คู่มือท่องเที่ยวอาโอโมริ - 20 ที่เที่ยวน่าสนใจ - สายกิน, สายธรรมชาติ และสายศิลปะ

อาโอโมริเป็นสถานที่แบบไหนกันนะ?

จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) อยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ รายล้อมด้วยทะเลทั้งสามด้าน มีลักษณะเป็นคาบสมุทรขนาดใหญ่ที่ยื่นออกไปเหนือ 2 แห่ง ได้แก่ คาบสมุทรสึการุ (Tsugaru Peninsula) (ซ้าย) และคาบสมุทรชิโมคิตะ (Shimokita Peninsula) (ขวา)

จังหวัดอาโอโมริอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ อาหารอร่อย และแหล่งออนเซ็น ใหญ่กว่ากรุงโตเกียวถึง 4.5 เท่า! ดังนั้นควรวางแผนสถานที่ที่อยากไปและกิจกรรมที่อยากทำก่อนไปเยือนล่วงหน้าค่ะ

ควรจัดตารางเที่ยวไว้อย่างน้อย 3 วัน 2 คืน เพราะมีสถานที่บางแห่งอยู่ไกลต้องใช้เวลาเดินทางนาน ขอแนะนำให้จัดตารางโดยเผื่อเวลาที่ยืดหยุ่นได้ค่ะ บทความนี้ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปในจังหวัดอาโอโมริโดยแยกตามหัวข้อต่างๆ ดังนี้

สารบัญ

• หล่อเลี้ยงหัวใจด้วยธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ เยียวยาร่างกายด้วยออนเซ็น
• สัมผัสประสบการณ์สุดคลาสสิกย้อนยุคในสถานที่ชมดอกซากุระที่มีชื่อเสียง
• สัมผัสศิลปะและวัฒนธรรมอาโอโมริที่กระตุ้นความรู้สึกอันอ่อนไหว
• อิ่มหนำกับอาหารทะเลให้จุใจ!
• หิ้ว "ของอร่อย" ของอาโอโมริกลับบ้านกัน
• ข้อมูลการเดินทาง

หล่อเลี้ยงหัวใจด้วยธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ เยียวยาร่างกายด้วยออนเซ็น

1. ลำธารโออิราเซะ (Oirase Stream)

Picture courtesy of Aomori Prefecture Tourism Association

ลำธารโออิราเซะไหลจากทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada) ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่อยู่บริเวณพรมแดนระหว่างจังหวัดอาโอโมริและจังหวัดอาคิตะ (Akita) เป็นระยะทางราว 14 กิโลเมตร เนื่องจากมีน้ำตกที่มีเอกลักษณ์อยู่หลายแห่งตามลำธาร ที่นี่จึงได้รับการขนานนามว่า "บาคุฟุไคโด (Waterfall Highway)" ด้วย

Picture courtesy of Aomori Prefecture Tourism Association

ฤดูกาลที่ผู้คนนิยมมาเยือนคือช่วงต้นไม้เขียวชอุ่มในฤดูร้อนและใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ฤดูกาลซึ่งความงดงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้นเป็นระยะเวลานานจะเปล่งประกายงามเป็นพิเศษค่ะ

ที่นี่มีเส้นทางสำหรับเดินเล่นที่เดินง่าย ก่อนอื่นให้เข้าจากเนโนะคุจิ (Nenokuchi) ทะเลสาบโทวาดะ จากนั้นค่อยมุ่งหน้าไปยังจุดถ่ายรูปยอดฮิตอย่างลำธารอาชุระ (Flow of Ashura) หรือน้ำตกโชชิ (Choshi Falls) ที่ทรงพลังมากกันค่ะ

ลำธารโออิราเซะ
ที่อยู่: Okuse, Towada, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: http://towadako.or.jp/en/

2. ทะเลสาบโทวาดะ (Towada Lake)

Picture courtesy of Aomori Prefecture Tourism Association

ทะเลสาบโทวาดะที่มีระดับความลึกมากถึง 327 เมตร ลึกเป็นอันดับ 3 ในญี่ปุ่น เป็นทะเลสาบที่ผิวน้ำมีสีฟ้าเข้มงดงามจนได้รับการกล่าวขนานว่า "เหมือนกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนท้องฟ้าและภูเขาโดยรอบ" ในช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วงมีบริการล่องเรือสำราญ ที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศปลอดโปร่งของธรรมชาติกว้างใหญ่จากบนเรือ

Picture courtesy of Aomori Prefecture Tourism Association

หากอยากใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ขอแนะนำทัวร์ล่องเรือและพายเรือคายัค ทุกปีในฤดูหนาวที่ปกคลุมด้วยหิมะจะมีการจัดอีเวนท์ "เรื่องเล่าของทะเลสาบโทวาดะในฤดูหนาว (Lake Towada Winter Festival)" ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการชมดอกไม้ไฟและไฟประดับ (อิลูมิเนชั่น) เหนือทะเลสาบ

ทะเลสาบโทวาดะ GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: http://towadako.or.jp/en/

3. เทือกเขาชิราคามิ (Shirakami-Sanchi)

เทือกเขาชิราคามิเป็นมรดกทางธรรมชาติที่น่าภาคภูมิใจของอาโอโมริค่ะ มีป่าดงดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาดใหญ่ถึง 16,971 เฮกเตอร์ และธรรมชาติที่ล้ำค่านี้ซึ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย

ช่วงเวลาเดินเขาที่แนะนำคือตั้งแต่เดือนมิถุนายนซึ่งเป็นช่วงที่มีการเปิดเขาอย่างจริงจัง ไปจนถึงเดือนตุลาคมที่มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชม ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมที่ต้นไม้เขียวชอุ่มเป็นพิเศษกว่าช่วงอื่น จะรู้สึกได้ถึงพลังของธรรมชาติที่น่าตื่นตะลึงทีเดียว

สระสีฟ้า

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือทะเลสาบจูนิ (Lake Juniko) ซึ่งประกอบด้วยทะเลสาบ 33 แห่งและบึงน้อยใหญ่ โดยเฉพาะสระสีฟ้าที่มีผืนน้ำสีฟ้าใสจนน่าตะลึง ดูลึกลับ เป็นจุดที่น่าไปชมอย่างยิ่งค่ะ

Shirakami-Sanchi Visitor Center
ที่อยู่: 61-1 Aza Kanda, Ooaza Tashiro, Nishimeya, Nakatsugaru, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: https://www.experience-shirakami.com/

4. ซึคายุออนเซ็น (Sukayu Onsen)

Picture courtesy of Aomori Prefecture Tourism Association

ซึคายุออนเซ็นที่มีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี ว่ากันว่าน้ำร้อนที่มีคุณสมบัติเป็นกรดและมีกลิ่นของกำมะถัน มีผลช่วยในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ จึงมีคนจำนวนมากไปเยือนเพื่อเยียวยาความเหนื่อยล้าและความเจ็บป่วยของร่างกาย การเดินทางสะดวกเนื่องจากสามารถนั่งรถบัส JR จากสถานีชินอาโอโมริ (Shin-Aomori) ที่รถไฟชินคันเซ็นจอด ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที

ซึคายุออนเซ็นมีเรียวกังเพียงแห่งเดียวในบริเวณทางขึ้นเขาฮัคโคดะ (Mt. Hakkoda) ภายในเรียวกังมีห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ที่ขึ้นชื่อเรียกว่า "ฮิบะเซ็นนินบุโระ (Hiba Sennin Buro)" ในห้องที่มีขนาดใหญ่เท่ากับสนามเทนนิส มีบ่อแช่ 4 ชนิดที่มีแหล่งต้นน้ำแตกต่างกัน และเป็นอ่างแบบชายหญิงแช่รวมกัน

ค่าพักที่เรียวกังตกคืนละ 15,000 เยนต่อคน หรือจะใช้บริการออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับโดยเสียค่าบริการ 1,000 เยน สำหรับสาวๆ ที่ไม่อยากแช่อ่างแบบรวม สามารถใช้บริการได้ในช่วงเวลาสำหรับผู้หญิงเท่านั้นคือตั้งแต่ 8:00-9:00 น. และ 20:00-21:00 น. ค่ะ

ซึคายุออนเซ็นเรียวกัง
ที่อยู่: 50 Sukayuzawa, Kokuyurin, Minami-Arakawayama, Arakawa, Aomori, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: https://www.sukayu.jp

5. จุเฮียวในเขาฮัคโคดะ (Mt. Hakkoda)

รู้จัก "สโนว์มอนสเตอร์ (ปีศาจหิมะ)" บนเขาฮัคโคดะ สิ่งที่มีชื่อเสียงของอาโอโมริในช่วงฤดูหนาวกันไหมคะ?

Photo by Pixta

นั่นก็คือจุเฮียวหรือต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะนั่นเอง กลุ่มจุเฮียวที่กลายเป็นปีศาจหิมะขนาดใหญ่นี้ เป็นผลงานศิลปะธรรมชาติอันน่าหลงใหลอันเป็นเอกลักษณ์ของอาโอโมริ พื้นที่ที่มีหิมะตกหนัก เราจะไปชมทิวทัศน์กลางอากาศโดยการนั่งกระเช้าโรปเวย์ เข้าร่วมทัวร์สโนว์ไฮกิ้ง (เดินป่าท่ามกลางหิมะ) หรือเล่นสกีก็สนุกนะคะ

จาก "ท้าความหนาว -20 องศา!! ชมจุเฮียวที่เขาฮัคโคดะในอาโอโมริ"

การเดินทางไปยังเขาฮัคโคดะที่มองเห็นวิวปีศาจน้ำแข็งได้ จากสถานีชินอาโอโมริโดยรถบัส JR ใช้เวลา 1 ชั่วโมง หรือจากซึคายุออนเซ็นที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันโดยรถบัส JR ใช้เวลา 15 นาที ซึ่งถือว่าสะดวกมากๆ ค่ะ

ฮัคโคดะโรปเวย์ (Hakkoda Ropeway)
ที่อยู่: 1-12 Kansuizawa, Arakawa, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: http://www.hakkoda-ropeway.jp/english

6. โฮโตเคะกาอุระ (Hotoke-ga-ura) ในคาบสมุทรชิโมคิตะ

Picture courtesy of Aomori Prefecture Tourism Association

"โฮโตเคะกาอุระ" เป็นหน้าผาสูงชันและโขดหินประหลาดขนาดใหญ่ที่ทอดยาวกว่า 2 กิโลเมตรตามชายฝั่งของคาบสมุทรชิโมคิตะ เมื่อคู่กับทะเลสีฟ้าครามแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเป็นภาพลวงตาราวกับเข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง และจากทิวทัศน์ที่เปรียบเสมือนแดนสุขาวดีในศาสนาพุทธนี้ จึงได้รับการขนานนามว่า “โฮโตเคะกาอุระ” (โฮโตเคะในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง พระพุทธ)

ที่นี่มีทางเดินเล่นสำหรับเที่ยวชมด้วย แนะนำให้นั่งเรือสำราญที่ออกจากท่าเรือซาอิ (Sai Port) ที่อยู่ใกล้ที่สุด โปรแกรมล่องเรือราว 1 ชั่วโมงครึ่งที่แล่นรับลมทะเลแสนสดชื่น ราคาไปกลับสำหรับผู้ใหญ่ 2,400 เยน ระหว่างทางจะแวะจอดให้ลงไปเดินเล่นที่โฮโตเคะกาอุระด้วย

โฮโตเคะกาอุระ
ที่อยู่: Sai, Kimoshita, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: http://hotokegaura.jp

7. เขาโอโซเระ (Mt. Osore) ในคาบสมุทรชิโมคิตะ

Picture courtesy of Aomori Prefecture Tourism Association

จุดที่ไม่ควรพลาดอีกแห่งในคาบสมุทรชิโมคิตะก็คือ "เขาโอโซเระ" ค่ะ พื้นที่ทั้งหมดของทะเลสาบอุโซริยามะ (Lake Usoriyama) ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับอธิษฐานให้ผู้ที่ล่วงลับมาตั้งแต่อดีต ทิวทัศน์ของชะง่อนผาชันทอดยาวที่ดูห่างไกลจากความเป็นจริงช่างเหมือนโลกหลังความตายจริงๆ

ยังมีออนเซ็นในบริเวณที่ผู้มาสักการะสามารถใช้ได้อย่าอิสระ แร่ธาตุในน้ำพุร้อนเข้มข้นมาก อาจทำให้โลหะต่างๆ เป็นสนิมได้ทันที ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ถอดแหวนกับนาฬิกาออกตอนแช่น้ำนะคะ

นอกจากนี้บริเวณวัดในเขาโอโซเระยังมี "ชุคุโบคิทโชคาคุ" หรือที่พักในวัดสำหรับตื่นไปทำวัตรเช้า (ท่องพระสูตร) ได้ ราคาหนึ่งคืนพร้อมอาหาร 2 มื้อ (อาหารมังสวิรัติ) คนละ 12,000 เยนค่ะ

โอโซเระซังออนเซ็น ชุคุโบคิทโชคาคุ
ที่อยู่: 3-2 Aza Usoriyama, Oaza Tanabu, Mutsu, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: http://www.mutsu-kanko.jp/en/miru_01.html

สัมผัสประสบการณ์สุดคลาสสิกย้อนยุคในสถานที่ชมดอกซากุระที่มีชื่อเสียง

8. ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) และสวนฮิโรซากิ (Hirosaki Park)

Photo by Pixta

"ปราสาทฮิโรซากิ" เป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงซึ่งดำรงอยู่ในปัจจุบันหลังผ่านยุคสมัยมานานกว่า 400 ปี สวนฮิโรซากิที่ปราสาทฮิโรซากิตั้งตระหง่านอยู่นี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียง และได้รับเลือกให้เป็น "100 สถานที่ชมซากุระขึ้นชื่อของญี่ปุ่น" ด้วย

Photo by Pixta

ทุกปีซากุระกว่า 2,600 ต้นจะเริ่มผลิบานตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน! โดยเฉพาะซากุระริมคูล้อมรอบปราสาทฮิโรซากินั้นขึ้นชื่อมาก บรรยากาศที่กลีบดอกซากุระร่วงปกคลุมเต็มผืนน้ำเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามมาก

เนื่องจากปัจจุบัน (ปี 2019) ปราสาทฮิโรซากิอยู่ระหว่างการบูรณะกำแพงหิน จะมีการเคลื่อนย้ายเฉพาะป้อมปราสาทเท่านั้น ภายในป้อมจะเปิดให้เข้าชมตามปกติถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2019 นี้

สวนฮิโรซากิ
ที่อยู่: 1 Shimoshiroganecho, Hirosaki, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: https://www.hirosakipark.jp/

9. ร้านกาแฟสตาร์บัคส์ (Starbucks Coffee) สาขาหน้าสวนฮิโรซากิ

จาก "Starbucks สาขาหน้าสวนฮิโรซากิ ในอาคารย้อนยุคที่เป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่มีรูปร่าง! ในอาโอโมริ"

ในเมืองฮิโรซากิซึ่งเคยรุ่งเรืองในฐานะเมืองรอบปราสาท ไม่ได้มีแค่ปราสาทที่ยังหลงเหลืออยู่เท่านั้น ยังมีสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ในที่ต่างๆ ทั่วเมืองอีกด้วย มีคาเฟ่หลายแห่งที่นำอาคารเก่าเหล่านั้นกลับมาทำเป็นคาเฟ่ ที่นี่จึงเป็นเมืองที่คอกาแฟต้องมา!

จาก "Starbucks สาขาหน้าสวนฮิโรซากิ ในอาคารย้อนยุคที่เป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่มีรูปร่าง! ในอาโอโมริ"

“ร้านกาแฟสตาร์บัคส์" หน้าสวนฮิโรซากิ รีโนเวทจากอาคารของรัฐบาลที่สร้างขึ้นเมื่อ 100 ปีก่อนซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม บรรยากาศภายในร้านเป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์ญี่ปุ่นกับตะวันตก มีการนำงานหัตถกรรมพื้นบ้านของอาโอโมริมาใช้ตกแต่งภายในอย่างไฟและเฟอร์นิเจอร์ ช่วยเพิ่มบรรยากาศการท่องเที่ยวของคุณให้ตื่นเต้นขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

ร้านกาแฟสตาร์บัคส์ สาขาหน้าสวนฮิโรซากิ
ที่อยู่: 1-1 Kamishiroganecho, Hirosaki, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: https://www.starbucks.co.jp/en/search/detail.php?id=1302&search_condition=Aomori

10. สวนอนุสรณ์ฟูจิตะ (Fujita Memorial Garden) และคาเฟ่ไทโชโรมันทีรูม (Taisho Roman Tea Room Cafe)

Picture courtesy of Aomori Prefecture Tourism Association

คาเฟ่สุดแสนพิเศษที่น่าไปเยือนมากแห่งหนึ่งในฮิโรซากิอยู่ใน "สวนอนุสรณ์ฟูจิตะ" ที่อยู่ติดกับสวนฮิโรซากิค่ะ

อาคารสไตล์ตะวันตกที่สร้างขึ้นในปี 1921 เคยเป็นบ้านพักตากอากาศของคุณฟูจิตะ เค็นอิจิ นักธุรกิจ เป็นอาคารหลังงามที่มีหลังคาทรงแหลมสีแดง ส่วนหนึ่งของอาคารตะวันตกเป็น "คาเฟ่ไทโชโรมันทีรูม" ที่สามารถสัมผัสกับบรรยากาศงดงามของสมัยนั้นได้

ขอแนะนำให้นั่งกินแอปเปิ้ลพายในที่ซึ่งแสงแดดสาดส่องเข้ามาจากหน้าต่างบานใหญ่ แอปเปิ้ลพายที่ทำจากแอปเปิ้ลซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของฮิโรซากิ มีให้เลือกมากถึง 6 ชนิดเลยทีเดียว!

ในสวนยังมี "ทาคุมิคัง (Takumikan)" พื้นที่จัดแสดงและจำหน่ายงานหัตถกรรมดั้งเดิมของฮิโรซากิด้วย สามารถแวะไปหาซื้อของฝากกันที่นี่ได้ค่ะ

สวนอนุสรณ์ฟูจิตะ
ที่อยู่: 8-1 Kamishiroganecho, Hirosaki, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: http://www.hirosakipark.or.jp/hujita/english.html

สัมผัสศิลปะและวัฒนธรรมอาโอโมริที่กระตุ้นความรู้สึกอันอ่อนไหว

11. พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริ (Aomori Museum of Art)

"พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริ" อยู่ติดกับซากโบราณสถานซันไนมารุยามะ (Sannai-Maruyama Site) ซึ่งเป็นซากหมู่บ้านสมัยโจมง (Jomon period village site) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่มีผลงานของศิลปินที่เกิดในจังหวัดอาโอโมริจัดแสดงอยู่มากมาย

©Yoshitomo Nara ปี 2005

ในบรรดางานศิลป์ มี "อาโอโมริอินุ (สุนัขอาโอโมริ)" รูปปั้นผลงานของคุณนาระ โยชิโทโมะ ศิลปินระดับโลกเป็นสัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ สุนัขสีขาวขนาดสูงใหญ่ถึง 8.5 เมตร ว่ากันว่าสร้างขึ้นมาโดยจินตนาการมาจากซากโบราณสถานที่ขุดพบ

และที่นี่ไม่ได้มีความน่าสนใจแค่ผลงานที่จัดแสดงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาคารสไตล์มินิมอลที่ออกแบบโดยคุณอาโอคิ จุน ซึ่งใส่ใจในการออกแบบความงามที่เปล่งประกายในทุกที่ด้วยค่ะ

พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริ
ที่อยู่: 185 Chikano, Yasuta, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: http://www.aomori-museum.jp/en/

12. ศูนย์ศิลปะโทวาดะ (Towada Art Center)

จาก "ศูนย์ศิลปะโทวาดะ จุใจกับงานอาร์ตได้ทั้งในและนอกอาคาร!! จังหวัดอาโอโมริ"

ทั้งภายนอกและภายในพิพิธภัณฑ์มีผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงอย่างคุซามะ ยาโยอิ และรอน มิววิก (Ron Mueck) จัดแสดงอยู่ ภายใต้แนวคิด "พิพิธภัณฑ์แบบเปิดที่ให้ประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านงานศิลปะ”

จาก "ศูนย์ศิลปะโทวาดะ จุใจกับงานอาร์ตได้ทั้งในและนอกอาคาร!! จังหวัดอาโอโมริ"

หนึ่งในเสน่ห์ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คืองานศิลปะกลางแจ้งที่มีความงามแตกต่างไปตามฤดูกาลและสภาพอากาศ เนื่องจากมีผลงานหลากสีสันและขี้เล่นจำนวนมาก ทั้งคู่รัก ครอบครัวที่พาเด็กๆ ไป หรือคนที่ไม่คุ้นเคยกับงานศิลปะก็สามารถชมอย่างเพลิดเพลินได้ค่ะ

ศูนย์ศิลปะโทวาดะ
ที่อยู่: 10-9 Nishi-Nibancho, Towada, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: http://towadaartcenter.com/en/

13. พิพิธภัณฑ์เนบุตะ วะ รัซเซ (Nebuta Museum WA RASSE)

Picture courtesy of Nebuta Museum WA RASSE

หากพูดถึงสัญลักษณ์ของฤดูร้อนในอาโอโมริ นั่นก็คือ "เทศกาลเนบุตะ" เป็นเทศกาลซึ่งนำโคมไฟขนาดมหึมาที่ทำจากกระดาษหรือไม้ไผ่เรียกว่า "เนบุตะ" ขึ้นดาชิแล้วแห่ไปรอบเมือง พร้อมนักเต้นรำที่เรียกว่า "ฮาเนโตะ" ร้องและเต้นไปมาสร้างความคึกคักให้งานเทศกาลยิ่งขึ้น

แม้เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัดอาโอโมริ แต่เทศกาลเนบุตะในเมืองอาโอโมริมีขนาดใหญ่และงดงามเป็นพิเศษ ในพิพิธภัณฑ์เนบุตะ วะ รัซเซที่อยู่ด้านหน้าสถานีอาโอโมริ นอกจากจะมีการจัดแสดงเนบุตะของจริงแล้ว ยังสามารถลองเต้นแบบนักเต้นฮาเนโตะที่คุณจะรู้สึกสนุกสนานเหมือนอยู่ในงานเทศกาลอย่างแน่นอนค่ะ

พิพิธภัณฑ์เนบุตะ วะ รัซเซ
ที่อยู่: 1-1-1 Yasukata, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: http://www.nebuta.jp/warasse/foreign/english.html

14. รถไฟเตาผิง (Stove Train)

Picture courtesy of Aomori Prefecture Tourism Association

รถไฟเตาผิงซึ่งเป็นที่ชื่นชอบในคาบสมุทรสึการุในช่วงฤดูหนาว มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ปี 1930 โดยเริ่มต้นเป็นรถไฟที่วิ่งเฉพาะช่วงฤดูนาว รถไฟที่วางเตาถ่านหินไว้ในขบวนรถไฟ วิ่งช้าๆ ไปท่ามกลางวิวหิมะขาวโพลน เป็นบรรยากาศที่ทำให้ลืมความวุ่นวายในชีวิตประจำวันไปโดยปริยาย

ของขึ้นชื่อคือสุรุเมะ (ปลาหมึกแห้ง)ที่ผู้โดยสารสามารถนำมาปิ้งบนเตาได้อย่างอิสระ สำหรับผู้ที่ขึ้นเป็นครั้งแรกไม่ต้องกังวลใจไป เพราะมีพนักงานตรวจตั๋วโดยสารกับพนักงานขายของในขบวนคอยช่วยเหลืออยู่ค่ะ ระยะเวลาการเดินรถเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม ในช่วงฤดูร้อนจะเปลี่ยนเป็นรถไฟฟูริน (กระดิ่งลม) ที่แขวนกระดิ่งลมไว้เต็มขบวนแทนค่ะ

นั่งรถไฟสึการุ (Tsugaru Railway) จากสถานีสึการุ โกโชกาวาระ (Tsugaru Goshogawara) ถึงสถานีสึการุ นาคาซาโตะ (Tsugaru-Nakasato) ใช้เวลา 40 นาที

รถไฟเตาผิง
เว็บไซต์ทางการ: http://tsutetsu.com/stove.html

15. ศาลเจ้าทาคายามะอินาริ (Takayama Inari Shrine)

Picture courtesy of Aomori Prefecture Tourism Association

"ศาลเจ้าทาคายามะอินาริ" อยู่ในคาบสมุทรสึการุ เป็นสถานที่รับพลังเสริมดวงที่คนไม่น้อยต่างรู้จัก แม้เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติความเป็นมาว่าช่วยให้การค้าเจริญรุ่งเรืองและมีโกโคคุโฮโจ (*1) แต่เป้าหมายของผู้สักการะที่มาจากแดนไกลคือโทริอิจำนวนนับไม่ถ้วนที่เรียงซ้อนกันอยู่ภายในศาลเจ้า

แม้จะเรียกว่า "เซ็มบงโทริอิ (เสาโทริอิพันต้น)" แต่จริงๆ แล้วว่ากันว่ามีถึง 2,000 ต้น เซ็มบงโทริอิที่ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha) ในเกียวโตมีชื่อเสียง แต่โทริอิสีแดงชาดที่ยาวคดเคี้ยวไปจนถึงในสวนญี่ปุ่นมีแค่ที่นี่เท่านั้น นี่เป็นสถานที่มหัศจรรย์ที่อยากให้ลองไปเยือนสักครั้งค่ะ

*1: โกโคคุโฮโจ.....คำที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพืชผล

ศาลเจ้าทาคายามะอินาริ
ที่อยู่: 147-1 Washinosawa, Ushigatacho, Tsugaru, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: http://www.tsugarubrand.jp/web/detail.html?id=00000530

อิ่มหนำกับอาหารทะเลให้จุใจ!

จังหวัดอาโอโมริที่ล้อมรอบด้วยทะเลเป็นแหล่งขุมทรัพย์ของผลิตผลจากทะเลที่สดใหม่ โดยเฉพาะหากพูดถึงปลามากุโระที่จับได้จากโอมะ (Oma) ที่อยู่ทางเหนือสุดของคาบสมุทรชิโมคิตะ เป็นปลามากุโระที่มีคุณภาพสูงที่สุดที่นักชิมยังยกนิ้วให้! ขอแนะนำร้านอาหารทะเลสดอร่อยๆ ที่ได้กินแล้วต้องคิดว่า "ดีใจที่ได้มาอาโอโมริ!"

16. ต้นตำรับ อาโอโมรินกเคะด้ง (Aomori Nokkedon)

"ต้นตำรับ อาโอโมรินกเคะด้ง" เมนูอร่อยในตลาดฟุรุคาวะ (Furukawa Market) หน้าสถานีอาโมโมริ เป็นข้าวหน้าอาหารทะเลพูนๆ เป็นภูเขา เราจะได้กินข้าวดงบุริชามพิเศษในแบบฉบับของตัวเอง โดยเลือกวัตถุดิบจากร้านในตลาดมาโปะบนข้าวตามใจชอบ นอกจากอาหารทะเล ยังมีเนื้อสัตว์และเครื่องเคียงอื่นๆ ให้เลือกได้แบบไม่รู้จบด้วยนะ

Picture courtesy of Nokkedon co., Ltd

ก่อนอื่น ต้องซื้อคูปองแลกซื้อวัตถุดิบ (10 ใบ 1,300 เยน) ที่ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยว (Information Office) ในตลาด เมนูดงบุริจะมีข้าวให้มา ที่เหลือก็แค่ไปเดินหาวัตถุดิบที่ชอบในตลาดเท่านั้นค่ะ บนชั้น 2 ของตลาดมีพื้นที่พักผ่อนซึ่งสามารถนั่งกินอาหารได้ด้วยค่ะ

ตลาดฟุรุคาวะ
ที่อยู่: 1-11-16 Furukawa, Aomori, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: https://nokkedon.jp/nokkedon/

17. มินาโตะโชคุโด (Minato Shokudo)

จาก "รางวัลชนะเลิศดงบุริกรังปรีซ์! ข้าวหน้าปลาฮิราเมะหมักซอสร้านมินาโตะโชคุโด ที่ฮาจิโนเฮะ"

ร้านที่เราจะได้ลิ้มลองปลาฮิราเมะชั้นเลิศก็คือ "มินาโตะโชคุโด" ที่อยู่ในฮาจิโนเฮะ (Hachinohe) ค่ะ เนื่องจากที่นี่เป็นโรงอาหารของท่าเรือประมง จึงเปิดทำการแต่เช้า ตั้งแต่ 6:00-15:00 น. แต่ได้รับความนิยมมากขนาดที่มีคนมารอคิวยาวตั้งแต่ก่อนเที่ยงกันเลยทีเดียว

จาก "รางวัลชนะเลิศดงบุริกรังปรีซ์! ข้าวหน้าปลาฮิราเมะหมักซอสร้านมินาโตะโชคุโด ที่ฮาจิโนเฮะ"

เมนูยอดฮิตคือฮิราเมะสึเคด้ง (Hirame Zukedon) หรือข้าวหน้าปลาฮิราเมะหมักซอส (ราคารวมภาษี 1,000 เยน) ที่โปะหน้าข้าวด้วยซาชิมิปลาฮิราเมะจนแทบล้น กินโดยผสมกับไข่แดง นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ อีกเพียบอย่างข้าวหน้ามากุโระและข้าวหน้าอุด้ง แม้จะเป็นโรงอาหารเล็กๆ แต่ก็มีคนในท้องถิ่นรวมถึงผู้ที่ชื่นชอบมากมายที่เดินทางไกลมาบ่อยครั้งด้วย ถ้าไปที่ฮาจิโนเฮะ ที่นี่เป็นร้านดังที่อยากให้รีบตื่นไปแต่เช้าค่ะ

มินาโตะโชคุโด
ที่อยู่: 45-1 Kubo, Minatomachi, Hachinohe, Aomori GoogleMap

18. ฮัชโชคุเซ็นเตอร์ (HASSHOKU CENTER)

Picture courtesy of HASSHOKU CENTER
ที่นี่มีของอร่อยในฮาจิโนเฮะครบทั้งอาหารทะเล อาหารรสเลิศไปจนถึงเหล้าเลยค่ะ! โดยเฉพาะพวกอาหารทะเลและซาชิมิสดใหม่ที่จับได้จากทะเลกันสดๆ มีหลากหลายชนิดให้เลือก จึงเป็นร้านที่ไม่ควรพลาดค่ะ

Picture courtesy of HASSHOKU CENTER
แม้ภายในอาคารจะมีร้านขายอาหารไม่น้อย แต่ร้านยอดนิยมคือร้านชิจิรินมูระ (Shichirin-mura) ที่สามารถลิ้มรสอาหารทะเลและเนื้อที่ซื้อแล้วย่างเอง วัตถุดิบชั้นเยี่ยมที่ย่างเป็นอย่างดีด้วยเตาถ่านทำให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น เราจะได้สนุกในอารมณ์เหมือนปิ้งบาร์บีคิว จึงเหมาะที่สุดสำหรับสร้างความทรงจำในการเดินทางค่ะ

ฮัชโชคุเซ็นเตอร์
ที่อยู่: 22-2 Aza-Kansai Kawaragi, Hachinohe, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: https://www.849net.com/en/

หิ้ว "ของอร่อย" ของอาโอโมริกลับบ้านกัน

19. Rapple ของชิกาไนเซมเบ้ (Shikanai Sembei)

หากพูดถึงผลผลิตท้องถิ่นของจังหวัดอาโอโมริ ต้องนึกถึงแอปเปิ้ล "Rapple (ภาษาญี่ปุ่นออกเสียง ราพุรุ)" เป็นขนมยอดนิยมของร้านชิกาไนเซมเบ้ ร้านขายขนมเก่าแก่ในฮิโรซากิ ทำจากแป้งเนื้อฟูนุ่มสอดไส้แอปเปิ้ลที่หวานสดชื่น

ขนาดพอดีคำ กินง่าย รวมทั้งเนื้อสัมผัสกรอบๆ ของแอปเปิ้ล กินแล้วจะติดใจ ในฤดูร้อนให้แช่ในตู้เย็น ส่วนในฤดูหนาวให้นำไปอุ่นกับเตาอบ จะได้ลิ้มรสความอร่อยที่แตกต่างกันค่ะ

ชิกะไนเซมเบ้ สาขาใหญ่
ที่อยู่: 32 Shinteramachi, Hirosaki, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: https://shikanai.co.jp/english/hirosaki/

20. A-FACTORY ร้านของฝากจากอาโอโมริ

"A-FACTORY (เอแฟคโตรี่)" จำหน่ายสินค้ามากมายอย่างของหวาน เครื่องดื่ม ไปจนถึงสินค้าเบ็ดเตร็ดเก๋ๆ ที่นิยมมากในจังหวัดอาโอโมริค่ะ ร้านยังตั้งอยู่ในทำเลแสนสะดวกหน้าสถานีอาโอโมริด้วยค่ะ

ภายในอาคารมีโรงงานไซเดอร์ซึ่งผลิตเหล้าจากแอปเปิ้ลที่ปลูกในอาโอโมริ แน่นอนว่าสามารถซื้อและชิมได้ที่ร้านอาหาร เนื่องจากมีรสผลไม้ ซ่า หวานอมเปรี้ยว จึงได้รับความนิยมมากในหมู่สาวๆ นอกจากนี้ยังมีร้านขายเจลาโต้กับร้านขายแฮมเบอร์เกอร์ที่พิถีพิถันกับวัตถุดิบโดยใช้ผลผลิตท้องถิ่นของจังหวัดอาโอโมริด้วย

A-FACTORY
ที่อยู่: 1-4-2 Yanakawa, Aomori, Aomori GoogleMap
เว็บไซต์ทางการ: https://www.jre-abc.com/wp/afactory/

ข้อมูลการเดินทาง

การเดินทางจากโตเกียว

กรณีที่เดินทางจากโตเกียวไปอาโอโมริด้วยรถไฟชินคันเซ็น ให้นั่งโทโฮคุชินคันเซ็น (Tohoku Shinkansen) ไปลงที่สถานีฮาจิโนเฮะ (Hachinohe) หรือสถานีชินอาโอโมริ (Shin-Aomori) ค่ะ

เส้นทาง	ระยะเวลา	ค่าโดยสารเที่ยวเดียว
สถานีโตเกียว-สถานีฮาจิโนเฮะ	ประมาณ 3 ชั่วโมง	เริ่มต้นที่ 16,090 เยนขึ้นไป
สถานีโตเกียว-สถานีชินอาโอโมริ	ประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาที	เริ่มต้นที่ 17,150 เยนขึ้นไป

ขอแนะนำสถานีที่สะดวกและใกล้ที่สุดของรถไฟชินคันเซ็น โดยแบ่งตามปลายทางหลัก ดังต่อไปนี้

ปลายทางหลัก	สถานีที่ใกล้ที่สุด
ลำธารโออิราเซะและทะเลสาบโทวาดะ	สถานีฮาจิโนเฮะ
คาบสมุทรชิโมคิตะ	สถานีฮาจิโนเฮะ
ซึคายุออนเซ็นและเขาฮัคโคดะ	สถานีชินอาโอโมริ
เทือกเขาชิราคามิ	สถานีชินอาโอโมริ
คาบสมุทรสึการุ	สถานีชินอาโอโมริ
สวนฮิโรซากิและปราสาทฮิโรซากิ	สถานีชินอาโอโมริ

ข้อควรระวัง: สถานีชินอาโอโมริ (Shin-Aomori) ที่รถไฟชินคันเซ็นจอดกับสถานีอาโอโมริ (Aomori) เป็นคนละสถานีกัน กรณีที่จะไปสถานีอาโอโมริต้องเปลี่ยนไปนั่งรถไฟธรรมดาจากสถานีชินอาโอโมริ แล้วลงที่สถานีถัดไป

กรณีเดินทางไปอาโอโมริด้วยรถบัสด่วนพิเศษ (Express Bus) จากสถานีโตเกียว (Tokyo) ไปยังสถานีฮาจิโนเฮะ (Hachinohe) ใช้เวลาราว 11 ชั่วโมง ค่าโดยสารเที่ยวละประมาณ 7,000 เยน เมื่อเทียบกับรถไฟชินคันเซ็นแล้วถูกกว่ามาก

กรณีเดินทางโดยเครื่องบินมีเที่ยวบินจากสนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) ไปสนามบินอาโอโมริ (Aomori Airport) ค่าโดยสารเที่ยวละ 17,000 เยนขึ้นไป ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง แต่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงซึ่งไม่นาน แถมการเดินทางไปยังเมืองอาโอโมริก็ยังสะดวกมากๆ

แนะนำวิธีการเดินทางภายในจังหวัด

หากต้องการท่องเที่ยวไปตามจุดท่องเที่ยวยอดนิยม แนะนำให้นั่งรถบัสวิ่งรอบเมือง เช่น รถบัสนำเที่ยวที่เชื่อมสถานีฮิโรซากิกับทะเลสาบโทวาดะ (Sightseeing bus connecting Hirosaki and Lake Towada) จะให้บริการตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน ค่าโดยสารเที่ยวละ 3,000 เยน รถบัสนี้เป็นระบบจองเท่านั้น ต้องจองล่วงหน้าก่อนวันโดยสารอย่างน้อย 7 วัน

นอกจากนี้ยังมี "อาโอโมริชัทเทิลเดอรูทบัส เนบุตังโก (Aomori Shuttle de Route Bus Nebutan-Go)" ชัทเทิลบัสที่วิ่งรอบสถานีอาโอโมริ ครั้งละ 300 เยน (ตั๋วแบบ One day pass 700 เยน) และยังมีรถบัสที่วิ่งเชื่อมต่อระหว่างสถานีฮาจิโนเฮะ (Hachinohe) กับฮัชโชคุเซ็นเตอร์ (Hasshoku Center) ราคา 100 เยนด้วย

นอกจากนี้หากเป็น JR ล่ะก็สามารถใช้ JR EAST PASS ที่จำหน่ายให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนประเทศญี่ปุ่น ราคา 5 วัน 20,000 เยน สามารถขึ้นรถไฟ JR รวมถึงรถไฟชินคันเซ็นได้เกือบทั้งหมดแบบไม่อั้น จึงคุ้มค่าสุดๆ ค่ะ

พื้นที่อื่นนอกใจกลางเมืองอาโอโมริ ยังมีเครือข่ายการคมนาคมไม่ค่อยพัฒนานัก ดังนั้น หากอยากเที่ยวให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของจังหวัดอาโอโมริล่ะก็ แนะนำให้เช่ารถยนต์กันค่ะ

จังหวัดอาโอโมริที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ออนเซ็น อาหารอร่อย และสิ่งที่น่าสนใจมากมาย

เนื่องจากอาโอโมริอยู่ในเส้นละติจูดใกล้กับปักกิ่งและนิวยอร์ค จึงขึ้นชื่อในเรื่องฤดูหนาวที่หนาวจัดและหิมะที่ตกหนัก แต่ในฤดูร้อนจะเป็นพื้นที่ที่มีอากาศเย็นสบายและดำเนินชีวิตง่าย อีกทั้งอากาศของสี่ฤดูกาลยังชัดเจน จึงมีกิจกรรมต่างๆ เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ลองแวะไปเที่ยวบ่อยๆ และเป็นกูรูอาโอโมริกันนะคะ!