1 วันในโตเกียว! ตระเวนจุดบรรจบระหว่างร้านค้าย้อนยุคสุดคึกคักและแหล่งวัยรุ่นที่สุกินามิ
ย่านสุกินามิ ห่างจากตัวเมืองโตเกียวด้วยรถไฟสายจูโอเพียงไม่กี่นาที ที่นี่เป็นแหล่งผสมผสานระหว่างย่านร้านค้าดั้งเดิมและวัฒนธรรมวัยรุ่นขึ้นชื่อ ถ้าใครได้มาเที่ยวที่นี่จะได้สัมผัสกับความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมและโตเกียวยุคใหม่ในแห่งเดียวกันอย่างแน่นอน
ย่านต่างๆ ในเขตสุกินามิ (Suginami) ที่ตั้งอยู่เลียบสายรถไฟจูโอ (Chuo) ไม่ว่าจะเป็นโคเอ็นจิ (Koenji), อาซากายะ (Asagaya), โอกิคุโบะ (Ogikubo) และนิชิโอกิคุโบะ (Nishiogikubo) พัฒนาขึ้นโดยมีย่านร้านค้าเป็นจุดศูนย์กลางมาตั้งแต่ในยุค 1960 ทำให้ที่นี่มีเอกลักษณ์อยู่ที่เต็มไปด้วยร้านค้าจำหน่ายข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันและอาหารท้องถิ่นมากมายเลยนี่แหละ
ความน่าสนใจของย่านนี้ไม่ได้มีเพียงแค่นี้เท่านั้น แต่เพราะว่าสามารถเต็มที่กับการช้อปปิ้ง การทานอาหาร และมีสิ่งบันเทิงต่างๆ ในราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย จึงทำให้มีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยต่างๆ ตามเส้นทางรถไฟสายนี้มาพักอาศัยอยู่กันเยอะ จนมีการพัฒนาวัฒนธรรมวัยรุ่นขึ้นมาอย่างน่าสนใจ
ส่งผลให้ในปัจจุบันที่นี่กลายเป็นแหล่งรวมเหล่าศิลปิน นักดนตรี และวัยรุ่นผู้หลงใหลในบรรยากาศสไตล์ย้อนยุคที่พากันมาเปิดร้านค้าขายของอันมีเอกลักษณ์ท่ามกลางร้านค้าท้องถิ่นดั้งเดิมกันเยอะแยะมากมาย
ความจริงแล้วย่านต่างๆ ในเขตสุกินามิที่มีบรรยากาศสไตล์ดั้งเดิมผสมยุคใหม่แห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากสถานีชินจุกุ (JR Shinjuku Station) ด้วยการนั่งรถไฟสาย Chuo เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง เราจึงสามารถเจียดเวลาระหว่างเที่ยวในโตเกียวมาเดินเล่นชมย่านสุดเอกลักษณ์แห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย
10:00 – 12:00 น. เริ่มออกเดินทางจาก "โอกิคุโบะ"
สนามแข่งขันอันดุเดือดของร้านราเม็ง
สถานีโอกิคุโบะ (Ogikubo Station) ที่ตั้งอยู่ห่างจากสถานี JR ชินจุกุด้วยรถไฟสาย Chuo ประมาณ 10 นาทีแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของเราในครั้งนี้ โอกิคุโบะเป็นย่านที่ขึ้นชื่อเรื่องร้านราเม็ง แต่ก่อนที่จะไปดื่มด่ำกับมื้ออาหาร เราจะมุ่งหน้าไปยังสวนโอตากุโระเพื่อสัมผัสถึงประวัติศาสตร์ของโอกิคุโบะกันก่อนเลย!
แหล่งท่องเที่ยวแนะนำประจำโอกิคุโบะ 1
"สวนโอตากุโระ (Otaguro Park)" สวนญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับดนตรีคลาสสิค
เอื้อเฟื้อภาพโดย : Chuosen Aruaru Project ถ่ายภาพ : Diego Rojas
"สวนโอตากุโระ" อยู่ห่างจากสถานีโอกิคุโบะด้วยการเดินประมาณ 10 นาที เป็นสวนญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นบนพื้นที่ที่เคยเป็นคฤหาสน์ของ "โอตากุโระ โมโตโอะ" (Otaguro Motoo) นักวิจารณ์ดนตรีผู้มีส่วนช่วยทำให้ผลงานดนตรีคลาสสิคและเหล่านักประพันธ์ได้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในญี่ปุ่น
อาคารอนุสรณ์ที่ตั้งอยู่ภายในสวนเป็นอาคารที่คุณโอตากุโระเคยใช้ทำงานระหว่างดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับดนตรี ภายในห้องคลอไปด้วยดนตรีคลาสสิค ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับดนตรีพลางชมสวนได้อย่างสบายอารมณ์
แหล่งท่องเที่ยวแนะนำประจำโอกิคุโบะ 2
"ฮารุกิยะโอกิคุโบะ (Harukiya Ogikubo)" สุดยอดราเม็งโชยุ
"ฮารุกิยะโอกิคุโบะ" ตั้งอยู่ห่างจากประตูฝั่งเหนือของสถานีโอกิคุโบะเพียง 2 นาที ร้านนี้เป็นร้านราเม็งเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1949 โดยมีเมนูโชยุราเม็งจากซุปปลาแห้ง (นิโบชิ) ซึ่งว่ากันว่าเป็น "ต้นกำเนิดของราเม็ง" เลยทีเดียว ร้านนี้ได้รับความนิยมอย่างมากถึงขนาดว่ามีผู้คนยอมดั้นด้นเดินทางไกลเพื่อมาลิ้มลองราเม็งแสนอร่อยกันถึงที่ บ่อยครั้งที่โต๊ะเต็มแทบจะทันทีที่เปิดร้านเลย
เมนูแนะนำของทางร้านอย่าง “จูกะโซบะ” เป็นสุดยอดเมนูที่มาพร้อมกับน้ำซุปโชยุรสชาติเบาๆ ทานง่าย แถมยังเพลิดเพลินกับบรรยากาศการทำราเม็งแบบสดๆ ตรงหน้าจากที่นั่งเคาน์เตอร์กันได้ด้วย
12:00 – 15:00 น. เดินเที่ยวย่านร้านค้าในอาซากายะ
ต่อไปก็นั่งรถไฟสาย Chuo อีกครั้งจากสถานีโอกิคุโบะมาลงสถานีอาซากายะ (Asagaya Station) ที่อยู่ติดกันได้เลย สถานที่ที่คึกคักที่สุดในอาซากายะก็จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก "ย่านร้านค้าอาซากายะเพิร์ลเซ็นเตอร์ (Asagaya Pearl Center)" ด้านหน้าสถานีรถไฟนั่นเอง
นอกจากร้านจำหน่ายผัก ปลา และเนื้อสัตว์แล้วที่นี่ก็ยังเรียงรายไปด้วยร้านเสื้อผ้า ร้านของขวัญ และร้านเครื่องเขียนมากมายกว่า 270 ร้าน โดยส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าอายุมากกว่า 60 ปีซึ่งเป็นที่รักของผู้คนท้องถิ่นมาตั้งแต่ในอดีตทั้งนั้น
ร้านค้าแนะนำประจำอาซากายะ 1
"ร้านหัตถกรรมพื้นบ้านเนจิเมะ (Nejime Mingei-ten)" แหล่งรวมสินค้าจิปาถะสไตล์ญี่ปุ่นจากทั่วประเทศ
"ร้านหัตถกรรมพื้นบ้านเนจิเมะ" ที่ตั้งอยู่เกือบใจกลางย่านร้านค้าแห่งนี้เป็นร้านขายของกระจุกกระจิกที่เปิดให้บริการที่นี่มาตั้งแต่ปี 1972 โดยจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านที่รับมาจากทั่วญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นภาพวาดจากกระดาษญี่ปุ่นจากเกียวโต ผลงานโมเสคไม้ "โยเซกิไซกุ" จากฮาโกเนะ ตุ๊กตาไม้ญี่ปุ่น "โคเคชิ" จากจังหวัดมิยางิ และอื่นๆ อีกเพียบ!
บอกเลยว่าผ้าอเนกประสงค์เทะนุกุยลายญี่ปุ่นสุดน่ารักเหมาะกับการซื้อกลับไปเป็นของฝากสุด ๆ แถมกระดาษญี่ปุ่นลายงามๆ ที่สามารถนำไปใช้ตกแต่งหรือห่อของขวัญได้นั้นเป็นของขวัญสไตล์ญี่ปุ่นที่ห้ามพลาดเลยก็ว่าได้
ร้านค้าแนะนำประจำอาซากายะ 2
"ไทยากิโทโมเอะอัน (Taiyaki Tomoe-an)" ร้านไทยากิอร่อยสุดยอด!
เมื่อเดินเล่นภายในย่านร้านค้าไปสักพักก็เริ่มได้กลิ่นหอมหวานโชยมา ที่มาของกลิ่นก็คือ "ไทยากิโทโมเอะอัน" ร้านไทยากิแห่งนี้นี่เอง ที่นี่ทำขนมไทยากิด้วยวิธี “อิตโจยากิ” แบบดั้งเดิมซึ่งเป็นการย่างไทยากิกันแบบชิ้นต่อชิ้น
ไทยากิย่างร้อนๆ จากเตามีเอกลักษณ์อยู่ที่แป้งหอมกรอบ แต่ข้างในเป็นไส้ถั่วแดงกวนร้อนระอุ ยังไงก็ระวังตอนทานกันให้ดีด้วยเนอะ
ไทยากิเป็นขนมที่มีความใกล้ชิดกับชีวิตของคนญี่ปุ่น ถ้าใครได้ลองทานขนมไทยากิกันแบบเต็มคำ รับรองว่าจะได้สัมผัสความรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้ย้อนกลับไปในสมัยเด็กกันอย่างแน่นอน!
ร้านค้าแนะนำประจำอาซากายะ 3
"อินาเกยะ (Inageya)" ร้านไก่ย่างยากิโทริชื่อดัง
เดินตามทางเดินในย่านร้านค้าไปอีกสักพักก็จะถึงร้านค้าที่หน้าร้านเรียงรายไปด้วยไก่ย่างยากิโทริมากมายตามภาพเลย ที่นี่คือ "อินาเกยะ" ร้านจำหน่ายไก่ย่างยากิโทริและปลาไหลที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
ไก่ย่างยากิโทริจากวัตถุดิบสุดพิถีพิถันมีให้เลือกซื้อทานกันถึง 20 ชนิดเลยทีเดียว เราสามารถซื้อทานภายในร้านหรือว่าจะซื้อไปเดินทานพลางช้อปปิ้งแถวนี้ก็ได้ทั้งนั้น
แถมภายในร้านยังสามารถสั่งข้าวหน้าปลาไหล "อุนาจู" เมนูปลาไหลขึ้นชื่อ ทำจากปลาไหลของจังหวัดไอจิมาทานกันได้ด้วยนะ
ร้านค้าแนะนำประจำอาซากายะ 4
"โทรายะจินซัง (Toraya-chinzan)" ร้านเก่าแก่ที่โด่งดังเรื่องมันจูเกาลัด
"ทรายะจินซัง" คือร้านที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานมากกว่า 90 ปี จำหน่ายขนมญี่ปุ่นสุดพิถีพิถันด้วยเชฟมืออาชีพ
โดยเมนูแนะนำก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก "มันจูเกาลัด (Kuri Manjuu)" ตามภาพเลย! มันจูเกาลัดเป็นขนมดั้งเดิม ใช้ถั่วบดสอดไส้เกาลัด 1 ลูกแบบเน้นๆ แถมตัวขนมยังทำเป็นรูปเกาลัดอีกต่างหาก
นอกจากนี้ ภายในร้านก็ยังมีคาเฟ่ให้บริการด้วย เราจึงสามารถแวะมานั่งจิบชาทานขนมผ่อนคลายได้อย่างชิลล์ๆ
15:00 น. เป็นต้นไป ใช้เวลาช่วงบ่ายสบายๆ ที่โคเอ็นจิ
หลังจากเพลิดเพลินกับย่านอาซากายะกันจนจุใจแล้วก็มุ่งหน้าไปต่อไปยังโคเอ็นจิกันเลย! เพียงแค่เดินตามเสาของทางรถไฟลอยฟ้าไปทางฝั่งชินจุกุประมาณ 10 นาทีก็จะถึงโคเอ็นจิแล้วล่ะค่ะ หรือว่าใครอยากนั่งรถไฟไปก็ได้เหมือนกัน
โคเอ็นจิเป็นย่านแหล่งรวมวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยคาเฟ่สุดเก๋ไก๋และไลฟ์เฮาส์มากมาย แถมยังมีร้านจำหน่ายเสื้อผ้ามือสองเยอะแยะเลยอีกด้วย ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งเสื้อผ้าและสินค้าจิปาถะที่ไม่สามารถหาซื้อในปัจจุบันได้ที่นี่อีกด้วย เราอาจจะได้พบสินค้าถูกใจเหมือนเกิดมาเพื่อเราที่นี่ก็ได้นะ
ร้านค้าแนะนำประจำโคเอ็นจิ 1
"Rabi Adesso" แหล่งสัมผัสความงามแห่งบอนไซ
"Rabi Adesso" ตั้งอยู่ห่างจากสถานีโคเอ็นจิ (Koenji Station) ประมาณ 5 นาที เป็นร้านจำหน่ายบอนไซและสินค้าจิปาถะแนวแอนทีค ตั้งแต่หน้าร้านจะเห็นบอนไซขนาดเล็กน่ารักหลายพันธุ์ อย่างต้นสน ต้นซากุระ ต้นเมเปิ้ล และต้นฮิโนกิ วางเรียงราย ชอบอันไหนก็เลือกซื้อได้เลย
ภายในร้านมีโซนคาเฟ่ให้บริการด้วย ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับการจิบน้ำชาพลางพูดคุยเรื่องบอนไซกับเจ้าของร้านเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างชิลล์ๆ
สำหรับใครที่สนใจพวกสินค้าจิปาถะแนวแอนทีคของญี่ปุ่นก็ขอแนะนำให้แวะมาดูที่นี่เลย อาจเจอถ้วยชาหรือจานใบเล็กที่ถูกใจก็ได้นะคะ
ร้านค้าแนะนำประจำโคเอ็นจิ 2
"ฮิราริ (Hirari)" เพลิดเพลินกับกิโมโนสไตล์วินเทจ
"ฮิราริ (Hirari)" ตั้งอยู่ใกล้กับประตูฝั่งเหนือของสถานีโคเอ็นจิ เป็นร้านจำหน่ายกิโมโนสไตล์วินเทจ และมีบริการเช่ายืมชุดกิโมโนด้วย
เราจะได้พบกับกิโมโนสไตล์วินเทจลายสวยๆ เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมกิโมโนและโอบิที่ผลิตขึ้นในสมัยไทโชและสมัยโชวะมากมายหลายสิบแบบ ลองปรึกษาเจ้าของร้านให้แนะนำกิโมโนแบบที่เหมาะกับเราได้ด้วยนะ
เราสามารถใช้บริการเช่าชุดกิโมโนแบบ 1 วันออกไปเดินเล่นชมเมืองได้ในราคา 3,150 เยน (รวมภาษี) *ในกรณีที่เช่ายืมชุดกิโมโนจำเป็นต้องจองล่วงหน้าทางโทรศัพท์
ร้านค้าแนะนำประจำโคเอ็นจิ 3
"เท็นสึเกะ (Tensuke)" ร้านเทมปุระแสนอร่อย
ไหนใครอยากทานเทมปุระแสนอร่อยเป็นข้าวเย็นกันบ้างเอ่ย? "เท็นสึเกะ" ที่ตั้งอยู่ห่างจากประตูฝั่งเหนือของสถานีโคเอ็นจิด้วยการเดินประมาณ 2 นาทีแห่งนี้เป็นร้านเทมปุระที่เจ้าของร้านมีอัธยาศัยดี แถมยังพูดภาษาอังกฤษได้อีกต่างหาก เราจึงสามารถสั่งเทมปุระได้ตามความชอบของเราเลย
ส่วนเมนูแนะนำต้อง "ทามาโกะเทโชขุ" ตามภาพเลย เป็นเมนูข้าวสวยโปะหน้าด้วยเทมปุระไข่ซึ่งบอกเลยว่าไข่แดงเยิ้มๆ ทานคู่กับข้าวสวยเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ
แป้งเทมปุระกรอบนอก แต่ข้างในนุ่มลิ้นจนน่าตกใจ! คอมโบคู่กับซอสเท็นสึยุโฮมเมดอร่อยอย่าบอกใครเลยล่ะค่ะ
ปิดทริปแสนสนุกตลอด 1 วัน
สำหรับใครที่ทานมื้อเย็นแล้วอยากใช้เวลาเที่ยวภายในโคเอ็นจิกันต่ออีกนิดนึงก็สามารถเดินเล่นภายในย่านร้านค้าหรือร้านเสื้อผ้ามือสองจากทางออกฝั่งใต้ของสถานีโคเอ็นจิได้เลย หรือว่าจะลองเข้าร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่นอย่างอิซากายะและไปฟังดนตรีในไลฟ์เฮาส์ดูก็ดี รับรองว่าทุกคนจะได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าสนุกกันอย่างแน่นอน!
การได้มาเที่ยวย่านต่างๆ ภายในเขตสุกินามิเลียบสายรถไฟ Chuo ทำให้เราได้สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ในยุค 1960 – 1970 รวมถึงสัมผัสวิถีชีวิตของคนโตเกียวด้วย หากอยากลองสัมผัสการผสมผสานระหว่างร้านค้าดั้งเดิมและวัฒนธรรมสุดคึกคักมีชีวิตชีวาของเหล่าวัยรุ่นที่ไม่สามารถหาได้จากแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ ทั่วไป ก็ต้องลองแวะมาที่ย่านนี้กันให้ได้แล้วล่ะค่ะ ^^
สำหรับใครที่อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวสไตล์ย้อนยุคของโตเกียวภายในเขตสุกินามิสามารถเข้าไปดูได้จาก Experience Suginami Tokyo
Photos by Naoya Konakai (*with the exception of the photos of Otaguro Park and Tensuke)
Sponsored by Chuosen Aruaru Project
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง