Start planning your trip
ตะลุยช้อปปิ้งในโตเกียวแบบโดนใจสาวๆ ครบวงจรในหนึ่งวันด้วยรถบัส!
แนะนำแพลนเที่ยวช้อปสนุกสำหรับสาวๆ โดยเฉพาะคนรัก Pop culture ฝั่งเอเชียตะวันออก แวะจิบชาเป็นคุณหนูกับพ่อบ้านสุดหล่อ ปิดท้ายด้วยจุดชมวิวที่จะทำให้เราได้ภาพห้าแยกชิบุย่าสุดสวยไม่เหมือนใคร! แถมทั้งทริปนี้ยังได้เดินทางโดย "รถบัส" แบบคนท้องถิ่นอีกต่างหากนะ!
ช้อปปิ้งแบบโดนใจสาวๆ หนึ่งวันในโตเกียวด้วยรถบัส!
สาวไหนมาโตเกียวก็ต้องอยากช้อปปิ้ง!
แต่ก็ใช่ว่าเป้าหมายในการเสียเงินของสาวๆ จะเหมือนกันเสมอไป
วันนี้เราเลยขอนำเสนอแพลนเที่ยวโตเกียวในหนึ่งวัน ที่จะไปแวะช้อปของที่สาวๆ ชอบครบทุกแนวในทริปเดียว! โดยเน้นเอาใจสาวๆ ที่ชื่นชอบ Pop culture ฝั่งเอเชียตะวันออก ทั้งสายวงการการ์ตูนญี่ปุ่น หรือสายคนรักอปป้าเกาหลี และไปหาซื้อของฝากอื่นๆ ด้วย
จะโดนใจจนหมดตัวขนาดไหน ไปดูกันเลยค่ะ!
10:00 สารพัดจุดช้อปปิ้งสำหรับสาวๆ ทุกสไตล์ที่อิเคะบุคุโระ (Ikebukuro)
วันนี้มาเริ่มกันที่ "อิเคะบุคุโระ" จุดช้อปปิ้งยอดนิยม! เพราะว่ามีสินค้ามากมายทุกสไตล์รอเพื่อนๆ อยู่ค่ะ ใครอยากช้อปเสื้อผ้า ยา เครื่องสำอางก็มีให้เลือกเยอะแยะ หรือใครเป็นสายหลงใหลการ์ตูนญี่ปุ่น แถวนี้ก็มีร้านให้เสียเงินเพียบ
ขอแนะนำให้เริ่มเที่ยวประมาณ 10 โมง เพราะร้านรวงส่วนใหญ่จะทยอยเปิดตั้งแต่เวลานี้ค่ะ ว่าแล้วก็ไปดูจุดน่าสนใจกันดีกว่า!
ครบทุกสิ่งที่ Sunshine City
ห้างสรรพสินค้า Sunshine City เป็นอาคารเดียวกับโรงแรม Sunshine City Prince Hotel ยอดนิยมของคนไทย
ในที่เดียว สาวๆ จะได้เจอสินค้าถูกใจเต็มไปหมด ทั้งเสื้อผ้าแบรนด์นอกและแบรนด์ญี่ปุ่น รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง เครื่องเขียน ของจุกจิก Disney Store
แถมยังมีร้านอาหาร ร้านขนม รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ท้องฟ้าจำลอง
สำหรับใครที่ชื่นชอบการ์ตูนก็ยังมีธีมปาร์คในธีมการ์ตูนอย่าง J-WORLD TOKYO
ส่วนธีมปาร์คน่ารักอย่างนัมจะทาวน์ (Namja Town) เองก็จัดกิจกรรมร่วมกับพวกการ์ตูนต่างๆ บ่อยอีกด้วย
เรียกว่ามาที่เดียว ยังไงก็เสียตังแน่นอน!
สินค้าการ์ตูนต้อง Animate
รูปล่างซ้ายและขวา : Picture courtesy of animate Ltd.
สำหรับใครเป็นสายติ่งการ์ตูนญี่ปุ่น ที่ห้ามพลาดร้าน Animate ขาใหญ่ของวงการนี้ซึ่งมีสาขาทั้งในและนอกประเทศ
แถวนี้มีทั้ง Animate สาขาใหญ่และอาคาร Annex
สาขาใหญ่อิเคะบุคุโระนี้ได้ช้อปกันจุใจแน่เพราะมีถึง 9 ชั้น! (ชั้น 9 เป็นฮอลล์จัดกิจกรรม)
สินค้าภายในร้านแบ่งแยกเป็นชั้นตามประเภท และมักมีตัวอย่างสินค้าที่จะออกใหม่มาวางให้ชมด้วย
เนื่องจากอิเคะบุคุโระเป็นโซนที่โอตาคุสาวๆ มารวมตัวกัน สินค้าของสาขานี้จึงเน้นสินค้าถูกใจสาวๆ นอกจากตัวการ์ตูนแล้ว ยังมีสินค้าของมาสคอตน่ารักๆ
ต้องบอกว่าเป็นร้านที่รู้ใจสาวๆ จริงๆ!
ถนนสายนี้สำหรับสาวๆ "โอโตเมะโร้ด" (Otome Road)
หากสาวติ่งคนไหนยังเสียเงินกับร้าน Animate ไม่พอ ต้องมาเดินโซนนี้เลย กับถนนสายสั้นๆ ตรงข้ามกับตึก Sunshine City
ถนนเส้นนี้มีร้านขายของสำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบวงการการ์ตูนของญี่ปุ่นหลายร้านตั้งเรียงกัน
มีสินค้าอะไรที่ซื้อไม่ทัน!? สินค้าแบบสุ่มที่ซื้อเองก็ไม่ได้ชิ้นที่อยากสักที!? หรือพวกหนังสือเฉพาะกลุ่มสำหรับสาวๆ มาลองเดินตามหาสินค้าเหล่านั้นกันได้เลย
เคล็ดลับ คือ ร้านพวกนี้เป็นร้านที่รับซื้อและขายต่อ สินค้าจึงมีราคาต่างกัน มีทั้งสินค้ามือหนึ่งและมือสอง จึงควรเดินเทียบแต่ละร้านเพื่อให้ได้ราคาและสภาพที่ถูกใจที่สุด
และสำหรับชาวคอสเพลย์ แถวนี้มีร้านขายอุปกรณ์ทั้งเสื้อผ้า วิกผม และคอนแทคเลนส์ด้วย
ที่อยู่
Sunshine 60 Mae Road, 3-1 Higashi Ikebukuro, Toshima, Tokyo
เวลาทำการ
แตกต่างไปตามร้าน
วันหยุด
แตกต่างไปตามร้าน
บริการwifi
ไม่ได้
ประเภทของบัตรเครดิต
ไม่ได้
ภาษาที่รับ
ภาษาญี่ปุ่น
สถานีใกล้ที่สุด
สถานีฮิงาชิอิเคะบุคุโระ (Higashi Ikebukuro) รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Yurakucho<br>
สถานีอิเคะบุคุโระ (Ikebukuro) สาย JR หรือรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Marunouchi และสาย Fukutoshin
วีธีการเดินทาง
จากสถานีฮิงาชิอิเคะบุคุโระ (Higashi Ikebukuro) เดิน 4 นาที<br>
จากสถานีอิเคะบุคุโระ (Ikebukuro) เดิน 7 นาที
11:30 จิบน้ำชาแบบคุณหนูกับพ่อบ้านที่ Swallowtail
Picture courtesy of Butler Cafe Swallowtail
มาเจอกับประสบการณ์ไม่เหมือนใครอย่าง "คาเฟ่พ่อบ้าน Swallowtail"
แม้แต่ใครที่เป็นคุณแจ๋วเวลาอยู่บ้าน แค่เปิดประตูเข้าไปในร้านนี้ เราจะได้พบกับพ่อบ้านสุดหล่อออกมาทักทาย ถือกระเป๋าให้ และเรียกเราว่า "คุณหนู"!
Butlers Cafe Swallowtail เป็นร้านที่เปิดขึ้นท่ามกลางกระแสของ "เมดคาเฟ่" เพื่อให้มีร้านสำหรับสาวๆ บ้าง
ที่นี่เลือกที่จะทำร้านให้เหมือนต้นตำรับมากที่สุด ในร้านจึงเป็นคฤหาสน์หรูหราที่เงียบสงบขนาดที่มีคุณหนูหลายคนมานั่งจิบน้ำชาอ่านหนังสือกันเลยล่ะที่นี่
เลือกที่จะทำร้านให้เหมือนต้นตำรับมากที่สุด ในร้านจึงเป็นคฤหาสน์หรูหราที่เงียบสงบขนาดที่มีคุณหนูหลายคนมานั่งจิบน้ำชาอ่านหนังสือกันเลยล่ะ
อาหารและน้ำชาของที่นี่อร่อยมาก มีทั้งอาหารว่างและอาหารเย็นตามเวลา
Anna Maria ในรูปคือเซ็ทของว่างในราคา 3,500 เยน เมนูจะสับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล และยังมีชาหลากหลายให้เลือก
ข้อควรระวังของร้านคือ ในร้านไม่อนุญาตให้หยิบโทรศัพท์มือถือ กล้องหรืออุปกรณ์อะไรที่มีกล้องออกมา
หากใครจำเป็นต้องใช้จริงๆ เช่น ใช้เพื่อแปลสื่อสารกับคุณพ่อบ้าน มีเรื่องฉุกเฉิน ให้กระซิบบอกพ่อบ้านประจำโต๊ะของเราก่อนนะคะ
และเมื่อเราเป็นคุณหนูแล้ว อยากเติมน้ำชา อยากไปเข้าห้องน้ำ ขอให้ "สั่นกระดิ่ง" เรียกพ่อบ้านของเรามาดูแลกัน
ใครอยากจะ "กลับคฤหาสน์" ของคุณหนู จะต้องทำการจองล่วงหน้าทางเว็บไซต์ (มีภาษาอังกฤษ) ค่ะ
สำหรับหนุ่มๆ ใครอยากมาลองก็เข้ามารับประสบการณ์ "คุณชาย" ในร้านได้เช่นกันนะ
จากนั้นเราเดินทางไปช้อปกันต่อ
วันนี้เราจะนั่งรถบัสไป โดยไปขึ้นรถที่ Bus Terminal ชั้น 1 ของ Sunshine City ฝั่งอาคาร Bunka Kaikan
ป้ายรถหมายเลข 16 อยู่สุดทางเลย เราจะขึ้นสายอิเคะ 86 (池86) กัน
รถของ Toei และจ่ายเงินเลยที่ด้านหน้า แต่เราจะซื้อฟรีพาสสำหรับรถบัส Toei Bus One-day Pass กันในราคา 500 เยน โดยแจ้งคนขับได้เลยค่ะ หลังจากนั้นวิธีใช้ก็แค่โชว์วันที่หลังบัตรให้คนขับดูตอนขึ้นรถก็พอ
นอกจากนี้จะมีตั๋ววันแบบที่ขึ้นรถไฟใต้ดินของ Toei รถราง Tokyo Sakura Tram (Toden Arakawa Line) และรถไฟสาย Nippori-Toneri Liner ได้ด้วย (Toei Marugoto Kippu) ราคา 700 เยน หากใครพักในเส้นทางที่รถไฟเหล่านี้ผ่าน จะซื้อก็คุ้ม!
รายละเอียดสามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้จากเว็ปไซต์อย่างเป็นทางการของ Toei
และใกล้ๆ กันนี้ยังมีสถานี Higashi-ikebukuro-yonchome ของรถราง Tokyo Sakura Tram (Toden Arakawa Line) อีกด้วย
ซึ่งรถรางนี้พึ่งได้รับชื่อเล่นว่า "Tokyo Sakura Tram" ในปี 2017 นี้เอง เนื่องจากมีจุดชมซากุระยอดนิยมตามเส้นทางเดินรถ
หากใครใช้บัตร Toei Marugoto Kippu ที่แนะนำไปข้างบน ก็สามารถนั่งรถรางสายนี้เที่ยวได้ด้วยนะ!
12:20 ไปย่านอปป้าที่ชินโอคุโบะ (Shin Okubo)
อาหาร เครื่องสำอาง และ K-pop! ที่ชินโอคุโบะ
นั่งรถประมาณ 20 นาที ลงที่ป้ายโอคุโบะโดริ (Okubo-Dori) เดินไปที่สี่แยก แล้วข้ามถนนไปทางขวา ให้แฟมิลี่มาร์ทอยู่ทางซ้ายมือแล้วเดินตรงไปตามถนนราว 10 นาที เราจะมาถึงโซนที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านเครื่องสำอางเกาหลีเรียงรายเต็มสองข้างทางไปจนถึงในซอย
ใครมีอะไรที่อยากได้ แต่หนีมาโผล่ถึงญี่ปุ่นแล้ว ก็แวะซื้อที่นี่กลับไปได้เลย
ที่สำคัญ! สำหรับผู้ที่มีอปป้าในดวงใจ แถวนี้ยังมีขายสินค้าหนุ่มๆ อุปกรณ์เชียร์ในคอนเสิร์ตอีกมากมาย บางอย่างก็หาได้แค่ในญี่ปุ่นเท่านั้นนะ เพราะศิลปินเกาหลีจำนวนไม่น้อยเลยที่มาตีตลาดจนมีสินค้าเฉพาะญี่ปุ่นค่ะ
13:30 เสริมดวงให้ถูกตั๋วที่ศาลเจ้าไคจูอินาริ (Kaichuu Inari Jinja)
เดินมาเรื่อยๆ จนผ่านสะพานที่เป็นทางรถไฟมานิดนึง ซ้ายมือเราจะเจอกับศาลเจ้าขนาดไม่ใหญ่เท่าไร
ศาลเจ้าไคจูอินาริแห่งนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1533 และถือว่าเป็นศาลเจ้าที่กำลังได้รับความสนใจจากแฟนๆ ของศิลปินต่างๆ เป็นอย่างมาก เพราะเขาลือกันว่าใครมาไหว้จะทำให้ "ถูกตั๋วของศิลปินที่ชอบ"!
เดิมทีชื่อของศาลเจ้านี้ก็มีความหมายถึง "สำเร็จในการเสี่ยงโชคทุกอย่าง" อยู่แล้วค่ะ จึงเป็นที่กราบไหว้ของเหล่าคนที่ต้องเสี่ยงโชคอย่างคนที่ชอบซื้อลอตเตอรี่ ขนาดที่ในศาลเจ้ามีเครื่องรางเป็น "ซองผ้าใส่ลอตเตอรี่เฮงๆ" เลย แผ่นป้ายขอพร "เอมะ" ของที่นี่ก็มีคนมาเขียนขอตั๋วกันเพียบทั้งคอนเสิร์ตหรืองาน meet & greet
เมื่อมาถึงแล้วก็เข้าไปล้างมือ และไหว้พระกันก่อนนะ จากนั้นจะมาเสี่ยงเซียมซี ซื้อเครื่องราง หรือเขียนเอมะกันบ้างก็ดี
เครื่องรางที่อยากแนะนำคือเครื่องรางรูปธนูราคา 500 เยน ซึ่งความหมายของชื่อและรูปร่างนี้ก็คือ "โดนเข้าเป้า" นั่นเองค่ะ
แต่อยากให้ระวังว่าเครื่องรางนั้นไม่ใช่ของขวัญหรือของฝาก จึงควรซื้อสำหรับผู้ที่มาไหว้มากกว่าจะซื้อจำนวนมากๆ กลับไปแจกคนอื่นนะคะ
14:20 มื้อกลางวันชีสยืดดดดที่เฮรัง (Heran)
ช้อปกันจนจุใจก็ต้องไปเติมพลังกัน!
เราจะกลับไปนั่งรถบัสป้ายเดิมค่ะ งั้นมาแวะทานอาหารกลางวันระหว่างทางกันดีกว่า
เดินประมาณ 5 นาทีจากศาลเจ้า เราจะเห็นป้ายของร้านเฮรัง (Heran) อยู่ฝั่งเดียวกับศาลเจ้าเลย ถ้ากลัวจะเห็นไม่ชัดก็มองหาร้านร้อยเยน Cando ที่ปากซอยได้ เดินเลี้ยวเข้าซอยไปปุ๊บ ร้านจะอยู่ขวามือ
ร้านนี้เป็นร้านดังเรื่องทัคคาลบี้ที่มาพร้อมชีสยืดดดดจนต้องร้องโอ้โห
และความพิเศษสุดของร้านนี้คือ เซ็ทกลางวันสามารถสั่ง Cheese Dak Kalbi Special Set สำหรับหนึ่งคนได้ (1,380 เยน) ร้านส่วนใหญ่ถ้าจะสั่งเมนูนี้จะต้องสั่งสำหรับ 2 ที่ขึ้นไปค่ะ ใครมาเดี่ยวหรือมากลุ่มแต่อยากทานหลายๆ อย่าง ร้านเฮรังนี้เหมาะเลย!
มื้อกลางวันที่นี่ยังมีเครื่องเคียงเกาหลีหลายอย่างและกาแฟบริการแบบบุฟเฟต์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกด้วย
15:30 ช้อปต่อที่โตคิวแฮนด์ ชินจุกุ (Tokyu Hands)
อิ่มท้องแล้วกลับมาที่ป้ายรถเมล์เดิม รอรถสายเดิม (池86) คราวนี้เราจะไปลงที่ป้ายเซนดากายะ โกะโจเมะ (Sendagaya-gochome) นั่งประมาณ 10 นาที ลงรถมาจะเห็นตึกของห้าง Takashimaya Time Square อยู่ตรงหน้า ไม่ต้องหาเลย
Takashimaya Time Square
ห้างทาคาชิมายะสาขานี้ต้องบอกว่าใหญ่มาก! เพราะมีถึง 14 ชั้นและชั้นใต้ดิน ภายในมีสินค้าครบครัน รวมถึงแบรนด์เนมระดับโลกและร้านอาหารมากมาย ถือเป็นอีกจุดที่เหมาะจะเสียเงินค่ะ วันนี้เราจะมาแวะร้านสินค้ารวมมิตรยอดนิยมอย่าง Tokyu Hands กัน
Tokyu Hands สาขาชินจูกุ
Tokyu Hands ก็มีหลายสาขา แต่ทำไมต้องมาที่นี่?
ก็เพราะว่าที่นี่คือ Tokyu Hands สาขาที่ใหญ่ที่สุดนั่นเองค่ะ! ด้วยพื้นที่ตั้งแต่ชั้น 2-8 ของห้างทาคาชิมายะจึงรับประกันได้ว่าต้องเจอของถูกใจอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ เครื่องสำอาง เครื่องเขียน ของฝากทั้งหลายที่น่ารักและสร้างสรรค์ แถมยังมีการจัดเทศกาลสินค้าน่าสนใจต่างๆ เป็นระยะอีกด้วย
แน่นอนว่ามีบริการปลอดภาษีด้วย หลังจากซื้อสินค้าเกิน 5,000 เยน (ไม่รวมภาษี) ก็บึ่งไปที่เคานเตอร์ Information ที่ชั้น 2 เพื่อทำเรื่องได้เลย
วันนี้จะมาแนะนำสินค้าขายดีที่น่าสนใจให้เพื่อนๆ มาเลือกช้อปด้วยค่ะ!
- โพสท์อิทหนุ่มหล่อ ทำให้การจดโน้ตหรือฝากข้อความมีสีสันขึ้นประหนึ่งหนุ่มหล่อมาบอก ลายที่แนะนำก็คือ ลายพ่อบ้าน ลายหนุ่มเกาหลี สมกับที่เราไปเจอมาวันนี้! ส่วนลายโค้ชส่วนตัวสีเขียวนั่นก็เป็นสินค้าขายดีค่ะ (380 เยน ยังไม่รวมภาษี)
- Cable Bite รักษาสายชาร์ต iPhone ไม่ให้ขาดกับสัตว์ตัวน้อย เพียงแค่เสียบเข้ากับสายของเราเท่านั้น! นอกจากลายสัตว์ต่างๆ มากมายยังมีลายตัวการ์ตูนดังอย่าง One Piece, Pokemon หรือ Kanahei's Small Animals ด้วย (480 และ 680 เยน ยังไม่รวมภาษี)
- มาส์คหน้า Botanical Esthe สวยทันใจใน 55 วินาที เทรนด์ล่าสุดของญี่ปุ่นที่เน้นสวยได้แม้เร่งด่วน ล้างหน้าเสร็จ แปะแผ่นเดียว ก็แต่งหน้าออกจากบ้านได้เลย! (แผ่นละ 390 เยน กล่องละ 1,400 เยน ยังไม่รวมภาษี)
- instabrella แชะได้ไม่หวั่นแม้วันฝนตก เพราะร่มนี้มาพร้อมที่หนีบมือถือ ไม่ต้องถือของเยอะแยะ ไม้เดียวได้ทั้งร่มและเซลฟี่! (1,500 เยนยังไม่รวมภาษี)
16:50 ช้อปปิดท้ายและถ่ายรูปที่ระลึกไม่เหมือนใครที่ชิบุย่า
มาถึงตอนนี้กระเป๋าเบากันหรือยังคะ เราจะพานั่งรถบัสจากป้ายเดิมไปปิดท้ายที่ชิบุย่า คราวนี้ลงที่ป้ายสถานีชิบุย่า นิชิกุจิ (Shibuya Sta. Nishiguchi)
แถวนี้ก็มีที่ให้เสียเงินมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้าหลายเจ้า ร้านขายของอีกเพียบ จะแวะ Loft ซื้อของจุกจิก หรือไป Tower Records หาแผ่นของคนที่เราชอบ และอื่นๆ อีกมากมาย
จุดชมวิวและถ่ายรูปห้าแยกใหม่ล่าสุด! MAGNET by SHIBUYA109
นอกจากเรื่องช้อปปิ้งแล้ว ขอแนะนำที่เที่ยวล่าสุดที่จะทำให้ทริปนี้สุดยอดไม่เหมือนใคร แถมเก็บเป็นความทรงจำด้วย!
ห้าง MAGNET by SHIBUYA109 ตรงห้าแยกหน้าสถานีชิบุย่า เดิมที่นี่คือห้างแฟชั่น 109MEN'S ที่นำมาปรับปรุงใหม่ นอกจากร้านขายของแล้ว ดาดฟ้ายังเปิดเป็นจุดชมวิวห้าแยกที่พลุกพล่านที่สุดในโลกในมุมสูงเพียงแห่งเดียว!
ก่อนอื่นขึ้นไปจนถึงชั้น 7 จะเป็นฟู้ดคอร์ท MAG7 ลึกเข้าไปจะมีประตูออกไปบันไดเพื่อขึ้นไปต่อที่ชั้นดาดฟ้า MAG's PARK ค่ะ
MAG's PARK จะเป็นที่นั่งหย่อนใจบนดาดฟ้า ซึ่งเราสามารถนำอาหารจากฟู้ดคอร์ท MAG7 ขึ้นมาทานได้
เมื่อเดินไปอีกหน่อยจะเจอกับจุดชมวิว "CROSSING VIEW" ซึ่งตอนนี้เปิดให้เข้าชมฟรีอยู่ค่ะ* (ห้ามนำอาหาร เครื่องดื่มเข้ามาในบริเวณนี้)
*ข้อมูลเมื่อเดือนตุลาคม 2018
ถ่ายรูปที่ระลึกกับห้าแยกชิบุย่ากับบริการ CROSSING PHOTO
ห้าแยกชิบุย่าในมุมสูงถือว่าแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร! แต่ ... จะเอาตัวเองใส่เข้าไปในรูปเป็นที่ระลึกยังไงดี?
ด้วยบริการที่ชื่อว่า CROSSING PHOTO เราจะสามารถถ่ายรูปจากกล้องที่ติดตั้งอยู่ด้านบนจุดชมวิวได้แบบไม่จำกัดในเวลา 100 วินาที มีค่าบริการ 1,000 เยน
แล้วเราจะได้ภาพเด็ดๆ แบบด้านบนนี้เลย!!
โดยไปกดซื้อการ์ดจากตู้อัตโนมัติค่ะ การ์ดมาจะมี QR code อยู่ด้านหลัง ใช้สมาร์ทโฟนของเราอ่านโค้ดเข้าไปในเว็บไซต์ซึ่งเชื่อมกับกล้องอยู่ อ่านคำอธิบาย กด next ไปเรื่อยๆ พอเริ่มถ่ายรูประบบจะนับถอยหลังให้เราเตรียมโพสท่าเจ๋งๆ ตรงแท่นวงกลมที่มีไฟส่องอยู่ค่ะ เมื่อถ่ายแล้วก็รีบกดปุ่มให้ระบบเตรียมถ่ายภาพต่อไป ถ้าใครทำเวลาดีๆ จะสามารถถ่ายได้ถึง 6-8 ภาพ
แค่ 1,000 เยนนี่ ถ้าใครหารกับเพื่อนก็ถือว่าถูกสุดๆ นะ!
เมื่อหมดเวลาแล้ว ในมือถือจะแสดงภาพที่ถ่ายไปค่ะ ก็กดเซฟรูปตามใจชอบได้เลย
จบวันแล้วคิดว่ากระเป๋าคงเบากันไม่น้อย ยังไงก็อย่าลืมอัพรูปเด็ดๆ ขึ้นโซเชียลทั้งวิวสวยและสินค้าที่ช้อป
หากใครยังอยากเที่ยวและช้อปต่อ ก็สามารถไปชมวิวกลางคืนและทานข้าวเย็นแถวรปปงงิด้วยการนั่งรถบัสสาย 都10 ต่อเดียวถึง ซึ่งเราเคยแนะนำกันไปแล้วในบทความนี้เลยค่ะ!
สรุปการเดินทาง
อิเคะบุคุโระ → ช้อปปิ้ง(Sunshine City, Animate, Otome Road) → Butlers Cafe Swallowtail → ชินโอคุโบะ → ศาลเจ้าไคจูอินาริ → ร้านอาหารเฮรัง → ชินจูกุ → Takashimaya Time Square และ Tokyu Hands ชินจูกุ → ชิบุย่า → MAGNET by SHIBUYA109
ค่าเดินทางทั้งหมด : ตั๋ววัน Toei One-day Pass ราคา 500 เยน
ใช้จ่ายอื่นๆ : ค่าอาหาร 1,380 เยน ค่าขนม 3,500 เยน ค่าเครื่องราง 500 เยน ค่าบริการถ่ายรูป 1,000 เยน และค่าช้อปปิ้งต่างๆ แล้วแต่บุคคล
รวมค่าใช้จ่ายใน 1 วัน/1 คนตามแผน : ประมาณ 6,880 เยน (ไม่รวมค่าซื้อของ)
หากใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องตั๋วและการเดินทางโดยรถไฟใต้ดินและรถบัสของ TOEI สามารถเช็คได้จาก : Website อย่างเป็นทางการของ TOEI Transportation (ภาษาไทย)
Supported by Toei Transportation
สาวไทยในโตเกียว ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยวและชิมของอร่อย สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง