Start planning your trip
แพลนเที่ยวโตเกียวหนึ่งวันด้วยรถบัส ชมเมืองย้อนยุคและวิวกลางคืนของโอไดบะ!
เที่ยวโตเกียวอย่างไรไม่ให้จำเจ!? เราขอเสนอแผนเที่ยว one day trip ด้วยตั๋ว Toei One-day Pass นั่งรถบัสตระเวนชมเมืองย้อนยุคและศาลเจ้าชื่อดังที่มนเซนนากาโจ (Monzen-nakacho) พลางช้อป ชิม ชิลล์แสนสนุก ก่อนจะปิดด้วยการชมวิวกลางคืนแสนสวยของโอไดบะ (Odaiba) กัน!
เปลี่ยนมุมมองการเที่ยวโตเกียวแบบใหม่ด้วย "รถบัส"!
พูดถึงเที่ยวโตเกียว ใครๆ หลายคนอาจมองว่าเป็นของธรรมดาที่ใครๆ ก็มา ยิ่งคนไหนมาหลายรอบแล้ว อาจรู้สึกการเที่ยวโตเกียวไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไร
วันนี้เราเลยจะขอมาแนะนำวิธีการเปลี่ยนมุมมองต่อการเที่ยวโตเกียวให้น่าสนุกและแปลกกว่าคนอื่นค่ะ!
มาเดินชมเมืองที่มีกลิ่นอายเก่าๆ แบบ "ชิตะมาจิ" (Shitamachi) แถวมนเซนนากาโจ (Monzen-nakacho)
ก่อนจะ "นั่งรถบัส" ชมบรรยากาศตามสไตล์ชาวเมืองโตเกียว ไปจนถึงแหล่งเที่ยวยอดนิยมโอไดบะ (Odaiba) แวะทานอาหารให้เต็มที่ แล้วมาชมวิวกลางคืนแสนสวยกัน!
10:00 จากอุเอโนะสู่ "มนเซนนากาโจ" (Monzen-nakacho)
"มนเซนนากาโจ" (Monzen-nakacho) เป็นย่านหนึ่งในโตเกียวที่มีกลิ่นอายตามสไตล์ "ชิตะมาจิ" หรือบรรยากาศเมืองค้าขายในยุคไทโชหรือเอโดะหลงเหลืออยู่ แถมยังอยู่ไม่ห่างจากอุเอโนะด้วย แต่กลับไม่เป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ วันนี้เราเลยจะมาพาไปเดินเที่ยวย่านนี้กัน
เริ่มเดินทางจากสถานี "อุเอโนะโอคาจิมาจิ" (Ueno-Okachimachi) ของรถไฟใต้ดิน Toei สาย Oedo กันค่ะ
แถวนี้มีสถานีรถไฟของสายอื่นๆ อีกอย่าง Tokyo Metro ระวังอย่าขึ้นผิดนะ
ส่วนบัตรรถไฟที่เราจะใช้วันนี้คือตั๋ว free pass หนึ่งวันสำหรับนั่งรถไฟใต้ดินและรถบัสของ Toei ได้ไม่อั้นค่ะ
ราคาก็แค่ 700 เยนเท่านั้นเอง ถือว่าคุ้มมากๆ เลย
ที่อยากจะอวดอีกอย่างก็คือ วันนี้เราจะมากดซื้อกันที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติค่ะ บางสถานีของ Toei จะมีตู้ขายตั๋วหน้าตาแบบในรูปซึ่งรองรับภาษาต่างชาติมากมาย รวมถึง "ภาษาไทย" ด้วยล่ะ!!
ตั๋วพาสที่เราจะซื้อใช้กันก็คือ Toei One-day Pass (Toei Marugoto Kippu) ราคา 700 เยนค่ะ
ถ้าใครไม่เจอตู้ภาษาไทย ก็กดภาษาอังกฤษซื้อในหมวด Value Ticket ได้เลย
ส่วนถ้าใครได้ลองตู้ที่มีภาษาไทย ก็สามารถซื้อได้จาก ตั๋วราคาพิเศษ > ตั๋วรถไฟสายโทเอ 1 วัน ค่ะ
วิธีการใช้งานก็ง่ายมาก หากเป็นรถไฟก็นำบัตรเข้าเครื่องตรวจตั๋ว ส่วนตอนขึ้นรถบัสก็แค่โชว์บัตรให้คนขับเห็นวันที่ของบัตรก็พอค่ะ
สำหรับรายละเอียดของพาสนั้นสามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้จากเว็ปไซต์อย่างเป็นทางการของ Toei ได้เลยค่ะ
ขึ้นรถไฟใต้ดิน Toei สาย Oedo ที่ชานชาลา 2 ไปลงที่สถานี "มนเซนนากาโจ" (Monzen-nakacho) กัน!
พอมาถึงสถานีมนเซนนากาโจแล้ว เราจะไปที่ทางออกหมายเลข 5 กันค่ะ
เช็ครถบัสกับป้ายไฟแสนสะดวกที่สถานีมนเซนนากาโจ
ตอนเดินออกมาจากที่ตรวจตั๋ว เราจะเห็นป้ายไฟขนาดใหญ่เขียนว่า Bus Information อยู่
ซึ่งป้ายนี้จะมีข้อมูลรถบัสทั้งป้ายที่จอด สายที่วิ่งและเวลาที่รถจะมาค่ะ
ข้อมูลยังมีทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษให้กดดูพร้อมแผนที่
หลังจากเดินเที่ยวแถวมนเซนนากาโจแล้ว เราจะเปลี่ยนการเดินทางไปเป็นรถบัสกัน เพราะฉะนั้นแวะมาเช็คข้อมูลที่ป้ายนี้กันนะ!
วันนี้ทั้งวันเราจะนั่งสายที่ชื่อ อุมิ 01 (Umi 01 - 海01) กันค่ะ
ซึ่งรถสายนี้ เราต้องไปขึ้นที่ป้ายหมายเลข 5 ที่อยู่ใกล้ๆ ทางออก 3 ของสถานีรถไฟ เราก็จดๆ เอาไว้ก่อนเลย
10:15 แหล่งช้อปปิ้งพื้นบ้าน ฟุคากาว่านากาโจโดริ (Fukagawa Nakacho Doori Shotengai)
มาออกจากสถานีที่ทางออก 5 แล้วมาเดินเล่นแถวนี้กัน!
หลังจากออกจากทางออก 5 แล้วให้ หันหลังกลับมาจะเจอสี่แยก เลี้ยวซ้ายตรงแยก เราจะเห็นทางเดินที่มีหลังคาและร้านค้ามากมายเรียงกันอยู่ค่ะ
บริเวณนี้คือแหล่งช้อปปิ้งที่เรียกว่าเป็นโซน "ชิตะมาจิ" (Shitamachi) หรือเมืองที่หลงเหลือบรรยากาศเก่าๆ ของโตเกียว
แหล่งช้อปปิ้ง ฟุคากาว่านากาโจโดริ (Fukagawa Nakacho Doori Shotengai) มีร้านต่างๆ ทั้งร้านอาหารสมัยใหม่ไปจนถึงร้านขายขนมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น หรือร้านกิโมโนค่ะ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ได้กลิ่นอายขอการใช้ชีวิตจริงๆ ของชาวโตเกียวเลย
หากใครอยากมาเห็นโตเกียวของแท้ในบรรยากาศเก่านิดๆ ที่นี่ก็เป็นอีกจุดนึงที่มาง่ายและน่าสนใจมากค่ะ
10:40 ศาลเจ้าโทมิโอกะฮะจิมังกู (Tomioka Hachiman-gu)
พูดถึงเมืองเก่า ก็ย่อมต้องนึกถึงความศรัทธาของคนท้องถิ่นบ้าง
เดินตรงมาตามทางเรื่อยๆ ประมาณ 6 นาที มองทางซ้ายมือเราจะเห็นที่โล่งๆ พร้อมกับเสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่แบบในรูปค่ะ
แปลว่าเรามาถึงศาลเจ้าโทมิโอกะฮะจิมังกู (Tomioka Hachiman-gu) ซึ่งเป็นหนึ่งในศาลดังของโตเกียว สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1627 นับอายุตอนนี้ก็เกือบ 400 ปีเข้าไปแล้ว
นอกจากนี้ที่นี่ยังถือว่าเป็นต้นกำเนิดของการแข่งขันซูโม่แบบในปัจจุบันนี้ด้วยค่ะ
ทำให้มีหินสลักหรือแท่นหินที่เกี่ยวกับนักซูโม่มากมาย
ซูโม่เองก็ถือว่าเป็นกีฬายอดนิยมของคนญี่ปุ่นและให้บรรยากาศของยุคเอโดะด้วยล่ะค่ะ
ใครอยากรู้จักศาลเจ้าแห่งนี้ให้มากขึ้น เราก็มีบทความอย่างละเอียดให้ ไปดูได้ที่นี่เลยค่ะ
โรงแรมแนะนำใกล้โทมิโอกะ ฮาจิมังกุ
12:00 มื้อกลางวันที่ ฟุคากาว่าจุกุ (Fukagawajuku) สาขา โทมิโอกะฮะจิมัง
หลังจากไหว้พระ ซื้อเครื่องรางเสร็จ ใครยังไม่หิว เราขอแนะนำให้เดินเล่นรอบๆ แหล่งช้อปปิ้งฟุคากาว่านากาโจโดริ เพื่อหาของทานเล่นหรือของฝากน่าสนใจได้เลยค่ะ
แต่ถ้าใครจะจัดมื้อใหญ่ เราขอแนะนำอาหารพื้นบ้านที่ร้าน ฟุคากาว่าจุกุ (Fukagawajuku) สาขา โทมิโอกะฮะจิมัง เลยค่ะ
ร้านนี้อยู่ด้านซ้ายมือของโทริอิใหญ่ของศาลเจ้าโทมิโอกะฮะจิมังกู
ด้านหน้าร้านตกแต่งให้บรรยากาศเหมือนร้านในสวนสบายๆ แบบญี่ปุ่น มีเก้าอี้ยาวคลุมผ้าสีแดงสะดุดตา
Picture courtesy of : Fukagawajuku
อาหารแนะนำของที่นี่หนีไม่พ้น "ฟุคากาว่าเมชิ" (Fukagawa meshi)
ในรูปเป็นฟุคากาว่าเมชิแบบ "บุคคาเคะ" (Bukkake) หมายถึงแบบราด คือข้าวสวยราดซุปกลิ่นหอมจากความอร่อยของหอยลายและรสหวานอ่อนๆ จากต้นหอมญี่ปุ่น ปรุงรสด้วยมิโซะค่ะ
ในชุดมีผักนึ่งจิ้มมิโสะ ผักดอง ซุปใส และของหวานญี่ปุ่นให้
ความอร่อยแบบนี้ราคาเพียงแค่ 1,950 เยนเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีอีกแบบคือ "ทาคิโคมิ" (Takikomi) คือ ข้าวหุงทรงเครือง ซึ่งจะเป็นข้าวหุงปรุงรสด้วยโชยุกับเครื่องต่างๆ และหอยลาย ซึ่งไม่ว่าแบบไหนก็อร่อยทั้งนั้น!
13:10 นั่งรถบัสไปตะลุยช้อป!
ทานข้าวอิ่มแล้ว เราจะไปเที่ยวกันต่อล่ะ เป้าหมายต่อไปจะอยู่ที่แถวโทโยสุ (Toyosu) ค่ะ เราจะนั่งรถบัสไปกันด้วยตั๋วสุดคุ้มของเราล่ะ!
เดินย้อนกลับไปที่สี่แยกที่เราออกมาจากสถานีรถไฟแล้วเดินตรง ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เดินตรงต่อไปอีกนิดจะเจอป้ายรถบัส ซึ่งมีจุดสังเกตคือสัญลักษณ์รูปใบแป๊ะก๊วยสีเขียว
สังเกตนิดนึงเพราะตรงนี้มีสองป้ายค่ะ เราจะนั่งรถสาย 海01 จากป้ายหมายเลข 5 กัน
วิธีขึ้นรถก็แค่ต่อแถวเดินเข้าจากประตูหน้า โชว์ตั๋ววันด้านที่มีวันที่ของเราให้คนขับดู เวลาจะลงอย่าลืมกดปุ่มแบบในรูปก่อนถึงป้ายและลงจากประตูกลางค่ะ
13:40 Urban Dock LaLaport Toyosu
นั่งรถบัสมาลงที่ป้าย Toyosu Ekimae พอลงจากรถก็กลับหลังหันไปทางตรงข้ามกับที่รถวิ่งแล้วเดินตรงอย่างเดียวอีกแล้ว ข้ามสี่แยกใหญ่ไปจนเห็นอาคารสีน้ำตาลๆ ใหญ่ พร้อมตัวหนังสือ LaLaport Toyosu แบบรูปด้านบนก็ข้ามถนนอีกครั้ง เตรียมไปช้อป ชิม ชิลล์ ได้เลย!
ห้างนี้เป็นหนึ่งในห้างใหญ่ที่มีร้านค้าพรั่งพร้อมทั้งแบรนด์ดังของญี่ปุ่นและแบรนด์นอก ไปจนถึงร้านอาหาร ร้านขนม และร้านถูกใจคนไทยอย่าง Uniqlo หรือ ABCmart
มาแวะช้อปกันให้สนุก หรือใครอยากจะพักสักนิดก็มีร้านน่านั่งมากมายเลยนะ!
โรงแรมแนะนำใกล้Urban Dock LaLaport Toyosu
Butter Premium แพนเค้กระดับเทพ!
พูดถึงขนมสุดน่ารักแสนอร่อยยอดฮิตตอนนี้ จะไม่พูดถึงแพนเค้กญี่ปุ่นได้ยังไง!?
เราเลยจะขอแนะนำร้านแพนเค้กน่ารักและสุดอร่อยสักหน่อยค่ะ
อาคารที่เราเดินเข้ามาวันนี้คืออาคาร Annex ให้เดินผ่านไปทางด้านหลังจะเจอกับอาคารหลักของห้าง เมื่อเข้าไปแล้วเดินไปทางขวามือ โซน North Port บริเวณ Ship II จะเจอทางเข้าร้านพร้อมป้ายเขียนว่า Butter Premium อยู่ใกล้ประตูทางเข้าออกสวนค่ะ หรือใครจะออกไปเดินที่สวนก็สามารถเข้าร้านจากทางสวนได้เหมือนกัน ร้านนี้เป็นทรงยาว จึงกว้างขวางในส่วนที่ติดกับสวนและที่นั่งริมสวน กำแพงกระจก ไว้นั่งชมวิวสวนได้นั่นเอง
ที่ร้านมีเมนูแพนเค้กหลากหลายทั้ง แบบซูเฟล่ที่เนื้อฟูนุ่ม รสเข้มข้นเป็นพิเศษจากชีส แบบ Butter Milk เน้นรสอร่อยของนมเนยอย่างดีที่ใส่มาไม่อั้น และแบบ Kamadashi ที่อบสองครั้งในกระทะเหล็ก
ทุกเมนูพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนเลือกวัตถุดิบที่ใช้นม เนย ชีส คุณภาพสูงของฮอกไกโดทั้งนั้น!
วันนี้เราเลยมาลองเมนูเด็ดของร้าน Mixed Berry White Tower (1,380 เยน) ที่ให้เราได้อร่อยกับแพนเค้กนุ่มๆ ผลไม้แสนอร่อย ไอศครีมเย็นๆ ซอสผลไม้เปรี้ยวหวาน และวิปครีมเนื้อละมุน
ส่วนเครื่องดื่มนั้นแนะนำเป็นเครื่องดื่มใส่โหล Blue Lagoon Lemonade (580 เยน) ที่มีทั้งความเปรี้ยวหวานของมะนาวและเยลลี่ลิ้นจี่
สั่งพร้อมแพนเค้ก ได้รับส่วนลดเหลือแค่แก้วละ 380 เยนด้วยนะ!
16:00 ตะลุยโอไดบะ! (Odaiba)
ช้อปปิ้งหรือพักทานขนมกันแล้ว จะชวนไปช้อปปิ้งให้กระเป๋าเงินช้ำต่อค่ะ
เดินกลับไปป้ายรถเมล์เดิม คราวนี้เราขึ้นรถไปลงที่ป้าย Odaiba nichome กันค่ะ
ลงรถมาปุ๊บจะเจอห้างสรรพสินค้าใหญ่ 2 ห้างอยู่ติดกันเลย คือ DECKS Tokyo Beach และ Aqua City Odaiba
Aqua City Odaiba
ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ๋ที่มีแบรนด์ชั้นนำอยู่ครบครัน ทั้งแบรนด์หรูอย่าง Coach เครื่องกีฬาและแฟชั่นทั้ง Adidas, Puma, New Balance ยี่ห้อญี่ปุ่น เช่น Onitsuka Tiger, G-Shock สินค้าขวัญใจประชาชนทั้ง Disney Store หรือ Coca-Cola Store ไปจนถึงร้านสารพัดราคาประหยัด Daiso
DECKS Tokyo Beach
สำหรับ DECKS นั้นเป็นห้างที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร แถมด้วยสิ่งบันเทิงมากมาย! ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก Joypolis, Legoland, โซนร้านค้าย้อนยุค, Trick Art Musuem หรือพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง Madame Tussauds
แถมมีทั้งร้านปลอดภาษี Laox, ร้านขายยามัตสึโมโตะคิโยชิ, ABCmart, Daiso และอื่นๆ
โรงแรมแนะนำใกล้เด็คส์ โตเกียว บีช
ของฝากครบเครื่องที่ คาราคุริเฮียกกะเท็น (Karakuri Hyakkaten)
ที่ชั้น 4 ของฝั่ง Seaside Mall ใน DECKS จะมีโซนร้านค้าแบบโบราณ Daiba Icchome Shotengai ค่ะ
ในนั้นจะมีร้านที่อยากแนะนำสำหรับคนอยากซื้อของฝากของที่ระลึก ก็คือร้าน คาราคุริเฮียกกะเท็น (Karakuri Hyakkaten)!
เพราะภายในนั้นอัดแน่นไปด้วยสินค้าถูกใจนักท่องเที่ยว ทั้งขนมยอดนิยม เครื่องเขียนน่ารัก ของจิ๋วที่เหมาะเป็นของที่ระลึก
เรียกว่าใครอยากได้ของฝากแนวไหน มาร้านเดียวมีครบเลยค่ะ!
17:30 เต็มอิ่มกับบุฟเฟต์นานาชาติ OCEAN CLUB BUFFET
ถ้าเริ่มหิวกันแล้ว จะขอชวนให้ขึ้นไปต่ออีกนิดที่ชั้น 5 ของ DECKS ซึ่งมีร้านอาหารให้เลือกสรรค์ แต่วันนี้เราจะแนะนำบุฟเฟต์อาหารนานาชาติของร้าน OCEAN CLUB BUFFET ซึ่งทีเด็ดไม่ได้มีแค่อาหารหลากหลายในราคาสุดคุ้มแล้ว ยังมีระเบียงให้ชมวิวกลางคืนแสนสวนของเมืองโตเกียวและสะพานเรนโบว์บริดจ์อีกด้วย
เพราะไลน์อาหารมีทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่ง อาหารจีน และอาหารไทย แม้จะมาเที่ยวเป็นหมู่คณะที่มีความชอบต่างกัน ก็สบายใจหายห่วง ทานได้ทุกคนแน่นอน!
สำหรับค่าอาหารนั้นอยู่ที่ 2,290 เยน (ยังไม่รวมภาษี) ต่อคน บวกกับค่าบุฟเฟต์เครื่องดื่มซอฟท์ดริงค์อีก 199 เยน (ยังไม่รวมภาษี)
รวมทั้งหมดแล้วก็คนละ 2,689 เยนเท่านั้นค่ะ
19:00 ตระเวณชมวิวกลางคืนแสนสวย
ท้องอิ่มกันหลังพระอาทิตย์ตกดินแถวโอไดบะแบบนี้ สิ่งที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ... ต้องไปชมความสวยงามและโรแมนติคของโตเกียวยามค่ำคืน!
แถวไหนน่าสนบ้าง มาดูกันเลยดีกว่า
สวนสาธารณะริมทะเลโอไดบะ (Odaiba Marine Park)
เดินไปด้านหลังของ DECKS นิดเดียวจะเจอกับ "หาดทราย"! เพราะที่นี่คือสวนสาธารณะสไตล์ชายหาดอันขึ้นชื่อของโอไดบะเขาล่ะค่ะ
บริเวณนี้เป็นจุดโรแมนติกที่คู่รักนิยมมาสวีทกัน เพราะสามารถมองเห็นแสงไฟระยิบระยับของโตเกียวและสะพานเรนโบว์บริดจ์ได้ครบในจุดเดียว
เทพีเสรีภาพ
ไม่ต้องไปถึงอเมริกาก็มีเทพีเสรีภาพให้ชม! ด้านหลังของ Aqua City Odaiba จะมีรูปปั้นเทพีเสรีภาพตั้งอยู่ค่ะ
ถึงขนาดจะไม่ใหญ่เบิ้มเท่ากับที่อเมริกา แต่ไซส์ก็ไม่ใช่ย่อยๆ ใกล้ๆ กับรูปปั้นจะมีสะพานลอยอยู่ สามารถไปถ่ายรูปตรงนั้นหรือจะถ่ายจากสะพานลอยตรง Aqua City Odaiba ก็มีจุดถ่ายรูปเตรียมเอาไว้ให้ค่ะ
ชิงช้าสวรรค์โอไดบะ
อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของโอไดบะที่เชื่อว่าไม่ต้องบอกทาง ทุกคนก็เห็นจนเดินไปถูก
ชิงช้าสวรรค์ที่ Palette Town ของโอไดบะนี้ตอนกลางคืนจะเปิดไฟหลากสีสวยงาม เหมาะไปเก็บรูปเป็นที่ระลึกมาก หรือจะขึ้นไปนั่งบนชิงช้าแล้วมองชมความงามของโตเกียวจากมุมสูงก็ย่อมจะกลายเป็นความทรงจำไม่รู้ลืมเลย
นอกจากนี้ใกล้เคียงกันยังมีหุ่นกันดั้มขนาดใหญ่อยู่หน้าห้าง Diver City Odaiba อีกด้วยนะคะ
ถ้าใครเป็นแฟนการ์ตูนหุ่นยนต์ก็ห้ามพลาดเลยทีเดียวล่ะ
20:10 ชมโตเกียวในค่ำคืนผ่านกระจกรถบัสระหว่างทางกลับ
หลังชมวิวกลางคืนของโอไดบะเสร็จก็ได้เวลากลับที่พักเสียที
เราจะใช้บัตรนี้ให้คุ้มค่าต่อด้วยการนั่งรถบัสกลับจากโอไดบะไปถึงหน้าสถานีรถไฟมนเซนนากาโจ เพื่อต่อรถไฟกลับที่พักค่ะ
และการนั่งรถบัสชมเมืองโตเกียวแบบนี้จะทำให้เราได้เห็นโตเกียวในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอีกด้วยนะ!
แถมหากนั่งจากป้ายหน้าสถานี Tokyo Teleport ซึ่งต้นสาย รับรองว่าได้นั่งพักขาชิลล์ๆ เลยล่ะค่ะ แต่อย่าลืมระวังเรื่องเวลาของรถด้วยนะ
สรุปการเดินทาง
สถานีอุเอโนะโอคาจิมาจิ → สถานีมนเซนนากาโจ → แหล่งช้อปปิ้ง ฟุคากาว่านากาโจโดริ→ ศาลเจ้าโทมิโอกะฮะจิมังกู → ร้านอาหารฟุคากาว่าจุกุ → Urban Dock LaLaport Toyosu (แพนเค้ก Butter Premium) → Aqua City Odaiba → DECKS Tokyo Beach (คาราคุริเฮียกกะเท็น) → ร้านอาหาร OCEAN CLUB BUFFET → ชมวิวกลางคืนโอไดบะ → สถานีมนเซนนากาโจ
ค่าเดินทางทั้งหมด : ตั๋ววัน Toei One-day Pass (Toei Marugoto Kippu) ราคา 700 เยน
ใช้จ่ายอื่นๆ : ค่าอาหาร 4,638 เยน ค่าขนม (แพนเค้ก) 1,760 เยน และค่าช้อปปิ้งต่างๆ แล้วแต่บุคคล
รวมค่าใช้จ่ายใน 1 วัน/1 คนตามแผน : ประมาณ 7,098 เยน (ไม่รวมค่าซื้อของ)
หากใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องตั๋วและการเดินทางโดยรถไฟใต้ดินและรถบัสของ TOEI สามารถเช็คได้จาก : Website อย่างเป็นทางการของ TOEI Transportation (ภาษาไทย)
Supported by Toei Transportation
สาวไทยในโตเกียว ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยวและชิมของอร่อย สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง