อเรียกกันว่า "เซนไดไดคันนง" (เจ้าแม่กวนอิมใหญ่แห่งเซนได)
มีความสูงถึง 100 เมตร เพื่อฉลองในโอกาสที่เมืองเซนไดครบรอบ 100 ปี
และมีชั้นใต้ดินลงไปอีก 21 เมตร สื่อถึงการเอาชัยเพื่อความรุ่งโรจน์ของศตวรรษที่ 21 ค่ะ
ด้วยความสูงขนาดนี้จึงสามารถเห็นได้จากตึกสูงรอบสถานีเซนไดอีกด้วยนะ
ภายในขององค์เจ้าแม่ก็สามารถเข้าชมได้เช่นกัน โดยมีลิฟท์บริการภายในแสนสะดวก
ภายในทั้งหมด 12 ชั้นมีทั้งจุดชมวิว พระพุทธรูปญี่ปุ่นหลากหลายปาง รวมถึงเจ้าแม่กวนอิม 33 ปางที่น่าเลื่อมใสเป็นอย่างมาก
ในบริเวณวัดยังมีศาลเจ้า "อาบุระคาเคะ ไดโคคุเทน" (Aburakake Daikokuten) ที่บูชาเทพเจ้าไดโคคุเทน หนึ่งใน 7 เทพโชคลาภ
แต่มีวิธีการไหว้ที่แปลกกว่าที่อื่น คือให้เอาน้ำมันรดลงไป
โดยมีตำนานเล่ากันว่ามีพ่อค้าน้ำมันที่ขยันขันแข็ง เมื่อค้าขายได้จะซื้อมันจูมาไหว้เทพที่นี่เสมอ
แต่วันนึงที่พ่อค้าขายไม่ได้เลย จนไม่มีเงินแม้แต่ซื้อขนมมาไหว้ จึงได้ขอโทษต่อเทพไดโคคุเทน และขอราดน้ำมันลงไปแทน
นับแต่นั้นมากิจการของพ่อค้าก็ขายดิบขายดี เจริญรุ่งเรือง จึงเชื่อกันว่าเป็นเพราะเทพไดโคคุเทนนี่เองล่ะค่ะ
แม้อายุของที่นี่อาจจะไม่เก่าแก่ แค่สร้างเสร็จในปี 1990 เท่านั้น
แต่ใครสนใจไหว้เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่เป็นสิริมงคล แถมยังมีเทพเจ้าให้ไหว้เพื่อให้ทำมาค้าขึ้น ห้ามพลาดมาที่นี่เลยนะ!
ข้อมูลทั่วไป
ที่อยู่ : 31-16 Nakayama Minami, Sanezawa, Izumi, Sendai, Miyagi
เวลาทำการ : เวลาเข้าชมภายในองค์พระ
เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม เวลา 10:00- 16:00
เดือนพฤศจิกายน - เมษายน เวลา 10:00- 15:30
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าสักการะภายในองค์พระ เด็กมัธยมปลายขึ้นไป 500 เยน
สถานที่ที่ใกล้ที่สุด : สถานีเซนได (Sendai) สาย JR หรือสถานีคุนิมิ (Kunimi) สาย JR Sendai
การเดินทาง :
จากสถานี Sendai นั่งรถบัสสาย 815, 825 หรือ X910 ไปลงป้าย Sendai Daikannon Mae Google Map
จากสถานี Kunimi นั่ง Taxi ประมาณ 10 นาที
Offcial Website : http://www.daikannon.com/index.html
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
10. พระนอนสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่วัดนันโซอิน (Nanzou-in) ในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
ภาพจาก : ชมพระนอนยาว 41 เมตร สูง 11 เมตรที่ “วัดนันโซอิน” ในฟุกุโอกะ
เปลี่ยนบรรยากาศนิดกับสถานที่แนะนำสุดท้าย เพราะเราจะขอแนะนำ "พระนอน" หรือ "พระพุทธรูปปางปรินิพพาน" กันค่ะ
ใครไปเที่ยวทางใต้ๆ ของญี่ปุ่นแถวฟุกุโอกะ เราขอแนะนำให้หาเวลาแวะไปสักการะ พระนอนสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่วัดนันโซอิน (Nanzou-in) กันค่ะ
องค์พระที่นี่มีความยาวถึง 41 เมตร ซึ่งอาจจะถือว่าไม่ได้ใหญ่อะไรขนาดนั้นสำหรับคนไทย เพราะเราก็มีพระนอนที่ใหญ่มากเช่นกัน
แต่ที่นี่เป็นพระนอนที่หล่อจากสัมฤทธิ์ที่กล่าวกันว่าใหญ่ที่สุดค่ะ
ที่น่าสนใจอยากชี้ชวนมาดูก็คือ พระนอนนี่เราจะสามารถเห็นฝ่าเท้าหรือพุทธบาทของพระพุทธเจ้าได้
ซึ่งลักษณะ ลวดลายที่วาดไว้มีความแตกต่างจากของไทย เพราะญี่ปุ่นเป็นศาสนาพุทธคนละแบบ คนละนิกายกับเราค่ะ
ถือว่าได้มาดูความรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ของศาสนาพุทธที่กระจายไปทั่วโลกเลยนะ
ส่วนวิธีการขอพรที่นี่ก็แปลกเหมือนกัน เพราะจะมีเชือก 5 สีผูกจากมือของพระให้เราจับเอาไว้แล้วอธิษฐานค่ะ
ภายในสามารถเข้าไปชมได้ด้วยค่าเข้าชม 500 เยน
ที่อดจะกระซิบให้ฟังไม่ได้คือในบริเวณเดียวกันมีโบถส์ที่บูชาพระไดโคคุเทนอยู่
ซึ่งพระไดโคคุเทนที่เป็นหนึ่งในเทพเจ้าโชคลาภของที่นี่ เขาว่าศักดิ์สิทธิ์นักค่ะ!
เพราะเคยมีคนไหว้แล้วถูกลอตเตอรี่มูลค่า 130 ล้านเยน (ประมาณ 40 ล้านบาท) มาแล้ว!
ใครมาที่นี่ ไหว้พระเสร็จ ต้องแวะมาขอพรให้เฮงๆ กันเลยนะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ไปไหว้พระที่ญี่ปุ่นกันนะ!
จริงๆ แล้วในญี่ปุ่นยังมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่น่าไปนมัสการอีกมาก
แต่ในครั้งนี้เราขอคัดเลือกเฉพาะสถานที่เด่นๆ โดยเฉพาะที่เดินทางสะดวก ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวของคนไทยมาก่อน
หากใครมีแพลนเที่ยวแถวจังหวัดไหน ก็น่าลองเลือกวัดใส่ลงไปในแผน เพื่อจะได้ไปไหว้พระและประทับใจกับความใหญ่โตอันดูมีมนต์ขลังของพระพุทธรูปขนาดใหญ่เหล่านี้ดูนะคะ
แน่นอนว่า อย่าลืมไหว้ขอพรให้ได้กลับมาเที่ยวญี่ปุ่นอีกด้วยล่ะ!
สาวชาวบางกอกที่มาหลงอยู่ในโตเกียวมาแล้วหลายปี แต่ยังแพ้รถไฟในเวลา Rush Hour ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยว ชิมของอร่อย เที่ยวติ่งตามรอย
ชอบบรรยากาศของศาลเจ้าเป็นพิเศษ สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥
เจอแมวเป็นไม่ได้ ต้องทักทายเหมียวๆ ใส่ประจำ
มีประสบการณ์แปลมากกว่า 10 ปี (เราจะไม่พูดเรื่องอายุ ...) ชอบงานขีดๆ เขียนๆ เลยมาเป็นบรรณาธิการเว็บไซต์
Facebook / Twitter ส่วนตัวที่เขียนเกี่ยวกับญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก ปัจจุบัน (12/2019) มีผู้ติดตามอย่างละราวๆ 40,000 คน ก็เรียกว่าเป็นบล๊อกเกอร์ตัวจ้อยๆ ได้ ... ล่ะมั้ง?
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง