Start planning your trip
13 กิจกรรมที่น่าทำในยามากุจิ: ไปเที่ยวศาลเจ้าโมโตโนะซุมิอินาริ สะพานสึโนชิมะ และแวะชิมปลาปักเป้ากัน
จังหวัดยามากุจิมีที่เที่ยวน่าสนใจมากมายอย่างจุดชมวิวสวยๆ สิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ และออนเซ็น คราวนี้เราจะพาไปดูกิจกรรมที่น่าทำในจังหวัดยามากุจิ ทั้งชมสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างศาลเจ้าโมโตโนะซุมิอินาริ สะพานสึโนชิมะ และไปชิมปลาปักเป้าที่ชิโมโนเซกิกัน
กิจกรรมน่าสนใจในจังหวัดยามากุจิ
จังหวัดยามากุจิเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของภูมิภาคชูโกะคุ มีที่เที่ยวมากมายอย่างเมืองรอบปราสาทฮากิที่สามารถสัมผัสกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์, ศาลเจ้าโมโตโนะซุมิอินาริที่มีเสาโทริอิเรียงรายเต็มไปหมด และสะพานสึโนชิมะที่เป็นจุดชมวิวสวย จังหวัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่เกิดของบุคคลสำคัญที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น จึงมีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของบุคคลสำคัญเหล่านั้นหลงเหลืออยู่มากมาย
จากโตเกียวถึงยามากุจิสามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟชินคันเซ็น จากสถานี JR โตเกียวไปสถานี JR ชินยามากุจิ (JR Shinyamaguchi) โดยรถไฟชินคันเซ็นใช้เวลา 4 ชั่วโมง 20 นาที ค่าโดยสารเริ่มตั้งแต่ 20,100 เยน และจากสถานี JR ชินยามากุจิถึงสถานี JR ยามากุจิ (JR Yamaguchi) ขึ้นรถไฟสาย JR ยามากุจิ (JR Yamaguchi Line) ใช้เวลาประมาณ 25 นาที ค่าโดยสาร 240 เยน
เนื่องจากที่เที่ยวกระจายอยู่ทั่วจังหวัด เช่ารถขับจากสถานียามากุจิจะสะดวกที่สุด ในบทความนี้เราได้รวบรวมกิจกรรมที่น่าสนใจในจังหวัดยามากุจิมาแนะนำ
1. ไปเยือนศาลเจ้าโมโตโนะซุมิอินาริ (Motonosumi Inari Shrine)
Photo by pixta
ในญี่ปุ่นมีประเพณีที่ว่าเมื่อไปเยือนศาลเจ้า จะขอพรโดยนำเงินใส่กล่องทำบุญที่อยู่หน้าวิหารหลัก แต่ก็มีศาลเจ้าที่กว่าจะเอาเงินไปหยอดลงในกล่องทำบุญได้ก็แสนยากลำบากเสียเหลือเกิน ศาลเจ้านั้นชื่อว่า "ศาลเจ้าโมโตโนะซุมิอินาริ" นั่นก็เพราะกว่าจะถึงวิหารหลักได้ต้องเดินผ่านเสาโทริอิถึง 123 ต้นนั่นเอง
Photo by pixta
โดยปกติกล่องทำบุญจะวางอยู่บนพื้นด้านหน้าวิหารหลัก แต่กล่องทำบุญที่นี่กลับถูกวางไว้บนเสาโทริอิ ผู้มาไหว้ขอพรต้องโยนเหรียญเข้าไปในกล่องซึ่งอยู่บนเสาสูงถึง 5 เมตร
กล่าวกันว่าถ้าโยนเหรียญเข้าไปในกล่องทำบุญได้สิ่งที่ขอจะสมหวัง เพราะการโยนเหรียญเข้ากล่องได้เป็นเรื่องยากมาก
Photo by pixta
จากศาลเจ้าโมโตโนะซุมิอินาริเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 10 นาที จะมี "เซ็นโจจิคิ (Senjojiki)" จุดชมวิวสวยๆ เป็นทุ่งหญ้าบนความสูง 333 เมตร ซึ่งเท่ากับโตเกียวทาวเวอร์ สามารถชมวิวท้องฟ้าและทะเลสวยๆ เป็นที่พักผ่อนคลายรับลมทะเลสบายๆ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
2. ขับรถชมวิวที่สะพานสึโนชิมะ (Tsunoshima Bridge)
Photo by pixta
เมื่อขับรถไปเที่ยวจังหวัดยามากุจิอยากให้แวะไป "สะพานสึโนชิมะ" ให้ได้ เป็นสะพานข้ามไปเกาะสึโนชิมะ (Tsunoshima) ที่ล้อมรอบด้วยทะเลสีเขียวมรกต
ขอแนะนำให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจากฝั่งแผ่นดินไปทางสะพานจะสามารถเก็บภาพวิวสวยๆ แบบรูปด้านบนได้
3. ไปเดินเล่นที่เมืองรอบปราสาทฮากิ (Hagi Castle Town)
Photo by pixta
เมืองฮากิที่อยู่ทางตะวันตกของจังหวัด เป็นที่เกิดของเหล่าวีรชนที่สนับสนุนการฟื้นฟูเมจิ (*1) ซึ่งมีโยชิดะ โชอิน (Yoshida Shoin) ซามุไรและนักการศึกษาเป็นผู้นำ
ปี 2015 เขตโฮริอุจิ (Horiuchi)ที่มีคฤหาสน์ซามุไรเก่าตั้งเรียงรายอยู่บริเวณรอบซากปราสาทฮากิ และเมืองรอบปราสาทฮากิที่ยังมีบ้านเรือนที่ชาวบ้านเคยอาศัยหลงเหลืออยู่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในฐานะทรัพย์สมบัติทาง “การปฏิวัติอุตสาหกรรมญี่ปุ่นในสมัยเมจิ อุตสาหกรรมถ่านหิน การต่อเรือ การผลิตเหล็กและทองแดง”
บริเวณโดยรอบมีคาเฟ่ที่นำบ้านเก่าหลายหลังมาปรับปรุงใหม่ ระหว่างเดินเล่นก็สามารถแวะดื่มชาได้
*1:การฟื้นฟูเมจิ……เป็นเหตุการณ์การปฏิวัติต่อเนื่องตั้งแต่การโค่นล้มรัฐบาลบาคุฟุในสมัยเอโดะจนกระทั่งการก่อตั้งรัฐบาลเมจิ
4. ไปชำระล้างจิตใจที่บ่อน้ำเบปปุเบ็นเทน (Beppu Benten Pond)
Photo by pixta
จากเมืองฮากิเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก็จะถึงบ่อน้ำเบปปุเบ็นเทนที่อยู่ภายในบริเวณศาลเจ้าเบปปุอิสึคุชิมะ (Beppu Itsukushima Shrine) ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพที่มีชื่อเสียง
สีของน้ำในบ่อไม่ได้มีเพียงสีฟ้าสีเดียว แต่ยิ่งเข้าใกล้บริเวณกลางสระมากเท่าไหร่สีของน้ำก็จะเข้มขึ้นอย่างน่าประหลาดจนกลายเป็นเสน่ห์ของบ่อน้ำแห่งนี้ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากมาเที่ยวชม น้ำในบ่อเป็นน้ำผุดจากใต้ดิน กล่าวกันว่าถ้าได้ดื่มจะทำให้มีอายุยืนและร่ำรวย
5. ไปชมเจดีย์ห้าชั้นที่วัดรุริโคจิ (Ruriko-ji Temple)
Photo by pixta
จากสถานี JR ยามากุจิเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 10 นาที จะถึงวัดรุริโคจิ ภายในมีเจดีย์ห้าชั้นที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของยามากุจิ ความสวยของเจดีย์แห่งนี้เทียบเท่าเจดีย์ที่วัดไดโกะจิ (Daigo-ji Temple) ของเกียวโต และวัดโฮริวจิ (Horyu-ji Temple) ของนารา ได้รับการเรียกขานว่าเป็น 1 ใน 3 เจดีย์ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
หลังคามุงฟาง (หลังคาทำมาจากเปลือกต้นสนฮิโนกิ) เหมือนกับบ้านสไตล์กัชโชสึคุริ (Gasshotsukuri บ้านทรงพนมมือ) ในชิราคาวะโก (Shirakawago) ให้บรรยากาศที่โอ่อ่ากว้างขวาง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
6. สัมผัสกับแนวคิดแบบเซ็นที่วัดโจเอจิ (Joei-ji Temple)
Photo by pixta
ภาพซุยโบคุกะ (Suibokuga ภาพจิตรกรรมหมึกจีน) เป็นภาพที่วาดด้วยหมึกดำ กล่าวกันว่ามีการสืบทอดจากจีนเข้าสู่ญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 8 เซ็ทชู (Sesshu) พระในนิกายเซ็น ซึ่งเป็นจิตรกรวาดภาพซุยโบคุกะอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 15 เป็นผู้สร้าง "สวนเซ็ทชู" ในวัดโจเอจิ
ที่นี่มีไฮไลท์คือ "คาเระซังซุย (Karesansui สวนหินญี่ปุ่น)" ที่แสดงภาพลำธารและทะเลโดยใช้เพียงก้อนหินและทรายเท่านั้น จากสถานี JR ยามากุจิเดินทางโดยรถยนต์ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
7. ทัศนศึกษาโรงผลิตเหล้าญี่ปุ่น "ดัซไซ (DASSAI)"
"ดัซไซ" เหล้าญี่ปุ่นที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดยามากุจิ เป็นเหล้าชื่อดังที่เคยมอบให้กับบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาและวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียเพื่อเป็นที่ระลึกการมาเยือนญี่ปุ่น คำขวัญของดัซไซคือเราผลิตเหล้าด้วยมือโดยไม่พึ่งพาเครื่องจักร ซึ่งคุณสามารถชมกระบวนการผลิตเหล้าได้ที่ "ดัซไซสโตร์ โรงผลิตเหล้าโรงหลัก"
คนที่อยากไปชมโรงผลิตเหล้า สามารถจองผ่านเว็บไซต์ทางการ โดยกรอก "แบบฟอร์มจองขอเข้าทัศนศึกษาโรงผลิตเหล้า" (ภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ) ได้ ช่วงเวลาทัศนศึกษา 1 ชั่วโมงจะได้เรียนรู้ขั้นตอนผลิตเหล้าญี่ปุ่นทั้งการนึ่งและหมักข้าว
8. ข้ามสะพานคินไต (Kintai) สะพานไม้ทรงโค้ง
Photo by pixta
"สะพานคินไต" โด่งดังในฐานะจุดชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียง ในช่วงศตวรรษที่ 17 สะพานในบริเวณนี้ถูกน้ำท่วมและซัดพังเสียหายหลายครั้ง จึงมีการสร้าง "สะพานแข็งแรงที่ไม่ถูกซัดพัง" ขึ้นมา สะพานแห่งนี้มีจุดเด่นจากการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์โดยประกอบขึ้นจากสะพานเล็กๆ 5 อัน และไม่ใช้ตะปูเลยแม้แต่ตัวเดียว
หลังจากข้ามสะพาน ที่บริเวณห่างออกไปประมาณ 10 นาที จะมีกระเช้าลอยฟ้า (Ropeway) ที่นำไปสู่ปราสาทอิวาคุนิ (Iwakuni Castle) จุดชมวิวบนปราสาทเป็นจุดชมทัศยภาพอันงดงามที่สามารถมองเห็นเมืองที่อยู่เบื้องล่างได้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
9. แช่ออนเซ็น
Photo by pixta
เมืองออนเซ็นยูดะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR ยามากุจิโดยรถยนต์ประมาณ 10 นาที รู้จักในอีกชื่อว่า "บ่อน้ำพุร้อนจิ้งจอกขาวหรือเบียกโคโนะยุ (Byakko no Yu)" เนื่องจากมีรูปปั้นจิ้งจอกสีขาวอยู่ทุกที่ทั่วเมือง
ที่มาของชื่อนี้เป็นเพราะมีเจ้าอาวาสวัดไปเจอจิ้งจอกสีขาวกำลังรักษาบาดแผลในออนเซ็นของยูดะ ในเมืองออนเซ็นนอกจากจะมีเรียวกังออนเซ็นแล้ว ยังมีออนเซ็นแบบเช้าไปเย็นกลับและออนเซ็นเท้าด้วย สามารถไปพักผ่อนเพลิดเพลินกับบ่อน้ำพุร้อนได้ง่ายๆ
10. ปั่นจักรยานเล่นบนที่ราบสูงอาคิโยชิได (Akiyoshidai Plateau) ที่แสนกว้างใหญ่
Photo by pixta
อาคิโยชิไดที่ห่างจากสถานีรถไฟ JR ยามากุจิโดยรถยนต์ประมาณ 40 นาที เป็นที่ราบสูงแบบคาสต์ (*2) ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น วิวของทุ่งหญ้าเขียวๆ และก้อนหินปูนสีขาวสูงตระหง่านทั่วบริเวณช่างยิ่งใหญ่อลังการ ที่นี่ไม่เพียงแต่จะสามารถเพลิดเพลินกับการเดินตามเส้นทางเดินป่า 3 เส้นทางเท่านั้น ยังสามารถเช่าจักรยานที่ "ศูนย์การท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนอาคิโยชิได" ไปปั่นเที่ยวสบายๆ ได้ด้วย
*2 :ที่ราบสูงแบบคาสต์.....เป็นภูมิประเทศที่เกิดจากน้ำฝนและอื่นๆ กัดเซาะผืนดินที่เป็นหินปูน
11. สำรวจถ้ำอาคิโยชิโด (Akiyoshido Cave)
Photo by pixta
ติดกับที่ราบสูงอาคิโยชิไดมีถ้ำอาคิโยชิโด ถ้ำหินงอกหินย้อยที่ใหญ่ในญี่ปุ่น กล่าวกันว่ามีความยาวทั้งหมด 10.7 กิโลเมตร แต่เปิดให้เข้าชมเพื่อการท่องเที่ยวประมาณ 1 กิโลเมตร
Photo by pixta
ภายในถ้ำมีจุดให้ชมมากมาย เช่น "เฮียคุไมซาระ (hyakumaizara แปลว่า ชาม 100 ใบ)" บริเวณที่ดูเหมือนมีชามมากมายตั้งเรียงรายอยู่ และหิน "โดไนฟุจิ (Donai Fuji แปลว่า ภูเขาฟูจิกลางถ้ำ)" หินงอกที่สูงเหมือนกับภูเขา
อุณหภูมิคงที่อยู่ประมาณ 17 องศาตลอดทั้งปี ทำให้ไปเที่ยวได้ง่ายไม่ว่าฤดูไหนก็ตาม
12. ชิมปลาปักเป้าชั้นเลิศที่ชิโมโนเซกิ (Shimonoseki)
Photo by pixta
หลังจากไปเที่ยวที่ต่างๆ เต็มที่และแช่ออนเซ็นผ่อนคลายกันแล้ว ก็ไปชิมของอร่อยในท้องถิ่นกัน
เมืองชิโมโนเซกิอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR ยามากุจิโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีเป็นแหล่งจับปลาปักเป้าที่ขึ้นชื่อ ที่ร้าน"คาราโตะอิจิบะ (Karatoichiba)" ในเมืองสามารถชิมปลาปักเป้าสดๆ ได้ในราคาที่ค่อนข้างถูก
Photo by pixta
นอกจากนี้ในตัวจังหวัดยามากุจิยังมีอาหารอย่าง "ซูชิอิวาคุนิ (Iwakuni Sushi)" ซูชิทรงสี่เหลี่ยมหน้ากุ้งกับไข่ และ "คาวาระโซบะ (Kawara Soba)" โซบะผัดบนกระเบื้อง ที่สามารถหากินได้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในตัวจังหวัด
13. ล่องเรือชมวิวยามค่ำคืนที่โรงงานชูนัน (Shunan)
Photo by pixta
เมืองชูนันอยู่ทางตะวันออกของจังหวัดมีย่านอุตสาหกรรมที่สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมในท้องถิ่น แต่ในช่วงกลางคืนพื้นที่ทั้งหมดจะกลายเป็นจุดชมวิวยามค่ำคืนที่เปล่งประกายระยิบระยับงดงาม
มีการจัดทัวร์ล่องเรือชมวิวยามค่ำคืนของโรงงาน เช่น "ทัวร์ชมวิวยามค่ำคืนที่โรงงานชูนัน" ใช้เวลาประมาณ 90 นาทีก็สามารถเดินทางวนรอบศูนย์อุตสาหกรรมชูนัน
บทส่งท้าย
จังหวัดยามากุจิเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่มีทั้งจุดชมวิวสวยๆ ที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ และอาหารรสเลิศ ขอแนะนำให้อยู่แวะเที่ยวสักหลายๆ วัน สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาลองเลือกจุดที่อยากสัมผัสบรรยากาศแวะตามต้องการก็เหมาะดี
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Main image by Pixta
I love Kimono and Daifuku.
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง