อร่อยกับปลาซาบะไขมันเยอะที่สุดในญี่ปุ่นจาก De-mer เมืองฮาจิโนเฮะ อาโอโมริ
ปลาซาบะของเมืองฮาจิโนเฮะในอาโอโมริกล่าวขานกันว่ามีไขมันอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น De-mer ได้แปรรูปปลาซาบะนี้ให้อร่อยยิ่งขึ้น พิถีพิถันแม้แต่เรื่องความหนาของชิ้นปลาสไลด์ และเราขอแนะนำสถานที่อร่อยกับอาหารรสเลิศในท้องถิ่นอย่างฮัตโชคุเซ็นเตอร์ด้วย
ฮาจิโนะเฮะ (Hachinohe) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) ที่ขึ้นชื่อเรื่องปลาซาบะ
นอกจากปลาอาจิและปลาอิวาชิแล้ว ปลาซาบะก็เป็นหนึ่งในเมนูปลาประจำบ้านของชาวญี่ปุ่นที่เพลิดเพลินกับวิธีปรุงแบบต่างๆ ได้หลายหลาย เช่น ย่างเกลือ ตุ๋นมิโซะ หรือ ดองในน้ำส้มสายชูเป็นชิเมะซาบะ
แม้ปลาซาบะจะจับได้หลายที่ทั่วญี่ปุ่น แต่ที่กล่าวกันว่าเป็นปลาซาบะแสนอร่อยที่มีไขมันเยอะที่สุดในญี่ปุ่นคือปลาซาบะที่ท่าเรือฮาจิโนะเฮะในจังหวัดอาโอโมริ
กล่าวกันว่าปลาซาบะที่อร่อย ต้องดูจากปริมาณไขมันในตัวปลา ยิ่งไขมันมากเนื้อปลายิ่งนุ่ม ไขมันในปลาซาบะเป็นไขมันไม่อิ่มตัวที่อุดมไปด้วยกรดไขมัน Omega3 ซึ่งมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและหลอดเลือดหัวใจอุดตันอีกด้วย
ฮาจิโนะเฮะเป็นเมืองท่าที่รุ่งเรืองทั้งด้านประมงและการค้ามาตั้งแต่สมัยเอโดะ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งจับปลาซาบะทางเหนือสุดของเกาะฮอนชูด้วย
โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวที่อุณหภูมิน้ำทะเลต่ำ ปลาซาบะที่จับได้ในน่านน้ำของฮาจิโนะเฮะ จึงมีอัตราส่วนไขมันราว 15% ขึ้นไป และบางครั้งมีมากถึง 30% (โดยทั่วไปมีราว 10%) ปลาซาบะในฤดูเหล่านี้จึงได้รับการกล่าวขานจากผู้คนในวงการอาหารญี่ปุ่นว่ามีไขมันมากที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นที่รู้จักในชื่อแบรนด์ ปลาฮาจิโนะเฮะมาเอโอกิซาบะ (Hachinohemaeoki Saba) (* 1)
De-mer (* 2) เป็นบริษัทที่แปรรูป "ปลาฮาจิโนะเฮะมาเอโอกิซาบะ" ให้อร่อยยิ่งขึ้น ด้วยเทคนิคการแปรรูปที่ยอดเยี่ยม
* 1 ... ฤดูกาลจับปลาฮาจิโนะเฮะมาเอโอกิซาบะจะเปลี่ยนไปทุกปี
* 2 ... เนื่องจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปริมาณการจับ “ฮาจิโนะเฮะมาเอโอกิซาบะ” ลดลง จึงมีการใช้ปลาซาบะจากพื้นที่อื่นร่วมด้วยบางส่วน
De-mer บริษัทเก่าแก่ที่สืบทอดเทคนิคแปรรูปปลาซาบะมายาวนาน
De-mer (เดอ-แมร์) มีโรงงานแปรรูปห่างจากท่าเรือฮาจิโนะเฮะราว 15 นาทีโดยรถยนต์ เกิดจากบริษัทบริษัท 3 แห่ง ได้แก่ Daimaru ซึ่งเป็นบริษัทแปรรูปอาหารทะเลที่เก่าแก่ บริษัท Marutake-Hachinohe Suisan และ De-mer ซึ่งเดิมเป็นบริษัทลูกของ Daimaru รวมกิจการกันในเดือนพฤษภาคม 2012
จุดเริ่มต้นของการรวมกิจการคือเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม 2011 คุณคิมุระ โค (Kimura Kou) ประธานบริษัทกล่าวว่า "เนื่องจากโรงงานของ Daimaru และ Marutake-Hachinohe Suisan ได้รับความเสียหายหนักมาก เราจึงตัดสินใจเริ่มต้นใหม่โดยรับความช่วยเหลือจาก ETIC-J (Enterprise Turnaround Initiative Corporation of Japan)"
ทั้ง Daimaru และ Marutake-Hachinohe Suisan ได้พัฒนาเทคนิคการแปรรูปปลาซาบะมายาวนาน ดังนั้น ในช่วง 8 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้ง De-mer ได้สืบทอดเทคนิคของทั้งสองบริษัท จึงมีแฟนผลิตภัณฑ์ปลาซาบะแสนอร่อยมากมาย
ความพิถีพิถันในการแปรรูป
เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ปลาซาบะแสนอร่อย De-mer จึงพิถีพิถันในการแปรรูปมาก
เช่น การจัดการเครื่องในปลา พนักงานที่มีประสบการณ์จะเอาออกด้วยมืออย่างชำนาญและล้างอย่างระมัดระวังไม่ให้หลงเหลือ นอกจากนี้ว่ากันว่า ความหนาของผลิตภัณฑ์แปรรูปแบบสไลซ์ได้รับการวิจัยหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้ได้ความหนาที่เพิ่มรสชาติความอร่อยให้ได้มากที่สุด
ผลิตภัณฑ์ของ De-mer เหล่านี้ได้รับการยอมรับมากจากงานประเมินคุณภาพสินค้าต่างๆ อย่าง Monde Selection
สินค้าแนะนำของ De-mer
ปลาซาบะดองสไลซ์ (sliced shime-saba)
หนึ่งในผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของบริษัทคือ ปลาซาบะดองสไลซ์ ปลาซาบะดองที่หั่นเป็นชิ้นหนา 6 มิลลิเมตร บรรจุแพ็ค พร้อมเสิร์ฟกินได้ง่ายจึงกลายเป็นสินค้ายอดนิยม
คุณคิมุระกล่าวว่า “ผลจากการค้นคว้าวิจัยทำให้ได้ความหนาของปลาที่โอชะที่สุดเมื่อเอาเข้าปากที่ 6 มิลลิเมตร” และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือการใช้เครื่องปรุงรสคุณภาพเยี่ยม และใส่สารปรุงแต่งให้น้อยที่สุด
ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับรางวัล Silver Award จาก Monde Selection เมื่อได้ลองกินจริงๆ ปลาซาบะที่ไขมันเยอะผสานกับน้ำส้มสายชูแบบหวานรสชาติยอดเยี่ยมจนเกินห้ามใจจริงๆ ค่ะ
ผู้เขียนได้เรียนรู้วิธีทำอาหารจากปลาซาบะดองสไลซ์ 2 เมนู เมนูแรกคือกินกับสลัดผักราดน้ำสลัด ส่วนอีกเมนูคือ "นุตะ" อาหารท้องถิ่นญี่ปุ่นที่คลุกเคล้าผักกับน้ำส้มสายชูและมิโซะ
ทั้งสองเมนูรสชาติผสานกับผัก น้ำส้มสายชู และมิโซะได้อย่างยอดเยี่ยม
ปลาซาบะดองน้ำส้มสายชูบ๊วยแบบสไลซ์ (sliced shime-saba in umezu/plum vinegar) Photograph courtesy of De-mer.
จากกระแสความนิยมปลาซาบะดองสไลซ์ บริษัทจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ปลาซาบะแบบสไลซ์ต่างๆ ออกมาเรื่อยๆ
อย่างเมนูโปรดของคุณคิมุระคือ ปลาซาบะดองย่างแบบสไลซ์ และ ปลาซาบะดองน้ำส้มสายชูบ๊วยแบบสไลซ์ คุณคิมุระกล่าวว่า “กินกับสาเกก็อร่อยมาก”
ปลาซาบะดองสไลซ์ (1 ชิ้น ครึ่งตัวประมาณ 125 กรัม) : ราคารวมภาษี 580 เยน
ปลาซาบะดองย่างแบบสไลซ์ (1 ชิ้น ครึ่งตัวประมาณ 125 กรัม) : ราคารวมภาษี 580 เยน
ปลาซาบะดองน้ำส้มสายชูบ๊วยแบบสไลซ์ (1 ชิ้น ครึ่งตัวประมาณ 125 กรัม) : ราคารวมภาษี 580 เยน
ปลาซาบะรมควันเย็น (Cold-smoked Saba)
ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของบริษัทพอๆ กับปลาซาบะดองสไลซ์คือ ปลาซาบะรมควันเย็น
การรมควันเย็นเป็นวิธีการถนอมอาหารโดยใช้การรมควันที่อุณหภูมิต่ำ เพราะใช้อุณหภูมิต่ำ ผิวด้านนอกจึงหอมกลิ่นควันในขณะที่ด้านในยังไม่สุกเก็บความชุ่มฉ่ำเอาไว้อยู่
ปลาซาบะพาสตรามี (Saba Pastrami) Photograph courtesy of De-mer.
ปลาซาบะรมควันเย็นมีให้เลือก 2 ประเภท ได้แก่ แบบรมควัน รสโชยุ สไลซ์หนา 3 มิลลิเมตร (* 3) เหมาะกินในครอบครัว และ แบบพาสตรามี รสเกลือพริกไทยดำ ตอนที่ผู้เขียนได้ลองชิมสัมผัสได้ถึงความชุ่มฉ่ำของเนื้อปลาเข้ากันได้ดีกับกลิ่นหอมของผิวด้านนอก ได้รสชาติที่เข้มข้นเหมือนพาร์มาแฮมหรือแฮมสด
"แบบรมควัน" เหมาะกินคู่กับเบียร์และโชจู ส่วน "แบบพาสตรามี" เหมาะจะกินกับไวน์ขาวและวิสกี้
* 3 : ความหนา 3 มิลลิเมตร เป็นความหนาที่ไขมันของปลาซาบะรมควันเย็นจะละลายในปากได้อร่อยที่สุด
คุณคิมุระกล่าวว่า "ถ้าเป็นอาหารที่ใช้เวลาทำสักเล็กน้อย ผมขอแนะนำ 3 เมนูนี้ครับ" นั่นคือแซนวิชสไตล์แฮมเบอร์เกอร์ สลัดโรล และสลัดผัก
ทุกเมนูรสชาติอร่อยทั้งนั้น แต่แซนวิชที่กินกับซอสจากมายองเนส น้ำผึ้ง และมัสตาร์ดนั้นสุดยอดมากๆ
การรมควันเย็นเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ให้ความร้อนด้วยอุณหภูมิต่ำ (* 4) ทำให้ยากต่อการรักษาส่วนประกอบความอร่อยและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ ดังนั้น ว่ากันว่า นอกเหนือจาก De-mer แล้วก็มีไม่กี่บริษัทที่ทำปลาซาบะรมควันเย็นได้ ด้วยเหตุนี้ผลิตภัณฑ์ของ De-mer จึงนับเป็นของพรีเมี่ยม
ปลาซาบะรมควันเย็น (ประมาณ 110 กรัมต่อชิ้น) : ราคารวมภาษี 680 เยน
ปลาซาบะรมควัน (แบบสไลซ์) (50 กรัม) : ราคารวมภาษี 430 เยน
ปลาซาบะพาสตรามี (แบบสไลซ์) (50 กรัม) : ราคารวมภาษี 430 เยน
* 4 : ที่ De-mer จะเตรียมปลาซาบะด้วยกระบวนการเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคก่อน จากนั้น จึงรมควันด้วยไม้ซากุระที่อุณหภูมิราว 20 องศาเซลเซียส
สามารถซื้อง่ายๆ ได้ทางออนไลน์!
ทั้งปลาซาบะดองสไลซ์ และปลาซาบะรมควันเย็น สามารถซื้อได้ทางออนไลน์ ท่านที่อยากชิม ลองทำตามวิธีกินที่ได้แนะนำไปก่อนหน้านี้ ก่อนอื่นลองสั่งมาแล้วชิมที่บ้านกันเลยค่ะ
ร้านค้าออนไลน์ Rakuten (ภาษาญี่ปุ่น)
ร้านค้าออนไลน์ Amazon (ภาษาญี่ปุ่น)
ไปเที่ยวฮาจิโนะเฮะเมื่อไหร่ ต้องไปฮัตโชคุเซ็นเตอร์ (Hasshoku Center)!
ของขึ้นชื่อในฮาจิโนะเฮะไม่ได้มีแค่ปลาซาบะ ท่าเรือฮาจิโนะเฮะยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งจับปลาหมึกอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น และยังขึ้นชื่อในเรื่องปลาปักเป้าและปลาฮิราเมะ (ปลาลิ้นหมา) ด้วยนะ
สำหรับท่านที่อยากลิ้มรสอาหารทะเลของฮาจิโนะเฮะในระหว่างเที่ยว ฮัตโชคุเซ็นเตอร์คือสถานที่ที่ห้ามพลาดค่ะ มีร้านกว่า 60 ร้านมารวมกันที่นี่ จัดจำหน่ายอาหารทะเลสดจากท่าเรือประมงทั่วญี่ปุ่นรวมถึงท่าเรือฮาจิโนะเฮะ เนื้อสัตว์ ผักที่ผลิตในท้องถิ่น และสาเกท้องถิ่น
บทความนี้ ผู้เขียนลองแวะไปร้านชิมะโมริโชเท็น (Shimamori Shoten) ร้านเก่าแก่ที่เปิดกิจการมายาวนานเกือบ 40 ปี มีปลาซาบะรมควันเย็นของ De-mer วางจำหน่ายด้วย
คุณชิมะโมริ มาซาโยชิ เจ้าของร้านได้แนะนำผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ De-mer ให้ด้วย นั่นคือ ปลาซาบะสำหรับทำข้าวหน้าปลาซาบะหมักซอส ฮาจิโนะเฮะกิงซาบะ โทโรซุเคะด้ง (Hachinohe gin-saba torozuke-don) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลกรังด์ปรีซ์ในการประกวดข้าวราดหน้าจากแต่ละท้องถิ่น Gotouchi Donburi Senshuken ประจำปี 2016 ด้วย เราจะได้ลิ้มรสดงบุริรสเลิศทันทีเพียงแค่นำปลาซาบะวางบนข้าวสวยร้อนๆ
ฮาจิโนะเฮะกิงซาบะ โทโรซึเคะด้ง (180 กรัม สำหรับ 3 ท่าน) : ราคารวมภาษี 980 เยน
นอกจากผลิตภัณฑ์ของ De-mer ที่ฮัตโชคุเซ็นเตอร์ยังมีปลาสดๆ หลากหลายชนิดจำหน่ายด้วย
นอกจากนี้ยังมีร้านชิจิรินมุระ (Shichirin-mura) ที่สามารถนำอาหารทะเลรวมทั้งเนื้อสัตว์ที่ซื้อมาย่างด้วยเตาถ่านรับประทานได้เลย เมื่อนำอาหารทะเลจากร้านชิมะโมริโชเท็นมาย่างแล้วราดโชยุลงไปเล็กน้อย เพียงเอาเข้าปากเคี้ยว ความอร่อยที่อัดแน่นอยู่ก็กระจายไปทั่วปาก
เที่ยวชมเมืองฮาจิโนะเฮะ แหล่งรวมของอร่อยมากมาย!
ซอยมิโรคุโยโคโจ (Miroku Yokocho) / Photo by Pixta
นอกจากฮัตโชคุเซ็นเตอร์แล้ว ยังมีหลายแห่งในฮาจิโนะเฮะที่สามารถเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศได้ โดยเฉพาะที่ซอยมิโรคุโยโคโจ (Miroku Yokocho) ที่ใจกลางเมือง มีร้านอิซากายะบรรยากาศดีๆ มากมายเรียงราย ที่แม้แต่ผู้ที่มาครั้งแรกก็เข้าใช้บริการได้ง่าย
นอกจากนี้ ฮาจิโนะเฮะยังมี ตลาดเช้าท่าเทียบเรือทาเทฮานะ (Tatehana Wharf Morning Market) (* 5) ตลาดเช้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ร้านค้ากว่า 300 ร้านตั้งเรียงราย จำหน่ายสินค้าและของหายากมากมายตั้งแต่อาหารไปจนถึงสินค้าเบ็ดเตล็ดและของเก่าของโบราณ การหาอาหารเช้าอย่างกับข้าวหรือขนมปังพลางเดินดูร้านค้าต่างๆ ถือความเลิศรสของการท่องเที่ยวที่แท้จริงอย่างหนึ่ง
ท่านที่ต้องการเดินเล่นหลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารแสนอร่อย ขอแนะนำหาดทาเนซาชิ (Tanesashi Coast) จากทางเดินเล่นที่ทอดยาวราว 5.2 กิโลเมตรสามารถมองเห็นโขดหินรูปร่างต่างๆ ที่แปลกตา เกาะคาบุชิมะ (Kabushima) ที่อยู่เหนือสุดของหาดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและเป็นเพียงสถานที่เดียวในญี่ปุ่นที่สามารถชมการขยายพันธุ์ของนกนางนวลหางดำแบบใกล้ชิดได้
ไปอิ่มอร่อยกับอาหารรสเลิศและเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ในฮาจิโนะเฮะเมืองท่าที่เต็มอิ่มด้วยบรรยากาศดีๆ กันนะ
* 5: เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ปัจจุบัน (เดือนธันวาคม 2020) ตลาดเช้าท่าเทียบเรือทาเทฮานะจะจัดขึ้นอย่างไม่แน่นอนเพียงบางวันเท่านั้น กรุณาตรวจสอบกำหนดการที่เว็บไซต์ทางการ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
In cooperation with De-mer.
Sponsored by Reconstruction fishery processing industry market recovery promotion center
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง