ใช้บริการส่งสัมภาระจากสนามบินนาริตะ แล้วไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบมือเปล่ากัน!

ฝากสัมภาระที่สนามบินนาริตะ แล้วออกไปเที่ยวแบบตัวปลิวกัน

เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ หนึ่งในปัญหาใหญ่ก็คือพอถึงสนามบินแล้วต้องมาคอยลากกระเป๋าใบใหญ่ๆ แค่คิดว่าต้องขนต้องลากกระเป๋าเพื่อเดินไปต่อรถบัสหรือรถไฟอีกหลายต่อก็รู้สึกหนักใจแล้วใช่ไหมล่ะคะ

โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความแน่นขนัดของผู้ใช้ขนส่งสาธารณะในช่วงเวลาเร่งด่วน การขนสัมภาระขนาดใหญ่ฝ่าฝูงชนคงไม่ใช่เรื่องน่าสนุกแน่นอน

แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ไม่ยากค่ะ หากใช้บริการขนส่งสัมภาระไปสู่จุดหมายปลายทางจากสนามบินนาริตะ ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ด้านล่างนี้ค่ะ

บริการขนส่งสัมภาระจากสนามบินนาริตะ

ในบทความนี้จะขอแนะนำวิธีการทำให้ตัวเบาอย่างรวดเร็ว และการเดินทางอย่างชาญฉลาดโดยใช้บริการแสนสะดวกจากสนามบินนาริตะกันค่ะ

ส่งสัมภาระจากสนามบินนาริตะไปยังที่พัก

เมื่อรับกระเป๋าสัมภาระแล้ว ก็ส่งตรงไปโรงแรมทั้งอย่างนั้นเลย!

เคาน์เตอร์บริการส่งสัมภาระมีอยู่ในทั้ง 3 เทอร์มินอลในสนามบินนาริตะ

เคาน์เตอร์ของเทอร์มินอล 1 มี 2 จุด ได้แก่ ทางปีกเหนือและปีกใต้ของล็อบบี้ขาเข้าระหว่างประเทศ ส่วนเทอร์มินอล 2 จะอยู่ตรงล็อบบี้ขาเข้าระหว่างประเทศ และเทอร์มินอล 3 จะอยู่ในล็อบบี้ขาเข้าค่ะ

ตำแหน่งที่ชัดเจนสามารถตรวจเช็คได้ที่เว็บไซต์ทางการของบริการส่งสัมภาระ

เคาน์เตอร์ส่งสัมภาระปีกใต้ในเทอร์มินอล 1

จุดสังเกตของเคาน์เตอร์ให้บริการจะเป็นโต๊ะที่มีโลโก้สีเหลืองรูปแมวดำของยามาโตะทรานสปอร์ต (Yamato Transport) ซึ่งบริษัทยามาโตะทรานสปอร์ตเป็นบริษัทขนส่งขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น ได้รับความเชื่อถือและมีผลงานมาอย่างยาวนาน เวลาเปิดให้บริการตั้งแต่ 6:30 ไปจนถึงเวลามาถึงของเที่ยวบินรอบสุดท้าย

วิธีการขนส่งจากสนามบินนาริตะ

ขั้นตอนการส่งสัมภาระจากสนามบินนาริตะไม่ยาก ใช้เวลาสั้นๆ ก็เสร็จเรียบร้อย เพียงนำสัมภาระไปที่เคาน์เตอร์ และกรอกข้อมูลสำคัญลงในแบบฟอร์มที่มีเขียนไว้ทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ

แม้จะไม่ทราบที่อยู่ของโรงแรมที่จะเข้าพัก เพียงแค่แจ้งชื่อโรงแรมให้พนักงานทราบ พนักงานก็จะช่วยหาที่อยู่ให้ นอกจากพนักงานจะพูดภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ ได้แล้ว ยังช่วยดูแลเรื่องต่างๆ ให้โดยเราไม่ต้องลงแรงมาก จึงสบายใจได้ค่ะ

หลังจากนั้น พนักงานจะวัดขนาดและชั่งน้ำหนักสัมภาระ และจะคำนวณค่าใช้จ่ายให้ค่ะ ถึงขั้นตอนนี้ เราสามารถระบุช่วงเวลาที่อยากให้จัดส่งสัมภาระได้ ช่วงเวลาอาจมีให้เลือกจำกัดตามวันที่ร้องขอให้ส่งและสถานที่จัดส่ง ดังนั้นต้องเช็คให้ดีนะคะ

ในกรณีที่จัดส่งไปที่โรงแรม ไม่สามารถระบุช่วงเวลาได้ค่ะ ขอให้เช็คช่วงเวลาที่สัมภาระจะไปถึงตอนเช็คอินที่โรงแรมอีกทีค่ะ

เมื่อกรอกข้อมูลลงในบิลเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ชำระเงินและรับสำเนาบิลมาค่ะ สำเนานี้จะต้องเก็บไว้ให้ดีจนกว่าจะได้รับสัมภาระเรียบร้อยแล้วนะคะ

เมื่อปล่อยมือจากสัมภาระอันหนักอึ้งได้แล้ว ขอบเขตของการเดินทางก็กว้างขวางขึ้นในพริบตา! จะไปทานอาหารอร่อยในโตเกียวก็ได้ หรือจะไปเที่ยววัดนาริตะซังชินโชจิ (Naritasan Shinshoji Temple) จุดหมายปลายทางยอดฮิตก็ดี หรือจะไปเดินเล่นรอบๆ ที่พักเรื่อยเปื่อยก่อนก็ได้ เพราะเราจะได้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่แน่นอนค่ะ

ค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการจัดส่ง

บริการขนส่งสัมภาระด่วนนี้ ในกรณีที่เป็นกระเป๋าเดินทางทั่วไปและพัสดุขนาดเล็ก สามารถส่งสิ่งของที่มีขนาดกว้าง สูงและหนา รวมไม่เกิน 160 เซนติเมตร (62 นิ้ว) น้ำหนักจะต้องไม่เกิน 25 กิโลกรัม

ค่าใช้จ่ายจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับปลายทางสถานที่จัดส่ง ขนาดและน้ำหนัก ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่เป็นสัมภาระที่มีขนาดทั้งหมดต่ำกว่า 120 เซนติเมตร น้ำหนักไม่ถึง 15 กิโลกรัม ส่งในแถบภูมิภาคคันโต จะมีค่าใช้จ่าย 1,950 เยน รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ทางการบริการส่งสัมภาระค่ะ

ตารางด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของระยะเวลาที่ใช้ในการจัดส่งค่ะ

ตามที่ระบุในตาราง การจัดส่งที่ถึงในวันเดียวกันนั้นมีแค่เฉพาะในภูมิภาคคันโตเท่านั้น และจำกัดเฉพาะสัมภาระที่ฝากที่เคาน์เตอร์ไม่เกินเวลา 10:30 นี่เป็นตัวเลือกที่ใช้เวลาน้อยที่สุด ภูมิภาคอื่นๆ ส่วนใหญ่ สัมภาระจะถึงวันถัดไป หรือไม่ก็วันมะรืน ในกรณีที่เป็นฮอกไกโดกับโอกินาว่า อาจจะใช้เวลา 2 หรือ 3 วัน

ในกรณีที่จะจัดส่งไปยังภูมิภาคที่ไม่ได้ระบุในตาราง ให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์บริการได้เลยค่ะ และเวลาให้บริการที่เทอร์มินอล 3 จะแตกต่างจากจุดอื่น ดังนั้นให้เช็คข้อมูลให้ดีนะคะ

*คันโต: โตเกียว, คานากาวะ, ชิบะ, ไซตามะ, โทจิกิ, กุนมะ, ยามานาชิ, อิบารากิ
คันไซ: โอซาก้า, เกียวโต, นารา, เฮียวโกะ, วาคายามะ, ชิกะ
คิวชู: ฟุกุโอกะ, โออิตะ, คุมาโมโตะ, นางาซากิ, คาโกชิม่า, ซากะ, มิยาซากิ

ในกรณีที่ส่งสัมภาระขนาดใหญ่และสิ่งของที่แตกหักง่าย

อุปกรณ์กีฬาอย่างสโนว์บอร์ด สกี ถุงกอล์ฟ จำเป็นต้องซื้อถุงคัฟเวอร์ป้องกัน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่างหาก ในกรณีที่เป็นสิ่งของที่แตกหักง่ายอย่างขวดเหล้า แนะนำให้ใส่กล่องป้องกันจากพนักงาน (*) ทั้งสองรายการสามารถติดต่อซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ค่ะ

* จำนวนเงินสูงสุดที่ทางบริการส่งสัมภาระจะรับผิดชอบคือ 300,000 เยน

เก็บไว้แค่เฉพาะของมีค่า ที่เหลือก็ส่งไปให้หมดเลย!

ในกรณีที่กระเป๋าเดินทางไม่สามารถส่งไปยังที่พักให้ถึงได้ในวันเดียวกัน ก็แบ่งเอาไปเฉพาะของจำเป็นสำหรับ 1 หรือ 2 คืนก็พอค่ะ

นำของมีค่าอย่างพาสปอร์ตและพาสขึ้นรถไฟกับชุดสำหรับเปลี่ยนใส่กระเป๋าถือหรือกระเป๋าแบ็คแพ็คที่ถือขึ้นไปบนเครื่อง ส่วนพวกเสื้อโค้ทหนักๆ รองเท้าคู่อื่นๆ ก็เอาเก็บใส่กระเป๋าเดินทางไว้ใช้ในช่วงครึ่งหลังของการเดินทางกันค่ะ

ใช้บริการตอนขากลับไทยก็ได้

ความสะดวกสบายของบริการส่งสัมภาระไม่ได้มีแค่เฉพาะตอนเริ่มเดินทางเท่านั้น ก่อนกลับไทย ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ของฝากเยอะ ก็สามารถส่งมาที่สนามบินนาริตะก่อนล่วงหน้าได้

ในกรณีนี้ จำเป็นต้องมีการเตรียมก่อนล่วงหน้า ให้ขนสัมภาระไปที่ยามาโตะทรานสปอร์ตหรือเซเว่นอีเลฟเว่น หรือแฟมิลี่มาร์ทที่ให้บริการส่งสัมภาระก่อนล่วงหน้า 2 วันขึ้นไป (*)

เพียงแค่กรอกข้อมูลในการเดินทางอย่างเทอร์มินอล วันที่ออกเดินทาง สายการบิน ชื่อเที่ยวบิน ช่วงเวลาที่จะออกเดินทางลงในแบบฟอร์ม สัมภาระของเราก็จะถูกส่งไปถึงเคาน์เตอร์ที่อยู่ในล็อบบี้ขาออกในสนามบินนาริตะ รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ทางการส่งสัมภาระสนามบินนาริตะค่ะ

*หากส่งจากฮอกไกโด โอกินาว่า หรือคิวชู จำเป็นต้องใช้เวลาในการเตรียมก่อนล่วงหน้า 3 วัน

ไปเที่ยวแบบมือเปล่ากัน

การขนสัมภาระขนาดใหญ่ขึ้นคมนาคมสาธารณะ หรือการเดินวนหาตู้ล็อกเกอร์ในสถานีเพื่อฝากของเป็นเรื่องที่มีให้เห็นบ่อยในอดีต หากส่งสัมภาระและเริ่มออกเที่ยวได้ทันที การเที่ยวในญี่ปุ่นก็จะสนุกไปอีกอย่างแน่นอน!

บริการส่งสัมภาระสนามบินนาริตะ