Start planning your trip
พระใหญ่ญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่คามาคุระ หรือนารา ขอแนะนำ 10 พระใหญ่หรือที่เรียกกันว่า "ไดบุตสึ" และเจ้าแม่กวนอิมขนาดยักษ์ โดยเลือกจากที่เดินทางง่าย ไปสะดวก เที่ยวสนุกแล้วยังได้สิริมงคลด้วยนะ!
เป้าหมายในการมาเที่ยวญี่ปุ่นของหลายคนคงเป็นการเที่ยวชมวัดหรือศาลเจ้า
และแน่นอนว่าจุดหมายยอดนิยมในนั้นก็หนีไม่พ้น "พระใหญ่" หรือพระพุทธรูปขนาดใหญ่โตมโหฬารที่สร้างมาจากความศรัทธาจนทำให้เราสัมผัสได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์
คราวนี้ขอเอาใจแฟนๆ นักเที่ยวสายไหว้พระเสริมสิริมงคล ด้วยการแนะนำ 10 วัดที่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐาน ให้เลือกใส่ลงในแพลนเที่ยวกันตามสะดวกเลย!
10 วัดที่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่
1. ใครๆ ก็รู้จัก หลวงพ่อโตวัดโคโตคุอิน (Kotoku-in) ในคามาคุระ (Kamakura)
2. โตเกียวมีทุกสิ่ง! พระใหญ่วัดโจเรนจิ (Jorenji) ในโตเกียว (Tokyo)
3. เจ้าแม่กวนอิมที่มีตำนานเมือง วัดโอฟุนะคันนงจิ (Ofuna Kannon-ji) ในคานากาว่า (Kanagawa)
4. เจ้าแม่กวนอิมริมอ่าวโตเกียว โตเกียววังคันนง (Tokyowan Kannon) ในชิบะ (Chiba)
5. ใหญ่ทั้งพระพุทธรูปและเจ้าแม่กวนอิม วัดนิฮงจิ เขาโนโคกิริ (Nokogiri Nihonji) ในชิบะ (Chiba)
6. พระพุทธรูปใหญ่อันดับสามของโลก พระใหญ่อุชิคุ (Ushiku Daibutsu) ในอิบารากิ (Ibaraki)
7. เจ้าแม่กวนอิมแห่งความรัก วัดจิเกงอิน (Jigen-in) ในกุนมะ (Gunma)
8. พระใหญ่ในร่มอันเก่าแก่ วัดโทไดจิ (Todaiji) ในนาระ (Nara)
9. เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่แห่งเซนได วัดไดกันมิตสึจิ (Daikanmitsu-ji) ในมิยางิ (Miyagi)
10. พระนอนสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่วัดนันโซอิน (Nanzou-in) ในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
Photo by Pixta
ประเดิมด้วยหลวงพ่อโตที่ใครๆ ก็รู้จักกันอย่างหลวงพ่อโตวัดโคโตคุอินในคามาคุระ
จุดเด่นของที่นี่ก็คือเดินทางจากโตเกียวได้สะดวกมากๆ โดยใช้เวลาแค่ประมาณชั่วโมงเศษๆ
แถมมีที่เที่ยวรอบข้างอีกมากมาย ทำให้จัด one day trip จากโตเกียวได้เลย
ตัวองค์พระหลวงพ่อโตสูง 13.35 เมตร (รวมฐาน) เชื่อกันว่าเริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1252
เขาถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะมีเรื่องเล่าขานกันว่าพื้นที่แห่งนี้เคยประสบภัยจากพายุ จนแม้แต่ตัวอาคารวัดยังเสียหายไปจนหมด
แต่ตัวพระพุทธรูปกลับยังปลอดภัยดี เพียงแค่ซ่อมแซมนิดหน่อยเท่านั้น
แถมที่นี่ยังมีความสำคัญทางจิตใจสำหรับคนไทย เพราะมี "ต้นสนสามรัชกาล" ที่พระราชทานจากพระเจ้าอยู่หัวของชาวไทยอีกด้วย
ภายในตัวพระพุทธรูปนั้นสามารถเข้าไปชมวิธีการก่อสร้างและเป็นศิริมงคลได้ในราคาเพียงแค่ 20 เยน จึงขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดเลยจ้า
Photo by Pixta
โตเกียวมีทุกสิ่งให้ช้อป และมีทุกอย่างให้เที่ยว!
แต่หลายครั้งเราก็ลืมไปว่า ในเมืองใหญ่แบบนี้ยังมีที่เที่ยวทางศาสนาที่จะช่วยให้จิตใจสงบอีกมากมาย
รวมไปถึงมีพระใหญ่ให้เราสักการะกันด้วยค่ะ
วัดโจเรนจิเป็นวัดกลางเมืองโตเกียวที่หล่อพระใหญ่ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคนโตเกียวในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากท่ามกลางภัยพิบัติและสงคราม
จึงรับประกันได้กับบรรยากาศที่จะช่วยให้เราสงบใจได้อย่างแน่นอนค่ะ
องค์พระเป็นโลหะสัมฤทธิ์หล่อสูงรวมฐานแล้วราว 13 เมตร
ถือเป็นพระใหญ่จากสัมฤทธิ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในญี่ปุ่นเลยทีเดียวค่ะ
มาที่เราขอแนะนำเป็นที่ที่สาม ไปดูรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมกันบ้างค่ะ กับ "เจ้าแม่กวนอิมแห่งโอฟุนะ" หรือ "โอฟุนะคันนง" ในคานากาว่า จังหวัดที่อยู่ติดๆ กับโตเกียวเลย
พอพูดถึงคานากาว่า คนก็จะแห่ไปสักการะหลวงพ่อโตแห่งคามาคุระกันไปเสียหมด
แต่ที่สถานีโอฟุนะ (Ofuna) หนึ่งในสถานีต่อรถใหญ่ของย่านนี้ ก็มีเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ที่ต้องตะลึงเพราะเห็นได้จากสถานีเลยล่ะค่ะ
เจ้าแม่กวนอิมนี้ประดิษฐานอยู่ในวัดชื่อเดียวกัน คือ วัดโอฟุนะคันนงจิ (Ofuna Kannon-ji)
วัดแห่งนี้อายุอาจจะยังไม่มาก เพราะก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1981 เท่านั้น
แต่เป็นวัดที่รวมความศรัทธาจากผู้คนที่รวมกันเพื่อสร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมมาปลอบประโลมดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตจากภัยสงครามและระเบิดปรมาณู
ตัวองค์เจ้าแม่กวนอิมมีความสูง 25 เมตร แต่มีความแปลกตรงที่ ...
รูปปั้นมีแค่ครึ่งองค์ เท่าที่เห็นในรูปเลยค่ะ!!
จึงทำให้มีตำนานเมืองลือกันว่า ใต้ดินอาจจะมีส่วนของรูปปั้นลึกลงไปอีกก็ได้!!
... ซึ่งก็ไม่ได้เป็นความจริงแต่ประการใด
เพราะสาเหตุที่เจ้าแม่กวนอิมมีแค่ครึ่งองค์นั้น เป็นเพราะพื้นดินในจุดนี้มีความอ่อนนุ่มจนกลัวกันว่าอาจจะไม่สามารถรับน้ำหนักเจ้าแม่ทั้งองค์ได้
แต่ความศรัทธาที่จะสร้างพระพุทธรูปก็ไม่ได้ลดน้อยไป จึงได้ทำการสร้างรูปปั้นแค่ครึ่งองค์แทนค่ะ
ถือเป็นพระพุทธรูปที่แปลก แต่เต็มไปด้วยพลังและแรงศรัทธาโดยแท้จริง
ข้อมูลทั่วไป
ที่อยู่ : 1-5-3 Okamoto, Kamakura, Kangawaga
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าสักการะ ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กมัธยมต้นลงไป 100 เยน เด็กอ่อนฟรี
สถานที่ที่ใกล้ที่สุด : สถานีโอฟุนะ (Ofuna) สาย JR
การเดินทาง : เดินจากสถานี Ofuna ประมาณ 5 นาที Google Map
Offcial Website : http://www.oofuna-kannon.or.jp/index.html
มาชมรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสวยๆ และศักดิ์สิทธิ์กันต่อที่ริมอ่าวโตเกียวกันค่ะ
เดินทางออกจากโตเกียวหน่อย มายังจังหวัดข้างๆ ของโตเกียวที่ชิบะกัน
เจ้าแม่กวนอิมที่นี่ชื่อว่า "โตเกียววังคันนง" แปลตามตัวก็คือ "เจ้าแม่กวนอิมริมอ่าวโตเกียว" ค่ะ
ดูจากรูปก็คงพอเห็นแล้วว่าขนาดใหญ่เอามากๆ! เพราะรูปเคารพนี้มีความสูงถึง 56 เมตรเลยทีเดียว!
รูปปั้นนี้สร้างขึ้นในปี 1961 เพื่ออธิษฐานให้โลกสงบสุข
นอกจากรูปปั้นสีขาวบริสุทธิ์ที่มีสีหน้าผ่องแผ้วแล้ว ภายในยังสามารถเข้าไปชมได้ ซึ่งมีทั้งห้องสวดมนต์และประดิษฐานพระพุทธรูปอีกมากมายสูงถึง 20 ชั้น
แต่ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม จนถึงปลายเดือนธันวาคม ปี 2018
รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมนี้จะมีการตั้งร้านทำความสะอาดโดยรอบ
แม้จะยังเปิดให้ไปชมกันได้โดยลดค่าเข้าสักการะ แต่จะไม่สามารถเข้าไปชื่นชมภายในได้ค่ะ
หากใครอยากจะมาจัดเต็ม อาจจะต้องมาในปี 2019 แทน
ข้อมูลทั่วไป
ที่อยู่ : 1588 Kokubo, Futtsu, Chiba
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าสักการะ ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็กมัธยม 400 เยน เด็กเล็ก (5 ขวบ - ประถม) 300 เยน
สถานที่ที่ใกล้ที่สุด : สถานีซานุกิมาจิ (Sanukimachi) สาย JR Uchibo
การเดินทาง : จากสถานี Sanukimachi นั่งรถบัสไปลงป้าย Kannon Shita (ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร) Google Map
Offcial Website : http://www.t-kannon.jp/index.html
ภาพจาก : 5 แหล่งถ่ายรูปวิวสุดสวยลงโซเชียล แบบไปเช้า-เย็นกลับจากโตเกียว & สนามบินนาริตะ!
แนะนำจุดเด็ดอีกจุดในจังหวัดชิบะค่ะ ที่นี่มีดีมากตรงที่มีทั้งพระใหญ่และเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่เลย
เรียกได้ว่าใครอยากไหว้พระ ไม่น่าพลาดเลยล่ะ!
ที่นี่คือวัดนิฮงจิ (Nihonji) ในเขาโนโคกิริ (Nokogiri) ที่จังหวัดชิบะค่ะ
วัดนี้เป็นอีกหนึ่งวัดที่เก่าแก่ของญี่ปุ่น โดยก่อตั้งมานานกว่า 1,300 ปีแล้วด้วยรับสั่งของพระจักรพรรดิ์ในสมัยนั้น
พระประธานของที่นี่เป็นพระพุทธรูปหินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น สูงกว่า 31 เมตร
เป็นพระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุ “ยาคุชิรุริโคเนียวไร” ที่เชื่อกันว่าให้คุณเรื่องการรักษาบาดแผลของนักรบ
ทำให้มีซามูไร โชกุนหลายท่านในอดีตแวะมาสักการะหลังสงครามค่ะ
นอกจากพระประธานแล้ว บริเวณโดยรอบยังมีพระพุทธรูปใหญ่น้อยอีกมากมาย
ที่โดดเด่นมากอีกจุดคือรูปสลักเจ้าแม่กวนอิม "เฮียคุชาคุคันนง" โดยเป็นการสลักลงบนหน้าผา มีความสูงกว่า 30 เมตร
แถมยังมีจุดถ่ายรูปสุดหวาดเสียวตรงหน้าผาในชื่อ จิโกกุโนโซกิ" แปลตรงตัวว่า "แอบมองนรก" อีกต่างหาก
เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวที่น่าสนใจ แถมยังได้ไหว้พระจนอิ่มบุญเลยล่ะค่ะ!
สถานที่ต่อไปนี้อยากจะเล่าออกเสียงดังๆ เลยค่ะ
เพราะเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น แถมยังเคยครองอันดับ 1 เป็นรูปปั้นสัมฤทธิ์ท่ายืนที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย!
(ปัจจุบันกลายเป็นอันดับ 3 ของโลก)
ใหญ่ขนาดไหน ลองดูรูปนะคะว่าคนในรูปเหลือตัวกะจิดริดขนาดไหน!
ด้วยความสูงรวมฐานแล้วสูงถึง 120 เมตร ถ้าใครยังนึกไม่ออก ให้ลองนึกถึงหุ่นจำลองกันดั้มที่โอไดดูบะนะคะ
... แล้วคิดว่าพระพุทธรูปนี้สูงใหญ่กว่านั้นถึงประมาณ 6.7 เท่าเลยล่ะค่ะ!
ความใหญ่อลังการของที่นี่อีกอย่างคือ ถ้าในวันอากาศดี เราสามารถมองเห็นพระพุทธรูปได้จากโตเกียวสกายทรีด้วย!
ภายในองค์พระยังมีห้องที่ใช้ฟังธรรม คัดลอกพระธรรม และมีพระพุทธรูปอีกมากมายเรียงรายกัน
แถมยังมีจุดชมวิวอยู่ที่ความสูง 85 เมตรอีกด้วย
ส่วนภายนอกรอบๆ ยังเป็นสวนที่มีต้นซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ และมีสวนสัตว์เล็กๆ ให้เราได้ชมความน่ารักของกระต่าย กระรอก หนูแกสบี้ และอื่นๆ
การเดินทางเองก็ไม่ได้ลำบากมากนัก เพราะอยู่ในจังหวัดอิบารากิที่ใกล้ๆ โตเกียวเลย จะเดินทางไปกลับ one day trip ก็ยังไหว
ข้อมูลทั่วไป
ที่อยู่ : 2083 Kuno, Ushiku, Ibaraki
เวลาทำการ :
เดือนมีนาคม - กันยายน วันธรรมดาเวลา 9:30- 17:00 และวันหยุด 9:30 - 17:30
เดือนตุลาคม - กุมภาพันธ์ ทุกวันเวลา 9:30- 16:30
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าสักการะ ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 4 ขวบ - ประถม 400 เยน เด็กเล็ก 3 ขวบลงไปฟรี
สถานที่ที่ใกล้ที่สุด : สถานีอุชิคุ (Ushiku) สาย JR Joban Line
การเดินทาง : จากสถานี Ushiku นั่งรถบัสของ Kanto Bus ไปลงป้าย Ushiku Daibutsu (ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที) Google Map
Offcial Website : https://daibutu.net/index.html
ขยับออกจากโตเกียวอีกนิด ไปที่จังหวัดกุนมะกันค่ะ
ที่นี่มีเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่อีกที่หนึ่ง แต่ไม่ได้มีดีแค่ใหญ่เท่านั้น เพราะที่นี่ถือว่าเป็นเจ้าแม่กวนอิมแห่งความรักเลยก็ว่าได้!
เจ้าแม่กวนอิมแห่งวัดจิเกงอิน (Jigen-in) ในกุนมะนั้นมีชื่อเรียกกันว่า ทาคาซากิเบียะคุเอะไดคันนง (Takasaki Byakue Daikannon) หรือเจ้าแม่กวนอิมใหญ่อาภรณ์ขาวแห่งทาคาซากิ
มีความสูงชวนตะลึงถึง 41.8 เมตร ก่อสร้างเสร็จในปี 1936
ที่บอกว่าเจ้าแม่กวนอิมแห่งนี้เป็นเจ้าแม่กวนอิมแห่งความรัก ก็เพราะทุกๆ ปีทางเมืองทาคาซากิจะจัดงานเทศกาลวาเลนไทน์เป็นเวลา 1 เดือนจนถึงวันไวท์เดย์ (14 มีนาคม) โดยผูกด้ายแดงตามความเชื่อเนื้อคู่สไตล์ญี่ปุ่นจากนิ้วก้อยขององค์เจ้าแม่กวนอิม ลากยาวมากว่า 30 เมตรลงมาถึงพื้น เพื่อให้ผู้มาสักการะได้เอาด้ายแดงนั้นผูกกับนิ้วก้อยตัวเองแล้วอธิษฐาน
อันที่จริง "ด้ายแดง" ของญี่ปุ่นยังหมายถึงเนื้อคู่และความสัมพันธ์ด้วย
นอกจากจะขอพรเรื่องความรักแล้ว ยังสามารถขอพรในเรื่องความสัมพันธ์กับผู้อื่น หรือการติดต่องานได้เช่นกัน
รอบข้างที่นี่ยังมีสวนต่างๆ คาเฟ่ ให้ได้แวะ
แถมในองค์เจ้าแม่เองก็สามารถเข้าชมพระพุทธรูปต่างๆ มากมายกว่า 20 องค์ ด้วยความสูงประมาณตึก 9 ชั้น (ไม่มีลิฟท์)
ขอบอกว่าเป็นอีกวัดนึงที่น่ามาไหว้พระมากๆ เลยล่ะค่ะ
ข้อมูลทั่วไป
ที่อยู่ : 2710-1 Ishihara, Takasaki, Gunma
เวลาทำการ : เวลาเข้าชมภายในองค์พระ
เดือนมีนาคม - ตุลาคม เวลา 9:00- 17:00
เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ เวลา 9:00- 16:30
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าสักการะ ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กมัธยมต้นลงไป 100 เยน
สถานที่ที่ใกล้ที่สุด : สถานีทาคาซากิ (Takasaki) สาย JR
การเดินทาง : จากสถานี Takasaku นั่งรถบัสรอบเมือง Gururun สาย Kannonyama ไปลงป้าย Byakue Kannon Mae (ใช้เวลาประมาณ 25 นาที) Google Map
Offcial Website : https://takasakikannon.or.jp/
พระใหญ่อีกแห่งที่ชื่อดังอยู่แล้ว แต่จะไม่พูดถึงก็คงเหมือนขาดอะไรไป กับพระใหญ่แห่งเมืองนารา
นอกจากความใหญ่ถึง 14.7 เมตรแล้ว ยังเก่าแก่มาก เพราะเริ่มสร้างในช่วงปี ค.ศ. 740 และแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 752 หรือมีอายุมากกว่าพันปีแล้ว! และยังได้รับการบันทึกเป็นสัมบัติชาติตั้งแต่ปี 1958 อีกด้วย
รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของ "อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาระโบราณ" ที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลกของ UNESCO ไปเรียบร้อยแล้ว
แม้คนไทยจะคุ้นเคยกับพระพุทธรูปนี้ดี แต่จะขอเล่าว่า จริงๆ แล้วพระพุทธรูปนี้ไม่ใช่รูปหล่อของพระพุทธเจ้าสิทธัตถะที่คนไทยรู้จักกันค่ะ
แต่นี่คือ "พระไวโรจนพุทธะ" ซึ่งศาสนาพุทธนิกายมหายานบางสายเชื่อกันว่าเป็น "พระพุทธเจ้าองค์แรก" ของจักรวาลเลยทีเดียว
ในอาคารเดียวกันจะมีเสาที่มีรูให้ลอดอยู่ เขาว่ากันว่ารูนี้มีขนาดเท่ารูจมูกขององค์พระพอดี ถ้าใครลอดผ่านจะ "สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย"
เวลาไปเที่ยวเชื่อว่าคงเห็นคนต่อแถวล้อมรอบเสากันอยู่เลยล่ะค่ะ
ด้วยความนิยมขนาดนี้ เขาเลยต้องติดป้ายว่า ถ้าจะถ่ายรูปที่ระลึก ให้ถ่ายได้คนละรูปเท่านั้น
แถมทำเลที่ตั้งถือว่าดีสุดๆ สำหรับนักท่องเที่ยว เพราะรอบๆ ล้วนแล้วแต่เป็นจุดเช็คอินยอดนิยม โดยเฉพาะสำหรับสายชอบประวัติศาสตร์หรือศาสนา
และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ... สวนสาธารณะนาราที่เต็มไปด้วยน้องกวาง!
ห่างจากสถานีเซนไดไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ แม้แต่คนญี่ปุ่นเองถ้าไม่เคยมาแถวนี้มาก่อน จะต้องตกใจกับเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่โตทีปรากฏร่างขึ้น!
เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้มีชื่อเรียกกันว่า "เซนไดไดคันนง" (เจ้าแม่กวนอิมใหญ่แห่งเซนได)
มีความสูงถึง 100 เมตร เพื่อฉลองในโอกาสที่เมืองเซนไดครบรอบ 100 ปี
และมีชั้นใต้ดินลงไปอีก 21 เมตร สื่อถึงการเอาชัยเพื่อความรุ่งโรจน์ของศตวรรษที่ 21 ค่ะ
ด้วยความสูงขนาดนี้จึงสามารถเห็นได้จากตึกสูงรอบสถานีเซนไดอีกด้วยนะ
ภายในขององค์เจ้าแม่ก็สามารถเข้าชมได้เช่นกัน โดยมีลิฟท์บริการภายในแสนสะดวก
ภายในทั้งหมด 12 ชั้นมีทั้งจุดชมวิว พระพุทธรูปญี่ปุ่นหลากหลายปาง รวมถึงเจ้าแม่กวนอิม 33 ปางที่น่าเลื่อมใสเป็นอย่างมาก
ในบริเวณวัดยังมีศาลเจ้า "อาบุระคาเคะ ไดโคคุเทน" (Aburakake Daikokuten) ที่บูชาเทพเจ้าไดโคคุเทน หนึ่งใน 7 เทพโชคลาภ
แต่มีวิธีการไหว้ที่แปลกกว่าที่อื่น คือให้เอาน้ำมันรดลงไป
โดยมีตำนานเล่ากันว่ามีพ่อค้าน้ำมันที่ขยันขันแข็ง เมื่อค้าขายได้จะซื้อมันจูมาไหว้เทพที่นี่เสมอ
แต่วันนึงที่พ่อค้าขายไม่ได้เลย จนไม่มีเงินแม้แต่ซื้อขนมมาไหว้ จึงได้ขอโทษต่อเทพไดโคคุเทน และขอราดน้ำมันลงไปแทน
นับแต่นั้นมากิจการของพ่อค้าก็ขายดิบขายดี เจริญรุ่งเรือง จึงเชื่อกันว่าเป็นเพราะเทพไดโคคุเทนนี่เองล่ะค่ะ
แม้อายุของที่นี่อาจจะไม่เก่าแก่ แค่สร้างเสร็จในปี 1990 เท่านั้น
แต่ใครสนใจไหว้เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่เป็นสิริมงคล แถมยังมีเทพเจ้าให้ไหว้เพื่อให้ทำมาค้าขึ้น ห้ามพลาดมาที่นี่เลยนะ!
ข้อมูลทั่วไป
ที่อยู่ : 31-16 Nakayama Minami, Sanezawa, Izumi, Sendai, Miyagi
เวลาทำการ : เวลาเข้าชมภายในองค์พระ
เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม เวลา 10:00- 16:00
เดือนพฤศจิกายน - เมษายน เวลา 10:00- 15:30
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าสักการะภายในองค์พระ เด็กมัธยมปลายขึ้นไป 500 เยน
สถานที่ที่ใกล้ที่สุด : สถานีเซนได (Sendai) สาย JR หรือสถานีคุนิมิ (Kunimi) สาย JR Sendai
การเดินทาง :
จากสถานี Sendai นั่งรถบัสสาย 815, 825 หรือ X910 ไปลงป้าย Sendai Daikannon Mae Google Map
จากสถานี Kunimi นั่ง Taxi ประมาณ 10 นาที
Offcial Website : http://www.daikannon.com/index.html
ภาพจาก : ชมพระนอนยาว 41 เมตร สูง 11 เมตรที่ “วัดนันโซอิน” ในฟุกุโอกะ
เปลี่ยนบรรยากาศนิดกับสถานที่แนะนำสุดท้าย เพราะเราจะขอแนะนำ "พระนอน" หรือ "พระพุทธรูปปางปรินิพพาน" กันค่ะ
ใครไปเที่ยวทางใต้ๆ ของญี่ปุ่นแถวฟุกุโอกะ เราขอแนะนำให้หาเวลาแวะไปสักการะ พระนอนสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่วัดนันโซอิน (Nanzou-in) กันค่ะ
องค์พระที่นี่มีความยาวถึง 41 เมตร ซึ่งอาจจะถือว่าไม่ได้ใหญ่อะไรขนาดนั้นสำหรับคนไทย เพราะเราก็มีพระนอนที่ใหญ่มากเช่นกัน
แต่ที่นี่เป็นพระนอนที่หล่อจากสัมฤทธิ์ที่กล่าวกันว่าใหญ่ที่สุดค่ะ
ที่น่าสนใจอยากชี้ชวนมาดูก็คือ พระนอนนี่เราจะสามารถเห็นฝ่าเท้าหรือพุทธบาทของพระพุทธเจ้าได้
ซึ่งลักษณะ ลวดลายที่วาดไว้มีความแตกต่างจากของไทย เพราะญี่ปุ่นเป็นศาสนาพุทธคนละแบบ คนละนิกายกับเราค่ะ
ถือว่าได้มาดูความรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ของศาสนาพุทธที่กระจายไปทั่วโลกเลยนะ
ส่วนวิธีการขอพรที่นี่ก็แปลกเหมือนกัน เพราะจะมีเชือก 5 สีผูกจากมือของพระให้เราจับเอาไว้แล้วอธิษฐานค่ะ
ภายในสามารถเข้าไปชมได้ด้วยค่าเข้าชม 500 เยน
ที่อดจะกระซิบให้ฟังไม่ได้คือในบริเวณเดียวกันมีโบถส์ที่บูชาพระไดโคคุเทนอยู่
ซึ่งพระไดโคคุเทนที่เป็นหนึ่งในเทพเจ้าโชคลาภของที่นี่ เขาว่าศักดิ์สิทธิ์นักค่ะ!
เพราะเคยมีคนไหว้แล้วถูกลอตเตอรี่มูลค่า 130 ล้านเยน (ประมาณ 40 ล้านบาท) มาแล้ว!
ใครมาที่นี่ ไหว้พระเสร็จ ต้องแวะมาขอพรให้เฮงๆ กันเลยนะ
จริงๆ แล้วในญี่ปุ่นยังมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่น่าไปนมัสการอีกมาก
แต่ในครั้งนี้เราขอคัดเลือกเฉพาะสถานที่เด่นๆ โดยเฉพาะที่เดินทางสะดวก ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวของคนไทยมาก่อน
หากใครมีแพลนเที่ยวแถวจังหวัดไหน ก็น่าลองเลือกวัดใส่ลงไปในแผน เพื่อจะได้ไปไหว้พระและประทับใจกับความใหญ่โตอันดูมีมนต์ขลังของพระพุทธรูปขนาดใหญ่เหล่านี้ดูนะคะ
แน่นอนว่า อย่าลืมไหว้ขอพรให้ได้กลับมาเที่ยวญี่ปุ่นอีกด้วยล่ะ!
สาวชาวบางกอกที่มาหลงอยู่ในโตเกียวมาแล้วหลายปี แต่ยังแพ้รถไฟในเวลา Rush Hour ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยว ชิมของอร่อย เที่ยวติ่งตามรอย
ชอบบรรยากาศของศาลเจ้าเป็นพิเศษ สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥
เจอแมวเป็นไม่ได้ ต้องทักทายเหมียวๆ ใส่ประจำ
มีประสบการณ์แปลมากกว่า 10 ปี (เราจะไม่พูดเรื่องอายุ ...) ชอบงานขีดๆ เขียนๆ เลยมาเป็นบรรณาธิการเว็บไซต์
Facebook / Twitter ส่วนตัวที่เขียนเกี่ยวกับญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก ปัจจุบัน (12/2019) มีผู้ติดตามอย่างละราวๆ 40,000 คน ก็เรียกว่าเป็นบล๊อกเกอร์ตัวจ้อยๆ ได้ ... ล่ะมั้ง?









