Start planning your trip
เปิดไทม์แคปซูลกลางมหานครโตเกียว ย้อนเวลากลับไปสมัยโชวะ! ที่ Seiko Lodge ในย่านโอกิคุโบะ (Ogikubo)
เดินจากทางออกทิศใต้ของสถานีโอกิคุโบะบนเส้นทางรถไฟสาย JR Chuo ไปราว 6 - 7 นาที ก็จะพบกับ Seiko Lodge ที่เงียบสงบในเขตที่อยู่อาศัย ตัวอาคารมีเอกลักษณ์จนหลายคนต้องหยุดมอง บทความนี้ขอแนะนำอาคารเก่าแก่กว่า 100 ปีหลังนี้ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่มีรูปร่างของญี่ปุ่น
Seiko Lodge (เซโคลอดจ์) ที่พักเก่าแก่ 100 ปี
Seiko Lodge (อาคารใหม่)
Seikou ที่พักซึ่งเปิดให้บริการในปี 1916 (ปีไทโชที่ 5) ในย่านฮงโกะ (Hongo) เขตบุงเกียว (Bunkyo) โตเกียว (Tokyo)
อาคารถูกทำลายในเหตุการณ์ภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คันโตในปี 1923 (ปีไทโชที่ 12) จากนั้น ในปี 1931 (ปีโชวะที่ 6) อาคารหลัก (ปัจจุบันคือ Ryokan Seiko Main Building) ได้ย้ายมาที่ย่านโอกิคุโบะ
และได้สร้างอาคารใหม่ (ปัจจุบันคือ Seiko Lodge) ที่เป็นส่วนต่อขยายในปี 1938 (ปีโชวะที่ 13) ที่มีบรรยากาศทันสมัยไม่เหมือนใคร
คุณฮิรามะ โยชิทามิ เจ้าของรุ่นที่ 3 กล่าวว่า "สำหรับผม อาคารหลังนี้มีความลึกลับซ่อนอยู่"
ทั้งอาคารหลักและอาคารใหม่เป็นอาคารไม้ผสมปูน ภายนอกอาคารใหม่ยังดูโดดเด่นน่าประทับใจด้วยโดมสีบรอนซ์บนหลังคาและอาคารทรงโค้ง ที่ออกแบบโดยคุณปู่ของคุณฮิรามะ ซึ่งเคยเป็นวิศวกรในกรมช่างของสำนักพระราชวัง
ทั้งอาคารหลักและอาคารใหม่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่มีรูปร่างของญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายน 2009 (ปีเฮเซที่ 21)
ทำไมถึงย้ายมาที่ย่านโอกิคุโบะ?
สถานี JR โอกิคุโบะ (JR Ogikubo) Picture courtesy of pixta
คุณปู่ของคุณฮิรามะซึ่งเป็นเจ้าของรุ่นแรกของ Seiko Lodge คือผู้ที่มีส่วนร่วมในการก่อสร้าง "พระตำหนักฮายามะ (Hayama Imperial Villa)" สถานที่ประทับในโอกาสที่พระราชวงศ์ญี่ปุ่นแปรพระราชฐาน ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองฮายามะ (Hayama) จังหวัดคานากาวะ (Kanagawa) ในเวลานั้น ชาวฮายามะได้ให้การช่วยเหลือคุณปู่เป็นอย่างดี
หลังจากนั้น เมื่อคุณปู่ได้คบหาสมาคมกับชาวโอกิคุโบะ ก็รู้สึกว่าชาวเมืองของที่นี่มีบุคลิกคล้ายกับชาวฮายามะ จึงเลือกย้ายมาที่ย่านโอกิคุโบะ
ในยุคนั้น ศูนย์กลางโตเกียวอยู่บริเวณทางตะวันออกของอาซากุสะ ส่วนชินจูกุและอิเคะบุคุโระยังไม่ค่อยคึกคักมากนัก ส่วนย่านโอกิคุโบะเป็นย่านบ้านพักตากอากาศของชนชั้นสูงอย่างนักเขียน นักการเมือง และแพทย์
Ryokan Seiko Main Building (อาคารหลักของเรียวกังเซโค)
Seiko Lodge ที่พักสไตล์ตะวันตกซึ่งหายากในญี่ปุ่นสมัยนั้น เป็นระบบห้องพักส่วนตัว ภายในมีเตียงและตู้เสื้อผ้าในตัว รวมถึงโทรศัพท์ หิ้งเหนือเตาผิงและเครื่องทำความร้อนแบบใช้แก๊ส การคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายของผู้เข้าพักนี้ถือเป็นการปฏิวัติครั้งสำคัญของวงการโรงแรมที่พักในสมัยนั้น
แต่การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ความต้องการห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงได้มีการปรับปรุงอาคารหลักให้เป็นที่พักสไตล์ญี่ปุ่น และกลายเป็น Ryokan Seiko Main Building ที่ดำเนินกิจการมาจนถึงปัจจุบัน
อาคารหลังใหม่นี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี 2001 กลายเป็น Seiko Lodge อพาร์ตเมนต์ย้อนยุค
“ผมไม่เคยคิดที่จะทุบทำลายแล้วสร้างใหม่”
คุณฮิรามะ
Seiko Lodge เดินทางมาได้ง่ายๆ สามารถเดินจากสถานีโอกิคุโบะ (Ogikubo) มาถึงได้เพียงแค่ 6 - 7 นาที
ดังนั้น ในช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่ของญี่ปุ่น (ราวปี 1986 - 1990) นักพัฒนาที่ดินและนักธุรกิจจึงติดต่อมาเกือบทุกวันว่า "ทำไมไม่ทุบสวนทำเป็นโรงแรมธุรกิล่ะ" "ถ้ารื้ออาคารสร้างเป็นแมนชั่นจะเก็บค่าเช่าได้มากขึ้น"
แต่คุณฮิรามะกล่าวว่า "เราไม่เคยคิดทุบแล้วสร้างอาคารใหม่ ดังนั้น เราจึงอยู่ที่นี่มาถึงทุกวันนี้ได้!"
เมื่อผู้เขียนได้ฟังก็ประทับใจในความคิดของคุณฮิรามะที่ไม่สนใจในผลประโยชน์ตรงหน้า และรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่ดูแลรักษาทรัพย์สมบัติทางวัฒนธรรมนี้ไว้
ก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 มีผู้คนจากทั้งในและต่างประเทศมากมายมาพักที่ Ryokan Seiko Main Building นี้ แม้หลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ก็มีหนุ่มสาวชาวโตเกียวที่รักในบรรยากาศย้อนยุคมาพักที่นี่และได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวันทั่วไปในมหานครโตเกียว
Ryokan Seiko ที่ยังคงบรรยากาศในอดีต
ก่อนอื่น เรามาเข้าไปที่ Ryokan Seiko Main Building กันก่อน
เมื่อย่างเท้าผ่านประตูหน้าเข้าไป เราจะรู้สึกเหมือนได้เดินทางย้อนเวลากลับไปในสมัยโชวะ ที่นี่คุณฮิรามะและภรรยาจะมาต้อนรับแขกที่มาพัก บรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเองนี้ทำให้ผู้เขียนรู้สึกลืมไปชั่วขณะว่าอยู่กลางมหานครโตเกียว
ด้านในมีสวนที่กว้างขวาง สองข้างของทางเดินมีดอกฟูจิ ส่วนตรงกลางสวนมีต้นซากุระชิดาเระ (ต้นซากุระพันธุ์กิ่งย้อย)
นอกจากนี้ ยังมีดอกไม้ตามฤดูกาลมากมาย ซึ่งเราสามารถสัมผัสถึงความรักในสวนแห่งนี้ของคุณฮิรามะและภรรยาได้
บนชั้น 2 อบอวลไปด้วยบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นแบบสุดๆ ซึ่งปัจจุบันเราจะเห็นเรียวกังเก่าแก่สไตล์นี้ในญี่ปุ่นได้ไม่มากนัก
ห้องพักแบบเดี่ยวจะมีโต๊ะเตี้ย เก้าอี้ไม่มีขาสำหรับนั่งบนพื้น ฟูก และที่นอนจัดวางไว้
สมัยก่อนนักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่นมักมาเก็บตัวในเรียวกังแบบนี้และสร้างสรรค์งานเขียนต่าง ๆ แม้ตัวผู้เขียนจะไม่ใช่นักเขียนชื่อดัง แต่ก็ใฝ่ฝันที่จะทำงานทางไกลในเรียวกันแบบนี้สักครั้งเช่นกัน
ห้องพักแบบทวินแต่ละห้องมีแปลนห้องต่างกัน แต่ยังคบอบอวลไปด้วยบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น แม้ตัวอาคารดูเก่าแก่ แต่มีการทำสะอาดและจัดระเบียบข้าวของให้เรียบร้อยอยู่เสมอ
เราจะมองเห็นความขี้เล่นของผู้ออกแบบอาคารในทุกซอกทุกมุมของห้องพัก อย่างบนเพดานก็เป็นงานฝีมือที่ทำเลียนแบบท้องเรือญี่ปุ่น ดังนั้น แค่นอนมองเพดานก็ไม่รู้สึกเบื่อ
Seiko Lodge (อาคารใหม่) ที่คงรูปลักษณ์ดั้งเดิมไว้
นี่คือ Seiko Lodge อาคารใหม่ ซึ่งปัจจุบันเป็นอพาร์ตเมนต์ แม้ในสายตาคนรุ่นใหม่ความทันสมัยก็ยังไม่จางหายไป ดังนั้น จึงพาเพื่อนมาพักได้อย่างภาคภูมิใจ ไม่ขายหน้าแน่นอน
แม้ "อาคารใหม่" สร้างขึ้นในต้นสมัยโชวะ แต่เนื่องจากเป็นการออกแบบอาคารที่แปลกใหม่ในสมัยนั้น จึงได้รับความนิยมและกลายเป็นผู้ปลุกกระแสความนิยมห้องพักสไตล์ตะวันตก
คุณฮิรามะยิ้มและกล่าวว่า “เพราะที่นี่อยู่ใกล้สถานีรถไฟและมีสภาพแวดล้อมดีมากๆ ผมจึงคิดว่าค่าเช่าที่นี่ไม่แพงนัก” แต่น่าเสียดาย ช่วงที่ผู้เขียนไปห้องพักเต็มหมดแล้ว
3 สิ่งของย้อนยุคชวนคิดถึงที่พบเห็นได้ใน Seiko
การตกแต่งภายในของ Seiko ก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน
1. โทรศัพท์แบบหมุน: ใช้กันเป็นไหมเอ่ย?
ภาพบนเป็นโทรศัพท์แบบหมุนที่ใช้กันทั่วไปในญี่ปุ่นสมัยโชวะ หากต้องการโทรหมายเลขใด ให้สอดนิ้วเข้าไปในช่องหมายเลขนั้น แล้วหมุนแผ่นดิสก์ตามเข็มนาฬิกา
ในยุคสมัยที่ใครๆ ต่างก็มีสมาร์ทโฟนและหลายๆ บ้านไม่ใช้โทรศัพท์บ้านกันแล้ว การได้เห็นโทรศัพท์รุ่นเก่าแบบนี้จึงน่าดีใจและประทับใจมาก คนหนุ่มสาวในยุคนี้ส่วนใหญ่น่าจะไม่รู้วิธีใช้โทรศัพท์แบบนี้กันแล้ว
2. ทีวีรุ่นเก่าและตู้เซฟสไตล์เท่ๆ
ปัจจุบัน มีทีวีจอแอลซีดีใช้กันทั่วไป แต่ทีวีรุ่นเก่าใน Ryokan Saigo ยังใช้งานได้ดีอยู่ ส่วนตู้เซฟที่อยู่ใต้ทีวีก็มีอายุการใช้งานมายาวนานเช่นกัน
3. ไดร์เป่าผมสไตล์ย้อนยุค
ปัจจุบันมีไดร์เป่าผมมากมายหลากหลายแบบ แต่ผู้เขียนไม่แน่ใจว่า ไดร์เป่าสีเขียวใน Ryokan Seiko เป็นของยุคสมัยไหนก้นแน่ แต่รูปทรงดูน่ารักมาก!
แวะมาสัมผัส "ญี่ปุ่นสไตล์โบราณ" ที่ยังเหลืออยู่ในมหานครโตเกียวกัน
บทความนี้ได้นำเสนอ Ryokan Seiko ย้อนยุค แม้ผู้เขียนจะไม่ค่อยรู้เรื่องราวในสมัยโชวะละเอียดมากนัก แต่รู้สึกประทับใจมากที่ได้หวนรำลึกถึงอดีต และได้รับประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นด้วย
ปัจจุบัน กระแสย้อนยุคกำลังกลับมาเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ หากมาญี่ปุ่นครั้งต่อไป ลองแวะมาสัมผัสเสน่ห์บรรยากาศ "ญี่ปุ่นสไตล์โบราณ" ที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมืองมหานครแห่งนี้กันนะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
In cooperation with Ryokan Seiko
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง