OMO3 Asakusa by Hoshino Resorts โรงแรมชมวิววัดเซ็นโซจิแบบใกล้ชิด เปิดให้บริการแล้ว!
OMO3 Asakusa by Hoshino Resorts (จากนี้จะเรียกว่า OMO3 Asakusa) โรงแรมที่สามารถชมทิวทัศน์ทั้งวัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) และโตเกียวสกายทรี (TOKYO SKYTREE®) ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของโตเกียวทั้งเก่าและใหม่ได้ เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2023
อาซากุสะ (Asakusa) ย่านที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทั้งเก่าและใหม่
อาซากุสะเป็นหนึ่งในย่านชิตามาจิ (Shitamachi) หรือย่านเมืองเก่าที่สำคัญของโตเกียว (Tokyo)
ในช่วงสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603 - 1868) ได้พัฒนาเป็นมงเซ็นมาจิ (*) โดยมีวัดเซ็นโซจิเป็นศูนย์กลาง และยังเป็นย่านที่ก่อเกิดวัฒนธรรมความบันเทิงที่หลากหลาย เช่น ราคุโกะ (การเล่าเรื่องตลก) และการแสดงละครหุ่นกระบอก
* มงเซ็นมาจิ: เมืองที่อยู่รอบๆ วัดหรือศาลเจ้าขนาดใหญ่
แม้ในปัจจุบัน ย่านนี้ยังคงมีศาลเจ้า วัด ร้านค้าทั้งเก่าและใหม่ รวมทั้งกิจกรรมความบันเทิงต่างๆ ดำรงอยู่ร่วมกัน อีกทั้งเป็นย่านที่ได้สัมผัสถึงสภาพบ้านเรือนสมัยเก่าและวัฒนธรรมย่านชิตามาจิ ทำให้ย่านนี้คึกคักไปด้วยผู้คนในฐานะหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่น
OMO3 Asakusa โรงแรมที่สามารถเที่ยวย่านอาซากุสะแบบเจาะลึกได้
OMO3 Asakusa (โฮโมะซัง อาซากุสะ) ซึ่งเป็นโรงแรมที่บริหารโดย Hoshino Resorts (โฮชิโนะรีสอร์ตส์) จะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม 2023 ที่ย่านอาซากุสะซึ่งเป็นหนึ่งในย่านสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอันดับต้นๆ ของโตเกียว
โรงแรมสามารถเดินจากวัดเซ็นโซจิมาเพียง 1 นาที หรือเดินจากสถานีอาซากุสะ (Asakusa) มา 4 นาที ทั่วทุกมุมในโรงแรมสามารถมองเห็นวัดเซ็นโซจิและโตเกียวสกายทรีได้แบบเต็มตา
นอกจากนี้ พนักงานของโรงแรมซึ่งเดินเที่ยวทั่วอาซากุสะจนทะลุปรุโปร่ง จะแนะนำวิธีที่ดีที่สุดในกาเที่ยวย่านอาซากุสะแบบจัดเต็ม ทั้งแหล่งของอร่อยลับซึ่งรู้กันเฉพาะในหมู่คนที่รู้จักและถนนที่มีบรรยากาศคึกคักซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย ลูกค้าที่มาพักจะได้สัมผัสเสน่ห์ของย่านอาซากุสะแบบเจาะลึกเหมือนคนท้องถิ่น
บทความนี้ขอแนะนำห้องพักและจุดเด่น 2 ประการของโรงแรม OMO3 Asakusa ซึ่งเหมาะเป็นฐานที่พักในการเที่ยวย่านอาซากุสะแห่งนี้
จุดเด่น 1: มี OMO Base (Travelers' Fun Lounge) ที่ชั้นบนสุดซึ่งสามารถชมทิวทัศน์วัดเซ็นโซจิและโตเกียวสกายทรีแบบใกล้ชิด
จุดเด่นที่สุดของ OMO3 Asakusa คือสามารถชมทิวทัศน์ของวัดเซ็นโซจิและโตเกียวสกายทรีได้จากทั่วทุกแห่งในอาคาร
โดยเฉพาะทิวทัศน์จาก OMO Base (Travelers' Fun Lounge) ที่ชั้นบนสุด (13F) นั้นสุดยอดที่สุด ฝั่งตะวันตกจะมองเห็นทั่วอาณาบริเวณของวัดเซ็นโซจิที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ส่วนฝั่งตะวันออกจะมองเห็นโตเกียวสกายทรี ดังนั้น บนชั้นนี้จะได้ชมสัญลักษณ์ของโตเกียวทั้งเก่าและใหม่พร้อมกันในคราวเดียว
OMO Base (Travelers' Fun Lounge) เป็นพื้นที่เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้วางแผนการเดินทาง พักสมอง และใช้พักผ่อนได้ตามอัธยาศัย ที่นี่ยังมี OMO Food & Drink Station ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มภายในโรงแรมที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ขอแนะนำให้เลือกซื้อน้ำผลไม้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขนมขบเคี้ยว และอื่นๆ ได้ทุกเวลาตามต้องการ ไว้เพลิดเพลินขณะดื่มดำกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของวัดเซ็นโซจิและโตเกียวสกายทรี
จุดเด่น 2: Go-KINJO บริการเพื่อความสนุกทั่วย่านอาซากุสะ
Go-KINJO เป็นบริการของแบรนด์ OMO ที่ช่วยให้รู้จักย่านต่างๆ ในระยะที่เดินจากโรงแรมไปได้ และช่วยให้ปรับตัวเข้ากับเส้นทางในย่านต่างๆ ผ่านการค้นหาและพบเจอสิ่งใหม่ๆ ได้
ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ Local Guide Activities และ Go-KINJO Map (Local guide map)
▼ Local Guide Activities
โรงแรมยังมีแผนจัดกิจกรรมทัวร์วัดเซ็นโซจิและถนนนากามิเซะ (Nakamise Street) ถนนสายสำคัญของย่านอาซากุสะซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวชื่อดัง รวมถึงกิจกรรมทัวร์ที่จะได้สัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายสมัยเอโดะและวัฒนธรรมย่านชิตามาจิ รวมทั้งอาหารรสเลิศของโอคุอาซากุสะ (Oku-Asakusa) ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอยู่
▼ Go-KINJO Map (Local guide map)
ลูกค้าที่มาพักสามารถดูข้อมูลการเที่ยวรอบๆ โรงแรมและรายชื่อร้านค้าต่างๆ อัพเดตล่าสุดได้จาก Go-KINJO Map (Local guide map) แผนที่ขนาดใหญ่ซึ่ง OMO เรนเจอร์ (เจ้าหน้าที่นำทัวร์) ที่รู้จักย่านนี้เป็นอย่างดี ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับย่านนี้ซึ่งไม่ได้ระบุในหนังสือนำเที่ยวไว้ เมื่อใช้ข้อมูลที่ไม่มีในหนังสือนำเที่ยวแล้วรับรองว่าการเที่ยวชมย่านนี้จะสนุกยิ่งขึ้นแน่นอน
หากมาพักที่ OMO3 Asakusa ลองใช้ Go-KINJO Map (Local guide map) แล้วไปสัมผัสเสน่ห์ของย่านอาซากุสะแบบเจาะลึกกัน
ประเภทห้องพักที่เลือกได้ตามวัตถุประสงค์การเที่ยว
ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 98 ห้อง 8 ประเภท
ลูกค้าที่มาพักสามารถเลือกห้องพักได้ตามวัตถุประสงค์การเที่ยวและกลุ่มผู้ที่มาเที่่ยวด้วยกัน เช่น YOSE Twin Room ห้องคอนเซ็ปต์รูมซึ่งใส่ลูกละเล่นที่มีกลิ่นอายสมัยเอโดะไว้ และ Deluxe Fourth Room ห้องพักสำหรับ 4 ท่านที่สามารถพักเป็นกลุ่มหรือพักกับครอบครัวได้
▼ YOSE Twin Room (โยเซะทวินรูม) ห้องคอนเซ็ปต์รูม
อาซากุสะเป็นย่านชิตามาจิที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและวัฒนธรรมความบันเทิงที่หลากหลาย ดังนั้น ทางโรงแรมจึงออกแบบห้องคอนเซ็ปต์รูมโดยใส่ลูกละเล่นที่มีกลิ่นอายสมัยเอโดะไว้ YOSE Twin Room เป็นห้องที่ตกแต่งด้วยพรมสีแดงและเบาะรองนั่งสีม่วงซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก YOSE (โรงละครแสดงราคุโกะ) ในย่านอาซากุสะ เมื่อมานั่งเมาส์มอยเรื่องที่ไปเที่ยวกันมาบนเบาะนี้จะสัมผัสความรู้สึกเหมือนเป็นนักเล่าเรื่องราคุโกะ
ราคาห้องพัก: คืนละตั้งแต่ 20,000 เยนขึ้นไป (ราคารวมภาษี ไม่รวมอาหาร)
รายละเอียดของโรงแรม
ชื่อสถานที่: OMO3 Asakusa by Hoshino Resorts
ที่ตั้ง: 1-15-5 Hanakawado, Taito-ku, Tokyo 111-0033
ราคาห้องพัก: คืนละตั้งแต่ 18,000 เยนขึ้นไป (ราคารวมภาษี ไม่รวมอาหาร)
สิ่งอำนวยความสะดวก: OMO Food & Drink Station, ล็อกเกอร์เก็บของ, บริการซักรีด ฯลฯ
จำนวนห้อง: 98 ห้อง (อาคารสูง 13 ชั้น)
การเดินทาง: เดิน 4 นาทีจากสถานี Asakusa (รถไฟ Tokyo Metro Ginza Line, รถไฟ Toei Asakusa Line, รถไฟ Tobu Skytree Line)
วันที่เปิดจอง: ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2023
วันที่เปิดให้บริการ: 31 กรกฎาคม 2023
โทรศัพท์: 050-3134-8095 (ศูนย์จองห้องพัก OMO)
เว็บไซต์ทางการ: https://hoshinoresorts.com/en/hotels/omo3asakusa/roomsearch/
OMO คือ?
OMO เป็นแบรนด์โรงแรมที่ Hoshino Resorts เปิดให้บริการทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนำเสนอบริการเพื่อการท่องเที่ยวที่สามารถสนุกสนานในย่านต่างๆ ร่วมกับชุมชนท้องถิ่นได้อย่างเต็มที่
โรงแรม OMO ทุกแห่งมีบริการที่เรียกว่า Go-KINJO ซึ่งช่วยในการเดินเที่ยวย่านต่างๆ โดยรอบ มีโรงแรม 14 แห่งทั่วญี่ปุ่น (ณ เดือนเมษายน 2023) ที่มอบความสนุกเพลิดเพลินแก่ผู้เข้าพักเพื่อการเที่ยวชมเมืองในย่านท้องถิ่นต่างๆ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hoshino Resorts
นอกจาก OMO Asakusa แล้ว Hoshino Resorts ยังมีกิจกรรมและบริการด้านที่พักอีกมากมายทั่วญี่ปุ่น ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่พักที่หลากหลาย
Hoshino Resorts ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2457 ในฐานะ Hoshino Onsen Ryokan ใน Karuizawa Hoshinoya เป็นโรงแรมที่พิเศษไม่เหมือนใครในธีมดั้งเดิม เราดำเนินการ 62 สิ่งอำนวยความสะดวกในญี่ปุ่นและต่างประเทศ (58 แห่งในญี่ปุ่น 4 แห่งในต่างประเทศ) โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ 5 แบรนด์ ได้แก่ RISONARE, OMO, a โรงแรมในเมือง และ BEB โรงแรมเพื่อการพักผ่อน .
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง
หน้าเว็บไซต์นี้ใช้เครื่องมือแปลภาษาอัตโนมัติบางส่วน