Start planning your trip
{{ inputValue.start }} - {{ inputValue.end }}
กับ:
5 สถานีรถไฟไร้คนประจำการในโตเกียว โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ห่างจากความวุ่นวาย
บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
โตเกียวมีสถานีชินจูกุซึ่งมีผู้โดยสารมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก และเป็นเมืองที่มีประชากรล้นหลามถึง 13 ล้านคน แต่ทราบไหมคะว่าในโตเกียวก็มีมี "มุจินเอคิ" หรือสถานีรถไฟที่ไม่มีพนักงานประจำการด้วย ในบทความนี้จะพาไปเที่ยวสถานีรถไฟไร้คนพร้อมกับแนะนำร้านขายของฝาก คาเฟ่และร้านอาหารกัน
บทความโดย
Tokyo,Japan
MATCHA editor and freelance writer. Born, raised, and currently living in Tokyo. Have visited over 30 countries and lived in four different prefectures. I have traveled to almost all 47 prefectures in Japan!
I try to create articles that help convey the charms of a destination through words and pictures. I love forests, temples, and camels.
more
"โตเกียว" ที่มีสองหน้า
Photo by Pixta
โตเกียว เมืองที่มีพื้นที่ไม่ถึง 1% ของญี่ปุ่น แต่เป็นเมืองที่มีคนอาศัยอยู่มากถึง 10％ ขอจำนวนประชากรทั้งญี่ปุ่น ชินจูกุที่เป็นสถานีรถไฟหลักมีจำนวนผู้โดยสารติดอันดับหนึ่งของโลก
คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าภาพลักษณ์ของโตเกียวคือ "เมืองที่มีคนเยอะและวุ่นวาย" ใช่ไหมล่ะคะ
เอาล่ะค่ะ คิดว่ารูปข้างบนคือวิวของที่ไหนเอ่ย?
...จริงๆ แล้วที่นี่ก็เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่อยู่ในโตเกียว บริเวณ JR สายโอเมะ (Ome) สถานีฟุตะมาทาโอะ (Futatamao) นั่นเองค่ะ สถานีนี้มีรถไฟมาเฉลี่ยชั่วโมงละ 2 ขบวน ผู้โดยสารน้อย และไม่มีนายสถานีประจำการ อยู่ในส่วนตะวันตกของโตเกียวที่ใช้เวลานั่งรถไฟ 2 ชั่วโมงจากสถานีชินจูกุ ในปัจจุบันยังคงมีวิวทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ค่ะ
ในครั้งนี้ เราจะขอแนะนำ 5 สถานีรถไฟไร้คนประจำการในโตเกียวบนรถไฟ JR สายโอเมะ สำหรับคนที่อยากท่องเที่ยวโดยหนีความวุ่นวายจากตัวเมือง อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสโตเกียวที่แสนสดชื่นและมากไปด้วยธรรมชาติกันค่ะ!
1. สถานี "ฮินะทาวาดะ (Hinatawada)" เพลิดเพลินกับน้ำชายามบ่ายที่รายล้อมไปด้วยป่า
จากสถานีชินจูกุ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีก็จะมาถึงสถานีฮินะทาวาดะ ให้เปิดประตูโดยกดปุ่มที่อยู่ใกล้ๆ กับประตูค่ะ
รถไฟจาก JR สถานีโอเมะ ขบวนที่มุ่งหน้าไปโอคุทามะ (Okutama) ประตูรถไฟจะเปลี่ยนเป็นแบบปุ่มกดแทน
เนื่องจากไม่มีช่องตรวจตั๋ว จึงมีเครื่องอ่านบัตรรถไฟไอซีการ์ด (IC Card) แบบที่ไม่มีให้เห็นในเมืองหลวงติดตั้งเอาไว้แทน สถานีที่จะแนะนำต่อจากนี้จะใช้เครื่องนี้ติดตั้งไว้ทั้งหมด ตอนเดินออกจากสถานีก็ให้นำไอซีการ์ดไปแตะที่เครื่องนี้เพื่อชำระเงินค่ารถได้เลยค่ะ
ละแวกใกล้เคียงมีแม่น้ำทามะไหลผ่าน ด้านบนมีสะพานสูงพาดผ่าน ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ภูเขาที่อยู่รอบๆ จะเปลี่ยนสีเป็นสีแดงและสีเหลือง กลายเป็นความงดงามราวกับภาพวาด
เมื่อออกจากตัวสถานีและเดินไปทางขวา เดินตรงไปตามทางสักพักก็จะมีร้านค้าปรากฎให้เห็นเรื่อยๆ
อาคารที่ดูสะดุดตาท่ามกลางกลุ่มร้านค้า นั่นก็คือร้านน้ำชาสไตล์อังกฤษ "Rose Town Tea Garden" ซึ่งรีโนเวทมาจากอาคารที่เคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีแต่งงานมาก่อนจนกลายมาเป็นร้านอาหาร เนื่องจากร้านนี้ดูแลจัดการโดยคู่สามีภรรยาชาวอเมริกัน จึงสามารถให้บริการด้วยภาษาอังกฤษได้
เมนูมีทั้งซุป แซนด์วิช สโคน และอาหารเซ็ทมากมาย ชนิดของชาร้อนก็มีให้เลือกเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นดาร์จีลิงหรือเปปเปอร์มิ้นท์ เราสามารถใช้ช่วงเวลาอันหรูหราพลางชมป่าและแม่น้ำไปด้วยได้ที่นี่
2. สถานี "ฟุตะมาทาโอะ (Futamatao)" ที่ปรากฎในนวนิยายของมุราคามิ ฮารุกิ
"สถานีที่ทั้งสองคนลงคือสถานีที่ชื่อว่า "ฟุตะมาทาโอะ" รู้สึกไม่คุ้นชื่อสถานีนี้เลย เป็นชื่อสถานีที่ค่อนข้างแปลกมากทีเดียว"
นี่เป็นประโยคที่ปรากฎในหนังสือ "1Q84" นวนิยายของมุราคามิ ฮารุกิ (Murakami Haruki) นักเขียนนวนิยายที่ได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศ สถานีฟุตะมาทาโอะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ตัวละครหลักในเรื่องเดินทางมาเยือน
สถานีนี้ก็เป็นอีกสถานีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำการ และแน่นอนว่าไม่มีเครื่องจำหน่ายตั๋ว สำหรับคนที่ไม่มีไอซีการ์ดให้ออกคูปองเป็นใบรับรองสถานีที่ใช้โดยสารที่เครื่องสีส้มในรูป เมื่อกดปุ่มที่อยู่ข้างๆ ไฟสีแดง คูปองที่มีขนาดเท่ากับตั๋วรถไฟก็จะออกมา
บริเวณใกล้เคียงสถานีมีโรงเรียนประถม ร้านหนังสือเก่าๆ สะพานข้ามแม่น้ำทามะ วัดที่ชื่อว่าไคเซ็นจิ เหมาะแก่การไปเดินเล่น
หากเดินจากสถานีไปราว 15 นาที จะเจอร้าน "noco BAKERY&CAFE" ที่สร้างขึ้นโดยรีโนเวทมาจากสตูดิโอร้านเฟอร์นิเจอร์เก่า
บรรยากาศภายในร้านกว้างขวาง เปิดเพลงที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ให้เลือกขนมปัง นำไปที่เคาน์เตอร์ และสั่งเครื่องดื่มพร้อมกันไปเลย หากใช้บริการคาเฟ่ พนักงานที่ร้านจะอุ่นขนมปังให้ด้วย
ขนมปังที่ทำจากยีสต์ธรรมชาติมีรสหวานน้อยๆ ที่กระจายไปทั่วปาก ทำให้รู้สึกอยากมาทานซ้ำอีก ส่วนกาแฟเสิร์ฟโดยใช้เมล็ดที่คั่วเองในเมือง
3. สถานี "ซาวาอิ (Sawai)" ที่คนชอบสุราควรไป
ป้ายทางเข้าสถานีที่ควรจะต้องเขียนชื่อสถานีแต่กลับกลายเป็นสีขาวไปเสียแล้ว ที่นี่คือสถานีซาวาอิ แม้ด้านหน้าสถานีจะเงียบสงบ แต่นี่เป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดของ "สวนซาวาโนะอิเอ็น (Sawanoi-En)" สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในพื้นที่
สวนซาวาโนะอิเอ็นใช้เวลาเดิน 5 นาทีจากสถานี เป็นสถานที่พักผ่อนที่ดูแลโดยบริษัทโอซาว่าบริวเวอรี่จำกัด ผู้ผลิตเหล้าญี่ปุ่นและเต้าหู้ เราสามารถเพลิดเพลินกับเหล้าญี่ปุ่นที่ผลิตในพื้นที่และอาหารประเภทเต้าหู้ทำเองได้
ภายในสวนญี่ปุ่นที่รายล้อมด้วยต้นไม้นานาชนิด มีโต๊ะและเก้าอี้ถูกจัดวางไว้ ซึ่งสามารถใช้เวลาอันเงียบสงบนั่งชมแม่น้ำทามะที่อยู่ใกล้เคียงได้ สำหรับคนที่อยากซื้อของฝาก ให้แวะไปที่ร้านขายของกันค่ะ แน่นอนว่าสามารถหาซื้อเต้าหู้ แยม หรือชาที่ทำจากวัตถุดิบภายในท้องถิ่นได้ด้วย
4. ถ้าอยากปีนเขาหรือค้างคืนที่วัด ไปที่สถานี "มิตาเกะ (Mitake)"
มิตาเกะ สถานีไร้คนประจำการที่ตัวอาคารมีขนาดใหญ่ หุบเขามิตาเกะที่แสดงทิวทัศน์สวยงามในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและภูเขามิตาเกะที่แนะนำสำหรับนักปีนเขามือใหม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในพื้นที่ รอบๆ สถานีมีคาเฟ่ ร้านขายอุปกรณ์ปีนเขา และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวด้วย เราสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นหน้าสถานีได้
บนยอดเขามิตาเกะมีศาลเจ้าและมีชุคุโบ (ที่พักในวัดหรือศาลเจ้า) หลายแห่ง ชุคุโบบางแห่งมีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ในน้ำตกตามฤดูกาลด้วย อยากให้ลองไปสัมผัสและสร้างความทรงจำอันเป็นเอกลักษณ์ในโตเกียวกันดูนะคะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
5. สถานี "ชิโระมารุ (Shiromaru)" สถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักในโตเกียว
สถานีชิโระมารุที่ดูเหมือนสร้างมาจากการทำลายส่วนหนึ่งของภูเขา ภาพของรถไฟที่มุ่งหน้าไปยังสถานีโอคุทามะและหายเข้าไปในอุโมงค์นั้น ราวกับกำลังมุ่งหน้าไปยังที่ไหนสักแห่งในอีกโลกหนึ่ง
อาจเพราะมาถึงในช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำพอดี ทำให้รู้สึกภาพเครื่องอ่านไอซีการ์ดตรงหน้าดูเศร้าเหงาหงอย
Photo by Pixta
ไฮไลท์ในละแวกนี้คือทะเลสาบชิโระมารุโกะ (ทะเลสาบควบคุมเขื่อนชิโระมารุ Shiromaru Dam Control Lake) ที่เกิดจากเขื่อนชิโระมารุ ภาพของภูเขาที่อยู่รอบๆ สะท้อนลงในน้ำสีเขียวมรกต ทำให้เห็นเป็นทิวทัศน์ที่แสนงดงาม และจะได้เห็นภาพของผู้คนที่กำลังสนุกกับเรือคายัคในทะเลสาบด้วย
ถ้าหิวล่ะก็ ลองแวะไปที่ร้านอาหารออร์แกนิก "ร้านอาหารประเภทเนื้อในป่า Earth Garden" กันดูไหมคะ? อาหารประเภทเนื้อที่ทำจากเนื้อหมูอันแสนพิถีพิถันเป็นสิ่งที่ร้านภูมิใจนำเสนอ แฮมเบิร์กที่ชุ่มฉ่ำด้วยเนื้อมีความนุ่ม ใช้ช้อนตัดทานได้เลย
อีกทั้งยังมีที่นั่งริมระเบียงให้เพลิดเพลินกับช่วงเวลาอันแสนหรูหราพลางชมวิวป่าได้ ลองแวะไปนั่งพักผ่อนหลังจากเหนื่อยล้าจากการเดินเล่นกันได้นะคะ
สุดท้ายนี้
โตเกียวในอีกรูปแบบหนึ่งที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ แตกต่างจากบรรยากาศแบบเมืองหลวง ในพื้นที่ที่มีทั้งแม่น้ำและภูเขา จริงๆ แล้วเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมสำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา การเดินเขา เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติ สำหรับคนที่อยากไปรีแล็กซ์แบบไปเช้าเย็นกลับจากโตเกียว ลองไปเยือนสถานีไร้คนประจำการ 5 แห่งที่เราคัดสรรมาให้ดูนะคะ
In cooperation with noco BAKERY&CAFE,Meat restaurant in the forest Earth Garden
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
MATCHA editor and freelance writer. Born, raised, and currently living in Tokyo. Have visited over 30 countries and lived in four different prefectures. I have traveled to almost all 47 prefectures in Japan!
I try to create articles that help convey the charms of a destination through words and pictures. I love forests, temples, and camels.
more
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง
บทความเกี่ยวข้อง
บทความพิเศษ
More
